Smart Review
รีวิว ASUS Zenfone Max Plus (M1) สมาร์ทโฟนแบตอึด หน้าจอ Max Display 18:9 และกล้องหลังคู่เลนส์ไวด์
ASUS Zenfone Max Plus (M1) สมาร์ทโฟนที่มาสานต่อความสำเร็จจาก Zenfone Max Series และเป็นรุ่นแรกใน M-Series ใหม่ โดยยังคงชูจุดเด่นด้านแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Max Display หรือ Full Screen 18:9 เต็มพื้นที่ด้านหน้า และกล้องหลังเลนส์คู่ด้านหลังความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพมุมกว้างถึง 120 องศา ในราคาย่อมเยาที่ทุกคนจับต้องได้ง่าย
สรุปข้อมูลและสเปค ASUS Zenfone Max Plus (M1) ZB5570TL
- ราคาเปิดตัว 6,990 บาท (มกราคม 2018)
- ขนาดตัวเครื่อง 152.6 x 73 x 8.8 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 160 กรัม
- หน้าจอ 5.7 นิ้ว (5.65 นิ้ว) สัดส่วนหน้าจอ 18:9 ความคมชัด HD+ ความละเอียด 720 x 1440 พิกเซล
- รันระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat กับ Zen UI 4.0
- ชิปเซ็ต MediaTek MT6750T Octa-core 1.5GHz
- แรม 4GB
- ความจำภายในตัวเครื่อง 32GB
- กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และ 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 129 องศา
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0
- แบตเตอรี่ 4,130 mAh
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง
แกะกล่อง ASUS Zenfone Max Plus (M1)
ASUS Zenfone Max Plus (M1) มาในกล่องกระดาษสีฟ้า ด้านหน้ามีชื่อรุ่นพร้อมรูปภาพตัวเครื่องที่เห็นหน้าจอเต็มพื้นที่ด้านหน้า มาพร้อมเลนส์กล้องหลังคู่ โดยภายในกล่องจะมีตัวเครื่องสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่ฝังอยู่ภายใน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีให้ในกล่อง ได้แก่
- หูฟัง ASUS earphone with Mic
- สายเคเบิล Micro-USB
- อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ
- OTG micro-USB Host
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- คู่มือใช้งานและใบรับประกัน
- เคสพลาสติกใส่
- ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
ASUS Zenfone Max Plus (M1) เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกจาก ASUS ที่มีหน้าจอแสดงผลแบบ Full Screen ใช้พื้นที่ด้านหน้าให้สามารถแสดงผลได้อย่างเต็มที่ในอัตราส่วน 18:9 ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว และครอบด้วยกระจกกันรอยขอบโค้งมน 2.5D
หน้าจอของ Zenfone Max Plus (M1) มีขนาด 5.7 นิ้ว ซึ่งขนาดจริงมีความกว้างประมาณ 5.65 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 720 x 1440 พิกเซล เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป และช่วยลดการใช้พลังงานได้ ในระดับราคาที่ไม่แพง แต่ถ้าได้ Full HD+ จะดีมากสำหรับรุ่นนี้
เหนือหน้าจอของ Zenfone Max Plus (M1) มีเลนส์กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และเนื่องจากหน้าจอใหญ่เกือบชิดขอบด้านล่าง จึงไม่มีปุ่มโฮมแบบกดอีกต่อไปแล้ว และได้ย้ายปุ่มเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปไว้ด้านหลังตัวเครื่อง
พอร์ตเชื่อมต่อตัวเครื่องของ Zenfone Max Plus (M1) ยังคงใช้พอร์ตแบบ Micro-USB และมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5mm
Zenfone Max Plus (M1) ใส่ซิมการ์ดได้พร้อมกัน 2 ซิม และอีก 1 ช่องสำหรับใส่ microSD Card ที่รองรับความจุสูงสุด 256GB ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อดีของถาดซิมแบบ 3 ช่องที่ไม่ต้องเลือกว่าจะใส่ซิม 2 หรือ microSD card
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องของ Zenfone Max Plus (M1) ไม่ต่างไปจากเดิมเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในกลุ่ม Zenfone Max Series โดยมีตัวเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียม ซึ่งวัสดุชนิดนี้จะให้ความรู้สึกถึงความพรีเมียมไม่แพ้สมาร์ทโฟนตัวท็อป และมีขอบตัวเครื่องที่โค้งมนที่ช่วยให้จับกระชับมือ
ด้านหลังตัวเครื่องมีลักษณะผิวเรียบ และมีเลนส์กล้องคู่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กับ 8 ล้านพิกเซล กรอบเลนส์นูนขึ้นมาเหนือฝาหลังเล็กน้อย ส่วนแบตเตอรี่อยู่ภายในตัวเครื่องขนาด 4,130 mAh
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นใช้งาน
Zenfone Max Plus (M1) รันระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat และ Zen UI 4.0 โฉมใหม่ มีการปรับปรุงอินเตอร์ใหม่ เมื่อเปิดใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งแอพพลิเคชั่นใดบ้าง ไม่ได้บังคับติดตั้งเหมือนเมื่อก่อน จึงทำให้เหลือพื้นที่จัดเก็บตัวเครื่องเพิ่มขึ้น และไม่มีแอพขยะให้รกหน้าจอด้วย
ด้วยขนาดหน้าจอ 18:9 ที่มีความยาวกว่าเดิม จึงทำให้รุ่นนี้สามารถแสดงผลและให้มุมมองให้กว้างกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเว็บเบราเซอร์ก็จะแสดงผลคอนเทนท์ได้มากขึ้น อ่านข้อความบนหน้าเว็บไซต์ได้มากขึ้น ไม่ต้องเลื่อนหน้าจอบ่อยๆ และมีฟีเจอร์บันทึกหน้าเว็บไซต์หรือเว็บเพจต่างๆ ด้วย Page Marker ซึ่งจะช่วยให้การบันทึกหน้าเว็บถูกรวบรวมไว้ในที่เดียวและการเข้าไปอ่านภายหลังทำได้รวดเร็วและง่ายมากกว่าเดิม
คอนเทนท์ประเภทวิดีโอในปัจจุบันเริ่มปรับตัวให้สามารถแสดงผลได้อย่างเหมาะสมกับสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอแสดงผลสัดส่วน 18:9 แล้ว อย่างเช่นแอพพลิเคชั่น YouTube ก็ได้ออกอัปเดทให้วิดีโอแสดงผลได้แบบเต็มจอ ไม่มีขอบดำอีกต่อไปแล้ว ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงกับสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ขึ้นแต่ตัวเครื่องขนาดเท่าเดิม
อีกหนึ่งความสามารถของ Zenfone Max Plus (M1) คือการแบ่งหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นได้พร้อมกัน 2 หน้าจอ
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Sensor Box for Android และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
- Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงานของ Zenfone Max Plus (M1) ซึ่งรันระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ใช้ชิปเซ็ต MediaTek MT6750T และแรม 4GB ผลการทดสอบ AnTuTu 6.2.7 ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 38,932 คะแนน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Zenfone Max Plus (M1) ทำคะแนน Single-Core ได้ 598 และ Multi-Core ทำได้ 2,372 คะแนน
Zenfone Max Plus (M1) เป็นสมาร์ทโฟนสเปคระดับกลาง สามารถเล่นเกมทั่วไปได้ลื่นไหลดี แต่สำหรับเกมที่มีกราฟิกหนักๆ อย่างเช่น Lineage2 Revolution ที่เป็นการพัฒนาด้วย Unreal Engine 4 ซึ่งมีภาพและกราฟิกที่สวยงามมาก โดยทำการทดสอบด้วยการเลือกตั้งค่าตัวเกมให้มีกราฟิกสูงสุด ความละเอียดภาพสูงสุด และแสดงเอฟเฟ็กต์ทุกอย่างภายในเกม พบอาการกระตุกอยู่บ้างระหว่างการเล่น แต่ตั้งค่ากราฟิกลดลงในระดับต่ำก็สามารถเล่นได้ปกติ
แบตเตอรี่ของ Zenfone Max Plus (M1) มีขนาด 4,130 mAh จากการใช้งานทั่วไปอยู่ได้ประมาณ 1 วันกว่า สำหรับการใช้งานทั่วไป ทั้งต่อเน็ต เข้าเว็บเบราว์เซอร์ เปิด GPS บ้าง โดยมีการเปิดหน้าจอแทบจะตลอดทั้งวัน และมีโหมดประหยัดพลังงาน Super Saving ให้เลือกใช้งานได้หลากหลายรูปตามการใช้งานของเรา และมีฟีเจอร์ใหม่สำหรับยืดอายุแบตเตอรีให้เป็นสองเท่าที่เรียกว่า 2X Lifespan ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็ม 100% และใช้งานจนหมดที่ 0% ได้ รวมไปถึงยังใช้เป็น Power bank ชาร์จให้กับเครื่องอื่นได้ด้วยผ่านสาย OTG micro-USB Host ที่มีมาพร้อมกับตัวเครื่อง
กล้องถ่ายรูป
Zenfone Max Plus (M1) มีกล้องหลังเลนส์คู่สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง โดยเลนส์หลักมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 และมีเลนส์อีกตัว 8 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์มุมกว้างพิเศษ 120 องศา เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวที่ต้องการความกว้างหรือการถ่ายภาพบุคคลเป็นกลุ่มหลายคนๆ ก็เก็บได้ครบไม่ต้องถอยห่างไกล
ในหน้าจอแอพกล้องจะมีไอคอนเมนูให้เลือกว่าจะถ่ายด้วยเลนส์หลักความกว้างปกติที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซลหรือว่าจะใช้เลนส์ตัวที่ 2 ที่ให้มุมกว้างกว่า ความละเอียดสูงสุด 8 ล้านพิกเซลในอัตราส่วนภาพ 4:3 ซึ่งภาพก็จะมีความโค้งเว้าเล็กน้อยตามแบบของเลนส์มุมกว้าง
ตัวอย่างภาพถ่าย
กล้องหน้าของ Zenfone Max Plus (M1) มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล สามารถปรับแต่งหน้าสวยได้ด้วย Selfie Master โดยทำได้ทั้งการถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายวิดีโอ และมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า BeautyLive ถ่ายทดสอบบน Facebook, YouTube, Instagram ด้วยการปรับแต่งใบหน้าให้ขาวใสได้ 10 ระดับ
สรุปจุดเด่น
- เป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยงาม วัสดุพรีเมียม ราคาไม่แพง
- แบตอึด ใช้งานได้ข้ามวัน และชาร์จเร็ว
- กล้องหลังเลนส์คู่ เลือกถ่ายภาพมุมปกติและมุมกว้างได้
- ถาดใส่ซิมแบบ 3 ช่อง ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ดและใส่ microSD card ได้พร้อมกัน
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- หน้าจอ HD มีผลต่อการเล่นเกมที่มีกราฟิกหนักๆ