รีวิว ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402) โน้ตบุ๊กพรีเมี่ยม ดีไซน์ใหม่ พร้อมหน่วยประมวลผล Intel Gen 12th

รีวิว ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402) รุ่นใหม่ประจำปี 2022 รอบนี้น่าสนใจมากเพราะมีการปรับโฉมดีไซน์ใหม่หมดต้อนรับปี 2022 พร้อมสเปคที่อัปเกรดอย่างจัดเต็มด้วยหน่วยประมวลผล Intel Gen 12th และยังได้หน้าจอ OLED ความละเอียด 2.8K ที่แสดงผลสีสันคมชัดอีกต่างหาก

ส่วนการใช้งานจริงจะน่าสนใจแค่ไหน วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net รีวิวให้ชมแบบเต็ม ๆ ที่นี่เลยครับ

สรุปสเปค ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402)

• ขนาดตัวเครื่อง: 31.36 x 22.06 x 1.69  ซม.
• น้ำหนัก: 1.39 กก.
• หน้าจอ: OLED 14″ ความละเอียด 2.8K (2880 x 1800),DCI-P3 color gamut 100% อัตราส่วน 16:10
• refresh rate: 90Hz
• หน่วยประมวลผล: Intel Core i5-1240P 1.7 GHz 
• กราฟิก: Intel Iris Xᵉ Graphics
• RAM: 16GB (LPDDR5)
• SSD: 512GB M.2 NVMe PCIe 4.0 Performance SSD
• แบตเตอรี่: 75Wh
• กล้อง: Webcam 720P HD
• ระบบเสียง : Harman/Kardon
• พอร์ตการเชื่อมต่อ
  • USB-A 3.2 Gen 2 x 1
  • Thunderbolt 4 x 2
  • HDMI 2.0b x 1 
  • พอร์ตหูฟังและไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. แจ็ค 2-in-1 x 1
  • micro-SD card reader x 1
• เซ็นเซอร์: เซ็นเซอร์วัดแสง, เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 6E(802.11ax) + Bluetooth 5.2 (Dual band) 2*2
• ระบบปฏิบัติการ: Windows 11 Home
• สี: Ponder Blue

ดีไซน์โฉบเฉี่ยว Zenbook สไตล์ใหม่แห่งปี 2022

รีวิว ASUS Zenbook 14 OLED มาพร้อมดีไซน์โฉมใหม่ของ Zenbook ในปี 2022 ที่ใช้ลวดลายเส้นเข้ามาที่ฝาหลังเพิ่มความโดดเด่นและเอกลักษณ์ มาพร้อมสี Ponder Blue ที่มาในโทนกรมท่าที่เรียบง่ายและสุภาพแต่ก็แฝงไปด้วยลวดลายที่มีความทันสมัยไปในตัว

ส่วนโลโก้ ASUS Zenbook รอบนี้จะวางไว้ที่มุมซ้ายล่างแทน ไม่เตะตาจนเกินไปแต่ก็ยังโชว์ตัวแบรนด์ได้อย่างแนบเนียนทีเดียวครับ

ในเรื่องขนาดและน้ำหนัก ASUS Zenbook 14 OLED มาพร้อมความบางเพียง 1.69 ซม.เมื่อพับเก็บ ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 1.39 กก.เท่านั้น ทำให้พกพาได้ง่าบและไม่เทอะทะพื้นที่ในกระเป๋าด้วย เป็นอีกจุดเด่นของตระกูล Zenbook เลยจริง ๆ ครับ

กลไกแบบ ErgoLift และบานพับดีไซน์ใหม่

อีกจุดที่มีการปรับดีไซน์ใหม่ของ ASUS Zenbook 14 OLED ก็คือตัวกลไกบานพับทรงใหม่เป็นข้อต่อแบบวงกลมเพิ่มลูกเล่นของดีไซน์ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น แต่ก็ยังแฝงความสะดวกในการใช้งานกับกลไก ErgoLift ที่ใช้ยกตัวเครื่องให้ตัวคีย์บอร์ดลอยขึ้นมาประมาณ 3º เพื่อที่จะพิมพ์ได้พอดีมุมมากขึ้นไปอีก

หน้าจอที่กางออกได้ถึง 180º

และด้วยกลไกแบบใหม่ การกางจอของ ASUS Zenbook 14 OLED นี้สามารถกางหน้าจอออกมาได้ถึง 180º เรียกว่ากางจนถึงแบนราบได้เลย เหมาะกับการนำเสนองานหรือคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้อีกฝั่งได้รับชมได้อย่างเต็มที่ แต่น่าเสียดายที่หน้าจอของรุ่นนี้ยังไม่เป็นแบบ Touchscreen เลยแตะสัมผัสกันไม่ได้ด้วย

หน้าจอ OLED สีสันสดใส คมชัดขั้นสุด

เปิดหน้าจอขึ้นมาเราจะเจอกับหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ 14” ตามชื่อรุ่นเลย การแสดงสีสันทำได้สวยสดเอามาก ๆ ภาพสวยสีสด ให้สีสันระดับ DCI-P3 100% มาตรฐานเดียวกับที่ใช้ในวงการภาพยนตร์, การันตีโดย Pantone และไม่ว่าจะภาพนิ่งหรือเคลื่อนไหวก็สวยสมจริงดุจมีชีวิตด้วยคุณภาพของสีที่ได้การรับรองคุณภาพโดย Pantone validated ซึ่งเป็นระบบสีที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก เป็นมาตรฐานที่ใช้อย่างแพร่หลายทั้งด้านงานออกแบบ, กราฟิกดีไซน์, แฟชั่น, บรรจุภัณฑ์, สถาปัตยกรรมและอีกมากมาย

แถมความละเอียดยังเยอะถึง 2.8K (2880 x 1800 พิกเซล) อีกด้วย ทั้งตัวอักษรหรือรูปภาพที่มีความละเอียดสูงก็แสดงออกมาได้อย่างเต็มที่บนหน้าจอตัวนี้ แต่ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องสายตาเพราะ ASUS Zenbook 14 OLED รุ่นนี้มาพร้อมจอถนอมสายตา ที่ช่วยตัดแสงสีฟ้าถึง 70% จอ OLED ของ ZenBook ผ่านการรับรองคุณสมบัติเพื่อการถนอมสายตาจากสถาบันชั้นนำ TÜV Rheinland-certified ลดปริมาณแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้มากถึง 70% ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนในทุกลักษณะการใช้งาน

ในเรื่องการตอบสนองยังได้ refresh rate สูงถึง 90Hz ให้ภาพลื่นไหลไม่มีกระตุก ไม่ว่าจะหนังเรื่องโปรดหรือกีฬาประเภทไหนก็คมชัดทุกการเคลื่อนไหว ชัดทุกการเคลื่อนไหวไร้อาการเบลอ ทั้งการทำงานเลื่อนเม้าส์ไป-มา หรือเลื่อนหน้าเว็บไซต์ก็จะได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหล สบายตากว่าหน้าจอแบบทั่วไปในอีกระดับเลยด้วยครับ

อีกหนึ่งดีไซน์ที่ดีของ ASUS Zenbook 14 OLED ก็คือขอบหน้าจอที่บางเฉียบเอามาก ๆ แต่ก็ใส่กล้องหน้า Webcam ที่เหนือหน้าจอได้เหมือนเดิม ให้ความละเอียดมาที่ 720p มาตรฐานครับ

สำหรับคีย์บอร์ดของ ASUS Zenbook 14 OLED จะให้มาแบบ Full-Sized พร้อมไฟ Backlit ใช้งานได้ทุกสภาวะจากเป็นแสงปกติหรือแสงน้อยก็ไม่มีปัญหา ช่วยให้ประสบการณ์ในการพิมพ์นั้นมีความสบายสูงสุด ตัวปุ่มกดก็พิมพ์ได้คล่องตัวดีดรับกับนิ้วได้กำลังดีครับ

ที่ปุ่ม Power ของ ASUS Zenbook 14 OLED ยังซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้วย ที่ต้องเรียกว่าซ่อนเพราะว่าทำได้อย่างแนบเนียน ถ้าไม่ได้บอกว่าเป็นปุ่มสแกนนิ้วก็คงไม่รู้ แต่การทำงานถือว่ารวดเร็วดีมากครับ

TouchPad พร้อม NumPad

ที่ TouchPad ของ ASUS Zenbook 14 OLED จะมีขนาดใหญ่พอสมควรออกไปทางกว้าง รองรับการสั่งงานแบบ Gesture ครบถ้วน และเอกลักษณ์ของ ASUS อย่าง NumberPad 2.0 ก็มีมาให้ด้วย ซึ่งตัว NumberPad ก็ออกแบบมาเป็นทรงเครื่องคิดเลขเลยด้วย มีปุ่ม + – * % / = มาให้เลือกใช้ครับ เหมาะมากสำหรับใครที่ต้องการปุ่มตัวเลขแต่ไม่ต้องการเครื่องที่ใหญ่จนเกินไป

พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน

มาดูพอร์ตการเชื่อมต่อของ ASUS Zenbook 14 OLED กันบ้าง รุ่นนี้ให้มาค่อนข้างครบ เรียกว่าพร้อมใช้งานเป็นอย่างมาก แทบจะไม่ต้องพึ่ง Dongle เพิ่มเติมแล้วก็ว่าได้ครับ ที่ฝั่งซ้ายมือจะมีพอร์ต USB-A 3.2 Gen 2 หนึ่งพอร์ตไว้เสียบอุปกรณ์เสริมอย่างเม้าส์หรือแฟลชไดรฟ์ได้อย่างง่ายดาย

ส่วนฝั่งขวามือจะมีพอร์ต HDMI 2.0b, แจ็คหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต Thunderbolt 4 สองพอร์ตและ micro-SD Card Reader อย่างที่บอกว่าพร้อมใช้งานดีจริง ๆ ครับ

ทนทานผ่านมาตรฐานระดับกองทัพอีกเช่นเคย

ASUS Zenbook 14 OLED รุ่นนี้ผ่านมาตรฐานการทดสอบทางทหาร US Military Grade ทนต่อสภาพอากาศ การกระแทก ความชื้น และยังมาพร้อม ASUS Exclusive Care ประกัน 3 ปี International Warranty, ประกัน 3 ปี Onsite service ซ่อมถึงทีเมื่อเครื่องมีปัญหา และ 1 ปี Perfect Warranty เมื่อเกิดอุบัติเหตุ น้ำหกใส่ ไฟฟ้าลัดวงจร หรือเครื่องตกหล่นก็ไม่ต้องเป็นห่วง

มาพร้อม Windows 11 Home ตั้งแต่แกะกล่อง

มาต่อกันที่เรื่องซอฟต์แวร์ ASUS Zenbook 14 OLED มาพร้อม Windows 11 Home ตั้งแต่แกะกล่องเลย ไม่ต้องซื้อเพิ่มหรือรออัปเดตกันเลยครับ เรียกว่าเปิดกล่องมาก็พร้อมใช้งานได้ทันที

นอกจากนี้โปรแกรมพื้นฐานอย่าง Microsoft Office 2021 (Home & Student) ก็ยังแถมมาให้ใช้งานแบบฟรี ๆ ตลอดอายุการใช้งานของเครื่องเลย สำหรับนักศึกษาหรือคนที่ต้องใช้งาน Office เป็นประจำอยู่แล้ว ก็สบายใจได้เลย ไม่ต้องซื้อเพิ่มเช่นกันครับ

ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นด้วยชิป Intel Gen 12th

ในเรื่องประสิทธิภาพ ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402) ให้สเปคมาแบบจัดเต็ม ใช้ชิปเซ็ต Intel Gen 12th แล้ว เครื่องที่เราได้มารีวิวนั้นเป็นรุ่นชิป Intel Core i5-1240P ใช้การ์ดจอ Intel Iris Xe คู่กับแรม 16GB และมี SSD อีก 512GB เรียกว่าเป็นสเปคที่พร้อมใช้งานหนัก ๆ ได้เลย จะทำงานด้านกราฟิก ตัดต่อภาพ ตัดต่อคลิป สเปคแบบนี้ก็สบาย ๆ ครับ

ในเรื่องระบบเสียง ASUS Zenbook 14 OLED ยังได้ลำโพงที่จูนเสียงจาก Harman/Kardon ที่มีระบบเสียง Dolby Atmos Audio พร้อมเทคโนโลยี Smart Amplifier เพื่อความสุนทรีย์ทางภาพและเสียงสูงสุด เต็มที่กับความบันเทิงได้อย่างเต็มอรรถรส และระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้าง AI noise cancellation มั่นใจได้ทั้งในเรื่องความบันเทิงหรือจะเป็นการประชุมออนไลน์ลงตัวสุด ๆ

แบตเตอรี่ 75Wh พร้อมชาร์จไว 65W

ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ ASUS Zenbook 14 OLED ความเบา-บางของตัวเครื่อที่คล่องตัวก็เหมาะกับใช้แบบไร้สาย ถือไปมาได้บบไม่ต้องกังวลเรื่องแบตฯล่ะเนาะ ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 75Wh ใช้งานนอกสถานที่ได้นานพอสมควร แถมในเรื่องชาร์จก็ใช้ผ่านพอร์ต Thunderbolt 4 ได้ทันทีเพราะรองรับมาตรฐาน Power Delivery (PD) แบบ 65W ใช้ชุดชาร์จมาตรฐานที่รองรับได้เลยหรือจะใช้กับ PowerBank ที่มีมาตรฐาน PD ก็ได้ด้วย

ราคาเริ่มต้น 35,990 มีให้เลือก 2 รุ่น

สำหรับ ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402) จะมีให้เลือก 2 รุ่นคือรุ่น Core i5 และ Core i7 ทั้งคู่มีแรม 16GB มีราคาค่าตัวดังนี้ครับ

• ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402) รุ่น Core i5-1240P ความจุ 16GB + 512GB ราคา 35,990 บาท
• ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402) รุ่น Core i7-1260P ความจุ 16GB + 1TB ราคา 43,990 บาท

สรุปแล้ว “นี่คือโน้ตบุ๊คจอสวยคม พร้อมสเปคทรงพลังที่น่าโดนสุด ๆ ในปี 2022”

สรุปแล้ว ASUS Zenbook 14 OLED ก็ถือเป็นรุ่นอัปเกรดสำหรับปี 2022 ที่ปรับโฉมกันครั้งใหญ่ตั้งแต่ดีไซน์ฝาหลังเพิ่มลวดลายให้โฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ความบางเบาและบอดี้ที่แข็งแกร่งเหมือนเดิม นอกจากนี้จุดเด่นใหม่อย่างหน้าจอ OLED ก็ยังตอบโจทย์ความต้องการของคนที่อยากได้โน้ตบุ๊คหน้าจอสีสันสวยงามและคมชัด ไม่ว่าจะเป็นสายกราฟิกหรือสายความบันเทิงต้องถูกใจอย่างแน่นอน อีกทั้งชิปเซ็ตในปีนี้ก็เขยิบขึ้นมาเป็น Intel Gen 12th เรียบร้อย ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ใครที่อยากอัปเกรดโน้ตบุ๊คใหม่ในปีนี้ ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402) ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับรุ่นนี้ดูได้ที่ https://th.asus.click/MFf91l