10 มือถือซูมคอนเสิร์ต กล้อง Periscope ซูมไกลๆ เห็นชัดๆ ใช้ยาว ปี 2025

แนะนำ 10 มือถือซูมคอนเสิร์ต ด้วยกล้อง Periscope กลายเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนกำลังมองหาเพื่อให้สามารถเก็บภาพความประทับระหว่างชมคอนเสิร์ตได้อย่างคมชัดที่สุด ใช้กันได้ยาวๆ ปี 2025 วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวมรุ่นใหม่จากหลายแบรนด์มาฝากกันครับ

ปัจจุบันก็มีมือถือระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่มีเซ็นเซอร์กล้อง 3 ตัวหรือ 4 ตัวที่ด้านหลัง โดยหนึ่งในนั้นก็จะมีเซ็นเซอร์กล้องปริทรรศน์หรือ Periscope ทำให้ผู้ใช้สามารถซูมเข้าได้หลายเท่าโดยใช้เซ็นเซอร์ออปติคอลที่คงรายละเอียดของภาพอย่างคมชัด อีกทั้งบางรุ่นยังสามารถซูมเข้าออกได้อีก 50-100x โดยใช้เทคโนโลยีการซูมดิจิทัลและอัลกอริทึมขั้นสูงหรือ AI เข้ามาช่วย

มือถือซูมคอนเสิร์ต กล้อง Periscope ทำงานอย่างไร

กล้อง Periscope เป็นเทคโนโลยีกล้องประเภทหนึ่งที่ช่วยให้การซูมคุณภาพสูงและการป้องกันภาพสั่นไหวในสมาร์ทโฟน ทำงานโดยใช้ปริซึมหรือกระจกเพื่อสะท้อนแสงที่มุม 90 องศา ทำให้ได้ทางยาวโฟกัสที่ยาวขึ้นโดยไม่เพิ่มความหนาของโทรศัพท์ เทคโนโลยีนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการจับภาพวัตถุหรือฉากที่อยู่ห่างไกลโดยไม่ทำให้คุณภาพของภาพลดลง กล้อง Periscope กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในสมาร์ทโฟน ปัจจุบันมีกล้องรุ่นท็อปหลายรุ่นที่มีเทคโนโลยีนี้

ประโยชน์ของกล้อง Periscope

กล้อง Periscope มีประโยชน์หลายประการสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน ประการแรก ช่วยให้สามารถซูมได้ดีขึ้นโดยไม่ทำให้คุณภาพของภาพลดลง สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพวัตถุหรือฉากที่อยู่ห่างไกล เช่น ซูมคอนเสิร์ต ส่องนก หรือซูมดูป้ายประกาศในระยะไกลๆ

ประการที่สอง ช่วยให้ทางยาวโฟกัสยาวขึ้นโดยไม่เพิ่มความหนาของโทรศัพท์ ทำให้ถือและพกพาได้ง่ายขึ้น และกล้อง Periscope สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในที่แสงน้อย ทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพดีขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มืด โดยรวมแล้ว กล้อง Periscope เป็นส่วนเสริมที่สำคัญสำหรับกล้องของสมาร์ทโฟน

มือถือซูมคอนเสิร์ต ที่มีกล้อง Periscope

vivo X200 Pro

เอาใจสายซูมโดยเฉพาะกับกล้อง ZEISS APO Telephoto ความละเอียดสูง 200MP ครั้งแรกของวงการสมาร์ตโฟนบน X200 Pro ที่สามารถซูมได้ไกลถึง 50x โดยไม่เสียรายละเอียดภาพ เสริมด้วยฟีเจอร์ High-Quality Imaging ที่ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาซัพพอร์ตการจับภาพการเคลื่อนไหวบนเวทีได้อย่างแม่นยำ แถมตัวช่วยสลับไปยังโหมด Telephoto Super Stage อัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Zero-Shutter-Lag Motion Snapshot ให้ผู้ใช้งานไม่พลาดทุกช่วงเวลาสำคัญ สามารถบันทึกภาพการแสดงอย่างคมชัดได้ทันที พร้อมฟีเจอร์ ZEISS Multifocal Portrait ตัวเลือกระยะโฟกัส 85 มม. และ 135 มม. เพื่อสายพอร์ตเทรตระดับมืออาชีพ รวมถึงเทคโนโลยีการเคลือบเลนส์แบบ ZEISS T* Coating ที่ช่วยลดการสะท้อน ลดการเกิดภาพโกสต์หรือแสงแฟลร์ ให้ภาพคมชัด ใสเคลียร์

• หน้าจอ: 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1260 x 2800 พิกเซล LTPO AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, HDR10+, Dolby Vision
• ระบบปฏิบัติการ: Android 15, OriginOS 5
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 9400
• GPU: Immortalis-G925
• RAM: 12GB/16GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.6
  • กล้อง Periscope 200 ล้านพิกเซล f/2.7
  • กล้อง Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล f/2.0
• กล้องหน้า: Ultra-wide 32 ล้านพิกเซล f/2.0
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 6000mAh ชาร์จเร็ว 90W

OPPO Find X8 Pro

OPPO Find X8 Pro มือถือซูมคอนเสิร์ต มาพร้อมกล้องที่มีความสามารถด้านการซูมด้วยเทคโนโลยี AI Telescope Zoom ที่จะเปิดใช้งานอัตโนมัติเมื่อซูมมากกว่า 10x ขึ้นไป ที่จะช่วยวิเคราะห์ภาพในระดับพิกเซลและช่วยเสริมความคมชัดอย่างชาญฉลาดและสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อให้ทุกช็อตซูมในงานคอนเสิร์ตคมชัดและเก็บครบทุกรายละเอียดความสนุกบนเวที

ครั้งแรกของโลกด้วยสำหรับ Find X8 Pro ที่มีกล้อง Periscope Telephoto คู่ ความละเอียด 50MP ทั้ง 2 ตัว เมื่อซูมได้สูงสุดถึง 120x และทำงานร่วมกับ Stage Mode ช่วยให้ถ่ายทุกโมเมนต์และบรรยากาศการแสดง แสงสีเสียงจากระยะไกลได้ชัดแบบไม่สูญเสียรายละเอียดในโทนสีสุดจัดจ้าน

• หน้าจอ: 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1264 x 2780 พิกเซล LTPO AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, HDR10+, Dolby Vision
• ระบบปฏิบัติการ: Android 15, ColorOS 15
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 9400
• GPU: Immortalis-G925
• RAM: 16GB
• ความจุเครื่อง: 512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.6
  • กล้อง Periscope 50 ล้านพิกเซล f/2.6
  • กล้อง Periscope 50 ล้านพิกเซล f/4.3
  • กล้อง Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล f/2.0
• กล้องหน้า: Ultra-wide 32 ล้านพิกเซล f/2.4
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5910mAh ชาร์จเร็ว 80W

HUAWEI Pura 70 Ultra

HUAWEI Pura 70 Ultra ก็ถือว่าเป็นเรือธงที่กลับมาทวงบัลลังก์กล้องดีที่สุดอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัยด้วยชุดกล้อง Ultra Lighting Pop-out ที่อัปเกรดใหม่หมด จัดเต็มทั้งกล้องหลักเซ็นเซอร์ 1″ ที่มอบทั้งคุณภาพยอดเยี่ยม มิติภาพระดับสูงสุด กล้อง Ultra Lighting Tele Macro f/2.1 ที่ครบเครื่องตั้งแต่ซูมไปได้ไกลแบบคมชัดจนถึงเข้าใกล้ระดับ Macro สุด ๆ

นอกจากนี้ยังมีโหมด Ultra Speed Snapshot ซึ่งช่วยให้สามารถถ่ายภาพความเร็วสูงได้สูงสุดถึง 300 กม./ชม. ถ่ายภาพวัตถุที่มีความเร็วสูงที่กำลังเคลื่อนที่ บริษัทสำหรับทดสอบปคุณภาพของกล้องถ่ายภาพอย่าง DXOMARK ได้เน้นย้ำถึงออโต้โฟกัสของกล้องในรีวิว โดยยกย่องให้กล้องมีความแม่นยําและความเร็วสูงในทุกสภาวะการทดสอบ

• หน้าจอ: 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1260 x 2844 พิกเซล LTPO OLED, 1 พันล้านสี, HDR, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: HarmonyOS 4.2
• ชิปเซ็ต: Kirin 9010
• GPU: –
• RAM: 16GB
• ความจุเครื่อง: 512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.6-4.0
  • กล้อง Telephoto 50 ล้านพิกเซล f/2.1
  • กล้อง Ultra-wide 40 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: Ultra-wide 13 ล้านพิกเซล f/2.4
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5200mAh ชาร์จเร็ว 100W

HONOR Magic6 Pro

HONOR Magic6 Pro มาพร้อมกล้องเทคโนโลยีกล้อง AI ที่ให้คุณภาพของภาพถ่ายสวยคมชัด ด้วยการผสานระบบกล้อง Falcon Camera และ AI Motion Sensing Capture สามารถถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็วได้อย่างสมบูรณ์แบบและได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูง พร้อมเลนส์กล้องถึง 3 ตัว ได้แก่ Periscope Telephoto ความละเอียด 180MP อัลตร้าไวด์ความละเอียด 50MP และ Super Dynamic Falcon H9000 ความละเอียด 50MP

สำหรับกล้อง Periscope Telephoto ความละเอียด 180MP ทำให้ผู้ใช้ถ่ายภาพได้แบบมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์เทเลโฟโต้ขนาดใหญ่ 1/1.49 นิ้ว ช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกช็อตที่ซูมเข้าจะจับภาพวัตถุที่อยู่ไกลออกไปด้วยความคมชัด มีรูรับแสงกว้าง f/2.6 ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้ทั้งกลางวันและกลางคืนที่มีแสงน้อย อีกทั้งกล้องเทเลโฟโต้ยังผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีการซูมแบบอินเซนเซอร์ ที่รองรับออปติคอลซูม 2.5 เท่า การซูมแบบ Lossless 5 เท่า และการซูมแบบดิจิตอล 100 เท่า ทำให้ถ่ายภาพระยะไกลได้มากขึ้น

• หน้าจอ: 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 2800 พิกเซล LTPO OLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, HDR
• ระบบปฏิบัติการ: Android 14, MagicOS 8
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3
• GPU: Adreno 750
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.4-f/2.0
  • กล้อง Periscope 180 ล้านพิกเซล f/2.6
  • กล้อง Ultra-wide ล้านพิกเซล f/2.0
• กล้องหน้า: 50 ล้านพิกเซล f/2.0 และ TOF 3D
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5600mAh ชาร์จเร็ว 80W

vivo X100 Pro

vivo X100 Pro มือถือซูมคอนเสิร์ต อัปเกรดกล้องซูมมาเป็นกล้อง Periscope ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ระยะในการซูมจะได้ช่วง 4.3x (100 มม.) แถมยังใช้เลนส์ ZEISS APO-Sonnar เคลือบมาอย่างดีอีกด้วย ในขณะที่กล้องหลักและ Ultra Wide ก็ได้ความละเอียดสูงระดับ 50 ล้านพิกเซลเช่นกัน

สำหรับดีไซน์กล้องหลังก็จะเป็นแบบ Sun Halo หรือพระอาทิตย์ทรงกลด ซึ่งจะมีพื้นที่ของกรอบสแตนเลสเด่นที่ด้านล่างของตัวกล้องแทน เป็นดีไซน์ที่เสริมตัวกล้องได้อย่างชัดเจน และได้หน้าจอ AMOLED โค้งขนาด 6.78″ อัตราส่วน 20:9 ความละเอียดระดับ FHD+ (2800 x 1260 พิกเซล) พร้อมความสว่างสูงสุดถึง 3000nits

• หน้าจอ: 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1260 x 2800 พิกเซล LTPO AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 14, Funtouch OS 14
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 9300
• GPU: Immortalis-G720 MC12
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Periscope 50 ล้านพิกเซล f/2.5
  • กล้อง Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล f/2.0
• กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.0
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 120W

Xiaomi 14 Ultra

Xiaomi 14 Ultra รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับการถ่ายภาพมืออาชีพ มาพร้อมกล้องระดับมืออาชีพสี่ตัวพร้อมช่วงโฟกัสอันน่าทึ่งตั้งแต่ 12 มม. ถึง 120 มม. มีหน้าจอแสดงผล AMOLED C8 WQHD+ ขนาด 6.73 นิ้ว ประสิทธิภาพจัดเต็มด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 และการออกแบบที่ล้ำสมัย มีความแข็งแกร่งด้วยโครงสร้างของ Xiaomi Guardian Structure

• หน้าจอ: 6.73 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล, LTPO AMOLED, 68 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 14 ครอบทับด้วย HyperOS
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3
• GPU: Adreno 750
• RAM: 12GB/16GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 4 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.6, f/4.0
  • กล้อง Periscope 50 ล้านพิกเซล f/2.5
  • กล้อง Telephoto 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • TOF 3D
• กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.0
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 90W

OPPO Find X7 Ultra

OPPO Find X7 Ultra นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้อง Periscope ถึง 2 ตัว ทำให้ทุกการซูมนั้นเข้าที่ คมชัด และแม่นยำมากขึ้น ด้วยกล้องที่มีเซ็นเซอร์ใหญ่เพียงพอให้ In-Sensor Zoom ได้สบาย อยากซูมไปไกลระดับ 10x – 20x ตัวกล้อง Periscope ตัวที่สองก็ยังไฮบริดร่วมกับตัวอื่น ๆ เสริมเข้าไปได้อีก ทำให้ทุกระยะที่อยากถ่ายจะยังคมชัดสุด ๆ

OPPO Find X7 Ultra ทำได้ดีเยี่ยมในการทดสอบของ DXOMARK ด้วยคะแนนที่สร้างสถิติในสภาวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะถ่ายในร่ม เวลากลางคืน หรือถ่ายภาพหมู่กับเพื่อนและครอบครัว ทั้งหมดนี้ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงพลังและประสิทธิภาพของระบบกล้อง HyperTone ของ OPPO ได้เป็นอย่างดี

• หน้าจอ: 6.82 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3168 พิกเซล LTPO AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 14, ColorOS 14
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3
• GPU: Adreno 750
• RAM: 12GB/16GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง: 4 ตัว
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Periscope 50 ล้านพิกเซล f/4.3
  • กล้อง Periscope 50 ล้านพิกเซล f/2.6
  • กล้อง Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล f/2.0
• กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.4
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC, และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 100W

vivo X100 Ultra

vivo X100 Ultra รุ่นนี้ยังคงเป็นพาร์ทเนอร์กับ ZEISS เหมือนเคย ทำให้ที่ตัวเลนส์จะใช้เป็นเลนส์ ZEISS APO ระดับสูง รวมถึงเคลือบเลนส์ ZEISS T* เพื่อลดแสงสะท้อนอีกด้วย ส่วนซอฟต์แวร์ก็มี Style มาให้เลือก 3 แบบเหมือนเดิมคือ Vivid, Texture และ ZEISS

สเปคกล้องที่อัปเกรดแบบจริงจังที่สุดของ vivo X100 Ultra ก็คงหนีไม่พ้นกล้อง Periscope ที่รอบนี้เพิ่มความละเอียดจาก 50MP ของ X100 Pro มาเป็น 200MP เลยครับ และอย่างที่บอกไปว่าไม่ใช่แค่เพิ่มความละเอียดอย่างเดียวเพราะ ขนาดเซ็นเซอร์ก็ใหญ่ขึ้นเป็น 1/1.4″ (ของ X100 Pro 1/2″) ซึ่งขนาดระดับนี้คือใหญ่ที่สุดในบรรดากล้อง Periscope

• หน้าจอ: 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล LTPO AMOLED, 1 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR
• ระบบปฏิบัติการ: Android 14, OriginOS 4
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3
• GPU: Adreno 750
• RAM: 12GB/16GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Periscope 200 ล้านพิกเซล f/2.7
  • กล้อง Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 50 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5500mAh ชาร์จเร็ว 80W

Samsung Galaxy S24 Ultra

Galaxy S24 Ultra มาพร้อมเลนส์ออปติคอลซูม 5 เท่าที่สามารถทำงานร่วมกับเซนเซอร์ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ทำให้ได้ภาพถ่ายคุณภาพสูงขณะซูม 2 เท่า 3 เท่า 5 เท่า ไปจนถึง 10 เท่า โดยอาศัยเทคโนโลยี Adaptive Pixel Sensor นอกจากนี้ยังช่วยปรับคุณภาพของภาพเมื่อใช้โหมดซูมให้ภาพที่คมชัดแม้จะซูมถึง 100 เท่า

Galaxy S24 Ultra มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่กำหนดเองของชิปเซ็ตระดับบนสุดของ Qualcomm ในปี 2024 ดังนั้นประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของชิปตัวนี้ต้องดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ตามด้วยเอฟเฟกต์กราฟิกแบบเรียลไทม์ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Ray Tracing สร้างเงาและแสงสะท้อนแบบเหนือจริง ตอบโจทย์การใช้งานหนักๆ อย่างการเล่นเกมแน่นอน

ด้วยประสิทธิภาพที่เร็วแรงทาง Samsung ก็ได้เพิ่มขนาดของ Vapor Chamber ใน Galaxy S24 Ultra ไปเกือบเท่าตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายความร้อนและมอบประสบการณ์กราฟิกที่ลื่นไหลอย่างที่ควรเป็น พร้อมด้วย LPDDR5X RAM ขนาด 12GB และที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 สูงสุด 1TB ติดตั้งเกมได้แบบไม่ต้องกลัวเต็มเลย

• หน้าจอ: 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3120 พิกเซล Dynamic LTPO AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 14, One UI 6.1
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3
• GPU: Adreno 750
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 4 ตัว:
  • กล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล f/1.7
  • กล้อง Periscope 50 ล้านพิกเซล f/3.4
  • กล้อง Telephoto 10 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้อง Ultra-wide 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W

Samsung Galaxy S23 Ultra

Samsung Galaxy S23 Ultra มือถือซูมคอนเสิร์ต เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในปี 2023 และมาพร้อมกับฟีเจอร์กล้องที่ทันสมัยที่สุดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า และมาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 จาก Qualcomm

Galaxy S23 Ultra มาพร้อมกับเซ็นเซอร์หลัก 200MP f/1.7 กับเลนส์อัลตราไวด์ 12MP f/2.2 และเทเลโฟโต้ 10MP f/2.4 พร้อมซูมออปติคอล 3 เท่า และเลนส์เทเลระยะไกลแบบ Periscope 10MP f/4.9 ที่รองรับการซูมออปติคอล 10 เท่า

แบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ 5000 mAh และรองรับการชาร์จเร็วด้วยสาย 45W และไร้สาย 15W มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า Galaxy S22 Ultra ของปีที่แล้ว และเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบหากใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีกล้องโดยรวมดีที่สุดในปี 2023

• หน้าจอ: 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3088 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
• GPU: Adreno 740
• RAM: 8GB/12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 4 ตัว:
  • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล f/1.7
  • กล้อง Periscope ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/4.9
  • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูล มือถือซูมคอนเสิร์ต ที่มีกล้อง Periscope เพราะการไปคอนเสิร์ตไม่ใช่แค่การฟังเพลงเพราะๆ อีกต่อไป แต่ยังเป็นการสร้างสรรค์คอนเทนต์สุดปังเพื่อแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อิจฉาเล่นๆ อีกด้วย และหนึ่งในอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับสายคอนเสิร์ตก็คือ ‘มือถือซูม’ นั่นเอง อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ