มาตามคำเรียกร้อง iPhone รุ่น 2 ซิม สแตนบายด์ Dual 4G

ถ้าเราลองมองดูในอดีตที่ผ่านมาทุกคนมักกล่าวว่า สมาร์ทโฟนที่รองรับการทำงานแบบ 2 ซิมนั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่ Low cost เป็นอย่างมาก เป็นสมาร์ทโฟนจีนแดง แต่เราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสมาร์ทโฟนที่รองรับ 2 ซิมนั้นมีประโชน์กับการใช้งานเป็นอย่างมากเพราะในสมัยนี้ผู้คนส่วนใหญ่จะมีหมายเลขโทรศัพท์มากกว่า 1 หมายเลขกันอยู่แล้วและจะไม่ดีกว่าหรือที่เราสามารถใช้สมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวแต่ใช้ได้ 2 หมายเลข โดยที่ไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนถึง 2 เครื่อง

กระแสความนิยมการใช้งานสมาร์ทโฟนที่รองรับ 2 ซิม คงไปถึงผู้ผลิตอย่าง Apple ที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่านักพัฒนาจะพบโค้ดบ้างอย่างในซอฟต์แวร์ของระบบปฏิบัติการ iOS 12 ที่ระบุว่ามี iPhone รุ่นใดรุ่นหนึ่งที่จะรองรับการทำงานแบบ 2 ซิมการ์ด ซึ่งโค้ดที่ค้นพบระบุข้อความว่า “second SIM status,” “second SIM tray status,” และ “dual sim device” ประจวบเหมาะกับภาพหลุดสมาร์ทโฟน iPhone ที่ถูกถ่ายคู่กับถาดใส่ซิม 2 ซิม

ล่าสุด China Telecom ได้เปิดตัวภาพโปรโมต iPhone รุ่นใหม่ออกมาพร้อมกับระบุถึงความสามารถในการรองรับซิมการ์ดได้ถึง 2 ซิมการ์ดในเครื่องเดียว แน่นอนว่าถ้ามันเป็นจริงถือได้ว่าเป็น iPhone เครื่องแรกในรอบ 10 ปีของ Apple ที่สามารถใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ดได้ แต่มันก็มีเรื่องที่น่าเสียดายอยู่อย่างหนึ่งก็คือ iPhone 2 ซิมการ์ดรุ่นนี้ อาจจะมีขายในเฉพาในประเทศจีน

ทาง China Telecom ได้ระบุข้อความในภาพโปรโมต iPhone รุ่นใหม่ไว้ว่า “iPhone รุ่นใหม่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด เครือข่ายคุณภาพรอบรับการทำงานบนเครือข่าย 4G”

จากข้อความดังกล่าวทำให้รู้ได้ว่า 2 ซิมการ์ดนั้นรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G จากข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้คาดว่า iPhone XC หรือ iPhone LCD 6.1 นิ้วซึ่งเป็น iPhone ราคาถูกที่สุดใน 3 รุ่นที่จะเปิดตัว แต่บางกระแสก็ว่าน่าจะเป็นรุ่น iPhone Xs Max/Plus

การทำการตลาดแบบนี้ดูเหมือนว่า Apple พร้อมที่จะบุกในตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศจีนอย่างเต็มตัวอย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่า Apple กำลังมีความพยายามอย่างมากที่จะเจาะตลาดสมาร์ทโฟนในแถบเอเชียให้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในประเทศจีนและประเทศอินเดีย

จากข้อมูลที่ทุกคนรู้ดีว่าคนในแถบเอเชียส่วนมาก จะนิยมสมาร์ทโฟนที่รองรับ 2 ซิมการ์ด แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า Apple จะเดินเกมการตลาดด้วยการเปิดตัว iPhone รองรับ 2 ซิมการ์ดในสมาร์ทโฟนระดับ high-end ก่อน โดยอาศัยความต้องการและความอยากได้ของผู้ใช้งานที่ยอมจ่ายเพื่อซื้อ iPhone รุ่นนี้แม้จะมีราคาสูงกว่ารุ่นอื่นๆ

ที่มา phonearena