Buying Guides
นาฬิกาวิ่ง (Running Watch) รุ่นไหนดี และวิธีเลือกซื้อ ในปี 2024
นาฬิกาวิ่ง (Running Watch) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจและวัดผลประสิทธิภาพของการวิ่งได้ เสมือนมีโค้ชวิ่งมืออาชีพส่วนตัวที่พร้อมสำหรับการฝึกซ้อม โดยฟีเจอร์ที่ใช้งานกันหลักๆ ก็จะมีตั้งแต่การติดตามการนับก้าวและระยะทางที่วิ่ง รวมไปถึงการสร้างแผนที่เส้นทางโดยละเอียดและข้อมูลอื่นๆ เพื่อปรับปรุง ปรับแต่ง หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบการวิ่ง วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net รวบรวมมาให้แล้ว อัปเดทใหม่ ปี 2024
แนะนำ นาฬิกาวิ่ง (Running Watch)
หากพูดถึงการวิ่ง นาฬิกายอดนิยมที่หลานคนนึกถึงก็จะเป็น Garmin Forerunner 965 ที่มีฟีเจอร์ที่ให้ความแม่นยำสูง ให้คำแนะนำการออกกำลังกายที่ไม่เหมือนใครสำหรับทุกระดับ และซิงค์ GPS อย่างรวดเร็วก่อนเริ่มวิ่ง แต่หากมีงบจำกัดก็จะมีรุ่น Fitbit Inspire 3 (ไม่มี GPS ในตัว) เป็นตัวติดตามฟิตเนสขั้นพื้นฐานระดับเริ่มต้นนี้มีราคาไม่ถึง 4,000 บาท และติดตามการออกกำลังกายได้อย่างแม่นยำ
สำหรับใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์สำหรับติดตามฟิตเนสที่เน้นไลฟ์สไตล์ที่ดีก็อาจมองไปที่ Apple Watch หรือสมาร์ทวอทช์ทางฝั่ง Android ซึ่งส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่มีฟีเจอร์ติดตามการวิ่งและมีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ต่อการฝึกซ้อมเช่นกัน
นาฬิกาวิ่ง (Running Watch) รุ่นไหนดี?
ฟีเจอร์โดยรวมดี: Garmin Forerunner 965
Forerunner 965 ของ Garmin ที่ดีที่สุดเมื่อพูดถึงฟีเจอร์โดยรวมั้งหมด สำหรับการติดตามกิจกรรมที่แม่นยำ GPS ซิงค์อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเชื่อถือได้สำหรับระยะทาง อัตราก้าว และการทำแผนที่การวิ่ง
Garmin ทำนาฬิกาและอุปกรณ์ติดตามฟิตเนสที่มีคุณภาพหลายตัว แต่ไม่มีตัวใดที่เหมาะกับนักวิ่งทุกประเภทได้อย่างสมบูรณ์แบบเท่ากับ Forerunner 965 เพราะมีตัวเลือกกิจกรรมการวิ่งที่สามารถติดตามได้หลากหลาย มี GPS ที่แม่นยำ และระบบแนะนำการออกกำลังกายที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งทำหน้าที่เสริมการวิ่งได้ดี รวมถึงโปรแกรมการฝึกซ้อม
สำหรับฟีเจอร์คำนำการออกกำลังกายคือจุดโดดเด่นที่ทำให้หลายคนชื่นชอบ หลังจากใส่นาฬิกาติดตามข้อมูลก็จะมีการประเมินระดับประสิทธิภาพของผู้ใช้ได้อย่างเต็มที่ การพักผ่อนและฟื้นฟู ให้คำแนะนำรายวันที่มีมีประโยชน์
ไฮไลท์อื่นๆ ได้แก่ กิจกรรมที่สามารถติดตามได้หลากหลาย รวมถึงตัวเลือกการวิ่งที่แตกต่างกัน เช่น การวิ่งเทรล การวิ่งในร่มบนลู่วิ่งไฟฟ้า และการวิ่งกลางแจ้งมาตรฐาน อีกทั้ง GPS สามารถซิงค์ได้อย่างรวดเร็วในการวิ่งกลางแจ้ง และแม่นยำในแง่ของระยะทางและเพซ รองรับการใช้งานได้กับทั้ง iOS และ Android จึงทำให้รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการงที่ดีที่สุด
คุ้มค่าที่สุด: Garmin Forerunner 55
หากกำลังมองหา นาฬิกาวิ่ง (Running Watch) GPS ราคาไม่แพง ก็ไม่ควรมองข้ามในรุ่น Garmin Forerunner 55 โดยมาพร้อมระบบ GPS และมีเทคโนโลยี PacePro ให้คำแนะนำการก้าวที่อิงตามระบบ GPS สำหรับเส้นทางหรือระยะทางที่เลือกไว้เพื่อช่วยวางแผนกลยุทธ์ในวันแข่งขัน จึงสามารถปรับปรุงความพยายามให้เข้ากับสิ่งที่อยู่ข้างหน้าได้
นอกจากนี้แล้วก็มีจอแสดงผลแบบ transflective memory-in-pixel (MIP) สามารถแสดงผลได้ชัดแม้อยู่กลางแดดจ้า การติดตามความเครียด, การติดตามพลังงาน Body Battery, นาทีความเข้มข้น, อายุสุขภาพ เป็นต้น
นอกเหนือจากข้อมูลพื้นฐาน เช่น เพซการวิ่ง การแบ่งรอบ และอัตราการเต้นของหัวใจแล้ว ยังมีการวัดขั้นสูงเพิ่มเติม รวมถึง VO2 Max ซึ่งนักกีฬาที่จริงจังใช้ในการดูสมรรถภาพทางกาย แม้ว่าการประเมิน VO2 Max บนนาฬิกายังเป็นประเด็นในเรื่องแม่นยำที่ยังถกเถียงกันอยู่ แต่ก็ยังดีที่มีฟีเจอร์นี้
นาฬิกาวิ่ง กีฬามัลติสปอร์ต: Coros Apex 2 Pro
Coros Apex 2 Pro โดดเด่นเหนือใครสำหรับนักกีฬาที่ต้องการดีไซน์ที่มีสไตล์สำหรับกีฬามัลติสปอร์ต ใช้งานได้บนทุกภูมิประเทศและทุกสภาวะ สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการรวมถึงตัวเรือนภายนอกที่ทนทานยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเสาอากาศ GPS ที่ออกแบบใหม่เพื่อประสิทธิภาพในการรับสัญญานที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้แล้ว ก็ได้อัปเกรดเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจแบบออปติคัลเจเนอเรชันใหม่ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ GPS ที่ยาวนานขึ้น ทำให้ Apex 2 Pro เป็นนาฬิกาที่ถือได้ว่าดีที่สุดสำหรับนักกีฬาที่ต้องการออกกิจกรรมในระยะไกลและนาน เหมาะสำหรับนักวิ่งเทรล กลางแจ้ง และนักกีฬาสาย Endurance
นาฬิกาวิ่ง ครบทุกด้าน: Garmin Epix
Epix ของ Garmin เป็นนาฬิกามัลติสปอร์ตที่มีฟีเจอร์ครบถ้วนที่ให้การติดตามเชิงลึกสำหรับกิจกรรมที่หลากหลาย แม้อาจดูไม่เหมือนนาฬิกาสำหรับวิ่ง แต่สิ่งที่มีให้คือการออกแบบที่ทนทานมากกว่านาฬิกาอื่นๆ จึงเหมาะที่สุดสำหรับนักวิ่งสายลุย เช่น การวิ่งกลางแจ้ง การวิ่งเทรล การฝึกไตรกีฬา
ถึงแม้จะมีความทนทาน แต่ Epix ยังคงให้ความรู้สึกที่เบา สายนาฬิกายางสวมใส่สบาย และหน้าปัดนาฬิกาขนาดใหญ่ก็เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการอ่านข้อมูลการติดตามอย่างรวดเร็วระหว่างการออกกำลังกาย ซึ่งรุ่นนี้อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักวิ่งมาราธอน แต่สำหรับผู้ที่ฝึกซ้อมในระยะทางที่สั้นกว่าก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลย
นอกจากนี้แล้ว ก็มี GPS ที่แม่นยำที่ซิงค์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ทำงานตลอดเวลา และความสามารถในการติดตามระดับการนอนหลับ ความเครียด การดื่มน้ำ และการหายใจ มีแม้กระทั่งตัววัด Body Battery และการอ่านค่า VO2 max ซึ่งสามารถช่วยให้เห็นภาพความสามารถในการฝึกซ้อมโดยรวมได้ดีขึ้น
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่หลายคนวิ่งเทรลชื่นชอบคือฟีเจอร์ Trackback ซึ่งเป็นการวางเส้นทางดิจิทัลเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะไม่หลงทางขณะวิ่ง แม้ว่าเราจะไม่เคยคิดว่าจะหลงทางแต่ถ้าเกิดวิ่งลึกเข้าไปในที่ที่ไม่คุ้นเลยก็อาจหลงได้
การฝึกซ้อมที่ดี: Polar Vantage V3
Polar Vantage V3 นาฬิกาวิ่ง (Running Watch) เปรียบเสมือนมีโค้ชวิ่งอยู่บนข้อมือตลอดเวลา คอยให้ข้อมูลคำแนะนำเชิงลึกเกี่ยวกับความก้าวหน้า ระดับคาร์ดิโอ และระยะเวลาการพักผ่อนที่ต้องการระหว่างการออกกำลังกาย โดยมาพร้อมแผนที่ออฟไลน์ แผนที่ทั่วโลกฟรี มีหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว และซิงค์ GPS ได้อย่างรวดเร็วด้วยชิปเซ็ต GNSS (GPS) แบบความถี่คู่หลายแบนด์
รุ่นนี้ถือว่ามีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างครบครันในด้านของการวัดข้อมูลทางด้านร่างกายเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ไม่ถือว่าเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์), อัตราการเต้นของชีพจร, อุณหภูมิผิวหนัง, ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด ซึ่งเป็นตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการฝึกซ้อมและการพักผ่อน ช่วยให้สามารถฝึกซ้อมได้อย่างเหมาะสม ป้องกันสภาวะการฝึกเกินและความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ รวมทั้งป้องกันสภาวะ Oxidative Stress ช่วยทำให้ไม่แก่ก่อนวัยอันควร เมื่อทำการฝึกซ้อมกีฬา
วิธีเลือกซื้อ นาฬิกาวิ่ง (Running Watch)
- พิจารณาประเภทของการวิ่ง: ถ้าเราใช้วิ่งบนถนนหรือกลางแจ้งก็จะเน้น GPS ที่แม่นยำ การวัดระยะทาง ความเร็ว และอัตราการเต้นของหัวใจ แต่ถ้าใช้วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าก็ไม่จำเป็นต้องใช้ GPS เน้นฟังก์ชั่นการวัดระยะทาง ความเร็ว และอัตราการเต้นของหัวใจ หรือถ้าใช้สำหรับวิ่งเทรลก็จะเน้น GPS ที่แม่นยำ แผนที่ ฟังก์ชั่นนำทาง และแบตเตอรี่ที่อึด
- ฟีเจอร์ที่ต้องการ: ปัจจุบันการมี GPS ในตัวถือว่าสำคัญสำหรับใช้ติดตามระยะทาง ความเร็ว และเส้นทาง ในขณะที่การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดความหนักเบาของการออกกำลังกาย การติดตามการนอนหลับ วิเคราะห์คุณภาพการนอนหลับ ฟังก์ชั่นการฝึกซ้อม โปรแกรมการฝึกซ้อม แผนการวิ่ง ฟังเพลง ควบคุมเพลง แจ้งเตือนข้อความ ก็ควรต้องมีครบหากมีงบไม่จำกัด
- งบประมาณ: เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันนาฬิกาวิ่งมีราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท ดังนั้นการกำหนดงบประมาณก่อนเลือกซื้อก็จะทำให้เราตัดตัวเลือกได้ง่ายมากขึ้น
- ดีไซน์: เลือกดีไซน์ที่ชอบ ใช้งานสะดวก หากใส่ทั้งวันเป็นเวลานานๆ ก็ควรมีน้ำหนักเบาและสายนาฬิกาที่ให้สัมผัสนุ่มนวล
- แบรนด์: ควรเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ และมีการรับประกัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูล นาฬิกาวิ่ง (Running Watch) 2024 อย่างไรแล้ว ท้ายที่สุดก็แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีฟีเจอร์ครบและเหมาะกับการใช้งานของเราจะดีที่สุด อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ