Smart Review
รีวิว ASUS Zenbook 14 Flip OLED โน้ตบุ๊กสุดอเนกประสงค์ตอบโจทย์ทุกงานสร้างสรรค์ด้วยจอ OLED 2.8K | บานพับ 360º | ตัวเครื่องบางเฉียบ 15.9 มม.
รีวิว ASUS Zenbook 14 Flip OLED โน้ตบุ๊กสุดอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดที่จะมาตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน และงานสร้างสรรค์ด้วยหน้าจอ OLED 2.8K, รองรับสไตลัส 2.0 รองรับแรงกด 4096 ระดับ, บานพับสามารถพับได้ 360º, ชิป Intel Core เจน 13 ล่าสุด และตัวเครื่องที่เบาเพียง 1.5 กก. บางเพียง 15.9 มม. บานพับสามารถพับได้ 360° เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการใช้งานโน้ตบุ๊กที่ครอบคลุมทั้งหมดในตัวเครื่องเพรียวบางจริง ๆ ส่วนดีไซน์จะสวยแค่ไหน เดี๋ยวเรารีวิวให้ชมที่นี่ ติดตามกันเลยครับ!
สรุปสเปค ASUS Zenbook 14 Flip OLED (UP3404V)
- ขนาดตัวเครื่อง: 31.15 x 22.34 x 1.59 ซม.
- น้ำหนัก: 1.5 กก.
- หน้าจอ: OLED 14″ อัตราส่วน 16:10
- ความละเอียด: 2.8K (2880 x 1800),รองรับ DCI-P3 color gamut 100%, VESA CERTIFIED Display HDR True Black 500, 1.07 พันล้านสี, PANTONE Validated
- refresh rate: 90Hz
- หน่วยประมวลผล: Intel Core i5-1340P 1.9 GHz
- กราฟิก: Intel Iris Xe Graphics
- RAM: 16GB DDR5
- SSD: 512GB M.2 NVMe PCIe 4.0 SSD
- แบตเตอรี่: 75Wh
- กล้อง: FHD
- ระบบเสียง : Harman/Kardon
- พอร์ตการเชื่อมต่อ
- USB-A 3.2 Gen 1 x 1
- Thunderbolt 4 x 2
- HDMI 2.0b x 1
- พอร์ตหูฟังและไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. แจ็ค 2-in-1 x 1
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 6E(802.11ax) (Dual band) 2×2 + Bluetooth 5.3 Wireless Card
- ระบบปฏิบัติการ: Windows 11 Home
- สี: Ponder Blue
ดีไซน์เรียบหรู กะทัดรัดพกพาสะดวก
เรามาเริ่มชมดีไซน์ตัวเครื่องของ ASUS Zenbook 14 Flip OLED กันเลยครับ รุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบหรูและปราณีตใช้ได้เลย ฝาหลังจะมีลวดลาย ASUS Zenbook ยุคใหม่ที่เน้นไปด้วยลายเส้นสีเงินตัดกับสีตัวเครื่อง Ponder Blue อันเป็นเอกลักษณ์ ให้ความหรูหราและทางการไปในตัว
Zenbook 14 Flip OLED มาพร้อมความบางเพียง 15.9 มม.และน้ำหนักตัวเครื่องราว 1.5 กก.เท่านั้น เป็นขนาดที่กะทัดรัดและเหมาะกับการพกพาติดกระเป๋าไปไหนต่อไหนได้แบบไม่ลำบากเลย
บานพับ 360º กางจอได้หลากหลาย
แต่ทีเด็ดของ Zenbook 14 Flip OLED ไม่ได้หมดที่น้ำหนักที่เบาหรือความบางเท่านั้น เพราะมีชื่อ Flip ติดมาแบบนี้ก็สามารถใช้งานบานพับได้อย่างหลากหลาย ให้เราปรับมุมมองของหน้าจอได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นการพับหน้าจอเพื่อใช้งานเป็นทรงแท็บเล็ตไปเลย กางจอสุดเพื่อนำเสนองาน หรือพับแบบเต้นท์เพื่อดูคอนเทนต์ก็สะดวกและยืดหยุ่นมากครับ
หน้าจอ OLED คุณภาพสูงรองรับ HDR ด้วย
ตัวหน้าจอของ Zenbook 14 Flip OLED ก็ใช้จอสัมผัส OLED คุณภาพสูงที่มีความละเอียดระดับ 2.8K (2880 x 1800 พิกเซล) เพลิดเพลินไปกับภาพที่สดใสและมีรายละเอียดที่น่าทึ่งด้วยขอบเขตสี 100% DCI-P3 นอกจากนี้ในเรื่องความเที่ยงตรงของสีจอของรุ่นนี้ยังได้ผ่านการตรวจสอบจาก PANTONE ว่าได้สีสันที่สมจริงและการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 500 ที่แสดงสีดำได้ดำสนิทนอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจากทั้ง SGS และ TÜV Rheinland ว่าหน้าจอถนอมสายตาจากแสงสีฟ้าอีกด้วย เรียกว่าจัดเต็มกับทุกเทคโนโลยีและมาตรฐานจริง ๆ ครับ
รองรับ ASUS Pen 2.0
อัตราส่วนก็เป็นแบบ 16:10 มอบพื้นที่มากขึ้นทั้งการทำงานหรือจะดูคอนเทนต์ต่าง ๆ ตัวหน้าจอของ Zenbook 14 Flip OLED นั้นรองรับการสัมผัสแบบเต็มรูปแบบแถมยังรองรับ ASUS Pen 2.0 (แถมมาในกล่อง) สไตลัสที่รองรับ MPP 2.0 ซึ่งรองรับแรงกด 4096 ระดับ ให้การตอบสนองที่รวดเร็ว สามารถสร้างเส้นที่ละเอียดที่สุดและวาดเขียนได้อย่างแม่นยำ ยิ่งใช้งานกับจอคุณภาพสูงที่สามารถกางออกได้หลากหลายมุมมองก็ยิ่งครอบคลุมเข้าไปใหญ่
ที่ตัว ASUS Pen 2.0 ยังมีปุ่มกดที่เราสามารถตั้งค่าคีย์ลัดได้หลากหลายให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นไปอีกและเพื่อความสมบูรณ์แบบ หัวปากกาสามารถเปลี่ยนได้ถึงสี่แบบ จำลองความรู้สึกของดินสอประเภทต่าง ๆ เพื่อการเขียนหรือการวาดภาพที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากที่สุด ส่วนเรื่องการชาร์จก็ไม่ต้องห่วงชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ได้รวดเร็วครับ
กล้องหน้า FHD ใช้งานประชุมคมชัด
เหนือหน้าจอของ Zenbook 14 Flip OLED จะมาพร้อมกล้อง WebCam ความละเอียด FHD คุณภาพสูงพร้อมกับซอฟต์แวร์ AiSense ให้เราดูดีในระหว่างการประชุมออนไลน์หรือจะใช้งาน Video Call ต่าง ๆ แน่นอนครับ
คีย์บอร์ด ErgoSense พร้อม ASUS NumberPad 2.0
คีย์บอร์ดของ Zenbook 14 Flip OLED จะใช้เป็น ErgoSense ให้ความรู้สึกที่น่าพึงพอใจด้วยการเด้งรับกับนิ้วมือและความห่างของแต่ละปุ่มที่เหมาะสม ซึ่งทำให้เราพิมพ์ต่อเนื่องได้เป็นอย่างดีและรวดเร็วครับ
ส่วน TouchPad ของ Zenbook 14 Flip OLED ก็มี ASUS NumberPad 2.0 ที่สามารถแสดงตัวเลขให้เราได้กดใช้งานได้ง่ายขึ้น ใครที่ต้องใช้งานตัวเลขเยอะ ๆ ก็ไม่ต้องเอื้อมไปกดที่ปุ่มด้านบน กดเปิดที่ TouchPad แล้วเลือกได้เลย
พอร์ตการเชื่อมต่อครบ พร้อมใช้งาน
Zenbook 14 Flip OLED ให้พอร์ตมาค่อนข้างครบ พร้อมใช้งานแบบแทบไม่ต้องหาอุปกรณ์เสริมมาเพิ่ม ด้านขวามือของตัวเครื่องไล่จากขวาไปซ้ายจะมี พอร์ต HDMI 2.0b, ช่องหูฟัง 3.5 มม., และพอร์ต Thunderbolt 4 แบบ USB-C อีก 2 พอร์ตที่รองรับต่อจอแสดงผลภายนอก 4K UHD และการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 40 Gbps
ส่วนฝั่งขวามือของตัวเครื่องก็จะมีพอร์ต USB-A แบบ 3.2 Gen 2 อยู่ 1 พอร์ตพร้อมกับช่องระบายอากาศนั่นเองครับ
ระบบเสียงจาก Harman/Kardon
ในเรื่องคุณภาพเสียง Zenbook 14 Flip OLED มาพร้อมระบบเสียงสเตอริโอที่ได้รับการรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงจาก Harman/Kardon ให้เสียงที่ทรงพลังและสมจริงที่คมชัด ให้ความบันเทิงและการสื่อสารที่สมจริงอย่างยอดเยี่ยมพร้อมด้วยระบบ smart amplifier อัจฉริยะของเราที่สามารถเพิ่มระดับเสียงของลำโพงได้มากถึง 350% เสียงที่สมจริงของ Dolby Atmos ทำให้เราดื่มด่ำกับความบันเทิงที่โปรดปรานด้วยเสียงที่เคลื่อนไหวรอบตัวด้วยความสมจริงอันน่าทึ่งในเพลง ภาพยนตร์ และซีรีส์
ความแข็งแกร่งขั้นสุดด้วยมาตรฐานระดับกองทัพสหรัฐ
อย่างที่ทราบกันดีว่าโน้ตบุ๊กของ ASUS นั้นจะถูกออกแบบมาให้แข็งแกร่งอยู่แล้ว ซึ่ง Zenbook 14 Flip OLED ก็ได้รับมาตรฐานกองทัพของสหรัฐอเมริกา MIL-STD-810H ที่ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด 12 วิธีและขั้นตอนการทดสอบอีก 26 ขั้นตอน ซึ่งมากกว่ามาตรฐานทั่วไป ทำให้มั่นใจได้ว่าตัวเครื่องจะทนต่อแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุเครื่องตกหรืออยู่ในอุณหภูมิไม่ปกติได้อย่างแน่นอนครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ ASUS Zenbook 14 Flip OLED นี้ก็ถือว่าทำได้ดีเลย ทั้งความหรูหราของรูปลักษณ์เมื่อสัมผัสหรือความเพรียวบางน้ำหนักเบาที่พกพาสะดวก มีรูปแบบบานพับ 360º ที่ให้เราได้ใช้งานหลากหลายแบบหรือจะเป็นหน้าจอ OLED ความละเอียดสูงสุดคมชัด ตอบโจทย์สายคอนเทนต์หรือครีเอเตอร์ที่ต้องการโน้ตบุ๊คสวย ๆ แต่ก็เต็มไปด้วยฟีเจอร์การใช้งานจริง ๆ ครับ
ซอฟต์แวร์ที่ปรับแต่งมาอย่างดี
Zenbook 14 Flip OLED มาพร้อมซอฟต์แวร์ MyASUS ที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทํางาน เพิ่มประสิทธิภาพ หรือคอลเล็กชันแอปและเครื่องมือ ASUS ที่มีประโยชน์ ซึ่งช่วยให้เราจัดการตัวเครื่องได้ง่ายขึ้นจากแอปเดียว
และแน่นอนว่าเป็นโน้ตบุ๊กสายทำงานแบบนี้ก็ต้องมีซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์อย่าง Microsoft Office Home and Student 2021 แถมมาให้ด้วย ใช้งานได้ตลอดชีพไม่ต้องซื้อเพิ่มกันให้เปลืองเลยล่ะครับ
ทรงพลังด้วยชิป Intel Core Gen 13
สำหรับประสิทธิภาพของ Zenbook 14 Flip OLED ก็ไม่ต้องห่วงเลยเพราะรุ่นนี้ใช้ขุมพลัง Intel Core เจนเนอเรชั่นที่ 13 ล่าสุด มีให้เลือกทั้งรุ่น i5 และ i7 ซึ่งรุ่นที่เราได้มารีวิวเป็นรุ่น Core i5-1340P ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่งานเอกสารทั่วไป จนถึงกราฟิกระดับกลาง แถมด้วยขนาดตัวเครื่องที่กะทัดรัดเราสามารถจัดการงานต่าง ๆ ได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นในสำนักงาน ที่บ้าน หรือในร้านกาแฟ
ใช้งานได้สูงสุด 15 ชม.
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ Zenbook 14 Flip OLED ได้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 75Wh ให้เราทำงานได้ตลอดวันโดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก ASUS เคลมว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 15 ชม.กันเลยทีเดียว แต่ถ้าจำเป็นต้องชาร์จจริง ๆ รุ่นนี้ก็มีเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จขึ้นมา 60% ได้ในเวลาเพียง 49 นาที ซึ่งมาตรฐานการชาร์จก็เป็น USB-C Power Delivery หรือ PD 65W ด้วย ชาร์จร่วมกับอุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ ที่มีได้เลย
เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ราคาเริ่มต้น 42,990 บาท
ASUS Zenbook 14 Flip OLED วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อย รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยมีให้เลือก 2 โมเดลและราคาดังนี้เลยครับ
- รุ่น Core i5-1340P | 16GB + 512GB (LPDDR5 + PCle 4.0 SSD) ราคา 42,990 บาท
- รุ่น Core i7-1360P | 16GB + 1TB (LPDDR5 + PCle 4.0 SSD) ราคา 49,990 บาท
สรุปแล้ว “นี่คือโน้ตบุ๊กสุดอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลายและพกพาได้สะดวก”
สรุปแล้ว ASUS Zenbook 14 Flip OLED ก็ถือเป็นโน้ตบุ๊กสุดอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้ครอบคลุมในทุกคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น สายทำงานทั่วไป งานเอกสาร ท่องเว็บ, สายความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง, สายวาด จดเขียน Zenbook 14 Flip OLED รุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งหมด ความโดดเด่นในเรื่องดีไซน์ที่นอกจากหรูหราแล้วยังยืดหยุ่นให้เราใช้งานได้หลากหลาย สเปคภายในก็แรงเพียงพอ หรือจะหน้าจอ OLED ที่สวยเข้าขั้นอีก เป็นโน้ตบุ๊กอีกรุ่นที่ครบเครื่องในงานไม่ถึง 5 หมื่นบาท ใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ที่ทำงานได้หลากหลายอยู่ เราว่า Zenbook 14 Flip OLED รุ่นนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยครับ!