Smart Review
รีวิว ASUS ZenFone Max Pro (M2) สมาร์ทโฟน Stock Android แบตอึด 5000mAh
ASUS ZenFone Max Pro (M2) สมาร์ทโฟนที่มาสานต่อความสำเร็จต่อจากรุ่นก่อนหน้านี้ โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ปกป้องหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass 6 และฉลาดมากขึ้นด้วยชิพ Qualcomm SDM660 Snapdragon 660 AIE ในราคาที่ทุกคนจับต้องได้
หากพูดถึง ASUS ZenFone Max Pro (M2) ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนใน ZenFone Max Series หลายคนต้องนึกถึงแบตเตอรี่ที่อึด ใช้งานได้นานข้ามวัน ตอบโจทย์การใช้งานหนักๆ เช่น การเล่นเกมต่อเนื่องหลายชั่วโมง เป็นต้น ซึ่งในครั้งนี้นอกจากแบตอึดแล้ว ทาง ASUS ได้อัพเกรดประสิทธิภาพตัวเครื่องหลายด้านเลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 19:9 และฉลาดทุกด้านด้วย AI ที่ทำงานบนชิพ Qualcomm SDM660 Snapdragon 660 จะถูกใจแฟนๆ ที่รอคอย Series นี้หรือไม่ มาดูรีวิวนี้กันเลย
สรุปข้อมูลและสเปค ASUS ZenFone Max Pro (M2)
- ราคาเปิดตัว 8,990 บาท (ธันวาคม 2018)
- ขนาดตัวเครื่อง 157.9 x 75.5 x 8.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 175 กรัม
- หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว IPS อัตราส่วนหน้าจอ 19:9 ความละเอียด FullHD+ (2280 x 1080 พิกเซล) ครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 6
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo
- ชิพเซ็ต Qualcomm SDM660 Snapdragon 660 AIE Octa-core
- กราฟิก Adreno 512
- แรม 6GB
- ความจุตัวเครื่อง 64GB ใส่เมมเพิ่มได้สูงสุด 2TB
- กล้องหลังเลนส์คู่ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 Sony IMX486 และเลนส์เสริม 5 ล้านพิกเซล Depth sensing
- กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และแฟลช LED Softlight
- พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB, Wi-Fi, Bluetooth 5.0
- แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 10W
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
ASUS ZenFone Max Pro (M2) มาในกล่องสีดำเรียบๆ ที่ฝากล่องมีชื่อรุ่น และด้านหลังกล่องมีรายละเอียดสเปคที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้
อุปกรณ์ในกล่องที่มีให้ ได้แก่
- ตัวเครื่องสมาร์ทโฟนและแบตเตอรี่ในตัว
- คู่มือใช้งาน
- อะแดปเตอร์
- สายเคเบิล microUSB
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- หูฟัง
ASUS ZenFone Max Pro (M2) ได้รับการดีไซน์ให้มีความสวยงาม ทันสมัยมากขึ้น โดยฝาหลังมีความโค้งแบบ 3D ทำให้เวลาจับใช้งานกระชับมือพอดี และยังมีลวดลายคลื่นด้วยเมื่อมองจากมุมที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นการดีไซน์ที่คำนึงถึงแสงและเงาได้อย่างลงตัว ทำให้รุ่นนี้มีความสวยงาม และดูหรูหรามากขึ้น
นอกจากฝาหลังที่สวยงามแล้ว กรอบตัวเครื่องของรุ่นนี้ก็มีความมันเงาเช่นเดียวกัน ทำให้ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ก็เห็นแสงเงาที่สะท้อนสวยงาม โดยตัวเครื่องมีความหนาเพียง 8.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ถ้าเทียบกับแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ถือว่าค่อนข้างบางมาก และหนักเพียง 175 กรัม
หน้าจอแสดงผลขนาด 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ทำให้เห็นมุมมองของภาพที่กว้างมากขึ้น ซึ่งเป็นดีไซน์การขยายพื้นที่หน้าจอแสดงผลให้ชิดขอบทุกด้าน ทำให้ได้หน้าจอที่ใหญ่แต่ตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่จนเกินไป และเป็นแผงหน้าจอแบบ IPS ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล
หน้าจอที่สวยของ ZenFone Max Pro (M2) ยังมาพร้อมกับความแข็งแรงที่สุดด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 6 รุ่นล่าสุด ขอบโค้งมน 2.5D ให้สัมผัสที่สบายมือ ขอบไม่คม และรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของ ZenFone Max ด้วยที่มีการนำกระจกตัวนี้มาใช้งาน ซึ่งดีกว่ารุ่น Gorilla Glass 5 ถึงสองเท่า
สำหรับรอยบากบริเวณขอบด้านบนหน้าจอจะเป็นบริเวณสำหรับติดตั้งกล้องหน้าและแฟลช LED Softlight ในขณะที่ช่องลำโพงถูกซ่อนไว้ที่ขอบตัวเครื่อง และมีไฟ LED แจ้งเตือนสถานะด้วย
ขอบด้านล่างตัวเครื่องมีช่องสำหรับหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5mm, ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB และลำโพง
ขอบด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม Power
ขอบด้านซ้ายมีช่องถาดใส่ซิมแบบ 3 Slot สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิมและมีช่องเสียบการ์ด microSD ได้สูงสุด 2TB
เลนส์กล้องหลังคู่ถูกจัดวางในแนวตั้ง และมีแฟลช LED โดยเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือจะอยู่บริเวณกลางเครื่องด้านหลัง
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
ASUS ZenFone Max Pro (M2) เป็นรุ่นที่เรียกได้ว่าแทบมองไม่ออกว่าเป็นสมาร์ทโฟนของ ASUS เพราะว่ารุ่นนี้รันระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo แบบเดิมๆ ไม่มีการปรับแต่งใดๆ หรือที่เรียกว่า Stock Android ซึ่งหน้าตาที่มาจาก Google แบบไหนก็เป็นแบบนั้นเลย ข้อดีของการไม่ถูกปรับแต่งคือทำให้การใช้งานนั้นมีความง่าย ไม่ถูกปรับแต่งจนดูซับซ้อน และทำงานได้รวดเร็ว ลื่นไหลมากๆ
เมื่อเปิดเครื่องใช้งานมาจะพบว่าหน้าจอโฮมดูสะอาดตามากๆ ไม่มีแอพที่ไม่จำเป็นหรือแอพขยะติดตั้งมาให้รกตัวเครื่องอีกต่อไปแล้ว มีเพียงแอพพลิเคชั่นระบบที่จำเป็นจาก Google รวมไปถึงแอพกล่องถ่ายรูปก็เป็น Google Camera ด้วย
ตัวเครื่องรองรับการสั่งงานด้วยเสียงด้วยคำพูด OK Google เพื่อเรียกใช้งาน Google Assistant ที่รวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าจะสั่งให้ค้นหาข้อมูลที่ต้องการ เปิดเครื่องเล่นเพลง ส่งข้อความ เปิดแอพต่างๆ นำทาง หรือแม้แต่ใช้เป็นเพื่อนคุยเล่นเวลาก็เหงาก็ได้เช่นกัน เป็นต้น
ด้านการเชื่อมต่อรองรับเครือข่าย 4G LTE พร้อมกันทั้ง 2 ซิม และรองรับการเปิดใช้งาน VoLTE ซึ่งเป็นการโทรด้วยความเร็วสูงผ่านสัญญาณ 4G ที่ให้คุณภาพเสียงสนทนามีความคมชัดมากขึ้น สามารถใช้เน็ตไปพร้อมๆ กันได้ด้วย และนอกจากนี้ก็รองรับ Bluetooth 5.0, Wi-Fi 802.11 b/g/n, WiFi Direct และการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi เป็นจุด Hotspot ให้กับเครื่องอื่น
หน้าจอแสดงผลที่มีอัตราส่วน 19:9 จะได้ประสบการณ์การดูหนังหรือเล่นเกมที่ให้มุมมองที่กว้างมากขึ้น เห็นภาพเต็มตามากกว่าเดิม และระบบเสียงของ ZenFone Max Pro (M2) เป็นลำโพงแม่เหล็ก 5 ตัว ที่มีตัวขยายเสียง NXP ทำให้เสียงที่ออกมาจากตัวลำโพงเครื่องมีความดังกระหึ่ม ดูหนัง และเล่นเกมได้สนุกมากขึ้นด้วย
ZenFone Max Pro (M2) มีฟีเจอร์ ZenMotion สำหรับใช้ท่าทางในการสั่งงานได้ ได้แก่ เคาะหน้าจอสองครั้งเพื่อปิดหรือเปิดหน้าจอ
ด้านความปลอดภัยซอฟต์แวร์ที่มีใน Stock Android 8.1 Oreo สำหรับ ZenFone Max Pro (M2) ได้แก่ ระบบ Google Play Protect ที่คอยตรวจสอบแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งในตัวเครื่องแบบบอัตโนมัติว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ และเปิดใช้งานการค้นหาอุปกรณ์ได้ด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆ หากกรณีเครื่องหายหรือลืมเอาไว้ ก็สามารถค้นหาตำแหน่งได้
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยจาก ASUS ที่ใส่มาให้ ZenFone Max Pro (M2) มีทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ และการจดจำใบหน้า ที่สามารถปลดล็อคหน้าจอเพื่อเข้าใช้งานได้ง่าย รวดเร็วมากขึ้น เพียงเปิดหน้าจอแล้วยกมือถือขึ้นมาที่ใบหน้า ซึ่งถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ดีมากหากนิ้วมือไม่สามารถปลดล็อคได้ในบางสถานการณ์ เช่น นิ้วมือเปียกหรือเลอะ และต้องสวมถุงมือ เป็นต้น
ประสิทธิภาพตัวเครื่องและแบตเตอรี่
ASUS ZenFone Max Pro (M2) รันระบบปฏิบัติการ Stock Android ที่ไม่มีการปรับแต่งจาก Google ทำให้ตัวเครื่องดูเรียบง่ายสะอาดตา และใช้ชิพ Qualcomm SDM660 Snapdragon 660 กับแรม 6GB ความจุตัวเครื่อง 64GB ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบในส่วนของ Single-Core ทำได้ 1,463 และ Multi-Core ทำได้ 5,373 คะแนน
ทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile สุดยอดเกมแอ็คชั่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาด้วย Unreal Engine 4 เป็นเกมที่มีภาพและกราฟิกที่สวยงามมาก ตัวเครื่องรองรับกราฟิกระดับ HD และเฟรมเรตระดับสูง
เกมนี้ต้องใช้การควบคุมทิศทาง และความแม่นยำในการระบุเป้ายิง ZenFone Max Pro (M2) สามารถเล่นได้อย่างไม่สะดุด ไม่เจออาการกระตุกแม้จะเป็นตอนขับรถหรือนั่งเรือก็ตาม เรียกได้ว่าเล่นได้ลื่นๆ เล็งเป้าได้นิ่งๆ
เกม ROV หรือ Realm of Valor เกม MOBA บนมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ สำหรับการเล่นบน ZenFone Max Pro (M2) รองรับโหมดเฟรมเรตสูง ภาพระดับ HD
ตลอดการเล่นเกมพบว่าภาพค่อนข้าง smooth และลื่นไหลดี รวมถึงตอนเข้าร่วมทีมไฟต์ก็ไม่สะดุด ภาพรวมตลอดการเล่นถือว่าทำได้ลื่นไหลดีมาก
แบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีความจุมากถึง 5000mAh จากการทดสอบใช้งานทั่วไป เปิดกล้องถ่ายรูป, เล่นเกมเกือบๆ 2 ชั่วโมง, เปิดนำทางด้วย GPS และเข้าเล่นโซเชียลทั่วไป พบว่าแบตเตอรี่อยู่ได้นานข้ามวัน โดยไม่ต้องใช้ Power Bank ระหว่างวัน
สำหรับการชาร์จไฟแบตขนาด 5000mAh ด้วยกำลังไฟสูงสุด 10W จากอะแดปเตอร์ที่มีให้กล่อง ก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว จากการทดสอบชาร์จไฟตั้งแต่ 35% – 51% ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น
กล้องถ่ายรูป
กล้องคู่หลังของ ASUS ZenFone Max Pro (M2) มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 Sony IMX486 และเลนส์เสริม 5 ล้านพิกเซล Depth sensing ซึ่งถือว่าให้ฮาร์ดแวร์กล้องมาในระดับที่ดีมาก และยังมีระบบ AI Scene Detection สำหรับตรวจจับฉากที่กำลังถ่ายได้แบบเรียลไทม์ แล้วทำการปรับค่ากล้องให้เหมาะกับการถ่ายภาพนั้นๆ อัตโนมัติ เพื่อให้ภาพถ่ายออกมาสวยงามมาที่สุด เช่น เมื่อหันกล้องไปที่ต้นไม้ ก็จะขึ้นไอคอนใบไม้ที่หน้าจอ ระบบก็จะทำการปรับค่าและตั้งค่าเฉดสีให้เหมาะกับการถ่ายต้นไม้ หรือการถ่ายท้องฟ้าขณะดวงอาทิตย์กำลังตกดินก็จะได้สีทองของท้องฟ้าที่สวยงามมากขึ้นด้วย เป็นต้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
นอกจาก AI ที่ฉลาดแล้ว รูรับแสงที่กว้าง f/1.8 ยังทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยมีความสว่าง และลดการเกิดนอยซ์ได้ด้วย รวมไปถึงระบบกันสั่นภาพไหว EIS ที่ใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยให้กล้องไม่สั่น และระบบโฟกัส PDAF ที่ทำงานได้รวดเร็ว ก็จะช่วยให้ภาพมีความคมชัด ไม่เบลอ
โหมดการถ่ายภาพบุคคล (Portrait Mode) เป็นการใช้ความสามารถของกล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล ทำงานคู่กับกล้อง Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เพื่อเก็บระยะความลึกของภาพ แล้วนำมาทำเอฟเฟ็กต์ละลายฉากหลัง ซึ่งการตัดขอบและการเบลอทำได้เนียนมากๆ โดยสามารถปรับความเบลอระหว่างการถ่ายได้
การละลายฉากหลังของกล้อง ZenFone Max Pro (M2) ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ทำให้ภาพถ่ายบุคคลมีความโดดเด่นสวยงามมากขึ้น
สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 มาพร้อมแฟลช LED Softlight เพื่อการเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือในที่มืด โดยมีโหมด Beauty เพื่อปรับความเนียนของผิวหน้าได้ตามต้องการ และสามารถเปิดโหมดถ่ายภาพบุคคลได้ด้วย เพื่อการถ่ายภาพเซลฟี่ให้มีความโดดเด่นมากขึ้นด้วยการละลายฉากหลัง
สรุปจุดเด่น
- ZenFone Max Pro (M2) เป็นสมาร์ทโฟนราคาไม่แพงที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มที่ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ใช้งานได้ยาวนานข้ามวัน
- หน้าจอใหญ่เต็มตา กระจกหน้าจอแข็งแรงด้วย Corning Gorilla Glass 6 และดีไซน์ตัวเครื่องมีความสวยงามระดับพรีเมียม
- ระบบปฏิบัติการ Stock Android หน้าตาเรียบง่าย สบายตา และลื่นมากๆ
- ชิพประมวลผล Qualcomm SDM660 Snapdragon 660 มี AI ทำให้ตัวเครื่องมีความฉลาดในการจัดการระบบ และกล้องถ่ายรูปมีความสามารถมากกว่าเดิม
- กล้องหลังเลนส์คู่ถ่ายภาพออกมาได้ดี ระบบโฟกัสเร็ว มีโหมด Beauty และ Portrait ใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง