Apple News
อย่าซื้อ iPhone ตอนนี้ จนกว่า iPhone 13 จะเปิดตัว เพราะอะไร?
Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ทุกปี และในปีนี้คาดว่าจะได้เห็น iPhone 13 ซึ่งจะเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน Apple Event วันที่ 14 กันยายนนี้
นอกจากการอัปเกรดสเปคและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้กับ iPhone 13 แล้ว ราคาของ iPhone รุ่นเก่าก็จะมีการปรับลดราคาให้ถูกลงกว่าเดิมด้วย เหมือนเช่นในทุกๆ ปีที่ผ่านมา
หากยังจำกันได้ในปีที่แล้ว iPhone 12 เปิดตัว ก็ได้มีการปรับลดราคา iPhone 11 สูงถึง 2,800 บาท และได้ยกเลิกการวางจำหน่าย iPhone 11 Pro กับ iPhone 11 Pro Max ในขณะที่ iPhone XR ในปีที่แล้วลดราคาลงถึง 3,500 บาท
หลังจากเปิดตัว iPhone 13 (หรือ iPhone 12s) คาดว่า iPhone 12 ซึ่งจะกลายเป็นรุ่นเก่าก็จะมีการปรับราคาลดลงเช่นเดียวกัน ดังนั้นถ้าใครมีแผนจะซื้อรุ่นเก่า อดใจรอกันอีกสักเดือนสองเดือนก็จะได้ราคาที่ถูกลงแน่นอน!
ฟีเจอร์ใหม่ที่จะได้เห็นใน iPhone 13
① หน้าจอ 120Hz รอยบากเล็กลง
เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอยกันมานานและมีข่าวลือมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่เกิดขึ้นจริง จึงมีความเป็นไปได้ว่าในปีนี้ Apple จะมีการนำเทคโนโลยี ProMotion มาใช้งานตามที่ลือกันว่าจะรองรับอัตรารีเฟรช 120Hz และ iPhone 13 Series จะเป็นรุ่นแรกที่มีฟีเจอร์นี้
ตามรายงานอ้างข้อมูลจากบล็อกชื่อดังในญี่ปุ่น MacOtakara แหล่งข่าวที่เคยออกมาให้ข้อมูลหลุดเกี่ยวกับ iPhone ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการมาแล้วหลายรุ่น โดยในปีนี้ iPhone 13 จะยังคงมีดีไซน์ตัวเครื่องเหมือนเดิม หนาขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.26 มม. และจะลดขนาดรอยบากเนื่องจากมีการเปลี่ยนตำแหน่งของตัวรับสัญญาณด้านบน
② กล้องที่ดีกว่า
Apple ได้อัปเกรดกล้องครั้งใหญ่เลยกว่าได้ในปี 2020 แต่เราก็ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างการพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับเลนส์ Periscope ซึ่งล่าสุดพบว่าบริษัทมีการจดสิทธิบัตรในเรื่องนี้แล้ว ก็ต้องรอลุ้นกันว่าในปีนี้เราจะได้เห็นการอัปเกรดครั้งใหญ่เท่าที่เคยมีมาหรือไม่ หรืออย่างน้อยๆ ก็น่าจะมีการเพิ่มขนาดความละเอียดกล้องที่เพิ่มจากเดิม 12 ล้านพิกเซล
นอกจากนี้แล้วยังมีภาพ iPhone 13 mini เป็นตัวเครื่องสีน้ำเงินที่มีกล้องหลังคู่ โดยมีจุดเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ชัดเจนคือกล้องหลังคู่จัดวางในแนวทแยง และหากภาพดังกล่าวเป็นของจริงก็มีความเป็นไปได้ว่า iPhone 13 ก็จะมีการจัดวางกล้องหลังแบบนี้เช่นกัน
สำหรับรุ่นใหญ่ iPhone 13 Pro และ Pro Max ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับดีไซน์กล้องหลังในขณะนี้ แต่คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังคงเหมือนเดิมเนื่องจากมีกล้องสำหรับถ่ายรูป 3 เลนส์ และมี LiDAR Scanner อีกด้วย
③ ประสิทธิภาพดีขึ้น
ในเรื่องของประสิทธิภาพอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดและอาจเห็นผลที่ไม่ชัดเจนมากนักเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าสำหรับ iPhone แต่ตามรายงานจาก TrendForce บริษัทวิจัยในไต้หวันเปิดเผยว่า Apple กำลังวางแผนที่จะใช้ชิปเซ็ตที่มีการบวนการผลิต 5nm+ รุ่นต่อไปของ TSMC มาใช้งาน iPhone 13 ซึ่งตามข่าวลือคาดว่าเป็นชิป A15
Trendforce รายงานว่า Apple วางแผนใช้เทคโนโลยีจาก TSMC เพื่อผลิตชิพในขนาด 5nm+ สำหรับ A15 Bionic ใช้ใน iPhone 13 โดย 5nm+ จะเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากขึ้นจากขนาด 5nm
④ สแกนลายนิ้วมือ Touch ID
Blaine Curtis นักวิเคราะห์จาก Barclays ได้ออกมาให้ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ Touch ID ใน iPhone รุ่นใหม่ โดยเป็นการฝังเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือไว้ใต้กระจกหน้าจอและอาจเป็นครั้งแรกที่ตัวอ่านลายนิ้วมือจะเป็นแบบเต็มหน้าจอ แตะสแกนลายนิ้วมือบริเวณใดก็ได้บนหน้าจอ ซึ่งก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในขณะที่ Ming-Chi Kuo ที่เชื่อว่า Apple กำลังพัฒนา iPhone 13 รุ่นที่มี Touch ID ฝังอยู่ในปุ่มเปิดปิดซึ่งคล้ายกับปุ่มเปิดปิดบน iPad Air รุ่นล่าสุด
⑤ รองรับ Wi-Fi 6E
นักวิเคราะห์ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า iPhone 13 Series จะรองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6E ซึ่งคล้ายกับ Wi-Fi 6 แต่มาตรฐานใหม่นั้นจะขยายไปในย่านความถี่ 6GHz อีกทั้งคู่แข่งอย่าง Galaxy S21 Ultra เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung ก็รองรับ Wi-Fi 6E ดังนั้นจึงเป็นเหตุสมผลที่น่าจะทำให้ Apple อัปเกรด iPhone ปี 2021
รอติดตามงานเปิดตัว iPhone 13 รุ่นใหม่ไปพร้อมๆ กันได้เวลา 00.00 น. เข้าสู่วันที่ 15 กันยายนนี้ ตามเวเลาประเทศไทย และติดตามสรุปเรื่องน่าสนใจในงานนี้ได้จากทีมงานได้ที่ facebook.com/iPhoneDroid.net