10 มือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท จอใหญ่ กล้องสวย เกมลื่น แบตอึด ใช้ยาว ปี 2025

อยากได้มือถือใหม่แต่ไม่อยากจ่ายแพง มือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีให้เลือกหลากหลายรุ่นจากแบรนด์ดังมากมาย พร้อมสเปคที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอใหญ่ กล้องถ่ายรูปสวย เล่นเกมลื่น และแบตเตอรี่อึด ใช้ได้ยาว ปี 2025 ทีมงาน iphone-droid.net คัดรุ่นเด็ดมาให้แล้ว มาดูกันเลย

วิธีการเลือกซื้อมือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท

• งบประมาณ: กำหนดงบประมาณให้ชัดเจน เพื่อเลือกรุ่นที่ตรงใจและคุ้มค่าที่สุด
• ขนาดหน้าจอ: เลือกขนาดที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น เล่นเกม ดูหนัง หรือพกพา
• กล้อง: พิจารณาความละเอียดของกล้องหลังและกล้องหน้า ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น โหมดถ่ายภาพ
• แบตเตอรี่: เลือกแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน เพื่อไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ
• หน่วยความจำ: พิจารณา RAM และ ROM ให้เพียงพอต่อการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ

แนะนำมือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท น่าซื้อ น่าใช้

realme 13 5G

• รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 8,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)

realme 13 5G มือถือระดับกลางที่มอบประสบการณ์เทียบเคียงเรือธง ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6300 5G พร้อม GT Mode เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมเฟรมเรตแบบนิ่ง ๆ ที่ 60fps ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การปรับแต่งพลังงาน การเปิดเกมได้อย่างรวดเร็ว ตัวแทร็กสัญญาณ Wi-Fi และฟิลเตอร์ต่าง ๆ พร้อมจอแสดงผลแบบ Eye Comfort 120Hz ความละเอียด FHD+

realme 12+ 5G

• รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 9,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)
• รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 10,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)

realme 12+ 5G เป็นสมาร์ตโฟนชูความโดดเด่นในเรื่องกล้องถ่ายภาพบุคคลด้วยความละเอียด 50MP เป็นกล้องหลักทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 26 มม. มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7050 5G มีจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ทั้งยังให้แบตเตอรี่ขนาดความจุ 5,000 mAh และระบบการชาร์จไว SUPERVOOC 67W และการเป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมเทคโนโลยี Wet finger Touch

vivo Y200 5G

• รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 9,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)
• รุ่น RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 12,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)

vivo Y200 5G มาพร้อมมาตรฐานความทนทานที่หลากหลาย ทนต่อการตก ทนน้ำทนฝุ่น ได้แบบไม่ต้องกังวล ดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงามหรูหราอย่างในสีไฮไลท์ Titanium Silver ที่ดูพรีเมียมไม่ต่างจากรุ่นราคาหลายหมื่น กรอบเครื่อง Metallic High-Gloss ที่เลอค่า ได้ขนาดตัวเครื่องที่เบาและบาง ด้านสเปกก็ให้มาครบเครื่องตั้งแต่หน้าจอ AMOLED สว่างใส ชิปเซ็ต Snapdragon แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh พร้อมระบบชาร์จไว 80W FlashCharge

OPPO A3 Pro 5G

• รุ่น RAM 6GB + ROM 128GB ราคา 7,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)
• รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 9,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)

OPPO A3 Pro 5G มือถือที่มาพร้อมความทนทานและการปกป้องได้แบบ 360 องศา อัดแน่นด้วยระบบชาร์จเร็ว SUPERVOOC 45W กับแบตเตอรี่ 5100mAh อีกทั้งยังได้หน้าจอ 120Hz ตอบโจทย์ประสิทธิภาพการเล่นเกมไหลลื่น ระบบสัมผัสหน้าจอใช้งานได้แม้มือเปียกด้วย Splash Touch อีกทั้งยังสัญญาณเสถียร เชื่อมต่อไว ไม่มีสะดุดด้วย AI LinkBoost และดีไซน์พรีเมียมอีกด้วย

iQOO Z9x 5G

• รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 7,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)
• รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 8,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)
• รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 9,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)

iQOO Z9x 5G มือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท ตัวเครื่องบางเฉียบ 7.98 มม. กันน้ำกันฝุ่น IP64 มีดีไซน์โมดูลกล้องหลังแบบ Porthole เหมือนในรุ่น iQOO 12 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 SoC, แบตเตอรี่ 6,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 44W และกล้อง 50MP ส่วนหน้าจอแสดงผล 120Hz ขนาด 6.72 นิ้ว รันระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14

HONOR 200 Lite 5G

• รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 8,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)

HONOR 200 Lite 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ผ่านมาตรฐานกรองแสงสีฟ้าจาก TUV Rheinland ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6080 รันบน Android 14 ครอบทับด้วย MagicOS 8.0 มีกล้องหลัก หลัก 108MP และกล้องหน้า 50MP โดยแบตเตอรี่มีขนาด 4500mAh ชาร์จเร็ว 35W HONOR SuperCharge

Redmi Note 13 5G

• รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 7,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)
• รุ่น RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 9,999 บาท (เช็กราคาล่าสุด)

Redmi Note 13 5G เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ มาพร้อมกับกล้องหลักความละเอียด 108MP สามารถซูมแบบไม่สูญเสียคุณภาพที่ระยะ 3x มาพร้อมกับฟิลเตอร์กล้องฟิล์ม (film camera filters) ให้เลือกมากมายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งภาพถ่ายตามที่ต้องการได้ และใช้MediaTek Dimensity 6080 ส่วนแบตเตอรี่ให้มาขนาด 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 33W

Infinix Note 40 Pro+ 5G

• รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 11,999 บาท (เหลือ 9,999 บาท) (เช็กราคาล่าสุด)

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่สมราคาทั้งเรื่องสเปคและดีไซน์ รองรับการชาร์จเร็วระดับท็อปๆ การชาร์จไร้สายด้วย MagPad + MagCase สามารถชาร์จย้อนกลับได้ด้วย รวมถึงการชาร์จแบบ ByPass ที่ป้องกันระหว่างการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ใช้งานเร็วแรงด้วยชิป Dimensity 7020 5G มีกล้องหลังที่ถ่ายได้คมชัดสูงสุด 108MP มีลำโพงคู่ และยังมีไฟ Active Halo ที่เพิ่มความพิเศษเข้ามาได้อย่างลงตัวจริงๆ

HMD Fusion 5G

• รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 7,490 บาท (เช็กราคาล่าสุด)

HMD Fusion 5G มีความโดดเด่นด้านดีไซน์ด้วยชุดเครื่องมือ Smart Outfit2 ให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการปรับแต่งและซ่อมแซมได้ มาพร้อมกล้องหลัง 108MP และกล้องหน้า 50MP โดยภายในใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 4 Gen 2 มีหน้าจอ LCD HD+ 6.56 นิ้ว 90Hz และแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไวแบบมีสาย 33W และมีปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง

CMF Phone 1

• รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 7,599 บาท (เช็กราคาล่าสุด)
• รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 8,599 บาท (เช็กราคาล่าสุด)

CMF Phone 1 ฉีกแนวมือถือยุคนี้ด้วยการเพิ่มลูกเล่นปรับแต่งได้เอง ทั้งเปลี่ยนฝาหลัง หรือใส่ส่วนเสริมอื่น ๆ เข้าไปที่ด้านหลัง มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.67″ ความละเอียด FHD+ ความสว่างสูงสุด 2000nits มี Refresh rate 120Hz พร้อมกล้องหน้าแบบเจาะรูความละเอียด 16MP ชิปเซ็ตใช้เป็น Dimensity 7300 มีความจุสูงสุด 8GB+256GB แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 33W ระบบปฏิบัติการเป็น Android 14 (Nothing OS 2.6)

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อมือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท ในปี 2024 และใช้กันยาวๆ ไปถึงปี 2025 แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีฟีเจอร์ครบและเหมาะกับการใช้งานของเราจะดีที่สุด อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ