Featured
รีวิว ASUS ZenFone 3 (Marshall Limited Edition) ดีไซน์ระดับพรีเมียม และกล้องที่ดีกว่าเดิม
ASUS ZenFone 3 (ZE552KL) Marshall Limited Edition เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว กับแรม 4GB และความจุตัวเครื่อง 64GB รุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับหูฟัง Marshall Major II
สรุปข้อมูลและสเปค ASUS ZenFone 3 (ZE552KL) และ ASUS ZenFone 3 (ZE520KL)
รุ่น | ZenFone 3 (ZE552KL) | ZenFone 3 (ZE520KL) |
ราคาเปิดตัว | 14,990.- | 11,990.- |
ขนาดตัวเครื่อง | 152.59 x 77.38 x 7.69 มม. | 146.87 x 73.98 x 7.69 มม. |
ขนาดหน้าจอ | 5.5 นิ้ว | 5.2 นิ้ว |
ความละเอียดจอ | Super IPS+ LCD Full HD 1080p | |
วัสดุดีไซน์ | กรอบโลหะ ครอบกระจกขอบโค้งมน 2.5D ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง | |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0 Marshmallow กับ ZenUI 3.0 | |
ชิปเซ็ต | Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625 | |
ซีพียู | Octa-core 2.0 GHz Cortex-A53 | |
จีพียู | Adreno 506 | |
แรม | 4 GB | 3 GB |
ความจุเครื่อง | 64 GB | 32 GB |
กล้องหลัง | 16 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.0 ระบบโฟกัสด้วย PDAF และเลเซอร์โฟกัส, กันสั่น OIS แบบ 4 แกน และแฟลช Dual LED | |
กล้องหน้า | 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0, มุมกว้าง 85 องศา | |
ซิมการ์ด | 2 ซิมการ์ด (2 x Nano SIM) โดยเลือกใส่ microSD Card ในช่องซิม 2 ได้ | |
การเชื่อมต่อ | 4G LTE, Wi-Fi 802.11ac, MiMO Wi-Fi, Bluetooth 4.2, USB Type-C | |
GPS | GPS/A-GPS, GLONASS | |
ระบบเสียง | Hi-Res Audio, 5 Magnet Speaker, NXP Smart AMP | |
แบตเตอรี่ | 3,000 mAh | 2,650 mAh |
แกะกล่อง (Unboxing)
ASUS ZenFone 3 (ZE552KL) Marshall Limited Edition รุ่นพิเศษนี้มาในกล่องขนาดใหญ่ โดยภายในกล่องจะมีหูฟัง Marshall Major II แถมมาให้ในกล่องด้วย เป็นการเอาใจคนรักเสียงเพลงโดยเฉพาะแฟน ๆ Marshall โดยจะมีคู่มือการใช้งาน และแจ็คขนาด 3.5 มม. เพื่อใช้ต่อกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เครื่องเล่นเพลง
สำหรับตัวหูฟัง Marshall Major II ที่มาในกล่องชุดนี้เป็นหูฟังสีดำ วัสดุด้านนอกจะเป็นหนัง PU ส่วนด้านในเป็นผ้าและหนังฟองน้ำนุ่ม ๆ โดยสามารถปรับขนาดหูฟังให้เหมาะกับศรีษะผู้สวมใส่ได้
ASUS ZenFone 3 (ZE552KL) จะมาในกล่องสีดำ โดยตัวเครื่องที่นำมารีวิวนี้เป็นสีดำ (Sapphire Black) โดยจะมีอุปกรณ์ภายในกล่องดังนี้
- ตัวเครื่องสมาร์ทโฟน ASUS ZenFone 3 (ZE552KL) พร้อมแบตเตอรี่ฝังติดอยู่ภายใน ไม่สามารถแกะเปิดฝาหลังได้
- อะแดปเตอร์สำหรับแปลงกระแสไฟฟ้า และสายเคเบิล USB Type-C
- หูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และยางครอบตัวหูฟังสำหรับเปลี่ยนขนาดจำนวน 2 คู่
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- คู่มือการใช้งาน
ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
ASUS ZenFone 3 (ZE552KL) เป็นการมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเทียบกับรุ่น ZenFone 2 ด้วยวัสดุที่เปลี่ยนมาเป็นกระจกขอบโค้งมน 2.5D จาก Corning Gorilla GlassG ที่ครอบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยมีกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะ จึงทำให้รุ่นนี้ดูหรูหราและมีความพรีเมียมมากขึ้น
ZenFone 3 มีความบางเพียง 7.69 มม. น้ำหนัก 155 กรัม ในขณะที่หน้าจอแสดงผลมีขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งให้สัดส่วนหน้าจอมากถึง 77.3% ของสัดส่วนตัวเครื่อง ตัวเลขนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าแม้มีหน้าจอขนาดใหญ่แต่ตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่เทอะทะ
หน้าจอของ ZenFone 3 ใช้แผงหน้าจอรุ่นใหม่ Super IPS+ LCD ที่ให้ค่าความสว่างมากขึ้นกว่าเดิม และมีความละเอียดหน้าจอระดับ Full HD (1080 x 1920 พิกเซล)
เหนือหน้าจอมีไฟแจ้งเตือน LED อยู่บริเวณมุมซ้าย, ถัดมาตรงกลางเป็นลำโพงสำหรับเสียงสนทนา และเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ล่างหน้าจอมีปุ่มสัมผัส 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps โดยทั้ง 3 ปุ่มก็ยังไม่มีไฟส่องสว่าง (Backlight) เหมือนเดิม
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ซึ่งจะสังเกตเห็นเส้นเสาอากาศคาดอยู่ 2 จุดทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
ขอบด้านล่างจะมีไมโครโฟนหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และช่องลำโพง โดยจะมีเส้นเสาอากาศคาดอยู่ 2 จุดทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เช่นเดียวกับขอบเครื่องด้านบน
ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power ที่ยังความเป็นเอกลักษณ์ของวิถีแห่ง Zen ด้วยการดีไซน์ Concentric-circle วงกลมที่สะท้อนเข้าหาศูนย์กลาง ซึ่งเป็นเพียงจุดเดียวที่มองจากภายนอกแล้วสื่อถึงความเป็น Zen
ขอบด้านซ้ายมีช่องสำหรับถาดใส่ซิม โดยรุ่นนี้รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด หรือจะเลือกใส่ microSD Card แทนช่องซิม 2 ก็ได้เช่นกัน
ด้านหลังของ ZenFone 3 เป็นกระจกเช่นเดียวกับด้านหน้า ไม่สามารถแกะเปิดฝาหลังได้ โดยภายในจะมีแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh สำหรับรุ่นโมเดล ZE552KL และแบตเตอรี่ขนาด 2,650 mAh สำหรับรุ่นโมเดล ZE520KL
กล้องด้านหลังมีขนาดความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX298 ตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่น OPPO R9, Huawei Mate 8, Xiaomi Mi 5 และ Vivo X7 Plus โดยตัวโมดูลกล้องหลังจะนูนขึ้นมาเล็กน้อย และข้าง ๆ กล้องหลังจะมีระบบเลเซอร์ช่วยโฟกัส กับไฟแฟลชแบบ Dual-LED (True tone)
ถัดลงมาจากเลนส์กล้องหลังจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่มีไซน์แบบยาวรี ซึ่งต่างไปจากสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นที่มักจะมีดีไซน์แบบกลมหรือสีเหลี่ยม
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
ASUS ZenFone 3 รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย ZenUI 3.0 ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้มีการลดจำนวนแอพขยะที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องน้อยลงไปจากเดิมมาก โดยเมื่อเปิดเครื่องมาในครั้งแรกระบบจะถามว่าต้องการติดตั้งแอพเหล่านั้นหรือไม่
ในส่วนของการแจ้งเตือนเมื่อลากแถบบาร์ด้านบนลงมา จะมีตัวจัดการการแจ้งเตือนให้ใช้งานด้วย ซึ่งใช้สำหรับบล็อคการแจ้งเตือนที่เราไม่ต้องการเห็น
หน้าจอของ ZenFone 3 สามารถปรับโทนสีได้ตามการใช้งาน และมีฟังก์ชั่นตัวกรองแสงสีฟ้าเพิ่มมาให้ด้วย เหมาะสำหรับการเปิดใช้งานในเวลากลางคืน เพื่อถนอมสายตา
ฟีเจอร์ด้านการใช้ท่าทางหรือ ZenMotion ยังคงมีให้ใช้งานเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น ท่าทางสัมผัส, ท่าทางเคลื่อนที่ และโหมดการใช้งานมือเดียว
ZenFone 3 มีโหมดให้เลือกใช้งานทั้งหมดปกติ, โหมดง่าย และโหมดสำหรับเด็ก เพื่อจำกัดการใช้งานให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก
ASUS ZenFone 3 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และใช้งานบนเครือข่าย 3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิมการ์ด เลือกสลับซิมสำหรับการใช้เน็ตได้จากเมนูการตั้งค่าตัวเครื่อง
การเชื่อมต่ออื่น ๆ ที่รองรับ ได้แก่ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, ใช้เป็นจุดกระจายสัญญาณ (Wi-Fi Hotspot), Bluetooth 4.2 และการเชื่อมต่อผ่านสาย USB Type-C โดยในรุ่นนี้ไม่มี NFC
ระบบสแกนลายนิ้วมือของ ZenFone 3 รองรับการจดจำได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ สามารถใช้ปลดล็อคหน้าจอ ซึ่งแตะสแกนได้โดยไม่ต้องกดเปิดหน้าจอก่อน และรับสายโทรเข้าได้ นอกจากนี้แล้วขณะเปิดใช้งานกล้องถ่ายรูป ก็ยังสามารถแตะที่ตัวเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือเพื่อถ่ายภาพได้
ฟีเจอร์ด้านการจัดการพลังงาน ก็มีโหมดประหยัดพลังงานที่เลือกปรับการใช้งานได้ และสามารถเลือกปิดฟังก์ชันการใช้งานบางอย่างจากในส่วนนี้ได้เลย ได้แก่ Wi-Fi, เน็ตมือถือ, GPS, ความสว่างหน้าจอ และระยะเวลาการพักหน้าจอ
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และ
ความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม - Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน
ASUS ZenFone 3 (ZE552KL) รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625 ซีพียู Octa-core 2.0 GHz Cortex-A53 ซึ่งทั้งตัวระบบปฏิบัติการและซีพียูต่างก็เป็น 64-bit พร้อมจีพียู Adreno 506 โดยมีความจำแรมขนาด 4 GB และความจำภายในตัวเครื่อง 64 GB
โดยผลการทดสอบ AnTuTu 6.2.1 ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 61,739 คะแนน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ ZenFone 3 (ZE552KL) ทำคะแนน Single-Core ได้ 917 และ Multi-Core ทำได้ 5,177 คะแนน คะแนนถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดีมาก
สำหรับการเล่นเกมต่าง ๆ ก็ลื่นไหลดี โดยตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์สำหรับเล่นเกมครบทุกตัว โดยเฉพาะเซ็นเซอร์ Gyro Sensor ซึ่งเป็นตัวตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และ
กล้องถ่ายรูป
ASUS ZenFone 3 มีกล้องด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และระบบโฟกัสแบบ PDAF เสริมด้วยเลเซอร์ช่วยโฟกัสสำหรับการถ่ายภาพวัตถุระยะใกล้ ซึ่งตัวซอฟแวร์ของแอพกล้องทำงานได้รวดเร็วและดีขึ้นว่าเดิมมาก ไม่ว่าจะเป็นการชัตเตอร์ที่รวดเร็ว และการประมวลผลภาพถ่ายที่กดดูรูปถ่ายได้ทันที ไม่หน่วงเหมือนเมื่อก่อน
อินเตอร์ของแอพกล้องใหม่ที่เลือกใช้งานได้ง่ายขึ้น และมีการเพิ่มไอคอน HDR มาไว้ในหน้าแรก เพื่อให้ง่ายต่อการปิด/เปิดการใช้งาน
ในส่วนของโหมดกำหนดเอง (Manual Mode) ของรุ่นนี้สามารถปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ปรับได้นานสุดถึง 32 วินาที
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้การถ่ายภาพด้วย ZenFone 3 ทำออกมาได้ดีขึ้นคือตัวระบบกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ที่เป็นแบบ 4 แกน และค่ารูรับแสง f/2.0 ในขณะที่การถ่ายวิดีโอก็มีซอฟแวร์กันสั่นแบบ EIS เข้ามาช่วยด้วย แต่ถ้าถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K จะไม่สามารถใช้ระบบกันสั่นได้
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปจุดเด่น
- วัสดุและดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม พรีเมียมกว่าเดิม และได้หูฟัง Marshall เป็นของแถมสำหรับในรุ่น Marshall Limited Edition
- กล้องถ่ายรูปดีขึ้น ทำงานได้รวดเร็ว ชัตเตอร์ไว ไม่หน่วง ด้วยตัวเซ็นเซอร์กล้องและซอฟต์แวร์ที่มีการปรับปรุงใหม่
- ตัวซีพียู Snapdragon 625 Octa-core 2.0 GHz Cortex-A53 ซึ่งทั้งตัวระบบปฏิบัติการและซีพียูต่างก็เป็น 64-bit พร้อมจีพียู Adreno 506 กับแรม 4GB และความจำภายในตัวเครื่อง 64GB
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และใช้งานบนเครือข่าย 3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่รองรับการแตะสแกนได้แบบ 360 องศา และแตะสแกนเพื่อปลดล็อคหน้าจอได้แม้หน้าจอดับอยู่โดยไม่ต้องกดเปิดหน้าจอก่อน
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ตัวเครื่องเป็นกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เกิดคราบรอยนิ้วมือได้ง่าย
- ไม่มี NFC
ขอบคุณ ASUS ประเทศไทย