Connect with us

ข่าวประชาสัมพันธ์

เปิดตัว Canon EOS R3 ที่สุดแห่งเทคโนโลยีบนกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม พร้อมเลนส์ RF ใหม่

Published

on

Canon EOS R3  ที่สุดของเทคโนโลยีในตระกูล EOS R พร้อมฟังก์ชันใหม่อันน่าทึ่ง อาทิ ระบบออโต้โฟกัสควบคุมด้วยดวงตา การถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 30 เฟรมต่อวินาที และการตรวจจับยานพาหนะ

RF100-400mm f/5.6-8 IS USM เลนส์ซูมระยะ 100-400 มม. เข้าใกล้ทุกการแอคชันได้มากขึ้น พร้อมด้วย RF16mm f/2.8 STM เลนส์ไพรม์มุมกว้างพิเศษให้เติมแต่งมุมมองการถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใคร

แคนนอน ประกาศเปิดตัว Canon EOS R3  กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมสุดล้ำ ด้วยประสิทธิภาพและเทคโนโลยีภายใต้กล้องในตระกูล Canon EOS R โดยใช้เซนเซอร์ Stacked CMOS ใหม่ (ความละเอียด 24.1 ล้านพิกเซลโดยประมาณ) ทำงานแบบการสะท้อนแสงกลับที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ อาทิ ระบบออโต้โฟกัสควบคุมด้วยดวงตา (Eye Control AF) และการบันทึกภาพเคลื่อนไหวความคมชัดสูงระดับ 6K 60p RAW หรือ 4K 120p 10-บิตได้ พร้อมทั้งเปิดตัวเลนส์ RF100-400mm f/5.6-8 IS USM และ RF16mm f/2.8 STM เพื่อเพิ่มทางเลือกในการสร้างสรรค์ให้ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพในระบบ EOS R System ในราคาที่เป็นมิตร

อิมาซากะ ไดโดะ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดระดับภูมิภาค กลุ่มผลิตภัณฑ์ ICP  แคนนอน สิงคโปร์ กล่าวว่า Canon EOS R3  นับเป็นสุดยอดกล้องในระบบ EOS R System ที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำที่สุดของแคนนอน ซึ่งถูกพัฒนาเพื่อเป็นกล้องสำหรับช่างภาพมืออาชีพและและผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพระดับจริงจัง ด้วยประสิทธิภาพในการถ่ายภาพด้วยความเร็วสูง การจับภาพวัตถุในที่แสงน้อย ความสามารถในการติดตามและจดจำขั้นสูงสำหรับการถ่ายภาพที่หลากหลาย เช่น การถ่ายภาพกีฬาและสัตว์ป่า นอกจากนี้ แคนนอนยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เลนส์ RF อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบโจทย์ช่างภาพได้มีทางเลือกเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย เลนส์ RF100-400mm f/5.6-8 IS USM และ RF16mm f/2.8 STM ถูกรังสรรมาให้มีราคาที่ผู้ใช้เข้าถึงได้และใช้งานได้จริง โดยไม่ลดทอนคุณภาพในการถ่ายภาพ

Canon EOS R3  นิยามใหม่แห่งความเร็วและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

เซนเซอร์ Stacked CMOS โดยใช้การสะท้อนแสงกลับ มาพร้อมชิปประมวลผลภาพ DIGIC X

เซนเซอร์ Stacked CMOS โดยใช้การสะท้อนแสงกลับ ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ โดยมีความละเอียด 24.1 ล้านพิกเซล ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบกับ Canon EOS-1DX Mark III และ Canon EOS R6 นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Canon EOS 5D Mark IV ที่มีความละเอียด 30.4 ล้านพิกเซล สำหรับกล้อง Canon EOS R3  มาพร้อมกับชิปประมวลผลภาพ DIGIC X ที่สามารถประมวลผลภาพด้วยความเร็วสูง ซึ่งทำให้กล้องรุ่นนี้อัดแน่นด้วยฟีเจอร์อันล้ำสมัยและเป็นกล้องมิเรอร์เลสที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตระกูล Canon EOS โดยมีจุดเด่นด้านความรวดเร็วและความแม่นยำในการจับภาพ จึงทำให้บันทึกภาพและวิดีโอออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพความเร็วสูง

อิเล็กทรอนิกส์ชัตเตอร์และแมคคานิกชัตเตอร์ของ  Canon EOS R3  ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 30 เฟรมต่อวินาที และ 12 เฟรมต่อวินาที ตามลำดับ พร้อมการติดตามออโต้โฟกัสวัตถุและวัดแสงอัตโนมัติ (AF/AE Tracking) และยังได้รับการออกแบบให้มีความเร็วชัตเตอร์สูงถึง 1/64,000 วินาที เมื่อใช้โหมดอิเล็กทรอนิกส์ชัตเตอร์ ทำให้จับภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง หรือใช้ร่วมกับเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างจะสามารถทำงานในที่สภาพแสดงน้อยได้ดี นอกจากนี้ Canon EOS R3  ยังมาพร้อมกับช่องใส่การ์ดคู่สำหรับการ์ด CFExpress (Type-B) ที่อ่านข้อมูลด้วยความเร็วสูงและเชื่อถือได้ และการ์ด SD (UHS-II) ซึ่งช่วยให้บันทึกข้อมูลภาพได้อย่างรวดเร็ว โดยทำงานควบคู่กับความสามารถในการประมวลผลด้วยความเร็วสูงอย่าไม่น่าเชื่อของชิปประมวลผลภาพ DIGIC X ทำให้เข้าถึงเมนูต่างๆ และเปลี่ยนการตั้งค่าได้ในขณะที่กำลังบันทึกข้อมูลลงในบนการ์ด

คุณภาพที่เหนือกว่าของภาพถ่ายและวิดีโอ

สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง กล้อง  Canon EOS R3  มีค่าความไวแสงเริ่มต้นที่ 100 ถึง 102,400 (ขยายได้ถึง 204,800)  และสำหรับการถ่ายวิดีโอมีค่าความไวแสงที่ 100 ถึง 25,600 (ขยายได้ถึง 102,400) จากประสิทธิภาพในการอ่านข้อมูลด้วยความเร็วสูงของเซนเซอร์ Stacked CMOS ทำให้ลดการผิดเพี้ยนและความบิดเบี้ยวจากการถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็ว (Rolling Shutter Distortion) ช่วยในการถ่ายภาพกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็วหรือการแพนกล้องอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังบันทึกภาพในรูปแบบไฟล์ HEIF ที่มีความละเอียดของสีที่ 10-บิต ซึ่งสามารถแปลงไฟล์ HEIF ให้เป็นภาพ JPEG ที่มีลักษณะเหมือน HDR PQ ได้ภายในตัวกล้อง ทำให้เห็นรายละเอียดในส่วนไฮไลต์และเงาได้มากขึ้น และด้วยโหมด HDR นี้ผู้ใช้จะได้ไฟล์ HEIF ที่มีไดนามิกเรนจ์กว้างขึ้นจากการรวมไฟล์ HEIF 3 ภาพ ภายในเวลา 0.02 วินาที ซึ่งทำให้การถ่ายภาพ HDR ด้วยมือเปล่าเป็นเรื่องง่าย

นอกจากนี้ กล้อง  Canon EOS R3  ยังมีฟีเจอร์เหมือนกับ EOS R5 และ R6 ในส่วนของระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว (In-Body IS) สูงสุด 5.5 สต็อป และเมื่อใช้งานคู่กับเลนส์ RF จะได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 8 สต็อป ทำให้สามารถถ่ายภาพโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องได้ง่ายดายขึ้น พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่ตอบสนองความต้องการในการผลิตภาพยนตร์ที่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวที่ให้มุมมองแบบฟูลเฟรมขนาด 6K 60p RAW หรือ 4K 120p 10-บิต สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการวิดีโอคุณภาพที่ดีที่สุดสามารถบันทึกไฟล์ที่ขนาด 4K 60p (จาก 6K oversampling) เลือกบันทึกไฟล์ได้ทั้งแบบ Canon Log 3 และ HDR PQ ซึ่งให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับกระบวนการหลังการผลิตได้หลายรูปแบบ

โฟกัสอัจฉริยะและแม่นยำ

 Canon EOS R3  นับเป็นกล้องดิจิทัลตัวแรกของแคนนอนที่มีฟังก์ชันการควบคุมออโต้โฟกัสด้วยดวงตา (Eye Control AF) หลังจากกล้อง Canon EOS 7s เปิดตัวในปี 2004 ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จะทำการเลือกกรอบออโต้โฟกัสโดยการตรวจจับการเคลื่อนไหวของม่านตาของผู้ใช้ขณะถ่ายภาพนิ่ง มาพร้อม LED และเซนเซอร์หลายตัวภายในช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อทำให้สามารถโฟกัสภาพได้อย่างรวดเร็วเมื่อต้องการเปลี่ยนโฟกัสไปยังวัตถุใหม่โดยไม่จำเป็นต้องกดปุ่มและใช้ปุ่มควบคุม โดยเฉพาะการถ่ายภาพกีฬาแข่งรถและวัตถุที่เคลื่อนที่เร็ว

สำหรับระบบออโต้โฟกัสติดตามดวงตา (Eye Detection AF) ในกล้องรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก โดยกล้องสามารถโฟกัสที่ดวงตาได้แม้ใบหน้าจะถูกบดบังบางส่วน  นอกจากนี้ในระบบออโต้โฟกัสติดตามศีรษะ (Head Detection AF) ยังมีการพัฒนาให้ดีขึ้นเช่นกัน เมื่อนักกีฬาสวมหมวกนิรภัยหรือแว่นตาก็ยังคงสามารถโฟกัสได้อย่างมั่นใจในการถ่ายภาพกีฬาความเร็วสูง

อีกทั้งยังมีการเพิ่มระบบออโต้โฟกัสติดตามยานพาหนะ (Vehicle Priority AF) แบบใหม่ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับช่างภาพมอเตอร์สปอร์ต โดยระบบโฟกัสนี้สามารถตรวจจับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้อย่างแม่นยำ ตลอดจนสามารถตรวจจับหมวกกันน็อคของคนขับได้เมื่อเปิดการใช้งานการติดตามเฉพาะจุด อีกหนึ่งคุณสมบัติอันทรงพลังที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างเซนเซอร์ใหม่และชิปประมวลผลภาพ DIGIC X คือการติดตามที่แม่นยำมากขึ้น โดยสามารถคำนวณและติดตามออโต้โฟกัสได้สูงสุด 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งถือเป็นความสามารถที่มากกว่า Canon EOS-1DX Mark III และ Canon EOS R5 ถึงสามเท่า ทำให้ง่ายต่อการติดตามวัตถุที่เลี้ยวและเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว เช่น นักสกีหรือนักกีฬามอเตอร์สปอร์ต และด้วยขีดจำกัดของออโต้โฟกัสในการถ่ายภาพที่แสงน้อยได้ถึง EV-7.5 ทำให้สามารถโฟกัสวัตถุในสภาพแวดล้อมที่มืดสนิทจนสายตามนุษย์ยากที่จะมองเห็น

การเชื่อมต่ออันไร้ที่ติสำหรับ Swift Transfer

ในบรรดากล้องแคนนอนทุกรุ่น  Canon EOS R3  นับว่ามีคุณสมบัติการเชื่อมต่อที่ดีที่สุด ซึ่งมีทั้ง Bluetooth  Wi-Fi และ GPS เป็นโหมดมาตรฐานในตัวกล้อง นอกจากนี้ ยังมี Wi-Fi สองคลื่นความถี่ที่รองรับ FTP และ FTPS พร้อมด้วย WPA3 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสำหรับช่างภาพสื่อมวลชน การเชื่อมต่อผ่านสาย LAN ช่วยให้ถ่ายโอนไฟล์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ FTP FTPS หรือ SFTP ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งความสามารถทั้งหมดนี้ทำได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม พร้อมกันนี้ แคนนอนยังมีแอปพลิเคชันมือถือ Mobile File Transfer ที่รองรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ 5G เพื่อการถ่ายโอนรูปภาพจากกล้องไปยังสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็วสามารถใช้งานผ่านสาย USB และถ่ายโอนรูปภาพจากจุดที่ถ่ายภาพไปยังเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลได้รวดเร็ว

ความทนทานและการใช้งาน

 Canon EOS R3  ตอบสนองการใช้งานระดับมืออาชีพด้วยการซีลป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ ตลอดจนมีชัตเตอร์ที่ทนทานเช่นเดียวกับ Canon EOS-1DX Mark III โดยกล้องมาพร้อมหน้าจอแอลซีดีระบบสัมผัสแบบปรับหมุนได้ขนาด 3.2 นิ้ว (3:2) เป็นครั้งแรก พร้อมความละเอียดประมาณ 4.15 ล้านจุด ซึ่งสูงที่สุดที่กล้องแคนนอนเคยมีมา นอกจากนี้แคนนอนยังได้พัฒนาช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์แบบ OLED ใหม่ที่มีความละเอียด 5.76 ล้านจุด ด้วยอัตรารีเฟรชเรตที่สูงถึง 120 เฟรมต่อวินาที  และไม่เพียงทำให้การแพนกล้องสบายตาเท่านั้น แต่ช่วยลดเวลาหน่วงระหว่างการถ่ายภาพต่อเนื่องอีกด้วย อีกทั้งยังมีปุ่มควบคุมอัจฉริยะ (Smart Controller) แบบเดียวกับที่เปิดตัวครั้งแรกในกล้อง Canon EOS-1DX Mark III ทำให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนตำแหน่งโฟกัสไปรอบๆ ได้อย่างรวดเร็วเป็นสองเท่าของปุ่ม AF-ON

พร้อมกันนี้  Canon EOS R3  สามารถใช้งานได้กับชุดแบตเตอรี่ความจุสูง รุ่น LP-E19 ซึ่งช่างภาพสามารถถ่ายภาพได้ทั้งวันด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียวได้อย่างมั่นใจ และสามารถชาร์จแบตเตอรี่จากแบตเตอรี่สำรองที่รองรับ Power Delivery (PD) ผ่านสาย USB-C ที่เข้ากันได้ ในส่วนของบอดี้ที่ดูสง่างามและยิ่งใหญ่ แต่กล้องรุ่นนี้มีขนาดที่เล็กกว่ากล้อง Canon EOS-1DX Mark III ถึง 15% และน้ำหนักเบากว่าถึง 30% (ตามมาตรฐาน CIPA) ด้วยน้ำหนัก 822 กรัม (เฉพาะตัวกล้อง) ซึ่ง  Canon EOS R3  มีน้ำหนักที่เบากว่า Canon EOS 5DS เช่นกัน

อุปกรณ์เสริมมัลติฟังก์ชันรูปแบบใหม่

 Canon EOS R3  เพิ่มฟังก์ชันการทำงานนอกเหนือจากการถ่ายภาพโดยใช้แฟลช ด้วยชุดอุปกรณ์เสริมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกัน ประกอบด้วย

·        ไมโครโฟนสเตอริโอแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ รุ่น DM-E1D ที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบอนาล็อกเหมือนรุ่น DM-E1 นอกจากจะสามารถบันทึกเสียงดิจิทัลโดยตรงได้แล้ว ยังมีการออกแบบให้ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่และสายเคเบิลอีกด้วย โดยการส่งข้อมูลเสียงและจ่ายไฟผ่านช่องแฟลชมัลติฟังก์ชันจากกล้อง และมีปุ่มเมนูบนไมโครโฟนเพื่อช่วยให้เข้าถึงโหมดตั้งค่าการใช้งานภายในเมนูกล้องได้สะดวกรวดเร็ว

·     Speedlite Transmitter ST-E10 รุ่นใหม่ที่ทำงานคล้ายกับรุ่น ST-E3-RT ซึ่งออกแบบให้ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่และมีปุ่มที่เข้าถึงเมนูได้รวดเร็วเหมือนกับ DM-E1D มีความโดดเด่นอยู่ที่การออกแบบอันกะทัดรัดและมีน้ำหนักลดลง 56% เมื่อเทียบกับรุ่น ST-E3-RT

·        อะแดปเตอร์ช่องแฟลชมัลติฟังก์ชัน รุ่น AD-E1 ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้กล้อง  Canon EOS R3  สามารถใช้กับแฟลช Speedlite รุ่นที่มีซีลป้องกันฝุ่นและละอองหยดน้ำได้ ตัวอย่างเช่น แฟลช Speedlite รุ่น EL-1 และตระกูล 600EX อย่างไรก็ตาม แฟลช Speedlite ที่ไม่มีการออกแบบมาเพื่อป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ อาทิ แฟลชตระกุล 430EX และ 270EX สามารถติดตั้งกับ  Canon EOS R3  ได้โดยตรง

·        อแดปเตอร์ Smartphone Link AD-P1 เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับติดตั้งสมาร์ทโฟนเข้ากับช่องมัลติฟังก์ชันของ  Canon EOS R3  โดยสาย USB จะช่วยให้ถ่ายโอนภาพและวิดีโอจากกล้องไปยังสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็ว ด้วยแอปพลิเคชันมือถือ Mobile File Transfer ทำให้ช่างภาพสามารถถ่ายโอนภาพความละเอียดสูงเหล่านี้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ FTP ที่อยู่ระยะไกลผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ 5G และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของช่างภาพในภาคสนามได้เป็นอย่างมาก

ขยายทุกขอบเขตการสร้างสรรค์ด้วยเลนส์ RF ใหม่

เล็กกว่า เบากว่า และดียิ่งขึ้น

ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่และระยะท้ายเลนส์สั้นของเมาท์ RF ในระบบ EOS R Systemทำให้เลนส์ทั้งสองรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงให้ประสิทธิภาพด้านออพติคได้อย่างไร้ที่ติ ทำให้ได้คุณภาพของภาพที่คมยันขอบทั่วทั้งภาพ

สำหรับ RF100-400mm f/5.6-8 IS USM เป็นเลนส์เทเลโฟโต้ที่มีช่วงซูมสูงสุด 400 มม. มาพร้อมความกะทัดรัดของกระบอกเลนส์ที่มีความยาวน้อยกว่า 170 มม. ทำให้ผู้ใช้สามารถพกพาได้สะดวก ด้วยน้ำหนักประมาณ 635 กรัม ถือเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ที่มีราคาเป็นมิตรอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับลูกค้า ซึ่งเบากว่า RF24-105mm f/4L IS USM อีกทั้งยังมีขนาดใกล้เคียงกับ EF70-300mm f/4.5-5.6 IS II USM แต่มีทางยาวโฟกัสช่วงเทเลโฟโต้มากกว่าถึง 100 มม. มาพร้อมมอเตอร์ Nano USM ทำให้ RF100-400mm f/5.6-8 IS USM สามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นตลอดช่วงการซูม ไม่ว่าจะเป็นการภาพนิ่งหรือวิดีโอ ซึ่งถือเป็นเลนส์เริ่มต้นอันยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่สนใจในการถ่ายภาพนกและสัตว์ป่า

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ Extender RF1.4x หรือ RF 2x เพื่อเพิ่มทางยาวโฟกัสเป็น 1.4 หรือ 2 เท่า เมื่อใช้ร่วมกับกล้องมิเรอร์เลสน้ำหนักเบาของแคนนอน ช่างภาพสามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพด้วยช่วงเทเลโฟโต้สูงสุด 800 มม. และสามารถเดินป่าได้ระยะทางไกลหรือถือถ่ายด้วยมือเปล่าได้อย่างสะดวกสบาย

สำหรับเลนส์มุมกว้างพิเศษที่มีรูรับแสงกว้าง f/2.8 โดยปกติจะมีราคาสูง แต่เลนส์ RF16mm f/2.8 STM นับเป็นเลนส์ที่มีราคาเข้าถึงได้ โดยอีกคุณสมบัติที่โดดเด่นของ RF16mm f/2.8 STM อยู่ที่การออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด ด้วยความสูงเพียง 40.2 มม. และน้ำหนักประมาณ 165 กรัม จึงทำให้ไม่ค่อยกินพื้นที่ในกระเป๋ากล้อง ซึ่งเลนส์นี้จะมีรูปร่างที่คล้ายคลึงกับเลนส์ RF50mm f1.8 STM

เปิดมุมมองแห่งการสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่

ด้วยระยะโฟกัสใกล้สุดเพียง 1.05 ม. (ที่ 400 มม.) มีอัตราขยายสูงสุด 0.41 เท่า ทำให้ RF100-400mm f/5.6-8 IS USM เหมาะสำหรับการถ่ายภาพดอกไม้และสิ่งมีชีวิตเล็กๆ โดยดึงเอาเอฟเฟกต์การดึงระยะเลนส์และโบเก้ที่ดีที่สุดของเลนส์เทเลโฟโต้ออกมา โดยเลนส์นี้มาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5.5 สต็อป และระบบป้องกันภาพสั่นไหวจะเพิ่มขึ้นถึง 6 สต็อป เมื่อใช้งานร่วมกับกล้องที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว (In-Body IS) ซึ่งช่วยลดการสั่นของกล้องได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้ภาพที่คมชัดแม้ถ่ายภาพในระยะเทเลโฟโต้ที่ 400 มม.

สำหรับเลนส์ RF16mm f/2.8 STM ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพอันทรงพลังโดยการปรับมุมมองเพื่อถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ใกล้ให้ดูใหญ่ขึ้นหรือให้เล็กลงเหมือนเทียบกับวัตถุที่อยู่ห่างไกลได้เช่นกัน จากเอฟเฟกต์การบิดเบือนของเลนส์มุมกว้างพิเศษเมื่อเราเข้าใกล้วัตถุมากขึ้น (เช่น สัตว์และเด็ก) จะทำให้ภาพที่ได้ดูแปลกตา โดยเลนส์มุมกว้างพิเศษ RF16mm f/2.8 STM ยังครอบคลุมมุมมองภาพแนวทแยง 110 องศา ทำให้สะดวกต่อการถ่ายเซลฟี่ที่ต้องการเก็บภาพคนจำนวนมาก การถ่ายวิดีโอสำหรับใช้ในโซเชียลมีเดีย และถ่ายภาพในที่แคบ นอกจากนี้ความกว้างของรูรับแสงที่ f2.8 ไม่เพียงแค่สร้างโบเก้ที่สวยงาม แต่ยังเป็นเลนส์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพดาราศาสตร์ได้เช่นกัน

สนใจดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://th.canon/th/consumer และบนเฟสบุ๊คทางการของแคนนอน https://www.facebook.com/Canon.thailand/ หรือติดต่อ Call Center โทร 0-2344-9988

Advertisement
Smart Review29 นาที ago

รีวิว OPPO Find X8 Series “มาตรฐานระดับแฟล็กชิปที่เหนือกว่า” ด้วยชิป MediaTek Dimensity 9400 | กล้อง Hasselblad ซูมเด่นที่สุดด้วย AI Telescope Zoom | AI ทรงพลัง

รีวิว OPPO Find X8 แ...

IT News2 ชั่วโมง ago

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16 – 22 พ.ย. 67

ข่าวเด่นช่วงระหว่างว...

The first Nintendo Authorized Store by SYNNEX in Southeast Asia is now open The first Nintendo Authorized Store by SYNNEX in Southeast Asia is now open
ข่าวประชาสัมพันธ์2 ชั่วโมง ago

เปิดแล้ว Nintendo Authorized Store by SYNNEX แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซินเน็ค จับมือคอปเปอ...

NT GSB NT GSB
ข่าวประชาสัมพันธ์3 ชั่วโมง ago

NT อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าธนาคารออมสินใช้งานแอป MyMo ไม่เสียค่าเน็ตผ่าน 2 เครือข่ายมือถือ

NT อำนวยความสะดวกลูก...

AIS 5G strengthens its leadership with SEA COVERAGE, spanning both sides of the Thai sea AIS 5G strengthens its leadership with SEA COVERAGE, spanning both sides of the Thai sea
ข่าวประชาสัมพันธ์3 ชั่วโมง ago

AIS 5G โชว์แกร่งโครงข่ายที่ 1 ตัวจริง SEA COVERAGE ครอบคลุม 2 ฝั่งทะเลไทย

AIS 5G โชว์แกร่งโครง...

Bangkok Illustration Fair 2024 Bangkok Illustration Fair 2024
Apple News3 ชั่วโมง ago

Apple ร่วมกับ Bangkok Illustration Fair 2024 จัด Today at Apple เซสชั่นพิเศษ ที่ Central World เรียนรู้เทคนิควาดภาพบน iPad กับ 2 ศิลปินมากความสามารถ

Today at Apple ร่วมเ...

IT News3 ชั่วโมง ago

เปิดจอง Sony Alpha 1 II พร้อมเลนส์ฟูลเฟรม G Master รุ่น SEL2870GM

โซนี่ไทยเปิดจองกล้อง...

JBL TOUR PRO 3 JBL TOUR PRO 3
Wearable3 ชั่วโมง ago

ใหม่ JBL TOUR PRO 3 เปิดประสบการณ์เสียง ในแบบที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อนพร้อมยกระดับความบันเทิงของคุณไปอีกขั้น

JBL Tour Pro 3 หูฟัง...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก