Smart Review
รีวิว ASUS Zenfone Zoom S กล้องหลังเลนส์คู่ ซูมได้ และแบตอึด 5,000mAh
ASUS Zenfone Zoom S สมาร์ทโฟนที่มาสานต่อกล้องถ่ายรูปบนมือถือที่สามารถซูมแบบออพติคอลได้ด้วยเลนส์แบบคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เป็นการทำงานร่วมกันของเลนส์มุมกว้างกับเทเลโฟโต้ ถ่ายได้สว่างขึ้นด้วยเทคโนโลยี SuperPixel และแบตเตอรี่สุดอึดความจุมากถึง 5,000 mAh
สรุปข้อมูลและสเปค ASUS Zenfone Zoom S (ZE553KL)
- ราคาเปิดตัว 16,990 บาท (มิถุนายน 2017)
- ขนาดตัวเครื่อง 154.3 x 77 x 7.99 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 170 กรัม
- ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด 2G/3G/4G LTE
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว AMOLED Full HD ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล
- รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow กับ ZenUI 3.0
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 625
- ซีพียู Octa-core 2.0 GHz Cortex-A53
- จีพียู Adreno 506
- แรม 4GB
- ความจุ 64GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 2TB (ใส่ช่องซิม 2)
- กล้องหลังเลนส์คู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.7 + 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.8 ซูมออพติคอล 2.3 เท่า ระบบเลเซอร์โฟกัส ออโต้โฟกัสแบบ PDAF กันภาพสั่นไหว OIS และแฟลช Dual LED
- กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0
- รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2 LE
- รองรับ GPS, A-GPS
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง
ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
ASUS Zenfone Zoom S มีดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกที่เรียบหรู ด้วยวัสดุหลักตัวเครื่องเป็นโลหะอะลูมิเนียม ขอบรอบตัวเครื่องมีความโค้งเว้า ทำให้การหยิบจับใช้งานกระชับมือ และกระจกหน้าจอก็เป็นแบบ 2.5D ขอบโค้งมน โดยตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร ถือว่าค่อนข้างบางหากเทียบกับขนาดของแบตเตอรี่ที่ให้มามากถึง 5,000 mAh
ASUS Zenfone Zoom S ตัวเครื่องสีดำมีการดีไซน์เส้นเสาอากาศให้กลมกลืนกับสีตัวเครื่อง ทำให้ผิวด้านหลังดูราบเรียบเป็นชิ้นเดียวกัน โดยกรอบของเลนส์กล้องหลังจะมีลักษณะนูนขึ้นมาเหนือฝาหลังเล็กน้อย เป็นเลนส์คู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ตัวหนึ่งเป็นเลนส์มุมกว้าง และอีกตัวเป็นเลนส์สำหรับซูมหรือเทเลโฟโต้
จุดของ ASUS Zenfone Zoom S ที่เสริมความสามารถให้กับเลนส์กล้องหลังคู่ คือระบบโฟกัส Dual Pixel และระบบเลเซอร์ออโต้โฟกัสรุ่นที่ 2 ที่อยู่บริเวณถัดลงมาจากเลนส์กล้อง ทำให้การโฟกัสทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และมีไฟแฟลชแบบ Dual LED
ตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือของของรุ่นนี้จะอยู่ที่บริเวณด้านหลัง ขนาดตัวเซ็นเซอร์ค่อนข้างใหญ่ ช่วยให้การแตะสแกนนิ้วมือทำได้ง่ายและแม่นยำขึ้น แต่ก็มีจุดสังเกตเพิ่มเติมสำหรับสมาร์ทโฟนที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหลังหากวางเครื่องกับพื้นจะต้องหยิบเครื่องขึ้นมาเพื่อสแกน ต่างไปจากรุ่นที่มีเซ็นเซอร์อยู่ด้านหน้าจะสามารถแตะสแกนนิ้วได้เลย
หน้าจอของ ASUS Zenfone Zoom S มีขนาด 5.5 นิ้ว Full HD และเป็นหน้าจอแบบ AMOLED ซึ่งมีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูงทำให้การแสดงผลมีสันสันสดใส และครอบหน้าจอด้วยกระจกกันรอยรุ่นใหม่ล่าสุด Gorilla Glass 5 ซึ่งการดีไซน์บริเวณด้านหน้าค่อนข้างเหลือพื้นที่ว่างบริเวณส่วนบนกับส่วนล่างหน้าจอเยอะพอสมควร
เหนือหน้าจอของ ASUS Zenfone Zoom S มีเลนส์กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และช่องลำโพงสำหรับการโทร
ล่างหน้าจอมีปุ่มนำทางแบบสัมผัส 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ (ซ้าย), ปุ่มโฮม (กลาง) และปุ่ม Recent Apps (ขวา) ทั้ง 3 ปุ่มไม่มีไฟส่องสว่าง (Backlight) อาจมองไม่เห็นเมื่อใช้งานในที่มืด
ขอบด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ขอบด้านล่างมีช่องหูฟังขนาด 3.5mm, ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และลำโพง
ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power
ขอบด้านซ้ายมีช่องถาดใส่ซิม รองรับขนาด Nano SIM จำนวน 2 ช่อง หรือจะเลือกใส่ microSD card แทนในช่องซิม 2 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้กับตัวเครื่องก็ได้เช่นกัน
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
ASUS Zenfone Zoom S รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow พร้อมกับ ZenUI 3.0 หน้าตาอินเตอร์เฟซโดยรวมไม่แตกต่างไปจาก Zenfone รุ่นอื่นๆ แต่ก็มีการปรับปรุงในส่วนของการอัปเดทแอปพลิเคชั่นระบบที่มีการถอดออกไปสำหรับแอปที่ไม่จำเป็น ทำให้ไม่รกตัวเครื่องเมื่อเปิดใช้งานครั้งแรก และหน้าล็อคสกรีนก็มีลูกเล่นการเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์แบบอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการกดเปิดหน้าจอ
ฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับ ZenUI 3.0 อย่างแรกเลยคือ Easy Mode โหมดการทำงานที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานที่มีอินเตอร์เฟซให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้งานสมาร์ทโฟน
Kid Mode ตัวช่วยผู้ปกครองในการกำหนดสิทธิ์ในการใช้งานสมาร์ทโฟนให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก ๆ ทำให้หมดกังวลหากให้เด็ก ๆ หยิบสมาร์ทโฟนไปเล่น เพราะบางครั้งเด็ก ๆ อาจเผลอไปลบข้อมูลสำคัญ หรือเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น
Theme ระบบปรับแต่งหน้าจอการใช้งานไม่ให้จำเจกับรูปแบบหน้าจอแบบเดิม ๆ สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานกันได้ฟรี ๆ
Zen Motion ฟีเจอร์สำหรับสั่งงานตัวเครื่องด้วยการสัมผัสหรือท่าทางการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอขึ้นมา, รับสายได้ทันทีด้วยการยกสมาร์ทโฟนมาแนบหู และย่อขนาดหน้าจอแสดงผลให้เล็กลงเพื่อใช้งานได้ในมือเดียว เป็นต้น
Audio Wizard ฟีเจอร์สำหรับคนชอบความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับโทนเสียงให้เหมาะกับโหมดใช้งานแต่ละประเภทได้ ได้แก่ เลือกโทนเสียงสำหรับการดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง ใช้งานนอกอาคาร เสียงพูด หรือถ้าต้องการให้ระบบปรับโทนเสียงให้อัตโนมัติก็เลือกเปิดใช้งานในโหมดสมาร์ทได้ โดยความสามารถด้านเสียงของ Zenfone Zoom S มาจากเทคโนโลยี SonicMaster และการรับรองระบบเสียง High-Res ด้วยโครงสร้างลำโพง 5 แม่เหล็ก มีช่องเสียงกว้างที่เพิ่มพลังเสียงด้วย NXP Smart AMP ให้เสียงดังกระหึ่มและมีมิติของเสียง
นอกจากจะเลือกปรับเสียงตามโหมดใช้งานได้แล้ว ยังรองรับ DTS Headphone X 7.1 ระบบเสียงรอบทิศทางผ่านการฟังด้วยหูฟัง ซึ่ง Zenfone Zoom S รองรับเทคโนโลยีนี้ในตัว
ในเรื่องของความปลอดภัย ASUS Zenfone Zoom S ก็มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง รองรับการจดจำได้ 5 ลายนิ้วมือ สำหรับใช้ปลดล็อคหน้าจอ หรือจะใช้ลายนิ้วมือในการแตะเพื่อรับสาย ก็ได้เช่นกัน ซึ่งตัวเซ็นเซอร์สามารถแตะสแกนได้แบบ 360 องศา ไม่ว่าจะแตะสแกนจากมุมใดก็สามารถอ่านลายนิ้วมือได้หากตรงกับที่ระบบบันทึกเอาไว้
แบตเตอรี่ของ Zenfone Zoom S มีขนาด 5,000 mAh ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นหรือจุดขายของรุ่นนี้เลย นอกเหนือจากกล้องหลังคู่ จากการใช้งานทั่วไปอยู่ได้นานข้ามวันสำหรับการใช้งานโซเชียล เปิดหน้าจอต่อเน็ตตลอดทั้งวัน เข้าเว็บเบราว์เซอร์ เปิด GPS บ้าง เรียกได้ว่าแบตอึดจริง ๆ และมีโหมดประหยัดพลังงาน Super Saving เมื่อแบตเตอรี่เหลือ 10% ด้วย ซึ่งก็เป็นหนึ่งฟีเจอร์ที่มีความจำเป็นไม่น้อยสำหรับไว้ใช้งานในยามฉุกเฉิน
การจัดการพลังงานของรุ่นนี้ที่ทำได้ดีส่วนหนึ่งก็มาจากชิปเซ็ต Snapdragon 625 octa-core ที่มีนวัตกรรม 14nm Fin Field Effect (FinFETs) ลดการใช้พลังงานได้ดีแม้จะเรียกใช้งานตัวซีพียูแบบเต็มประสิทธิภาพก็ตาม
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ของ Zenfone Zoom S รองรับระบบชาร์จเร็ว ทำให้ชาร์จไฟเข้าตัวเครื่องนั้นทำได้รวดเร็วกว่าการชาร์จปกติด้วยอะแดปเตอร์ที่แถมมากล่องขนาด 10 วัตต์ แรงดัน 5V และจ่ายกระแสได้สูงสุด 2A ถ้าชาร์จไฟจาก 0% ไปจนเต็ม 100% ก็ใช้เวลาประมาณ 3 ขั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วพอสมควรสำหรับแบตเตอรี่ 5,000 mAh
ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ ASUS Zenfone Zoom S
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Sensor Box for Android และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
- Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน
ASUS Zenfone Zoom S รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 625 ซีพียู Octa-core 2.0 GHz Cortex-A53 กับจีพียู Adreno 506 และแรม 4GB โดยผลการทดสอบ AnTuTu v6.2.7 ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบภาพรวมของการทำงานในส่วนของหน่วยความจำแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 62,913 คะแนน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Zenfone Zoom S ทำคะแนน Single-Core ได้ 864 และ Multi-Core ทำได้ 4,254 คะแนน
ทดสอบเล่นเกม Lineage2 Revolution สุดยอดเกม RPG บนมือถือที่น่าจะกำลังมีกระแสแรงมากที่สุดอีกเกมหนึ่งไม่น้อยไปกว่า ROV ตัวเกมสามารถเล่นกันแบบเรียลไทม์และถูกพัฒนาด้วย Unreal Engine 4 ซึ่งมีภาพและกราฟิกที่สวยงามมาก โดยทำการทดสอบด้วยการเลือกตั้งค่าตัวเกมให้มีกราฟิกสูงสุด ความละเอียดภาพสูงสุด และแสดงเอฟเฟ็กต์ทุกอย่างภายในเกม พบว่าสามารถเล่นบน ASUS Zenfone Zoom S ได้อย่างลื่นไหล
กล้องถ่ายรูป
ASUS Zenfone Zoom S เป็นรุ่นที่สานต่อความสำเร็จมาจากรุ่น ASUS Zenfone Zoom ด้วยเลนส์กล้องหลังแบบคู่ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากันทั้ง 2 ตัว โดยตัวหนึ่งจะเป็นเลนส์ 25mm มุมกว้าง 81.5 องศา ขนาดเซ็นเซอร์ 1.255 นิ้ว ค่ารูรับแสง f/1.7 โดยจะมีระบบกันภาพสั่นไหว OIS ที่ตัวเลนส์นี้ เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony รุ่น IMX362 (ตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่น HTC U11, Xiaomi Mi 6 Plus และ Moto G5 Plus) โดยเลนส์อีกตัวเป็นเลนส์สำหรับซูมหรือเทเลโฟโต้ความยาวโฟกัส 59mm ซูมแบบออพติคอล 2.3 เท่า ค่ารูรับแสง f/2.6 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.42 นิ้ว
สำหรับการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังหากซูมในระยะ 2.3 เท่า จะยังคงเป็นการซูมแบบออพติคอลหรือซูมด้วยตัวเลนส์ แต่สามารถซูมต่อเนื่องได้สูงสุด 12 เท่าด้วยดิจิตอลซูม ซึ่งภาพที่ออกมาถือว่าทำได้ดีมากสำหรับการถ่ายด้วยกล้องบนสมาร์ทโฟน
ตัวกล้องกล้องหลังยังมีระบบโฟกัสแบบ Dual Pixel เป็นเป็นเทคโนโลยีที่แยกจุดพิกเซลในเซ็นเซอร์รับภาพออกเป็น 2 โฟโต้ไดโอดหรือแยกแสงซ้าย-ขวาในทุกจุดพิกเซลทั้งหมด 100% หรือจะพูดง่ายว่าทุกพิกเซลมีโฟกัสซ้ายขวา ทำให้โฟกัสได้เร็และแม่นยำที่สุด ซึ่งดีกว่าระบบโฟกัส Phase Detection แบบเดิม โดยหากเป็นการถ่ายวัตถุในระยะใกล้ นอกจาก Dual Pixel ที่ทำให้การจับโฟกัสเร็วขึ้นแล้ว ยังมีระบบเลเซอร์ออโต้โฟกัสในการช่วยโฟกัสวัตถุให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก ภาพที่ถ่ายออกมาก็ได้รายละเอียดครบ คมชัด
โหมดโบเก้ (Bokeh) สามารถปรับค่ารูรับแสงได้กว้างสุด f/0.95 และแคบสุด f/22 ซึ่งเป็นการใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วย โดยในการถ่ายจริงเพื่อให้ภาพละลายฉากหลังได้เนียนควรตั้งค่าอยู่ระหว่าง f/1.4 – f/2.0 และตัววัตถุที่ต้องการโฟกัสก็ต้องมีความโดดเด่นหรืออยู่ห่างจากฉากหลังด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดโบเก้
จากการทดสอบใช้งานในโหมดโบเก้ พบว่าตัวกล้องมีการประมวลผลช้าบ้าง เนื่องจากตัวเครื่องและตัวซอฟต์แวร์ยังเป็นรุ่นทดสอบ ซึ่งทาง ASUS แจ้งว่าจะมีการอัปเดทซอฟต์แวร์ในรุ่นที่วางขายจริง และยังไม่รองรับการบันทึกไฟล์ RAW โดยจะพร้อมใช้งานเมื่อได้อัปเดท Android 7.0 Nougat นั่นหมายความว่ารุ่นนี้มีแผนจะได้อัปเดท Android 7.0 Nougat
ในการถ่ายภาพที่มีสภาพแสงต่างกันมากๆ ASUS Zenfone Zoom S ก็มีโหมด Auto HDR และ HDR Pro ให้เลือกใช้งานได้ด้วย เป็นการถ่ายรูปหลายรูป ที่มีค่าความสว่างของแสงแตกต่างกัน แล้วเอาภาพมารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้เวลาถ่ายภาพด้วยโหมดนี้จำเป็นต้องถือกล้องนิ่ง ๆ สักพัก เพื่อให้ได้ภาพที่มีรายละเอียดครบ ทั้งพื้นที่ส่วนที่สว่างและส่วนที่มืด
การถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือกลางคืนก็มีการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี ASUS SuperPixel ทำงานร่วมกับการประมวลผลภาพ ทำให้ภาพที่ได้นั้นมีความสว่างขึ้น ลดการเกิดนอยซ์ ส่วนหนึ่งก็มาจากค่ารูรับแสงของกล้อง f/1.7 และขนาดพิกเซลที่ใหญ่ 1.4 ไมครอน เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอน์ในตลาดขณะนี้ ถือว่าเป็นรุ่นที่มีขนาดพิกเซลใหญ่มาก และลดความหยาบของภาพได้
การถ่ายภาพในโหมดกำหนดเอง (Manual Mode) โดยเฉพาะการถ่ายภาพแสงไฟยามค่ำคืนที่เราสามารถควบคุมการตั้งค่าต่าง ๆ ของกล้องได้เอง ไม่ว่าจะเป็น สมดุลแสงสีขาว (WB), ความสว่างของแสง (EV), ความไวแสง (ISO), ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) และระยะโฟกัส (AF)
กล้องหน้าของ ASUS Zenfone Zoom S มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX214 ค่ารูรับแสง f/2.0 และมีโหมดบิวตี้สำหรับการเซลฟี่ที่ปรับสีผิว ความเนียน หน้าเรียว ตาโต ได้ถึง 10 ระดับ โดยไม่ต้องแอปเพิ่ม อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี ASUS SuperPixel ที่ทำงานกับกล้องหน้าด้วย เมื่อถ่ายออกมาก็จะเห็นว่าภาพมีความสว่างกว่าสภาพแสงจริงเมื่อถ่ายในที่แสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง ASUS Zenfone Zoom S
สรุปจุดเด่น
- ตัวเครื่องดีไซน์สวยด้วยโลหะอะลูมิเนียม
- หน้าจอสวย 5.5 นิ้ว AMOLED Full HD
- แบตเตอรี่อึด 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว
- กล้องหลังเลนส์คู่ โฟกัสเร็ว รูรับแสงกว้าง ซูมแบบออพติคอลได้ไม่สูญเสียความคมชัด และโหมดโบเก้ละลายฉากหลังได้เนียนพอสมควร
- กล้องหน้าเซลฟี่มีบิวตี้โหมด ปรับหน้าให้สวยเรียวได้
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่มี NFC
- ยังไม่รองรับไฟล์ RAW ต้องรออัปเดทเวอร์ชั่น Android 7.0 Nougat