Android News
OPPO F11 Pro ประสบการณ์อีกด้านของการถ่ายรูปด้วยกล้อง 48 ล้านพิกเซล ชาร์จไว และดีไซน์สวย
หนึ่งสัปดาห์กับการได้ใช้งานเจ้า OPPO F11 Pro อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟน F-Series รุ่นใหม่ที่ให้ประสบการณ์ด้านการถ่ายรูปด้วยกล้องหลังความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล และก้าวไปอีกขั้นสำหรับระบบชาร์จไว VOOC 3.0 รวมไปถึงดีไซน์ที่มีความโดดเด่นสวยงามอีกด้วย
OPPO F11 Pro เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ได้รับการอัพเกรดกล้องหลังครั้งใหญ่จาก OPPO เลยก็กว่าได้ โดยเป็นกล้องหลังคู่ที่มีความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล และมีเลนส์ 5 ล้านพิกเซล Depth Sensor สำหรับเก็บรายละเอียดความลึกของภาพเพื่อทำเอฟเฟ็กต์โบเก้
สำหรับกล้อง 48 ล้านพิกเซล เป็นการใช้เทคโนโลยีรวมพิกเซลเพื่อให้ได้ขนาดที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ภาพมีขนาดใหญ่และคมชัดกว่ากล้องบนมือถือทั่วไป ซึ่งตัวกล้องประกอบด้วย 6 ชิ้นเลนส์ ทำให้รับภาพได้คมชัดมากขึ้นด้วย อีกทั้งมามีรูรับแสงกว้าง f/1.79 สามารถจับแสงได้สว่างมากขึ้น โดยเฉพาะการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในที่ค่อนข้างมืด
จากการใช้ตลอดทั้งสัปดาห์ สิ่งที่ประทับใจที่สุดด้านการถ่ายรูปคือการถ่ายภาพในเวลากลางคืนด้วย Ultra Night Mode ซึ่งในครั้งนี้ OPPO ได้พัฒนาให้มี AI เข้ามาช่วยให้การถ่ายภาพสวยมากขึ้น ลดการเกิดนอยซ์ ได้ดีมากๆ
Ultra Night Mode เป็นโหมดอัตโนมัติสำหรับถ่ายรูปในที่มืด โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องตั้งค่ากล้องให้ยุ่งยาก เพียงเลือกไปที่โหมดนี้ก็สามารถ่ายภาพกลางคืนได้สว่างทันที ซึ่งหลักการทำงานของโหมดนี้คือการถ่ายภาพหลายเฟรมแล้วนำมารวมเป็นภาพเดียว
สำหรับการถ่ายภาพคนในที่มืดนั้น OPPO ได้เพิ่มเทคโนโลยีที่เรียกว่า Ultra-clear Engine และ Color Mapping ในการแยกความแตกต่างระหว่างบุคคลและพื้นหลัง โฟกัสที่ใบหน้า พร้อมปรับสีผิวสำหรับการถ่ายภาพกลางคืน เพื่อให้ได้ภาพที่เป็นธรรมชาติมีชีวิตชีวา และเพิ่มความสว่างในส่วนที่มืด เพื่อให้ได้ภาพที่ละเอียดและคมชัดมากยิ่งขึ้น
การถ่ายภาพด้วย Portrait Mode เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ OPPO F11 Pro ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะการถ่ายในที่แสงน้อยที่ให้ภาพสว่างมากขึ้น จะเห็นว่าในช่วงแสงน้อยตอนเย็นๆ หรือตอนค่ำ ตัวกล้องยังสามารถถ่ายภาพได้สว่างและเห็นรายละเอียดชัดเจน สมกับการเป็นสมาร์ทโฟนถ่าย Portrait สวยแม้แสงน้อย โดยทำงานร่วมกับกล้อง Depth Sensor ที่ช่วยเก็บระยะความลึกของภาพ ทำให้การละลายฉากหลังทำให้เนียนสวยเป็นธรรมชาติ
ไม่ใช่เพียงเรื่องกล้องที่สร้างความประทับใจจากการใช้งาน OPPO F11 Pro เพราะว่าแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานของรุ่นนี้ไม่ต้องชาร์จแบตระหว่างวันเลย โดยตัวแบตมีความจุมากถึง 4000mAh จากการทดสอบใช้งานทั่วไป เปิดกล้องถ่ายตลอดทั้งวันเพื่อนำภาพมาใช้ในการประกอบรีวิว วันหนึ่งก็ถ่ายไปราว 200 กว่ารูป รวมไปถึงทดสอบเล่นเกมราว 30 นาที และเข้าเล่นโซเชียลทั่วไป พบว่าแบตเตอรี่อยู่ได้นานทั้งวันตั้งออกจากบ้านในตอนเช้าไปทำงานจนถึงตอนค่ำๆ โดยไม่ต้องใช้ Power Bank ระหว่างวันเลย
กลับมาถึงบ้านเสียบชาร์จแบตก็ไม่ต้องรอนานด้วย เพราะว่า OPPO F11 Pro มีระบบชาร์จไว VOOC 3.0 รองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุด 20W ซึ่งเร็วขึ้น 20% เมื่อเทียบกับ VOOC แบบเดิม โดยในกล่องจะให้หัวชาร์จและสายชาร์จที่รองรับ VOOC 3.0 ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ สำหรับ OPPO เพราะว่าสมาร์ทโฟนหลายรุ่นจากบางค่ายที่รองรับชาร์จไวแต่กลับพบว่าในกล่องไม่ได้ให้อุปกรณ์ชาร์จไว ต้องหาซื้อเพิ่มเอง
สำหรับการชาร์จด่วนให้กับ OPPO F11 Pro เพียงใช้หัวอะแดปเตอร์และสายชาร์จที่มาในกล่องเท่านั้น ซึ่งจากการทดสอบชาร์จแบตที่ 20% จน 91% ใช้เวลาเพียง 55 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากๆ ตอบโจทย์การใช้งานในยุคที่ต้องเร่งรีบได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องรอนานอีกต่อไป
นอกจากนี้แล้ว VOOC 3.0 ยังได้รับการรับรองจาก TÜV SÜD ซึ่งได้รับการยอมรับจากองค์กรระหว่างประเทศชั้นนำในด้านความปลอดภัยและความรวดเร็ว จึงมั่นใจได้ว่าการชาร์จแบต OPPO F11 Pro นั้นมีความปลอดภัยทุกครั้งที่ทำการชาร์จ
ด้านการดีไซน์ OPPO F11 Pro เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า OPPO เป็นแบรนด์ที่สร้างสมาร์ทโฟนด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ และผสานรวมกับแฟชั่นได้อย่างลงตัว โดยสีตัวเครื่องได้เพิ่มพิเศษให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นการไล่ 3 เฉดสีในเครื่องเดียวสำหรับสี Thunder Black เรียกได้ว่าเวลาถือใช้งานรุ่นนี้เหมือนมีเครื่องประดับอีกชิ้นสวยๆ ติดตัวไปด้วย
ในเรื่องของหน้าจอแสดงผลก็ตอบโจทย์สำหรับคนชอบดูหนังหรือเล่นเกมด้วยการขยายพื้นที่หน้าจอให้ชิดขอบของจริง ซึ่ง OPPO เรียกหน้าจอแบบนี้ว่า Panoramic Screen โดยมีขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว เห็นหน้าจอใหญ่แบบเต็มตาโดยไม่มีรอยบากรบกวนสายตา
เวลาจับใช้งานยังกระชับมืออีกด้วย เพราะว่าฝาด้านหลังมีความโค้งเว้าเข้ากับอุ้งมือพอดี และสิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่งในด้านการดีไซน์ของ OPPO F11 Pro คือการซ่อนเซ็นเซอร์ ต่างๆ ให้อยู่ภายในบริเวณของช่องลำโพงที่อยู่ระหว่างกรอบด้านข้างหน้าจอ ทำให้ด้านหน้าดูสะอาด สวยงามมากขึ้น
ความประทับใจสุดท้ายคือระบบ Hyper boost โหมดการเร่งความเร็วให้เครื่องใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเทคโนโลยีใช้งานได้ทั้งการเล่นเกม การทำงานของระบบตัวเครื่อง และเพิ่มความเร็วแอพพลิเคชั่นได้ด้วย
จากการทดสอบแล้วเกม ROV นอกจากจะรองรับโหมดเฟรมเรตสูงแล้ว สิ่งที่สังเกตได้คือเฟรมเรตช่วงเข้าทีมไฟต์นิ่งมากๆ โดยวิ่งระหว่าง 57-60 fps ส่วนฉากอื่นๆ ก็ลื่นมากๆ วิ่งระหว่าง 58-60 fps และบางเฟรมวิ่งทะลุไปถึง 61 fps ซึ่งนอกเหนือจากประสบการณ์การเล่นเกมของเราแล้ว ความลื่นในระดับนี้ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้การเล่นเกมมีโอกาสชนะมากขึ้นด้วย
ประสบการณ์ที่ได้รับจากการใช้งาน OPPO F11 Pro ต้องบอกเลยว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ไม่ธรรมดาจริงๆ จัดเต็มทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปความละเอียดสูงที่สวยทั้งกลางวันและกลางคืน แบตอึดและชาร์จไว ดีไซน์ก็สวยเหมือนเป็นเครื่องประดับ
OPPO F11 Pro ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในระดับราคาหมื่นนิดๆ ซึ่งตอนนี้ก็วางจำหน่ายไปแล้วในราคาเพียง 10,990 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ที่ www.facebook.com/oppothai