ใครมองหาอุปกรณ์เสริมในการใช้งานร่วมกับ iPhone, สมาร์ทโฟน Android และอุปกรณ์สวมใส่ในตอนนี้ เรามีรีวิวอุปกรณ์จาก Energea และ Bazic มาให้ชมกันเต็มๆ ถึง 3 ชิ้น ตั้งแต่แท่นชาร์จไร้สายหมุนได้ 360 องศาและรองรับ MagSafe อย่าง Bazic GoMag Gyre พร้อมด้วยสายชาร์จเร็ว Energea Flow Gen2 และหัวชาร์จ Energea AmpCharge GaN35 ที่ทั้งหมดนี้สามารถใช้งานร่วมกันได้แบบไร้กังวล เดี๋ยวเรามาชมกันทีละอุปกรณ์เลยครับ
Bazic GoMag Gyre แท่นชาร์จแม่เหล็กไร้สาย 3-in-1
มาเริ่มกันด้วยตัวหลักอย่าง GoMag Gyre แท่นชาร์จแม่เหล็กไร้สาย 3-in-1 ที่สามารถพับและหมุนตั้งได้ 360 องศา ทั้งยังรองรับ MagSafe เพื่อใช้งานกับ iPhone 12 Series ขึ้นไปได้ด้วย
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- แท่นชาร์จไร้สาย GoMag Gyre
- สาย USB Type-C
- กระเป๋าผ้าเนื้อนุ่ม
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์เล็ก กะทัดรัดแต่ใช้งานได้ครบถ้วน !
GoMag Gyre เป็นแท่นชาร์จที่ให้ดีไซน์มาแบบเล็กกะทัดรัดมากๆ ด้วยการที่สามารถพับได้ ช่วยให้เราสามารถพกพาหรือเก็บหลังใช้งานได้ง่ายมากครับ
วัสดุที่ใช้ในรุ่นนี้เป็นแบบอะลูมิเนียม มีน้ำหนักที่เบาเพียง 216 กรัม แต่ก็ทนทานพอสมควรเลยด้วย และที่ตัวฐานยังได้เทคโนโลยี Nano Grip เพื่อการยึดเกาะพื้นผิวโต๊ะได้อย่างแน่นหนา ไม่หลุดง่ายแน่นอนครับ
ในการใช้งานของ GoMag Gyre ก็สามารถดึงขึ้นมาได้เลย โดยที่ส่วนบนสุดจะเป็นการรองรับการชาร์จไร้สายสมาร์ทโฟนที่รองรับ MagSafe ขณะที่ตัวฐานสามารถชาร์จ AirPods หรือหูฟังไร้สายรุ่นอื่นได้ทั้งหมด และตรงกลางจะเป็นแท่นชาร์จสำหรับ Apple Watch ครับ
ใครที่ใช้ iPhone 12 Series ขึ้นไป ก็จะได้ข้อดีของ MagSafe ในการยึดติดที่แน่นหนามากๆ แถมยังชาร์จได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนตามความต้องการ
หรือปกติที่จะใส่เคสกันอยู่ ก็ยังคงยึดติดได้แน่นหนาเหมือนเดิมครับ
ทั้งนี้หากใครใช้สมาร์ทโฟน Android อยู่ก็สามารถพับเพื่อให้รองรับการชาร์จไร้สายได้เช่นกัน
ความพิเศษของ GoMag Gyre คือการที่สามารถหมุนได้ 360 องศาตามต้องการเพื่อปรับมุมมองในแต่ละช่วงได้เลย
ทดสอบการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ
หัวชาร์จที่เราใช้งานร่วมกับ GoMag Gyre จะเป็น AmpCharge GaN35 ที่เราพูดถึงในหัวข้อด้านล่างนี้ครับ แต่เรามาดูกันตรงนี้ก่อนเลย โดยหัวชาร์จที่ใช้จะมีกำลังไฟสูงสุด 35W (แนะนำให้ใช้กับหัวชาร์จ 25W ขึ้นไป) ซึ่งการชาร์จไร้สาย iPhone 12 – 15 Series ก็อยู่ที่ 7.5W ตามมาตรฐานครับ
เมื่อเราเริ่มชาร์จแล้ว ที่ด้านหลังตัวแท่นชาร์จก็จะมีไฟ LED ที่จะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีฟ้าที่บอกว่ากำลังทำงานเพื่อชาร์จอุปกรณ์นี้อยู่ด้วย
ขณะที่ตัวฐานจะรองรับทั้ง AirPods และหูฟัง True Wireless ที่รองรับชาร์จไร้สายทั้งหมด โดยจะปล่อยกำลังไฟที่ 5W ครับ
สรุปการใช้งาน Bazic GoMag Gyre
แท่นชาร์จไร้สาย GoMag Gyre เป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจไม่น้อยหากใครที่มีอุปกรณ์ที่ตัวที่ต้องการชาร์จเยอะๆ ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและพื้นที่ในการวางบนโต๊ะได้เยอะพอสมควรเลยครับ และที่ชอบอีกอย่างคือดีไซน์ที่เบาและบางมากๆ ทำให้พกพาสะดวกสุดๆ พกใส่กระเป๋าสะพายหรือกระเป๋าเสื้อก็ยังได้เลยครับ
ราคา Bazic GoMag Gyre
GoMag Gyre วางจำหน่ายในราคา 2,390 บาท โดยตัวอุปกรณ์จะมีการรับประกันนาน 1 ปีเต็มครับ
Energea AmpCharge GaN35 หัวชาร์จ GaN 35W
ต่อมาเป็นหัวชาร์จหรืออะแดปเตอร์ AmpCharge GaN35 ที่เราใช้งานไปกับ GoMag Gyre ตัวข้างบนนั่นเองครับ โดยสเปคและการใช้งานเป็นอย่างไรมาดูกันครับ
สเปค AmpCharge GaN35
- ขนาด : 33 x 33 x 38 มม.
- Input: 100-240Vac 50/60Hz 0.8A
- USB-C Output: PD35W/ PPS33W Max, 5V/3A; 9V/3A; 12V/2.91A; 15V/2.33A; 20V/1.75A; PPS: 3.3V-11V/3A
- USB-A Output: QC3.0 30W Max, 5V/3A; 9V/3A; 12V/2.5A; 15V/2A; 20V/1.5A
- USB-C + USB-A: 5V/4A (สูงสุด 20W)
ดีไซน์เล็กและเบามากๆ
AmpCharge GaN35 ได้มีการใช้ดีไซน์ที่มาในขนาดที่เล็กและเบามากๆ แต่ภายในรู้สึกถึงวัสดุที่ทนทาน ไม่ได้เบาแบบรู้สึกโล่งๆ ภายในจากการที่ใช้เทคโนโลยี GaN ในการผลิตที่ลดพื้นที่วงจรภายในมากขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับหัวชาร์จมาตรฐานทั่วไปที่กำลังไฟเท่ากัน
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือหัวชาร์จที่ได้มาตรฐาน มอก. กําหนดเลขที่ 62368 เล่ม 1-2563 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่หัวชาร์จทุกรุ่นได้เริ่มใช้งานกันแล้ว ซึ่งหัวชาร์จนี้เหมาะกับปลั๊กในไทย เสียบได้แน่น ไม่หลุดง่าย และใครที่ชอบเจอการเสียบแล้วไฟแลบก็จะไม่เจออาการนี้อีกเลยครับ
สำหรับพอร์ตในรุ่นนี้ให้มา 2 ช่อง คือ USB-C ที่รองรับเต็มกำลังไฟที่ 35W และ USB-A ที่รองรับ Quick Charge 3.0 (QC3.0) หรือกำลังไฟสูงสุด 30W ครับ
การปล่อยกำลังไฟตามพอร์ตต่างๆ
- 1x USB-C Output: PD35W / PPS33W Max ปล่อยกําลังไฟสูงสุด 35W
- 1x USB-A Output: QC3.0 30W Max ปล่อยกําลังไฟสูงสุด 30W
- USB-C + USB-A ปล่อยกําลังไฟสูงสุด 20W (5V/4A)
ทดสอบการชาร์จด้วย iPhone 14 และ Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G
เราทดสอบการชาร์จสมาร์ทโฟนด้วยหัวชาร์จ AmpCharge GaN35 ซึ่งใน Galaxy Note20 Ultra 5G สามารถรองรับการชาร์จด่วนพิเศษได้เต็มกำลังไฟที่รองรับครับ
รวมถึง iPhone 14 ที่ก็ชาร์จได้เร็ว 25W ตามสเปคสูงสุดของตัวเองเช่นกัน
จากที่ลองใช้งานต่อเนื่องหลายชั่วโมง ตัวหัวชาร์จก็ไม่ได้ร้อนจนเกินไปด้วยเทคโนโลยี GaN ที่ลดความร้อนลง ปลอดภัย ทั้งนี้ก็ยังใช้งานร่วมกับแท็บเล็ต แล็ปท็อปขนาดเล็ก และอื่นๆ ที่รองรับพลังงานชาร์จไฟสูงสุดที่ 35W ทั้งหมด ที่สำคัญก็ยังมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่มีระบบการตรวจวัดไฟให้คงที่ ป้องกันแรงดันที่สูงเกิน รวมถึงไฟรั่วและการระเบิดครับ
สรุปการใช้งาน Energea AmpCharge GaN35
ในการใช้งานหัวชาร์จ AmpCharge GaN35 ก็ถือเป็นหัวชาร์จที่มีจุดเด่นตรงที่ขนาดเล็ก พกพาได้ง่าย ส่วนการใช้งานก็ตามปกติของหัวชาร์จทั่วไปครับ แต่จะต่างกันตรงที่เรื่องความปลอดภัยที่รุ่นนี้ใส่เข้ามาเพิ่มเติมครับ ทั้งยังได้หัวปลั๊กที่ได้มาตรฐานในไทยด้วย รวมถึงการชาร์จที่รองรับทุกอุปกรณ์ที่ต้องการใช้ไฟไม่ได้เยอะจนเกินไป
ราคา Energea AmpCharge GaN35
AmpCharge GaN35 สนนราคาเพียง 990 บาทครับ
สายชาร์จ Energea Flow Gen2
มาถึงอุปกรณ์สุดท้ายในรีวิวนี้กันอย่างสายชาร์จ Energea Flow USB 3.2 Gen 2 ที่เป็นพอร์ต USB-C to USB-C รองรับการใช้งานที่รวดเร็ว ถ่ายโอนข้อมูลได้สูงถึง 20Gbps และชาร์จได้เร็วสูงสุด 240W เลยทีเดียว
แข็งแรงทนทานผ่านการถักด้วยเทคโนโลยี NanoWeave
สาย Energea Flow USB 3.2 Gen 2 ชูโณงด้วยดีไซน์แบบถักพิเศษที่ให้ความแข็งแรงทนทานผ่านเทคโนโลยี NanoWeave ที่ใช้เส้นใยกัญชงจากธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นสูง หักงอได้สบายๆ เพราะผ่านการทดสอบการบิดงอของสายถึง 50,000 ครั้งมาแล้ว รวมถึงผ่านการทดสอบการดึงด้วยน้ำหนักกว่า 50 กิโลกรัมด้วย
ผิวสัมผัสของสายรุ่นนี้จะเป็นเหมือนเส้นใยที่มีความละเอียดอ่อนและนุ่มนวล ทั้งยังมีความทนทานขึ้นถึง 6 เท่าเมื่อเทียบกับสายทั่วไป
เก็บสายง่ายขึ้นด้วยฟังก์ชัน MagLink
สิ่งที่หลายคนสังเกตได้เลยคือตัวแม่เหล็ก MagLink ที่ติดมากับตัวสายซิลิโคนที่มีความนุ่ม ซึ่งภายในกล่องจะมีแม่เหล็กไว้สำหรับติดบนโต๊ะและให้ตัว MagLink ยึดติดกันเพื่อเก็บสายได้ง่ายและสบายมากขึ้น (ตัวแม่เหล็ก MagLink จะมีให้ใช้บนรุ่นสายความยาว 1 เมตร และ 2 เมตรเท่านั้น โดยรุ่นยาว 30 ซม. จะไม่มีมาให้)
รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด PD3.1 240W
ในการใช้งานของสาย Flow USB 3.2 Gen 2 ก็รองรับกับอุปกรณ์พอร์ต USB Type-C ทั้งหมด ควบคู่กับการมีชิป E-Marker ชาร์จเร็วด้วยกระแสไฟสูงสุด 5A ได้กำลังไฟสูงถึง 240W ทำให้ชาร์จแล็ปท็อป MacBook แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนได้แบบสบายๆ ครับ ที่สำคัญยังรองรับการชาร์จเร็วบนสมาร์ทโฟนจากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung, HUAWEI, Xiaomi, vivo และ OPPO
นอกจากจะชาร์จได้เร็ว 240W แล้ว เรื่องของการถ่ายโอนข้อมูลก็ทำได้เร็วสุดที่ 20Gbps ด้วย โดยรองรับมาตรฐาน USB 3.2 Gen 2 สามารถรองรับการต่อจอภาพแสดงผลภาพหรือวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 8K@30Hz
สรุปการใช้งาน Energea Flow Gen2
ใครที่มองหาสาย USB Type-C แบบครบจบทุกการใช้งาน Energea Flow Gen2 ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมไม่ควรพลาดเลย ด้วยดีไซน์แบบถักที่ให้มาทนทานจริงๆ รองรับการชาร์จเร็วกำลังไฟสูง ใช้ได้ครบทุกอุปกรณ์ หรือจะต่อจอภาพที่ 2 ออกไปก็ทำได้ดีมากเช่นกัน และด้วยราคาที่เริ่มต้นไม่สูงมากก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้นไปอีกครับ
ราคา Energea Flow Gen2
สาย Energea Flow Gen2 มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้
- ความยาว 30 ซม. ราคา 790 บาท
- ความยาว 1 เมตร ราคา 990 บาท
- ความยาว 2 เมตร ราคา 1,090 บาท
โดยทุกรุ่นจะมีการรับประกันนาน 3 ปีเต็มครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมสินค้า Energea
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อสินค้าแบรนด์ Energea ได้ที่ร้านค้าชั้นนําทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นร้านในเครือ Com7 (Studio 7, Banana, Bb Beyond D-Box), iStudio by SPVi, iSutudio by Uficon, iStudio by copperwired, Dotlife, Betrend, Power Mall, King Power, Apple House และ Shop online : https://openlink.co/energeat
