Xiaomi รุ่นไหนดี วิธีเลือกซื้อ รุ่นที่ดีที่สุด ในปี 2024

Xiaomi รุ่นไหนดี วิธีเลือกซื้อ รุ่นที่ดีที่สุด สำหรับการใช้งานและตอบโจทย์ผู้ใช้แต่ละคน โดยค่ายนี้ก็มีทั้ง Redmi series และ POCO series สำหรับใครกำลังมองหารุ่นที่มาพร้อมสเปคดีๆ ราคาประหยัด ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงรุ่นเรือธงที่มีสเปคจัดเต็มทุกด้าน เล่นเกมลื่น และแบตเตอรี่รองรับชาร์จเร็วสุดๆ วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว ในปี 2024

ในปี 2024 เราได้เห็น Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแฟล็กชิป Xiaomi 14 series ที่มีความโดดเด่นด้วยกล้องที่พัฒนาร่วมกับ Leica และสเปคจัดเต็ม อีกทั้งยังมี Redmi Note 13 series รวมไปถึงน้องใหม่ล่าสุดในตระกูล POCO โดยทั้งคู่ก็ยังชูจุดเด่นในเรื่องหน้าจอไหลลื่น กล้องคมชัด และรองรับชาร์จเร็วอีกด้วย

มือถือ Xiaomi น่าซื้อ น่าใช้ 2024

Xiaomi 14

Xiaomi 14 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS กล้องสามตัวที่ครอบคลุมประสบการณ์การถ่ายภาพในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ 14 มม. ถึง 75 มม. เลนส์ออปติคอล Leica Summilux พร้อมรูรับแสงขนาด f/1.6 แบตเตอรี่ 4610mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว HyperCharge 90W และการชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W

• หน้าจอ: 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1200 x 2670 พิกเซล, LTPO OLED, 68 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 14 ครอบทับด้วย HyperOS
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3
• GPU: Adreno 750
• RAM: 8GB/12GB/16GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.6
  • กล้อง Telephoto 50 ล้านพิกเซล f/2.0
  • กล้อง Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 4610mAh ชาร์จเร็ว 90W

Xiaomi 14 Ultra

Xiaomi รุ่นไหนดี ต้องบอกเลยว่าใครที่กำลังรอ Xiaomi 14 Ultra รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับการถ่ายภาพมืออาชีพ มาพร้อมกล้องระดับมืออาชีพสี่ตัวพร้อมช่วงโฟกัสอันน่าทึ่งตั้งแต่ 12 มม. ถึง 120 มม. มีหน้าจอแสดงผล AMOLED C8 WQHD+ ขนาด 6.73 นิ้ว ประสิทธิภาพจัดเต็มด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 และการออกแบบที่ล้ำสมัย มีความแข็งแกร่งด้วยโครงสร้างของ Xiaomi Guardian Structure

• หน้าจอ: 6.73 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล, LTPO AMOLED, 68 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 14 ครอบทับด้วย HyperOS
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3
• GPU: Adreno 750
• RAM: 12GB/16GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 4 ตัว:
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.6, f/4.0
  • กล้อง Periscope 50 ล้านพิกเซล f/2.5
  • กล้อง Telephoto 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • TOF 3D
• กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.0
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 90W

Redmi Note 13 Pro+ 5G

Redmi Note 13 Pro+ 5G มีจอหน้าแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด 1.5K อัตรารีเฟรช 120Hz ได้กล้องหลักความละเอียดสูง 200MP ทั้งยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7200 Ultra แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh และระบบไฮเปอร์ชาร์จ 120W

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1220 x 2712 พิกเซล OLED, 68 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 7200 Ultra
• GPU: Mali-G610 MC4
• RAM: 8GB/12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล f/1.7
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 120W

Redmi Note 13 5G

Xiaomi รุ่นไหนดี Redmi Note 13 5G ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ มาพร้อมกับกล้องหลักความละเอียด 108MP สามารถซูมแบบไม่สูญเสียคุณภาพที่ระยะ 3x มาพร้อมกับฟิลเตอร์กล้องฟิล์ม (film camera filters) ให้เลือกมากมายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งภาพถ่ายตามที่ต้องการได้ และใช้MediaTek Dimensity 6080 ส่วนแบตเตอรี่ให้มาขนาด 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 33W

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13, MIUI 14
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 6080
• GPU: Mali-G57 MC2
• RAM: 6GB/8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.4
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 33W

Redmi Note 13 4G

Redmi Note 13 4G เป็นรุ่นราคาประหยัดที่สุดที่มี DNA หลายอย่างมาจาก Note 13 series โดยมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ ใช้งานได้ลื่นไหล 120Hz อีกทั้งยังมีกล้องสามตัวพร้อมลำโพงสเตอริโอ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh พร้อมการชาร์จที่รวดเร็วเพียงพอ 33W

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13, MIUI 14
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 685
• GPU: Adreno 610
• RAM: 6GB/8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.4
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 33W

POCO X6 5G

POCO X6 5G สมาร์ทโฟนระดับกลางสำหรับผู้ใช้ Gen Z สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดได้ทุกวันด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 7s Gen 2 รุ่นใหม่ล่าสุด มีหน้าจอ CrystalRes Flow AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว กล้องหลักความละเอียด 64MP พร้อม OIS คุณภาพระดับเรือธง และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,100 mAh รองรับการชาร์จแบบเทอร์โบ 67W

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1220 x 2712 พิกเซล OLED, 68 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2
• GPU: Adreno 710
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5100mAh ชาร์จเร็ว 67W

POCO X6 Pro 5G

POCO X6 Pro 5G เป็นตัวเลือกที่น่านใจไม่น้อยสำหรับใครที่กำลังมองหา Xiaomi รุ่นไหนดี รุ่นนี้มาพร้อมชิปเซ็ต Dimensity 8300 Ultra มี WildBoost Optimization 2.0 ที่อัปเกรดแล้วเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่รวดเร็วและลื่นไหลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย มีกล้องหลักความละเอียด 64MP และหน้าจอ CrystalRes Flow AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1220 x 2712 พิกเซล OLED, 68 พันล้านสี, 120Hz, Dolby Vision
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13, MIUI 14
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 8300 Ultra
• GPU: Mali G615-MC6
• RAM: 12GB
• ความจุเครื่อง: 512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.7
  • กล้อง Ultra-wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.4
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 67W

POCO M6 Pro 4G

POCO M6 Pro 4G สมาร์ทโฟนรุ่นแรกในซีรีย์ที่ใช้หน้าจอแสดงผล Flow AMOLED 120Hz และมีขอบจอบางเฉียบ มาพร้อมกล้องสามตัวที่ได้รับการอัปเกรดความละเอียดเป็น 64MP ใช้ชิปเซ็ต Helio G99 Ultra และการชาร์จยังเร็วกว่าที่เคยด้วยการชาร์จเทอร์โบ 67W อีกด้วย

• หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13, MIUI 14
• ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G99 Ultra
• GPU: Mali-G57 MC2
• RAM: 8GB/12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f/2.5
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 67W

วิธีเลือกซื้อ มือถือ Xiaomi รุ่นไหนดี

1. ประสิทธิภาพ: หากต้องการใช้งานได้ได้อย่างไม่ติดขัด ไม่ว่านจะเล่นโซเชียล ถ่ายรูป เล่นเกม ก็ควรเลือกมือถือที่มี RAM 6GB ขึ้นไป เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน
2. ตัวเครื่อง: เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายคนอาจมองข้ามในตอนแรก แต่หลังจากใช้งานแล้วก็มองว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการกันน้ำ และการเลือกขนาดที่เหมาะกับขนาดมือ ก็จะทำให้การจับถือใช้งานนานๆ แล้วไม่เมื่อยด้วย
3. กล้องถ่ายรูป: สิ่งที่ขนาดไม่ได้ในสมาร์ทโฟนเลยก็คือเรื่องกล้องถ่ายรูป นอกจากจะต้องมีความละเอียด มีเลนส์ครบทุกตัวแล้ว ระบบกันสั่น OIS ก็เป็นสิ่งที่ควรต้องมี เพื่อให้การถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอนั้นคมชัด ไม่เบลอ
4. หน้าจอแสดงผล: สำหรับการใช้งานที่เน้นความบันเทิงผ่านหน้าจอเป็นหลัก เช่น ดูหนัง ดูคลิป เล่นโซเชียล ก็ต้องเลือกรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ โดยแผงหน้าจอ AMOLED ก็จะมีสันสันที่สวยงาม
5. กราฟิกและเกม: สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ออกมาเพื่อการเล่นเกมทั่วไปได้อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการเล่นเกมกราฟิกสูงๆ ก็อาจมองหาชิปเซ็ตระดับกลางขึ้นไป รวมไปถึงหน้าจอที่มีรีเฟรชเรท 90Hz ก็จะทำให้การแสดงผลต่างๆ มีความลื่นไหลมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอก็จะเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

Xiaomi 14 series เป็นเรือธงที่ดีที่สุดของ Xiaomi ในตอนนี้ที่กำลังจะเข้ามาเปิดตัวและวางจำหน่ายจำหน่ายในไทย ซึ่งเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับผู้ใช้ที่เน้นประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด แต่หากไม่ต้องการจ่ายในราคาที่แพงจนเกินไป ในรุ่น Xiaomi 13T series ก็ตอบโจทย์การใช้งานระดับแฟล็กชิปเช่นเดียวกัน ได้ฟีเจอร์ระดับเรือธงในราคาที่ถูกลง

นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่น Redmi Note 13 series ใหม่ล่าสุด หรือ POCO X6 series ที่ได้หน้าจอลื่น รองรับชาร์จเร็ว พร้อมแบตเตอรี่ใหญ่ นอกจากนี้ยังได้กล้องหลัก AI ความละเอียดสูงอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูล มือถือ Xiaomi รุ่นไหนดี ในปี 2024 แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีฟีเจอร์ครบและเหมาะกับการใช้งานของเราจะดีที่สุด อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ