IT News
dtac SUPER 4G สปีดอีกขั้นของ 4G เร็ว แรงขึ้น 3 เท่า ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
การใช้งานดาต้าทุกวันนี้เพิ่มขึ้นสูงมาก เพื่อใช้เข้าสู่โซเซียลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, LINE, YouTube ทุกแอพล้วนแล้วต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ ถ้าอยากใช้อินเทอร์เน็ตแรงๆ บนมือถือก็ต้อง 4G เลยครับ ซึ่ง 4G ที่เราใช้กันก่อนหน้านี้ก็ยังไม่แรงพอที่จะเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่นเข้า YouTube อาจจะต้องรอโหลดนานกว่าจะได้ดูวีดีโอที่ต้องการ เนื่องจากความกว้างของคลื่นความถี่นั้นยังไม่มากพอ
วันนี้จะมาอัปเดทเกี่ยวกับ 4G ในบ้านเรากันครับ ซึ่งเราจะคุ้นๆ หูกันในช่วงนี้กับคำว่า dtac SUPER 4G เป็นกระแสแรงมากๆ กับความเร็ว แรง บนคลื่นความถี่ที่กว้างที่สุด เดี๋ยวเราไปดูกันครับว่า SUPER 4G ที่เร็วขึ้น 3 เท่านี้เป็นอย่างไร
SUPER 4G ดีอย่างไร?
ปัจจุบัน dtac ให้บริการ 4G จากเดิม 5MHz บนคลื่นความถี่ 2100MHz เพิ่มอีก 15MHz บนคลื่นความถี่ 1800MHz เปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าคลื่นความถี่กว้างดีอย่างไร ให้นึกภาพเหมือนถนนครับยิ่งกว้างเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้รถวิ่งได้มากขึ้น การจราจรไม่ติดขัด ก็เหมือนกันกับคลื่นความถี่ ยิ่งมีช่องความถี่กว้างมากเท่าไหร่ก็ทำให้การให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้ SUPER 4G มีความเร็วเพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า ความเร็วสูงสุดในการดาวน์โหลดถึง 126 Mbps ซึ่งทำให้ได้รับประสบการณ์ใช้อินเทอร์เน็ตที่เร็ว แรงกว่าเดิม แทบไม่น่าเชื่อว่าความเร็ว 4G จะแรงกว่า Wi-Fi ที่บ้านผมซะอีก
และในอนาคตอันใกล้ dtac จะเพิ่มคลื่นความถี่อีก 5MHz รวมเป็น 20MHz บนคลื่นความถี่ 1800MHz ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถให้ SUPER 4G จาก dtac แรงเร็วมากขึ้นไปกว่าเดิม
อีกสิ่งที่น่าสนใจมากนั่นคือการที่มีแบนด์วิธสำหรับ 4G ที่กว้างใหญ่ที่สุด ถึง 15MHz และอยู่บนโครงข่ายเดียวกันบนคลื่น 1800 MHz dtac SUPER 4G ได้ถูกออกแบบมาให้มือถือทุกเครื่องรองรับความเร็วที่สูงขึ้นได้ทันที ทำให้สามารถใช้งานความแรง เร็วขึ้น 3 เท่าได้ทุกคน ถือว่าเป็นจุดเด่นมากๆ ถ้าเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่น มีความถี่คลื่นที่แคบกว่า ต้องนำคลื่นมารวมกันเพื่อให้บริการ หรือที่เรียกว่า CA (Carrier Aggregation) ซึ่งสมาร์ทโฟนระดับ Flagship เพียงไม่กี่รุ่นที่สามารถใช้ความเร็วสูงได้
ในส่วนของการใช้งานจริง dtac SUPER 4G มี Bandwidth 42 Mbps เดี๋ยวเรามาดูตัวอย่างการใช้งานโซเชียลต่างๆ กันครับ ว่าต้องใช้แบนด์วิธ ระยะเวลา เท่าไหร่ในการใช้โซเชียลนั้นๆ ซึ่งจะเห็นเลยครับว่า SUPER 4G มีแบนด์วิธมากเพียงพอต่อการใช้งานจริงๆ
1. Real time data : ข้อมูล Real-time ใช้ Bandwidth ประมาณ 0.05 Mbps
2. Upload/Download : ตัวอย่างเช่น การอัปโหลดรูปภาพบน Instagram 1 รูป ขนาดประมาณ 100kb จะใช้เวลาอัพโหลด 0.05 วินาที
3. Facetime : ผู้ใช้งาน iPhone, iPod, iPad ความต้องการของระบบใช้ Bandwidth ขั้นต่ำ 15 Mbps
4. Video Streaming : ดูบอลออนไลน์ ใช้ Bandwidth 0.512 Mbps หรือจะเป็น Netflix 1080p ใช้ Bandwidth ขั้นต่ำ 4.5Mbps
5. Gaming : Game Online ใช้ Bandwidth ขั้นต่ำ 0.256 Mbps
6. Website : กดจองตั๋วคอนเสิร์ตได้ด้วยความเร็ว 0.005 วินาที Website ขนาดเฉลี่ย 5MB ใช้เวลาเปิด 1.25 วินาที
จากตัวอย่างด้านบนทั้งหมดจะเห็นว่าการใช้งาน dtac SUPER 4G มี Bandwidth 42 Mbps ฉนั้นเพียงพอต่อการใช้งานกับทุกโซเชียลแบบเหลือๆ ซึ่งทำให้ทุกคนเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้การเล่นโซเชียลต่างๆ สนุกมากขึ้นไปกว่าเดิม ไม่ต้องรอโหลดให้เสียเวลา ทำให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
*แบนด์วิธ Bandwidth คือความกว้างของคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นตัวที่ใช้วัดความเร็วในการ รับ-ส่ง ข้อมูลของอินเทอร์เน็ต ยิ่งแบนด์วิธสูง การรับส่งข้อมูลก็ยิ่งมีประสิทธิภาพสูง