Buying Guides
iPhone รุ่นไหนดี วิธีเลือกซื้อ เหมาะกับการใช้งาน ปี 2023
iPhone รุ่นไหนดี ปี 2023 วิธีเลือกซื้อ รุ่นที่เหมาะกับการใช้งาน หากมีงบไม่จำกัดก็เลือกซื้อเครื่องใหม่ล่าสุดและมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลหรือความจุเครื่อง 128GB ขึ้นไป แต่การเลือกซื้อแบบนั้นอาจไม่คุ้มค่าที่สุดในการใช้งาน วันนี้ทีมงาน iphone-droid จะมาแนะนำการเลือกรุ่น เพราะสเปคและราคาที่อาจสูงเกินความจำเป็นก็ได้
วิธีเลือกซื้อ iPhone 2023 รุ่นไหนดี ที่ดีที่สุด
- iPhone 14 และ iPhone 14 Plus
- iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max
- iPhone SE 3
- iPhone 13 และ iPhone 13 mini
- iPhone 12
iPhone ในปัจจุบันที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะมีด้วยกัน 5 รุ่นหลักๆ โดยมาพร้อมชิปประมวลผลที่ดีที่สุดในขณะนี้คือ Apple A16 Bionic นั่นก็คือ iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max ในขณะที่รุ่น iPhone 14 และรุ่น Plus ซึ่งทั้งคู่ใช้ชิป A15 Biomic ในขณะที่รุ่นก่อนหน้าก็ยังมีให้เลือกเพิ่มเติม ได้แก่ iPhone 13, iPhone SE 3 และ iPhone iPhone 12
iPhone 14 และ iPhone 14 Plus คุ้มค่าที่สุด
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว หรือ 6.7 นิ้ว ที่คมชัดและสว่างสดใส
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวัน โดยเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง
- ฟีเจอร์การตรวจจับการชนกัน สามารถตรวจจับเหตุรถชนอย่างรุนแรง และจะโทรหา 191
- กล้องหลักใหม่และการประมวลผลภาพที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อภาพถ่ายในทุกสภาพแสง
- ชิป A15 Bionic แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 13 Pro
ขนาดคือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดของ iPhone 14 กับ iPhone 14 Plus ดังนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างแรกเลยก็คือการเลือกว่าชอบ iPhone ขนาดใหญ่หรือเล็ก ในขณะที่สเปคต่างๆ แทบจะเหมือนกันทั้งหมด จึงทำให้ราคาก็มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อได้เหมือนกัน
สำหรับชิปเซ็ตทั้งคู่เลือกใช้ A15 Bionic ปี 2021 ทำให้หลายคนมองว่าเป็นรุ่นเก่า แต่สำหรับการใช้งานนั้นเพียงพอทุกการประมวลผล ซึ่งเป็นปีที่ Apple ตัดสินใจใช้ชิป A16 Bionic ใหม่ให้กับ iPhone 14 Pro และ Pro Max เท่านั้น
นอกจากนี้ ก็มีกรอบอะลูมิเนียมเช่นเดียวกับ iPhone รุ่นก่อนหน้า สามารถกันน้ำและกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 และมีพอร์ต Lightning สำหรับชาร์จ (อาจเป็นรุ่นสุดท้ายสำหรับ iPhone ที่ใช้พอร์ตนี้)
iPhone 14 Pro และ Pro Max ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว หรือ 6.7 นิ้ว ที่สว่างยิ่งขึ้น พร้อมการแสดงผลแบบติดตลอดที่ให้ผู้ใช้งานเห็นข้อมูลบนหน้าจอได้ตลอดเวลาเพียงแค่เหลือบมอง
- Dynamic Island วิธีใหม่ในการโต้ตอบกับ iPhone
- ฟีเจอร์การตรวจจับการชน สามารถตรวจจับเหตุรถชนอย่างรุนแรง และจะโทรหา 191
- กล้องหลักความละเอียด 48MP พร้อมเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ความละเอียดมากขึ้นสูงสุดถึง 4 เท่า
- ชิป A16 Bionic ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดบน iPhone และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานตลอดวัน
ในรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 13 Pro และ Pro Max มีระบบกล้องหลังที่มีกล้องหลัก 12MP แต่รุ่นล่าสุด iPhone 14 Pro และ Pro Max จัดเต็มกล้องหลังอัปเกรดใหม่เป็น 48MP พร้อมเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ความละเอียดมากขึ้นสูงสุดถึง 4 เท่า
iPhone 14 Pro สองรุ่นใหม่มีให้เลือกระหว่างรุ่น 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ใช้จอภาพ Super Retina XDR ใหม่ พร้อม ProMotion แบบติดตลอดเป็นครั้งแรกบน iPhone ที่มีอัตราการรีเฟรชที่ 1Hz ใหม่ และอีกหลายเทคโนโลยีในการประหยัดพลังงาน สามารถแสดงเวลา วิดเจ็ต และกิจกรรมสดๆ ให้เหลือบมองได้ทุกเมื่อ และจอภาพใหม่นี้มีระดับความสว่าง HDR สูงสุดเฉพาะจุดเทียบเท่ากับ Pro Display XDR และถือเป็นความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดขณะอยู่กลางแจ้งที่มากที่สุดในสมาร์ทโฟน สูงสุด 2,000 นิต หรือสว่างกว่า iPhone 13 Pro ถึงสองเท่า
นอกจากนี้แล้ว ด้วยดีไซน์รอยบากบนหน้าจอของ iPhone ใหม่ ที่เป็นการผสมผสานกันอย่างกลมกลืนกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ สามารถปรับการทำงานในแบบเรียลไทม์เพื่อแสดงการแจ้งเตือนและกิจกรรมต่างๆ ได้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงส่วนควบคุมต่างๆ ได้ง่ายขึ้นเพียงแค่แตะค้างไว้ ส่วนกิจกรรมเบื้องหลังที่ทำงานอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น แอปแผนที่ แอปเพลง หรือนาฬิกานับถอยหลัง จะปรากฏให้เห็นตลอดเวลาและโต้ตอบได้
iPhone SE 3 ดีที่สุดสำหรับเด็ก
- จอภาพ Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว
- ชิป A15 Bionic ที่ทรงพลังสุดๆ แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 13
- 5G เพื่อการดาวน์โหลดที่รวดเร็วและการสตรีมวิดีโอคุณภาพสูง
- ปุ่มโฮมพร้อม Touch ID ปลดล็อคและลงชื่อเข้าใช้แอปได้อย่างปลอดภัย
สำหรับเด็กแล้ว มือถือที่มีขนาดเล็กคือตัวเลือกที่ดีที่สุด รวมไปถึงราคาไม่แพงด้วย iPhone SE 3 รุ่นใหม่ล่าสุดจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยมาพร้อมชิปประมวลผล A15 Bionic ประสิทธิภาพเร็วแรงใช้งานได้หลายปี เพราะอย่างที่ทราบกันว่า Apple สนับสนุนการอัปเดทซอฟต์แวร์ต่อเนื่องหลายปี
นอกจากนี้ยังมี Touch ID สำหรับสแกนลายนิ้วมือ แทนที่จะเป็น Face ID เพื่อลดความยากในการใช้งานสำหรับเด็กที่มีอายุน้อย เพราะ Apple เคยกล่าวว่า Face ID เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไปเท่านั้น
iPhone SE 3 มีขนาดที่เล็กพอดีมือและเด็กๆ ก็พกใส่กระเป๋าได้ง่าย อีกราคาเริ่มต้น 15,900 บาทสำหรับอุปกรณ์ของ Apple ก็ทำให้ผู้ปกครองตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น แม้ว่าตัวเครื่องจะมีดีไซน์เก่าไม่ต่างไปจากรุ่นก่อนหน้า
iPhone 13 และ iPone 13 mini ขนาดเล็กที่ดีที่สุด
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว หรือ 5.4 นิ้ว สว่างขึ้นถึง 28%
- ระบบกล้องคู่ เพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยที่สวยงาม
- ชิป A15 Bionic พร้อม GPU แบบ 4-core
- Ceramic Shield แข็งแกร่งกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ทโฟน พร้อมความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ IP68
- 5G เพื่อการดาวน์โหลดที่เร็วสุดแรงและการสตรีมคุณภาพสูง
หากต้องการ iPhone ที่ยังไม่แน่ใจว่าต้องการเน้นอะไรเป็นพิเศษ iPhone 13 และ iPhone 13 mini จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของดีไซน์ ขนาดตัวเครื่อง ฟีเจอร์ต่างๆ ประสิทธิภาพตัวเครื่อง และราคา อีกทั้งกล้องหลังคู่ก็ได้รับการออกแบลใหม่ จัดวางเลนส์ในแนวทแยง
iPhone 13 มาพร้อมชิป A15 Bionic ใช้เทคโนโลยี 5 nm มีแผงหน้าจอเป็นชนิด OLED หรือที่เรียกว่าจอภาพ Super Retina XDR ให้สีสันที่สดใสสวยงาม แต่รอยบากที่เป็นพื้นที่ติดตั้งระบบกล้อง TrueDepth บริเวณเหนือหน้าจอของ iPhone 13 มีขนาดที่เล็กลงประมาณ 20% เมื่อเทียบกับ iPhone 12
iPhone 12 ดีที่สุดสำหรับคนเริ่มใช้ หรือผู้สูงอายุ
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว คอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยมและความแม่นยำของสีสัน
- ระบบกล้องคู่ พร้อมโหมดกลางคืนและการบันทึก HDR ในแบบ Dolby Vision
- ชิป A14 Bionic
- Ceramic Shield ซึ่งแข็งแกร่งกว่ากระจก และความสามารถในการทนน้ำ
- 5G เพื่อการดาวน์โหลดที่เร็วและการสตรีมคุณภาพสูง
iPhone 12 เป็นรุ่นเก่ากว่า แต่ก็เป็นรุ่นที่รองรับ 5G ด้วย มีฟีเจอร์หลายอย่างที่ครบเครื่องกว่าและน่าซื้อมากกว่า โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นใช้งาน iPhone และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหากกำลังวางแผนซื้อให้คุณพ่อคุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่
iPhone 12 มีหน้าจอ 6.1 นิ้ว ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ดังนั้นถ้าใครกำลังลังเลระหว่าง iPhone SE ก็ตัดออกไปได้เลย แถมได้ขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกันอีกด้วย เพราะดีไซน์หน้าจอแบบใหม่ของ iPhone 12 นั่นเอง แถมมีระบบ Face ID และมีกล้องที่ดีกขึ้นสำหรับการ FaceTime
หน้าจอเป็นแบบ OLED หรือที่เรียกว่าจอภาพ Super Retina XDR ให้สีสันที่สดใสสวยงาม ด้านชิปประมวลผล A14 Bionic ไม่ส่งผลต่อการใช้งานสำหรับผู้เริ่มใช้งาน iPhone หรือผู้สูงอายุ และที่สำคัญแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับการแนะนำ วิธีเลือกซื้อ iPhone รุ่นไหนดี ในปี 2023 เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุดและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่หากไม่ติดเรื่องงบประมาณก็จะเลือกง่ายหน่อย สามารถเลือกรุ่นที่ชื่นชอบได้เลยครับ
อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ