ASUS เปิดตัวไลน์อัปโน้ตบุ๊ก Copilot+ PC ในงาน Computex 2024เปิดประสบการณ์ใหม่กับการใช้งาน AI ทั้งในกลุ่มครีเอเตอร์, เกมมิ่ง และการทำงานทั่วไป พร้อมเปืดตัวเครื่องเล่นเกมพกพาแห่งปี ASUS ROG Ally X รุ่นล่าสุด!

เอซุส พร้อมก้าวสู่ยุคแห่ง Copilot+ PC อย่างเต็มรูปแบบ นำเสนอโน้ตบุ๊กที่มาพร้อมความสามารถประมวลผล AI ขั้นสูงกว่า 45 TOP เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่หลายโมเดลทั้ง ProArt, Zenbook และ Vivobook ในงาน ‘Always Incredible’ ณ Computex 2024 ทั้งยังเอาใจสายเกมมิ่ง เปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นล่าสุดที่แฟนๆทั่วโลกตั้งตารอ ASUS ROG Ally X

AI สำหรับครีเอเตอร์: ASUS ProArt P16 / ProArt PX13 / ProArt PZ13

ไลน์อัปใหม่ของโน้ตบุ๊ก AI ASUS ProArt นี้ ได้รับการออกแบบมาสำหรับเหล่าครีเอเตอร์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักสร้างสรรค์ที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน, ครีเอเตอร์ที่เน้นทำงานนอกสถานที่ ไปจนถึงระดับมืออาชีพ ด้วยตัวเครื่องที่ทนทาน น้ำหนักเบา และมีประสิทธิภาพสูงนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์ผลงานได้ทุกที่ ทำงานได้รวดเร็ว และชาญฉลาดยิ่งขึ้น

ทั้ง ProArt P16, ProArt PX13 และ ProArt PZ13 นับเป็น Copilot+ PC มาพร้อมฟีเจอร์ AIเอกสิทธิ์เฉพาะจากเอซุสอย่าง StoryCube ที่จะช่วยจัดการข้อมูลดิจิทัล ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยบริหารจัดการไฟล์ รวมถึงแอปพลิเคชัน Muse Tree ที่จะช่วยเปลี่ยนไอเดียเป็นภาพได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เหล่าครีเอเตอร์สามารถยกระดับพลังแห่งการสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ ตัวเครื่องยังมาพร้อมปุ่มลัด Copilot บนแป้นคีย์บอร์ด สามารถใช้งานฟีเจอร์ Windows Copilot ที่ติดตั้งใน Windows 11 เป็นผู้ช่วยส่วนตัวใช้งานด้าน AI ได้อย่างรวดเร็ว

โน้ตบุ๊ก ProArt P16 มาพร้อมหน้าจอขนาด 16 นิ้ว มอบประสบการณ์สร้างสรรค์เหนือระดับได้ทุกที่ ทุกเวลา ตัวเครื่องบางเพียง 14.9 มม. น้ำหนัก 1.85 กก. นำเสนอความสามารถในการประมวลผล AI กว่า 50 TOPS ด้วย NPU ที่อยู่ในโปรเซสเซอร์ล่าสุด Ryzen AI 300 Series และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 ทำให้ความสามารถในการประมวลผลรวมสูงสุด 321 TOPS จัดเป็น AI PC เครื่องแรกที่สามารถส่งมอบประสิทธิภาพการทำงาน AI ขั้นสูงทั้งในด้านการสร้างสรรค์งาน ไม่ว่าจะเป็นงานวีดีโอ 3D หรือ และการเล่นเกม สตรีมเกม เป็นต้น

สำหรับนักสร้างสรรค์ที่เน้นการใช้งานนอกสถานที่ ขอแนะนำ ProArt PX13 ครีเอเตอร์โน้ตบุ๊กขนาด 13 นิ้ว ให้ความสะดวกในการพกพาด้วยน้ำหนักเครื่อง 1.38 กก. ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศา ใช้งานได้หลากหลายโหมด มาพร้อมหน้าจอ 3K ASUS Lumina OLED ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen AI 9 HX 370 และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 ใช้งานด้าน AI ได้อย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพ เชื่อมต่อได้รวดเร็วด้วย Wifi 7 พร้อมพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน รวมถึง USB4 ความเร็วสูงกว่า 40Gbps

ปิดท้ายด้วยครีเอเตอร์โน้ตบุ๊กที่โดดเด่นด้านความบางเบา ProArt PZ13 สามารถพกไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 0.86 กก. ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Snapdragon มาพร้อมหน้าจอ 3K ASUS Lumina OLED เป็น Copilot+ PC พร้อมส่งมอบความสามารถ AI ทั้งสำหรับการสร้างสรรค์งานขณะเดินทาง หรือเพลิดเพลินกับความบันเทิงด้วยคุณภาพหน้าจอระดับสูง PZ13 สามารถใช้งานได้ทั้งในรูปแบบของแท็ปเล็ตและโน้ตบุ๊ก มาพร้อมคีย์บอร์ดที่ติดตัวเครื่องด้วยแม่เหล็ก สามารถถอดแยกได้  

AI สำหรับผู้ที่เน้นความคล่องตัว: ASUS Zenbook S 16 (UM5606)

ASUS Zenbook S 15 เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างศิลปะและเทคโนโลยี เป็นโน้ตบุ๊กพรีเมียม ได้รับการออกแบบตัวเครื่องให้มีความบางเป็นพิเศษ เพียง 1.1 ซม. พร้อมดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา 1.5 กก.ในขณะเดียวกันยังมาพร้อมประสิทธิภาพการทำงานระดับสูงด้วยค่า TDP กว่า 28 W และความสามารถในการประมวลผล AI 50 TOPS จากชิป NPU ในโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen AI 9 HX 370 ทั้งยังใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบระบายความร้อนแบบ 3D vapor-chamber พร้อมแนะนำวัสดุตัวเครื่องพิเศษเฉพาะแบบใหม่ ‘เซราลูมิเนียม’ (Ceraluminum™) ซึ่งเป็นการผสมผสานความสวยงามและสัมผัสของเซรามิกเข้ากับความแข็งแกร่งของอะลูมิเนียม ให้ความทนทาน พร้อมสัมผัสที่อบอุ่น และความรู้สึกพิเศษเมื่อเทียบกับอะลูมิเนียมทั่วไป โดยตัวเครื่องมาในสีขาวอันหรูหรา (Scandinavian White) และสีเทา (Zumaia Gray)

ASUS Zenbook S 15 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 78 Wh พร้อมพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน ได้แก่ USB4®, USB 3.2 Type-A, HDMI®, พอร์ต audio jack และ SD card reader ตอบสนองได้รวดเร็วด้วยหน่วยเก็บข้อมูลสูงสุด 2 TB PCIe® 4.0 x4 SSD และ RAM สูงสุด 32 GB LPDDR5x และดื่มด่ำกับหน้าจอคุณภาพสูง 3K 16:10 120Hz ขนาด 16 นิ้ว พร้อมถนอมดวงตาจากแสงสีฟ้า ผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland ช่วยลดแสงสีฟ้าที่ทำลายดวงตาได้กว่า 70% ทั้งยังช่วยเติมเต็มประสบการณ์ด้านความบันเทิง ให้เสียงที่ทรงพลัง หลากหลายมิติด้วยเทคโนโลยี Dolby Atmos ®

นอกจากนี้ยังยกระดับด้านความปลอดภัย ด้วยชิป Microsoft Pluton ช่วยรักษาความปลอดภัยของฮาร์ดแวร์และข้อมูลที่ละเอียดอ่อน พร้อมกล้อง FHD AiSense IR รองรับ Windows Hello, Adaptive Lock ตรวจจับตัวตนของผู้ใช้ พร้อมจดจำใบหน้าเพื่อเข้าระบบโดยอัตโนมัติ

AI สำหรับทุกคน: ASUS Vivobook S series

โน้ตบุ๊ก Copilot+ PC ตัวแรกจากเอซุส ให้ประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง มาพร้อมเทคโนโลยี AIติดตั้งในตัวบนแพลตฟอร์ม Snapdragon X Elite ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับการใช้งานฟังก์ชัน AIและเร่งประสิทธิภาพการทำงานด้วยซีพียู Qualcomm Oryon™ ทั้งยังสามารถใช้งานได้นานกว่า 18 ชั่วโมง เพลิดเพลินกับประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่สะดุด โดดเด่นด้วยจอแสดงผลคุณภาพสูง 3K 120Hz ASUS Lumina OLED พร้อมระบบเสียงรับรองโดย Harman Kardon ตัวเครื่องบางเบา บางเพียง 14.7 มม. น้ำหนัก 1.42 กก. สะดวกในการพกพา

นอกจากนี้ไลน์อัป ASUS Vivobook S เดิม ได้แก่ ASUS Vivobook S14 (M5406) ขนาด 14 นิ้ว, ASUS Vivobook S 15 (M5506) ขนาด 15.6 นิ้ว และ ASUS Vivobook S (M5606) ขนาด 16 นิ้วยังได้รับการปรับโฉมใหม่ด้วยดีไซน์ที่เบาบางลงเพียง 1.39 ซม. หนัก 1.3 กก. พร้อมนำเสนอโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen AI 9 HX 370 และเพิ่มประสิทธิภาพระบายความร้อน ด้วยเทคโนโลยีASUS IceCool ด้วยฮีทไปป์สองเส้น, พัดลม Ice Blade 97 ใบพัด และช่องระบายความร้อนสองช่อง

AI สำหรับเกมมิ่ง: TUF Gaming A14 และ A16

เอซุสยังประกาศเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งซีรีส์ยอดนิยม TUF Gaming สองรุ่นใหม่ ได้แก่ TUF Gaming A14 ขนาด 14 นิ้ว และ TUF Gaming A16 ขนาด 16 นิ้ว มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องแบบใหม่ กะทัดรัด พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen AI 9 HX 370 ที่มาพร้อมการ์ดจอ NVIDIAพร้อมระบบระบายความร้อนที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ทำให้โน้ตบุ๊ก TUF Gaming รุ่นนี้มีประสิทธิภาพล้ำหน้าที่สุด

โปรเซสเซอร์ใหม่ AMD Ryzen AI 9 HX 370 มาพร้อมชิป NPU ที่ให้ความสามารถในการประมวลผล AI กว่า 50 TOPS ใช้งานฟีเจอร์ AI ได้ดียิ่งขึ้น เช่นการเบลอภาพพื้นหลัง การปรับสายตาให้มองกล้องด้วย AI และยังใช้พลังงานในระดับต่ำ  สำหรับครีเอเตอร์ หรือเหล่าเกมเมอร์สที่ต้องใช้การประมวลผล AI TUF Gaming ยังสามารถเร่งประสิทธิภาพการทำงานของการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 ได้สูงสุดถึง 371 TOPS สามารถทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี DLSS ใช้ AI เพื่อเฟรมเรทที่ลื่นไหลและปรับปรุงคุณภาพของภาพ พร้อมให้ภาพที่สวย คมชัดด้วยหน้าจอแสดงผล 2.5K 165Hz ทั้งสองรุ่น

ROG Ally X

เอซุส รีพับลิคออฟเกมเมอส์ (ROG) ยังเปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมอัปเกรดฮาร์ดแวร์ ทั้งหน่วยเก็บข้อมูล, หน่วยความจำ (RAM), แบตเตอรี่, จอยสติ๊ก บนระบบปฏิบัติการ Windows 11 ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z1 Extreme

เนื้อที่จัดเก็บมากขึ้น, RAM ความเร็วสูง พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น!

ROG Ally X ได้รับการออกแบบมาเพื่อเติมเต็มความต้องการของเหล่าเกมเมอร์สจากรุ่นก่อนหน้า ด้วยหน่วยเก็บข้อมูล SSD ขยายพื้นที่ความจุขนาด 1TB พร้อมนำเสนอเมนบอร์ดออกแบบใหม่รองรับ M.2 2280 ทั้งยังอัปเกรดพื้นที่ RAM ขนาด 24 GB เพื่อการใช้งานที่รวดเร็วมากขึ้น สามารถจัดสรรหน่วยความจำให้กับทั้งระบบและการ์ดจอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับ AAA นอกจากนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 80Wh เพิ่มความจุจากรุ่นก่อนหน้าถึงสองเท่า แต่น้ำหนักมากกว่า ROG Ally รุ่นดั้งเดิมเพียง 70 กรัม โดยมีการกระจายน้ำหนักอยู่ตรงกลางระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ ทำให้รู้สึกเบากว่าน้ำหนักตัวเครื่องจริง (678 กรัม) สามารถเล่นได้สบายมือ และพกพาได้อย่างสะดวก

ควบคุมได้ดียิ่งขึ้น พร้อมอัปเกรดการเชื่อมต่อ

ตัวเครื่องโดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ สีดำโฉบเฉี่ยว พร้อมด้ามจับที่ลึกขึ้นเล็กน้อย มีความโค้งมนมากขึ้นเพื่อใช้งานได้สบายมือ และยังออกแบบปุ่มกดและตัวเครื่องให้กดใช้งานได้ง่ายขึ้น ส่วนปุ่มมาโครที่ด้านหลังนั้นมีขนาดเล็กลงเพื่อลดการผิดพลาดในการกดโดยไม่ตั้งใจ ทางด้านจอยสติ๊กได้ผ่านการทดสอบ มีอายุการใช้งานกว่า 5 ล้านรอบ เหล่าเกมเมอร์สจะเพลิดเพลินกับการเล่นเกมแนวต่อสู้ และแนวเรโทรมากขึ้น ด้วยปุ่ม D-Pad ที่พัฒนาขึ้น สามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำถึง 8 ทิศทาง

พอร์ต XG Mobile จากรุ่นเดิมยังแทนที่ด้วยพอร์ต USB-C® สองพอร์ต โดยมีหนึ่งพอร์ตที่รองรับ Thunderbolt™ สำหรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายยิ่งขึ้น

ระบบระบายความร้อนที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

ROG Ally X ได้มีการปรับปรุงพัดลมใหม่ให้มีขนาดเล็กลง 23% พร้อมครีบใบพัดที่บางลง 50% แต่สามารถเพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้มากขึ้น พร้อมช่องระบายอากาศใหม่สองช่องช่วยระบายความร้อนไปยังช่องระบายอากาศที่สามบริเวณด้านบนตัวเครื่อง โดยรูปแบบการระบายความร้อนแบบใหม่นี้จะช่วยเพิ่มปริมาณอากาศผ่านเครื่อง 24% ซึ่งไม่เพียงแต่จะระบายความร้อนส่วนประกอบภายใน แต่ยังรวมไปถึงหน้าจอสัมผัส ซึ่งให้อุณหภูมิเย็นขึ้นกว่า 6 องศา เพื่อการเล่นเกมที่ต่อเนื่องเต็มอรรถรส