Smart Review
รีวิว dtac Phone Eagle Blade 4G หน้าจอ 5 นิ้ว กล้องหน้า-หลัง 8 ล้านพิกเซล
สรุปข้อมูลสเปค dtac Phone Eagle Blade 4G
- ขนาดตัวเครื่อง 143 x 70.6 x 8.3 มม.
- น้ำหนัก 138 กรัม
- ใช้งานได้ 2 ซิม (2 x micro SIM)
- หน้าจอแสดงผล 5 นิ้ว IPS HD
- ชิปเซ็ต MT6735P
- ซีพียู 64-bit Quad-core 1.0GHz
- จีพียู Mali-T720
- แรม 2GB
- ความจำภายในตัวเครื่อง 16GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 32GB
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านเครือข่าย 3G/4G LTE, WiFi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.0
- รองรับระบบ GPS
- รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop
- แบตเตอรี่ 2,200 mAh (ถอดเปลี่ยนเองได้)
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง dtac Phone Eagle Blade 4G
- อะแดปเตอร์และสาย micro USB
- หูฟัง
- เคสฝาพับแบบ Circle Window
- ฟิล์มกันรอยหน้าจอ
- คู่มือใช้งาน
ดีไซน์ ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
dtac Phone Eagle Blade 4G มีดีไซน์โค้งมนบริเวณขอบตัวเครื่องและด้านหลัง ซึ่งดีไซน์แบบนี้ช่วยให้การหยิบจับใช้งานกระชับเข้ากับรูปมือได้เป็นอย่างดี โดยวัสดุหลักนั้นเป็นพลาสติก และมีดีไซน์ให้ดูหรูหราด้วยกรอบตัวเครื่องมันวาวคล้ายสแตนเลส สีหลักของตัวเครื่องเป็นสีทอง และมีฝาหลังลายขัดเส้นขนแปรงดูคล้ายโลหะ
ตัวเครื่องของ dtac Phone Eagle Blade 4G มีขนาด 143 x 70.6 มม. ความหนาอยู่ที่ 8.3 มม. และหนัก 138 กรัม ส่วนหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD ความละเอียดอยู่ที่ 1280 x 720 พิกเซล ความหนาแน่นของพิกเซลอยู่ที่ประมาณ 294 พิกเซลต่อนิ้ว และเป็นหน้าจอแบบ IPS ขอบโค้งมนด้วยกระจกแบบ 2.5D
เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED, ช่องสำหรับเสียงลำโพงสนทนา (เหนือช่องเสียงลำโพงจะมีไฟ LED แจ้งเตือนสถานะต่าง ๆ) และเซ็นเซอร์สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนาเพื่อประหยัดพลังงาน
ล่างหน้าจอมีปุ่มสัมผัส 3 ปุ่ม เริ่มจากซ้ายเป็นปุ่ม Recent App, ตรงกลางเป็นปุ่มโฮม และขวาสุดเป็นปุ่มเมนู พร้อมไฟส่องสว่างสีฟ้า ซึ่งปุ่มซ้ายกับขวาทำเป็นจุดเดียวเพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกสลับตำแหน่งการสั่งงานของปุ่มได้ในเมนูการตั้งค่า ตามความถนัดของแต่ละคน
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
ขอบด้านล่างมีช่องไมโครโฟนสำหรับเสียงสนทนา และพอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่หรือถ่ายโอนข้อมูลตัวเครื่อง
ขอบด้านขวามีปุ่มปิด/เปิดเครื่องหรือปิด/เปิดหน้าจอ
ขอบด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านหลังมีเลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
ฝาหลังมีลักษณะผิวเรียบลายเส้นขัดสีทอง สามารถแกะเปิดได้ ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 2,200 mAh และช่องใส่ซิมการ์ดขนาด micro SIM จำนวน 2 ช่อง กับช่องใส่ microSD card สูงสุด 32GB
เคสฝาพับแบบ Circle Window
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
dtac Phone Eagle Blade 4G หรือ ZTE Blade D6 Lite รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop สามารถใช้งานฟีเจอร์การแสดงรายการแจ้งเตือนต่าง ๆ ในหน้าล็อคสกรีนที่สามารถแตะเพื่อดูหรือปัดซ้าย/ขวาเพื่อลบได้ทันที โดยในหน้าโฮมผู้ใช้งานสามารถจัดเรียงไอคอน
เมื่อแตะบริเวณพื้นที่ว่างในหน้าโฮม จะสามารถเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ และเพิ่มวิดเจ็ตได้เอง ส่วนไอคอนแอพจะเรียงกันแบบ 4 x 6 แถว สามารถแตะค้างที่ไอคอนแอพแล้วลากรวมกันเป็นโฟลเดอร์ได้ หรือแตะค้างแล้วลากลงถังขยะเพื่อลบการติดตั้ง
ในส่วนของ Control Panel จะเป็นเรียบ ๆ ตามดีไซน์แบบ Material Design ในส่วนนี้ใช้สำหรับเรียกดูรายการแจ้งเตือนต่าง ๆ และสำหรับการเปิด/ปิดการทำงานต่าง ๆ ของระบบ รวมถึงการเข้าสู่เมนูการตั้งค่าของเครื่องด้วย และการปรับแต่งปุ่มด้านล่างจอก็สามารถเข้าไปตั้งค่าได้จากในเมนูการตั้งค่าของตัวเครื่อง
ปุ่ม Recent App กับปุ่มย้อนกลับ สามารถเลือกสบับตำแหน่งการใช้งานได้
dtac Phone Eagle Blade 4G รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยช่องซิม 1 รองรับ 2G/3G/4G โดยเครือข่าย 3G จะรองรับคลื่นความถี่ 850/2100MHz และ 4G LTE Cat.4 คลื่นความถี่ 900/1800/2100MHz ส่วนช่องใส่ซิม 2 จะรองรับเฉพาะ 2G
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 5 จุด
ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน
dtac Phone Eagle Blade 4G รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop ซึ่งเป็น 64-bit ใช้ชิปประมวลผล MT6735P Quad-core 1.0GHz ซึ่งเป็นซีพียู 64-bit ทั้งตัวระบบและซีพียูต่างก็เป็น 64-bit ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด กับแรม 2GB และจีพียู Mali-T720
ผลการทดสอบ AnTuTu ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 20,711 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าอยู่ในระดับที่ดีหากเทียบราคาไม่เกิน 5,000 บาท และผลทดสอบคะแนนรวมจาก Quadrant Standard ทำได้ 10,496 คะแนน
ทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบทำคะแนน Single-Core ได้ 471 และ Multi-Core ทำได้ 1,286 คะแนน
กล้องถ่ายรูป
dtac Phone Eagle Blade 4G มีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส รองรับการแตะหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัส และมีระบบติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่โดยการแตะค้างที่วัตถุ ส่วนเมนูต่าง ๆ ในหน้าแอพกล้องก็จัดเรียงทางด้านซ้ายและด้านขวาของหน้าจอ โดยทางด้านซ้ายจะมีโหมดถ่ายรูปให้เลือกใช้งาน และทางด้านขวาหน้าจอจะเป็นเมนูถ่ายภาพนิ่งหรือถ่ายวิดีโอ
แอพกล้องรองรับการแนบตำแหน่งแผนที่ลงในภาพถ่าย, มีระบบตรวจจับใบหน้าและรอยยิ้ม โดยขนาดภาพสูงสุด 8 ล้านพิกเซล ในอัตราส่วน 4:3 หรือเต็มหน้าจอก็ได้ ส่วนค่า ISO ปรับได้ตั้งแต่ 100 ถึง 1600 และรองรับการบันทึกวิดีโอ 1080p ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที
กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่ากับกล้องหลัง รองรับคำสั่งด้วยท่าทาง โดยการชู 2 นิ้วเป็นรูปตัว V เพื่อสั่งชัตเตอร์ พร้อมโหมดหน้าสวยเอาใจคนรักเซลฟี่ และไฟแฟลช LED สำหรับช่ายถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในที่มืด
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปจุดเด่น
- ตัวเครื่องดีไซน์สวยงาม บางเบา
- หน้าจอแสดงผล 5 นิ้ว IPS HD
- ใช้งานได้ 2 ซิม ใช้งานได้ทั้ง 3G และ 4G
- ซีพียู 64-bit Quad-core 1.0GHz
- แรม 2GB
- ความจำภายในตัวเครื่อง 16GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 32GB
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- แบตเตอรี่ 2,200 mAh ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานหลากหลาย
ขอบคุณดีแทค