เดลล์เปิดตัว Wyse 5060 ธิน ไคลอันท์ Quad Core กำลังแรงสูงเฉพาะสำหรับ Knowledge Workers

เดลล์ประกาศเปิดตัว Wyse 5060 ธิน ไคลอันท์ สมรรถนะสูง ประสิทธิภาพสูง ที่ช่วยให้การนำมาใช้งาน และการจัดการทำได้ง่ายขึ้น พร้อมให้ทางเลือกด้านการรักษาความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เติมเต็มพื้นที่การทำงานแบบเวอร์ชวลด้วยความสามารถในการทำงานร่วมกับซิทริกซ์ ไมโครซอฟท์ และวีเอ็มแวร์ ทั้งนี้ ด้วยการออกแบบมาเพื่อให้ knowledge worker ที่ต้องการการใช้งานเวอร์ชวล เดสค์ทอป สมรรถนะสูง และสนับสนุนโซลูชันการติดต่อสื่อสารแบบครบวงจร (unified communications) อาทิ Skype สำหรับธุรกิจ เครื่อง Wyse 5060 ธิน ไคลอันท์ให้ทั้งความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพ และระบบความปลอดภัย ที่องค์กรธุรกิจต้องการเพื่อสภาพแวดล้อมการทำงานรูปแบบคลาวด์พร้อมประสบการณ์การทำงานที่คนทำงานต้องการ

ด้วยจำนวนสิทธิบัตรทางนวัตกรรมมากกว่า 430 สิทธิบัตรในด้านคลาวด์ ไคลอันท์-คอมพิวติ้ง การออกแบบ การจัดการ และการรักษาความปลอดภัยบนธิน ไคลอันท์ เดลล์คือผู้เชี่ยวชาญในระบบไคลอันท์ เวอร์ชวลไลเซชัน และจัดอยู่ในระดับแนวหน้าในการช่วยให้ลูกค้าเดินเข้าสู่การเปลี่ยนรูปแบบการทำงานด้วยดิจิทัล (ดิจิทัล ทรานส์ฟอเมชัน) ด้วยสภาพแวดล้อมการทำงานแบบเวอร์ชวล ไม่ว่าจะจากระบบคลาวด์แบบไพรเวท พับลิค หรือไฮบริดก็ตาม เดลล์คือผู้นำในการผลักดันให้ค่าใช้จ่าย และความซับซ้อนในการทำเดสค์ทอปแบบเวอร์ชวลให้ลดลงขณะที่มอบสรรถนะในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น และทำให้เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นในการวางแผน การใช้งาน และดำเนินงานระบบ VDI

“ปัจจุบัน knowledge worker ต้องการเข้าถึงระบบที่ทรงพลัง ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมทั้งทูลส์ที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ทำงานร่วม และแชร์ข้อมูลในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย” สตีฟ ลาลลา รองประธานบริหารอาวุโส คอมเมอร์เชียล ไคลอันท์ ซอฟต์แวร์ &โซลูชันของเดลล์ กล่าว “Wyse 5060 ควอด คอร์ ธิน ไคลอันท์ใหม่นี้ให้สรรถนะ และความสามารถที่ knowledge worker ซึ่งทำงานในสภาพแวดล้อมเวอร์ชวล เดสค์ทอปต้องการ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง และความง่ายในการจัดการที่ทางฝั่งไอทีต้องการ”

Wyse 5060 thin client มาพร้อมกับโพรเซสเซอร์แบบควอด-คอร์ 2.4 กิกะเฮิร์ซของเอเอ็มดี ที่สนับสนุนระบบการทำงานที่สูงถึง 8 กิกะบิต RAM และ 64 กิกะบิต แฟลช ที่ให้สมรรถนะในการทำงานสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ฟีเจอร์อื่นๆ ประกอบด้วย

• ให้การสนับสนุนระบบปฏิบัติการในวงกว้าง: Wyse 5060 มาพร้อมตัวเลือกของระบบปฏิบัติการ เพื่อให้ลูกค้าสามารถออกแบบธิน ไคลอันท์ได้ตามความต้องการ ในการเปิดตัวครั้งนี้ ตัวเครื่องรุ่น 5060 สามารถซื้อหาได้พร้อมกับซอฟต์แวร์ Wyse ThinOS ที่เดลล์เป็นเจ้าของ หรือพร้อมกับ Windows Embedded Standard หรือ WES 7p และในช่วงต้นปี 2017 การอัพเกรดขึ้นสู่ Windows 10 IoT จะพร้อมออกสู่ตลาดเพื่อลูกค้าของ WES และในช่วงเดียวกัน เครื่องรุ่น 5060 จะออกสู่ตลาดพร้อมกับ Wyse ThinLinux เช่นเดียวกัน
• นวัตกรรมด้านการรักษาความปลอดภัย: เดลล์มอบระดับชั้นของความปลอดภัยภายในWyse 5060 thin client ไว้มากกว่าหนึ่งระดับ ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับชิพเซ็ทที่ฝัง Trusted Platform Module (TPM) ไว้ภายในพร้อมความสามารถในการรับรู้ว่าความสมบูรณ์เที่ยงตรงของระบบถูกทำให้ลดประสิทธิภาพลงหรือไม่ขณะเก็บรักษากุญแจการเข้ารหัส ใบรับรอง รวมถึงรหัสผ่านอย่างปลอดภัย ในการป้องกันที่ระดับซอฟต์แวร์ Wyse ThinOS คือระบบปฎิบัติการลดปริมาณไวรัส ที่มีความปลอดภัยอย่างสูงพร้อมด้วย APIs ที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์
• การเชื่อมต่อที่แข็งแกร่ง: เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานอย่างต่อเนื่องโดยไม่ติดขัด และเพื่อสนองตอบความต้องการด้านความสามารถในการทำงานให้กับกลุ่ม knowledge workers เครื่องธิน ไคลอันท์ยังรองรับจอทำงานขนาด 4K (3804×21160) และไห้ทางเลือกในการเชื่อมต่อที่หลากหลายด้วยพอร์ต USB 6 พอร์ต ซึ่งจำนวน 2 พอร์ตในนั้นเป็นพอร์ต USB 3.0 สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงความเร็วสูง ไปจนถึงช่องเสียบ DisplayPort 2 ช่อง ระบบเน็ตเวิร์กกิ้งทั้งแบบมีสาย และไร้สาย 802.11 a/b/g/n/ac
• ง่ายในการจัดการ: เดลล์นำเสนอชุดสมบูรณ์ของระบบดาต้าเซ็นเตอร์พร้อมแอพพลิเคชันทั้งแบบ on-premise และ off-premise พร้อมทางเลือกสำหรับซอฟต์แวร์การจัดการแบบอัตโนมัติ เพื่อส่งมอบความสามารถนการจัดการในระดับเอนเทอร์ไพรซ์ที่แข็งแกร่ง ที่สามารถเพิ่มขยายขีดความสามารถเพื่อรองรับจำนวนดีไวซ์ในจำนวนหลายหมื่นชิ้น ด้วยการจัดการผ่าน Wyse Device Manager ทีมงานด้านไอทีสามารถ streamline การปรับแต่งระบบทางไกล และนโยบายการจัดการองค์กร และอุปกรณ์ปลายทางต่างๆ ที่ผู้ใช้ครอบครอง ซึ่งรวมไปถึง ธิน ไคลอันท์ และ zero clients จนถึงดีไวซ์บนระบบปฏิบัติการ iOS และแอนดรอยด์ ผ่านการควบคุมจากจุดเดียว

เดลล์ Wyse 5060 thin client สามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ด้านเวอร์ชวลไลเซชันหลักๆ ได้ทั้งหมด รวมถึง Citrix XenDesktop Microsoft RDS และ VMware Horizon อีกทั้งยังสนับสนุน VMware Blast Extreme remote protocol บนเวอร์ชัน WES และ ThinLinux

ThinOS 8.3.1 มอบทางเลือกที่เหนือชั้นให้ในซิทริกซ์ zero client ให้กับลูกค้า

ลูกค้าของเดลล์ คลาวด์ ไคลอันท์-คอมพิวติ้ง มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นในการที่จะตัดสินใจว่าจะใช้โซลูชันธิน ไคลอันท์ภายในสภาพแวดล้อมการทำงานของซิทริกซ์ที่ไหน และอย่างไร ทั้งนี้ThinOS 8.3.1 Wyse thin clients สามารถนำมาใช้งานในรูปแบบของ zero client ภายในการติดตั้งซิทริกซ์ ลูกค้าของเดลล์หลายรายใช้ Wyse Xenith clients ในสภาพแวดล้อมการทำงานของซิทริกซ์ ทำให้สามารถใช้ธิน ไคลอันท์บน ThinOS ยุคหน้า (next generation) บนโครงสร้างพื้นฐานของ Xenith ที่มีอยู่เดิมโดยไม่สูญเสียความพิเศษ หรือความสามารถที่บ่งบอกถึงประสบการณ์การใช้งาน Citrix zero client ไป

สก็อต ไอย์เลอร์ รองประธานรรมการ และผู้จัดการทั่วไป เอเอ็มดี เอนเทอร์ไพรซ์ โซลูชัน กล่าวว่า “ด้วยการผสานความเร็วในการทำงาน ประสิทธิภาพ และพลังความสามารถล้วนๆ ของโพรเซสเซอร์ฝังตัวสมรรถนะสูงรุ่น จี-ซีรีย์ ควอด-คอร์ 2.4 กิกะเฮิร์ตซ์ของเรา เข้าไปไว้ในเครื่องธิน ไคลอันท์ Wyse 5060 เราช่วยเดลล์ในการส่งมอบโซลูชันไคลอันท์แบบเวอร์ชวลที่มีความปลอดภัย ง่ายต่อการจัดการ และสามารถยืดหยุ่นได้ให้กับองค์กรธุรกิจในวงกว้าง และจากการคาดหวังถึงทั้งวิดีโอความละเอียดสูง กราฟิคแบบไฮเอนด์ และระบบการสื่อสารแบบรวมศูนย์ (unified communications) เราจะประสานการทำงานร่วมกับเดลล์ในการส่งมอบประสบการณ์ที่ไม่ใครเทียบได้ในการใช้งาน และสร้างสรรค์คอนเทนท์ที่สมบูรณ์พร้อมบนเวอร์ชวล เดสค์ทอป”

คาลวิน ชู รองประธานกรรมการ การตลาดผลิตภัณฑ์ วินโดว์ แอพ ดีลิเวอรีย์ ซิทริกซ์ กล่าวว่า“ซิทริกซ์ และเดลล์ยังคงร่วมมือกันในการทำงาน เพื่อที่จะทำให้ลูกค้าของซิทริกซ์สามารถใช้งาน และดำเนินการ XenApp และ XenDesktop VDI รวมทั้งรักษาความปลอดภัยให้กับ  app delivery ได้ง่ายยิ่งขึ้นขณะส่งมอบประสบการณ์การใช้งานอันยอดเยี่ยมให้กับผู้ใช้ ทั้งนี้ Wyse ThinOS thin clients ทำหน้าที่เสมือนเป็น zero client ภายในสภาพแวดล้อมของซิทริกซ์ ช่วยให้ลูกค้าที่เชื่อมต่อกับระบบได้รับประสิทธิภาพสูงสุดของระบบไอทีขณะที่เสริมความแข็งแกร่งของการรักาความปลอดภัย และทำให้การทำงานสำเร็จเสร็จสิ้นเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น”

 ความพร้อมในการวางตลาด

Wyse 5060 thin client จะวางตลาดผ่านเดลล์ และเดลล์ พาร์ตเนอร์ไดเรค ในสหรัฐอเมริกา และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ตามที่ได้รับเลือก ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา