Smart Review
รีวิวการเล่นเกม Death Stranding Director’s Cut พร้อมเปิดให้โหลดแล้วบน App Store วันนี้
ในตอนนี้เกม Death Stranding Director’s Cut ได้เปิดให้เล่นบน iPhone l iPad l Mac ที่รองรับไปแล้ว ในตอนนี้ใครที่อยากจะซื้อมาลองเล่นก็สามารถโหลดได้แล้วผ่านทาง App Store ครับ และเราก็จะมารีวิวเกมนี้กับการเล่นบน iPad Air 5 ที่ใช้ชิป M1 พร้อม RAM 8GB กัน !!
เล่าเรื่องเกม Death Stranding Director’s Cut
สำหรับเกม Death Stranding Director’s Cut เป็นเกมจากผู้สร้างอย่างฮิเดโอะ โคจิมะที่ใช้การเล่าเรื่องแบบผสมผสาน มาถึงส่วนขยายเพิ่มเติมฉบับไดเรคเตอร์คัท (Director’s Cut) โดยตัวเกมเล่าถึงเวลาในอนาคตกับเหตุการณ์พิศวงที่เรียกกันว่า Death Stranding ที่ได้เปิดประตูระหว่างโลกแห่งความเป็นและความตาย ทำให้สัตว์ร้ายอันแสนน่ากลัวจากโลกหลังความตายมาเยือนโลกที่ล่มสลายที่ถูกทำลายด้วยสังคมที่รกร้าง โดยเราจะสวมบทบาทเป็น Sam Bridges ภารกิจของคุณคือการมอบความหวังให้แก่มนุษยชาติด้วยการติดต่อกับผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายของอเมริกาที่ถูกทำลายสิ้นไป คุณจะรวมโลกที่แหลกสลายกระจัดกระจายให้เป็นหนึ่งอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้หรือไม่
อุปกรณ์ที่รองรับ
- iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max หรือรุ่นที่ชิป A17 Pro ขึ้นไป
- iPad รุ่นที่ใช้ชิป M1 ขึ้นไป และมี iPadOS 17.0 หรือใหม่กว่า
- Mac รุ่นที่ใช้ชิป M1 ขึ้นไป และมี macOS 12 หรือใหม่กว่า
มาเริ่มเล่นกันเลย !!
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าใครที่โหลด Death Stranding Director’s Cut มาแล้วก็จะสามารถควบคุมได้ทั้งการเล่นผ่านหน้าจอเลยเหมือนเกมทั่วไป เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ถนัดแน่นอน แถมเกมนี้เป็นเกมฟอร์ยักษ์ระดับ AAA เราเลยขอเชื่อมต่อกับ Controller ของ PS5 อย่าง PlayStation 5 DualSense เพื่อความสะดวกในการเล่นครับ (หรือใครมีของ Xbox ก็สามารถเชื่อมต่อได้เหมือนกันนะ)
เปิดเกม Death Stranding Director’s Cut มาจะเจอกับ Cut Scene ที่เป็นฉากต่างๆ ของเกมบอกเลยว่าเมื่ออยู่ในหน้าจอของ iPad Air 5 ก็ทำได้คมชัด เรื่องแสงและเงา และรายละเอียดของภาพในเกมก็อยู่ในจุดที่ดีมากๆ กับการเล่นบนอุปกรณ์ที่ไม่ใช่เครื่องเล่นเกมโดยเฉพาะ แล้วแต่ละฉากที่ผ่านไปก็เป็นไปได้ไหลลื่น ไม่มีการกระตุกครับ
ช่วงแรกๆ ของเกมจะเป็นการแนะนำตัวละครต่างๆ ผู้รับบทจริงและผู้สร้างไว้เยอะพอสมควรตามสไตล์เกมปกติครับ โดยตัวกราฟิกของเกมนี้ตั้งแต่เริ่มเนื้อเรื่องที่เราได้รับบทเป็นตัวเอก Sam Porter Bridges ที่มี Cut Scene ในการหนีฝนกรดในช่วงแรก โดยที่ภารกิจหลักๆ จะเป็นการให้เราส่งพัสดุไปยังเมืองต่างๆ เพื่อเชื่อมต่อการติดต่อของประเทศเข้าด้วยกันตามเนื้อเรื่องหลักเลยครับ
ด้วยฉากขนาดใหญ่มากของเกม Death Stranding Director’s Cut เจ้าชิป M1 ก็ยังคงเอาอยู่ แต่ต้องบอกตามตรงว่าเรื่องเฟรมเรทน่าจะไม่คงที่ 30fps ตลอดเวลา (คิดว่าน่าจะเป็นที่ตัวเกมที่ยังมีบัคอยู่เล็กน้อยครับ) อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหว การเก็บของ การวิ่ง การปรับมุมกล้อง ฉากดำน้ำ หรือการกดสแกนพื้นที่ที่จะมีเอฟเฟ็กต์ขึ้นมาก็ลื่นๆ ไม่ได้เจอการกระตุกหรือมีอาการงอแงอะไร
Gameplay ที่สมจริงขั้นสุด
ตัวเกมในช่วงนี้จะเป็นการการสอนเบื้องต้นในการบอกว่าตัวละครสามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น กดปุ่ม L2 เพื่อหยิบของจากมือซ้าย / R2 หยิบด้วยมือขวา / L2+R2 เพื่อประคองสินค้าเพื่อไม่ให้หล่นหรือเกิดความเสียหาย หากตัวสิ่งของที่นำไปส่งแต่ละเมืองหรือแต่ละจุดเกิดความเสียหายขึ้นมาก็จะได้คะแนนที่ลดหลั่นลงมาเป็นเกรดต่างๆ (สูงสุดคือ “S” Awesome) หลังส่งพัสดุในภายหลังด้วยครับ
อีกหนึ่งความท้าทายของเกมนี้คือฉากแต่ละฉากจะค่อนข้างใหญ่มากๆ รวมถึงภูมิประเทศที่ยากต่อการเดินหรือวิ่งสุดๆ โดยที่ตัวละครมีโอกาสที่จะล้มหรือเกิดความเสียหายของพัสดุได้เลยหากเรารีบๆ ครับ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในความสมจริงของภูมิประเทศในเกม Death Stranding แถมยิ่งเก็บสิ่งของขึ้นมาเยอะ กล่องที่ด้านหลังก็จะยิ่งสูงขึ้นและควบคุมการเดิน/วิ่งได้ยากกว่าเดิมอีกเท่าตัวเลยทีเดียว
จะเห็นว่าภาพนี้เดินเซไปแล้วเพราะของด้านหลังจะหนักขึ้นตามที่บอกไปนั่นเอง แต่ก็สามารถกด L2+R2 พร้อมกันได้เพื่อให้ตัวละครจับสายสะพายของที่แบกอยู่เพื่อความสมดุลมากขึ้นครับ
มาถึงตอนส่งภารกิจแรกก็จะมีหน้าต่างให้เราเลือกสิ่งของเพื่อส่งให้ตามภารกิจเลย และกด Confirm ที่แถบด้านล่าง
ส่วนหน้าจอนี้จะเป็นการสรุปคะแนนเมื่อส่งพัสดุไปยังจุดต่างๆ แล้ว ซึ่งในบรรทัดที่ 3 ก็จะมีขึ้นค่าความเสียหายของสิ่งของเป็น % ด้วย หากเสียหายเยอะก็จะได้เกรดที่ลดลงมา แต่เราเล่นได้ “S AWESOME” ครับ
หลังจากนี้เรายังต้องเจอกับอุปสรรคระหว่างการส่งพัสดุอีกมายเลยครับ โดยเฉพาะกับกลุ่ม BT ที่จะไล่ล่าผู้เล่นเมื่ออยู่ในขอบเขตพื้นที่ของ BT ที่เราจะไม่เห็นรูปร่างชัดเจน แต่จะสังเกตได้เมื่อตัวสแกนที่ติดที่หลังของเรามีการกะพริบ โดยที่เราเลือกได้ทั้งการเดินอ้อมหรือจะกลั้นหายใจเพื่อฝ่าดง BT ไปเลยเพื่อความเร็วครับ รวมถึงแผนที่ในเกมที่ใหญ่มากๆ เวลาจะออกเดินทางส่งของแต่ละครั้งก็ต้องเลือกให้ดีว่าจะพกอะไรไปบ้าง เช่น บันไดปีนเขา และปืนเพื่อป้องกันตัว เพราะนอกจากของที่ต้องส่งแล้ว น้ำหนักในตัวก็มีขีดจำกัดด้วย
สรุปการเล่น Death Stranding Director’s Cut
จากที่ได้ลองเล่นไปหนึ่งภารกิจเต็มๆ บวกกับมี Cut Scene มาคั่นด้วย ก็ใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมงเต็มๆ บน iPad Air 5 ทำได้ดี ภาพสวย ไหลลื่น กราฟิกต่างๆ แสดงผลออกมาได้รวดเร็ว ไม่เจอเฟรมดรอปแบบกระชาก ถือว่าให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีเลยทีเดียวครับ และอีกเรื่องที่น่าจะน่าจะสนใจกันคือเรื่องความร้อนตัวเครื่องที่ได้ลองสัมผัสด้านหลังเครื่องก็พบว่าร้อนอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้สูงเกินไปจนจับไม่ได้ เป็นอาการร้อนแบบปกติเวลาเล่นเกมครับ
เล่นได้แล้วบน App Store
Death Stranding Director’s Cut นั้นเปิดให้ดาวน์โหลดบน App Store กันแล้วครับ โดยมีราคาอยู่ที่ 699 บาท ซึ่งสามารถซื้อครั้งเดียวและเล่นได้ครบทุกอุปกรณ์ที่เรามีและรองรับเลยครับ