Smart Review
รีวิว ASUS Zenbook 14X OLED มิติใหม่ของสีสันบนจอโน้ตบุ๊ค พร้อมความเรียบหรูและสเปคที่เพียบพร้อมในทุกการใช้งาน
รีวิว ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) โน้ตบุ๊ครุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับดีไซน์เรียบหรู ที่เหมาะกับการพกพา ได้หน้าจอ OLED ยกระดับความคมชัดและสีสันขึ้นไปอีกขั้น พร้อมกันนี้ยังมีสเปคที่จัดเต็มเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน หรือสายกราฟิกก็ตอบโจทย์ทั้งหมด
เกริ่นมาแบบนี้เชื่อว่าหลายคนคงสนใจขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะครับ เอาเป็นว่ามาติดตามรีวิวของ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) รุ่นนี้ไปพร้อม ๆ กันเลยครับ
สรุปสเปค ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E)
- ขนาดตัวเครื่อง: 31.12 x 22.11 x 1.59 ซม.
- น้ำหนัก: 1.4 กก.
- หน้าจอ: OLED 14″ ความละเอียด 2880 x 1800 พิกเซล DCI-P3 100% อัตราส่วน 16:10
- refresh rate: 90Hz
- หน่วยประมวลผล: Intel Core i7-1165G7
- กราฟิก: Intel Iris Xe
- RAM: 16GB (LPDDR4X)
- SSD: 512GB NVMe PCIe
- แบตเตอรี่: 60Wh
- กล้อง: Webcam 720P HD
- ระบบเสียง : Harman/Kardon
- พอร์ตการเชื่อมต่อ
- USB-A 3.2 Gen2 x 1
- Thunderbolt 4 x 2 (รองรับการเชื่อมต่อข้อมูล, ชาร์จไฟ และ DisplayPort)
- HDMI 2.0 x 1
- พอร์ตหูฟังและไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. แจ็ค 2-in-1 x 1
- micro-SD Card Reader x 1
- เซ็นเซอร์: เซ็นเซอร์วัดแสง, เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ
- การเชื่อมต่อ: WLAN IEEE 802.11a/b/g/n/ac/ax, WiFi 2.4GHz และ 5GHz 2 x 2 MIMO
- ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 Home
- สี: Pine Grey
หน้าจอ OLED สีสันสวยสด ความแม่นยำสูง
ขอเริ่มต้นที่เรื่องหน้าจอก่อนเลยละกันครับ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) นี้มาพร้อมหน้าจอ OLED เป็นครั้งแรกของ ASUS แน่นอนว่าสีสันและความสวยสดของหน้าจอนั้นทำได้ยอดเยี่ยมมาก ต่างจากจอ IPS เดิมที่เราเคยเห็นมาอย่างสิ้นเชิง สีดำก็ดำสนิทกว่า ในเรื่องความตรงของสีรุ่นนี้ยังรองรับมาตรฐาน DCI-P3 100% เป็นมาตรฐานเดียวกับวงการภาพยนตร์เลยทีเดียว ใครที่ชอบดูหนังบนโน้ตบุ๊คบอกเลยว่าถูกใจแน่นอนครับ
นอกจากนี้ตัวหน้าจอยังได้รับการการันตีจาก Pantone ระบบสีที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก มาตรฐานทั่งด้านแฟชั่น, กราฟิกดีไซน์, บรรจุภัณฑ์ หรือสถาปัตยกรรมก็ล้วนแล้วแต่ใช้มาตรฐานของ Pantone ทั้งสิ้น ทำให้ไม่ว่าเราจะใช้งานด้านกราฟิกจะตัดต่อภาพนิ่งหรือวิดีโอก็จะสวยสมจริงแน่นอนครับ
หน้าจอ Touchscreen refresh rate 90Hz
ขนาดหน้าจอของ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) นี้ให้มาใหญ่ 14″ ตามชื่อรุ่นเลย แถมยังเป็นอัตราส่วนแบบ 16:10 ที่รองรับทั้งการทำงานหรือจะความบันเทิงต่าง ๆ เป็นอย่างดี ความละเอียดก็สูงถึง 2.8K (2880 x 1800 พิกเซล) อีกต่างหาก
ตัวหน้าจอของรุ่นนี้ก็รองรับการ Touchscreen ให้เราได้ใช้ประโยชน์จากการทำงานทั้งนิ้วและปากกา Stylus บนหน้าจออย่างคล่องตัวมากขึ้น ตัว refresh rate ก็สูงถึง 90Hz อีกด้วย เวลาใช้งานจะรู้สึกถึงความลื่นไหลไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ เลยล่ะครับ
ความสว่างสูง แต่ก็ตัดแสงสีฟ้าได้ดี
นอกจากนี้หน้าจอของ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) ยังมีค่าความสว่างถึง 400nits มั่นใจได้เลยว่าแม้จะใช้งานในที่แสงมาก หรือกลางแจ้งก็ยังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนครับ
แต่ถึงแม้จอจะสว่างมากแต่ก็ไม่ทำร้ายดวงตาของเราเพราะ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) มีการกรองแสงสีฟ้ามากถึง 70% ได้รับการรับรองจาก TUV Rheinland มาแล้วด้วย ช่วยให้เราใช้งานได้อย่างปลอดภัย และสบายตาสุด ๆ ครับ
แต่ที่ว่ามาทั้งหมดก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดสังเกตเลยเนาะ เพราะสำหรับใครที่ชอบเพ่งหน้าจอมาก ๆ ตัวจอของ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) นี้จะมีความหยาบของหน้าจออยู่บ้าง หากเราจ้องไปที่จอจริง ๆ เราจะเจอกับการเรียงพิกเซลยิบ ๆ ที่จออยู่บ้าง ซึ่งตรงนี้ขอย้ำไว้ว่าต้องเพ่งหน่อยนะครับ ถ้าใช้งานทั่วไปก็อาจจะไม่ได้เห็นจนน่าหงุดหงิดครับ
ดีไซน์เรียบหรู แต่ก็แฝงไปด้วยแฟชั่น
นอกจากเรื่องหน้าจอที่ดูพรีเมี่ยมสุด ๆ แล้ว บอดี้โดยรวมของ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) ยังมาพร้อมความเรียบหรูตามสไตล์ของ Zenbook Series ด้วยสี Pine Grey ความเทาที่เป็นเอกลักษณ์อยู่บนบอดี้อลูมิเนียมเกรดสูง ที่แค่เห็นก็รู้เลยว่าแข็งแรงและหรูหราจริง ๆ
ตัวเครื่องมาพร้อมความบางเฉียบเพียง 1.59 ซม. และมีน้ำหนักแค่ 1.4 กก. ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊คที่มีขนาดน้ำหนักดีมาก เหมาะกับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่อย่างยิ่งครับ
ความเต็มของหน้าจอ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) นั้นทำได้ดีมาก เพราะรุ่นนี้ใช้พื้นที่หน้าจอไปได้มากถึง 92% จุดนี้จึงทำให้ตัวเครื่องดูเซ็กซี่และน่ามองมากกว่าเดิม เวลาเปิดหน้าจอขึ้นมาก็จะเห็นว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหน้าจอไม่มีขอบที่หนา ๆ อีกต่อไป
กลไก ErgoLift เอกสิทธิ์ของ Zenbook
จุดที่ ASUS ทำได้ดีมาก ๆ ก็คือกลไก ErgoLift หรือการใช้ตัวขอบหน้าจอยกตัวเครื่องขึ้นเพิ่มองศาให้การใช้งานคีย์บอร์ดนั้นเหมาะมือยิ่งขึ้นนี่แหละครับ ซึ่งบน ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) นี้ก็ยังมีมาให้อยู่ เวลาเรากางหน้าจอขึ้นมา ตัวเครื่องจะยกขึ้นมาเล็กน้อยประมาณ 3º แต่ความเล็กน้อยนี้ช่วยให้การใช้งานไม่ว่าจะพิมพ์หรือวางมือนั้นถนัดขึ้นจริง ๆ ครับ
และด้วยความที่หน้าจอของรุ่นนี้เป็นแบบ Touchscreen ด้วย ASUS เลยออกแบบให้เราสามารถกางหน้าจอได้มากถึง 180º หรือเรียกว่ากางจนสุดวางเป็นแนวนอนได้เลย เหมาะมากสำหรับใครที่ต้องการพรีเซนต์งานหรือเปิดพื้นที่ให้ใช้งานได้แบบเต็มที่ที่สุดครับ
คีย์บอร์ดพิมพ์สนุก พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว
ตัวคีย์บอร์ดของ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E)นั้นให้มาแบบ Full-sized ใช้งานได้อย่างสะดวกเลย พิมพ์งานได้อย่างคล่องตัว และก็ยังมีการตอบรับในการกดได้เป็นอย่างดี การเว้นช่องของแต่ละปุ่มก็ห่างกำลังดีทำให้พิมพ์ได้อย่างแม่นยำจริง ๆ
และที่ปุ่ม Power ก็ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย ใช้งานได้ง่ายแตะสแกนเข้าเครื่องได้อย่างรวดเร็วครับ
TouchPad ขนาดใหญ่ พร้อมลูกเล่น NumberPad 2.0
ส่วน TouchPad ของ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) ก็มีขนาดใหญ่ดีมาก มีพื้นที่ให้เราปาดนิ้วเพียงพอ รองรับฟีเจอร์ Gesture ต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน พร้อมรองรับการกดได้ในทุกส่วน จะแตะ คลิก ใช้งานก็ราบรื่นดีมากครับ
นอกจากนี้ตัว TouchPad ของรุ่นนี้ยังรองรับฟีเจอร์ NumberPad 2.0 ที่เราสามารถเปิดไฟ LED ส่องสว่างเป็นตัวเลขขึ้นมาได้ ทำงานเราทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น เปิด-ปิดได้ง่ายจากตัว TouchPad นี้เองเลย ใครที่ต้องคีย์ข้อมูลตัวเลขบ่อย ๆ น่าจะถูกใจไม่น้อยครับ
พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน
ต่อมาเรามาดูพอร์ตการเชื่อมต่อกันบ้าง ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) ให้พอร์ตมาครบครันพร้อมใช้งานมาก ที่ฝั่งซ้ายจะมีพอร์ต HDMI 2.0 ที่ให้เราต่อออกจอหรือโปรเจคเตอร์ได้อย่างสะดวก, พอร์ต Thunderbolt 4 USB-C อีก 2 พอร์ต
ส่วนฝั่งขวาจะมีพอร์ต USB 3.2 Gen 2 แบบ USB-A มาให้หนึ่งพอร์ตเผื่อต้องเชื่อมต่อกับแฟลชไดรฟ์หรือเครื่องปริ้นต์ ถัดไปจะมีช่องหูฟังและไมโครโฟนแบบ 3.5 มม. และถัดไปสุดหลังตัวช่องระบายอากาศก็จะเป็นช่อง micro-SD Card Reader เผื่อใช้งานอุปกรณ์กล้องอะเนาะ สะดวกใช้ได้เลยแบบนี้
ตัวเครื่องทนทานผ่านมาตรฐานระดับกองทัพ
โดยรวมดีไซน์ของ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) ก็ออกแบบมาได้ดีทีเดียว ทั้งหน้าจอที่สวย สีสันเต็มอิ่ม พอร์ตต่าง ๆ ที่ให้มาครบ รวมถึงความเพรียวบางของบอดี้ที่น่าพกพาไปใช้งาน และที่สำคัญอีกอย่างก็คือรุ่นนี้ผ่านการรับรองความทนทานตามมาตรฐาน MIL-STD-810H หรือเกรดกองทัพมาแล้ว ถึงแม้ตัวเครื่องจะดูหรูหราแต่ก็ไม่บอบบางนะ มั่นใจได้เลยว่าแข็งแกร่งแน่นอนครับรุ่นนี้
Windows 10 Home มาตั้งแต่แกะกล่อง พร้อมอัปเดต Windows 11 แน่นอน
มาต่อกันที่เรื่องซอฟต์แวร์ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E)มาพร้อม Windows 10 Home ตั้งแต่แกะกล่องเลย ไม่ต้องซื้อมาติดตั้งเพิ่ม พร้อมใช้งานได้ทันที และแน่นอนว่าเรายังสามารถอัปเดตเป็น Windows 11 ได้ด้วยในอนาคตครับ
มี Microsoft Office 2019 แถมมาให้ด้วย
นอกจาก Windows แท้แล้ว ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) ยังมี Microsoft Office 2019 (Home & Student) แถมมาให้ในเครื่องเลยด้วย สำหรับนักศึกษาหรือคนที่ต้องใช้งาน Office เป็นประจำอยู่แล้ว ก็สบายใจได้เลย ไม่ต้องซื้อเพิ่มเช่นกัน รุ่นนี้มีติดมาให้เลยครับ
MyASUS ผู้ช่วยสำหรับการทำงานที่ไร้รอยต่อมากขึ้น
ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) มาพร้อมโปรแกรมพิเศษ MyASUS และ ScreenXpert ที่ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทั้ง Android และ iOS เข้ากับโน้ตบุ๊คได้อย่างไร้รอยต่ออีกด้วย เรียกว่าเป็นตัวช่วยให้เราใช้งานอุปกรณ์หลาย ๆ ชิ้นได้คล่องตัวขึ้นไปอีกจริง ๆ ครับ
ที่สุดของประสิทธิภาพที่พกพาได้
ขอพูดเรื่องประสิทธิภาพกันบ้าง ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) ให้สเปคมาแบบจัดเต็ม เครื่องที่เราได้มารีวิวนั้นเป็นรุ่นท็อปสุดเลยคือใช้ชิป Intel Core i7-1165G7 ใช้การ์ดจอ Intel Iris Xe คู่กับแรม 16GB และมี SSD อีก 512GB เรียกว่าเป็นสเปคที่พร้อมใช้งานหนัก ๆ ได้เลย จะทำงานด้านกราฟิก ตัดต่อภาพ ตัดต่อคลิป สเปคแบบนี้ก็สบาย ๆ ครับ
หรือถ้าใครที่อยากลองเล่นเกมบนสเปคแบบนี้ก็ทำได้เช่นกัน เราลองทดสอบด้วยเกมออนไลน์อย่าง Overwatch ก็สามารถปรับกราฟิกได้ที่ระดับสูงกันเลยครับ อย่างที่บอกไปว่าสเปคระดับนี้จัดให้ได้ทุกการใช้งานจริง ๆ ครับ
เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนด้วย AI
ขอพูดถึงเรื่องระบบเสียงกันบ้าง ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) มาพร้อมไมโครโฟนคุณภาพสูงและ AI Noise-Canceling ที่ช่วยจัดการเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดี ในยุคที่หลายคนอาจต้องประชุมออนไลน์ เรียนออนไลน์แล้วไม่ต้องการเสียงรบกวน บนรุ่นนี้มีฟีเจอร์ ClearVoice Mic ที่ช่วยให้เสียงพูดของเราชัดใส ตอบโจทย์การทำงานในยุคนี้อย่างมากเลยครับ
ส่วนเรื่องเสียงจากลำโพง ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) ก็ยังให้เสียงที่ยอดเยี่ยมมีลำโพงแบบ Stereo พร้อมจูนเสียงด้วย Harman/Kardon อีกต่างหาก มั่นใจได้เลยว่าเวลาเราดูหนัง หรือฟังเพลงเสียงที่ได้จะกระหึ่มถูกใจแน่นอนครับ
แบตเตอรี่ใช้งานได้ยอดเยี่ยมพร้อมรองรับชาร์จไว 100W
ปิดท้ายด้วยเรื่องแบตเตอรี่ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) ให้แบตเตอรี่มา 63Wh รองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี เวลาพกไปใช้แบบไม่พกที่ชาร์จก็ยังสบายใจว่าสามารถใช้งานได้จนจบงานครับ ส่วนระบบชาร์จรุ่นนี้รองรับมากถึง 100W และด้วยความเป็นพอร์ต USB-C แบบนี้ ถ้ามีที่ชาร์จ PD ที่ความเร็วสูงก็สามารถใช้งานได้ด้วย ทำให้คล่องตัวมากขึ้นไปอีกครับ
ราคาเริ่มต้น 38,990 มีให้เลือก 2 รุ่น
สำหรับ ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) จะมีให้เลือก 2 รุ่นคือรุ่น Core i5 และ Core i7 ทั้งคู่มีแรม 16GB และ SSD 512GB เท่ากัน มีราคาค่าตัวดังนี้ครับ
- ASUS Zenbook 14X OLED รุ่น Core i5-1135G7 ราคา 38,990 บาท
- ASUS Zenbook 14X OLED รุ่น Core i7-1165G7 ราคา 45,990 บาท
ทั้ง 2 รุ่นเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อย ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการหรือช่องทางออนไลน์ของ ASUS รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ครับ
สรุปแล้ว “นี่คือโน้ตบุ๊คที่จอสวยสุด ๆ พร้อมดีไซน์ที่เรียบหรู ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน”
สรุปแล้ว ASUS Zenbook 14X OLED (UX5401E) ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊คที่ครบเครื่องมาก ๆ ทั้งในเรื่องดีไซน์ที่ซีรีส์ Zenbook ทำได้ดีมาตลอด มีทั้งความเรียบหรูและความบางเบาเหมาะกับการพกพา แถมครั้งนี้ยังอัปเกรดหน้าจอเป็น OLED ที่มีทั้งความสวยสด ความคมชัด และการตอบสนองที่ลื่นไหลเหมาะกับงานสายกราฟิกหรือความบันเทิงอย่างยิ่ง สเปคที่ให้มาก็ตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน ตั้งแต่ทำงานทั่วไปจนถึงทำงานหนัก ๆ เลย และที่สำคัญก็คือซอฟต์แวร์ที่ให้มาเลยทั้ง Windows 10 Home หรือ Microsoft Office 2019 เรียกว่าพร้อมใช้งานทันทีเลยล่ะครับ ใครที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊ครุ่นไฮเอนด์ใช้งานได้ยาว ๆ รุ่นนี้ก็ตอบโจทย์เลยล่ะครับ