Smart Review
รีวิว Fitbit Versa 2 Special Edition พรีเมี่ยมสวยหรูเพื่อคนรักสุขภาพ แบตอึดอยู่ได้ทั้งสัปดาห์
Fitbit Versa 2 สมาร์ทวอชเพื่อสุขภาพและการกำลังกาย ที่มาพร้อมดีไซน์ระดับพรีเมี่ยม รองรับการใช้งานกับทุกไลฟ์สไตล์และติดตามการออกกำลังกายครบทุกรูปแบบ รวมไปถึงติดตามการนอนหลับแบบเรียลไทม์
รีวิว Fitbit Versa 2 Special Edition
ด้านการดีไซน์ของ Fitbit Versa 2 ต้องยอมรับว่า Fitbit ใส่ใจดีไซน์เป็นอย่างมาก วัสดุที่เลือกใช้ก็เป็นระดับพรีเมียมทั้งตัวเรือนนาฬิกาที่มีความแข็งแรงเรียบหรู กันน้ำได้ และสายนาฬิกาที่เปลี่ยนได้ตามการใช้งานของแต่ละคน
สำหรับรุ่นที่ใช้ในรีวิวครั้งนี้เป็นรุ่น Special Edition โดยตัวเรือนเป็นสี Copper Rose Aluminium หรือตัวเรือนอะลูมิเนียมสีทองโรสโกลด์โทนชมพูอ่อนๆ มาพร้อมกับสายถักลวดลายพิเศษ Navy & Picnk Woven ที่เพิ่มความสวยงามและลงตัวกับสีตัวเรือน
หน้าจอแสดงผลมีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม และเป็นหน้าจอแบบ AMOLED ทำให้จอสวยกว่าเดิมเมื่อเทียบกับ Versa รุ่นแรกที่เป็นจอ LCD โดยฟีเจอร์การเชื่อมต่อก็รองรับ Bluetooth 5.0, Wi-Fi และ NFC
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งด้านดีไซน์ของ Fitbit Versa 2 คือ การมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบามากๆ ทำให้การสวมใส่ตลอดทั้งวันหรือตลอด 24 ชั่วโมงมีความรู้สึกสบาย โดยเฉพาะเวลาใส่นอนเพื่อติดตามการนอนหลับก็ไม่รู้สึกอึดอัดและไม่หนักแขน
การใช้งานหลังจากเชื่อมต่อตัวนาฬิกากับสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชั่น Fitbit เราก็จะสามารถดูข้อมูลกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งวันได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการนับก้าวเดิน การวิ่ง การนอนหลับ เป็นต้น และถ้าชั่วโมงไหนไม่มีการขยับตัวเลย ก็จะมีการสั่นเตือนที่ตัวนาฬิกาให้ลุกขยับเพื่อสุขภาพที่ดีด้วย
Fitbit Versa 2 มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งข้อดีของฟีเจอร์นี้จะทำให้การติดตาม Heart Rate Zone ระหว่างการออกกำลังกายได้ข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น คุมโซนที่ต้องการออกกำลังกายได้ดีมากขึ้น
การติดตามการออกกำลังกายมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การขี่จักรยาน เล่นโยคะ และอื่นๆ ซึ่งสถิติการออกกำลังกายจะถูกติดตามและจัดเก็บได้อัตโนมัติ อย่างเช่น ถ้าเราวิ่งไปสักพัก ตัวสมาร์ทวอชก็จะแสดงบนหน้าจอว่าเรากำลังวิ่ง เป็นต้น โดยที่เราไม่ต้องกดเลือกโหมดการออกกำลังกายเลย และแม้ว่าตัวสมาร์ทวอชจะไม่มี GPS ในตัว แต่ถ้าพกสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับ Fitbit ไปด้วย ก็จะสามารถระบุตำแหน่งและจัดเก็บระยะทางในการวิ่งหรือขี่จักรยานได้
ทุกครั้งที่มีทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายครบตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ที่ตัวนาฬิกาก็จะมีการแสดงความยินดีฉลองคล้ายๆ กับการจุดพลุเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ใช้งานบรรลุตามเป้าหมายในทุกๆ วัน
นอกจากกีฬาบนบกทั้งกลางแจ้งและในฟิตเนสแล้ว Fitbit Versa 2 ยังรองรับการใส่ว่ายน้ำในสระได้ด้วย ซึ่งตัวนาฬิกาสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร
สำหรับการติดตามการนอนหลับพักผ่อน จะมีการให้คะแนนด้วยซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด มีรายละเอียดระดับการนอนหลับแต่ละช่วงเวลาด้วย ไม่ว่าจะเป็นการหลับลึก หลับตื่น แล้วนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับมาตรฐานในการนอนหลับเพื่อปรับปรุงให้ผู้ใช้งานทราบข้อมูลเชิงลึกและนำไปปรับใช้ในการนอนได้ดีขึ้น
การแจ้งเตือนต่างๆ สามารถแจ้งเตือนสายโทรเข้า ข้อความ และตอบกลับด้วยข้อความด่วนได้ แต่น่าเสียดายที่ Fitbit ยังไม่รองรับข้อความการแจ้งเตือนภาษาไทย
ความประทับใจที่เชื่อว่าทุกคนจะต้องชอบเหมือนกันคือแบตเตอรี่ที่อึดมากๆ ใช้งานได้ยาวนานทั้งอาทิตย์ จากการสวมใส่ในชีวิตประจำตลอดเวลา ออกกำลังกายเข้าฟิตเนสวันละประมาณ 1 ชั่วโมง รวมถึงใส่นอนทุกวันด้วย แบตอยู่ได้นาน 6 วันกว่าๆ ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งอยู่ได้นานมากๆ หมดกังวลถ้าต้องออกทริปนานๆ แล้วลืมพกที่ชาร์จติดตัวไปด้วย
สรุปจุดเด่น
- ดีไซน์สวยระดับพรีเมี่ยม น้ำหนักเบา หน้าจอสีสันสดใส
- รองรับการติดตามการออกกำลังกายได้ตลอดเวลา
- กันน้ำได้ 50 เมตร
แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานทั้งสัปดาห์
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่มี GPS ในตัว
Fitbit Versa 2 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,990 บาท อุปกรณ์เสริมมีราคาตั้งแต่ 960 บาท ถึง 3,200 บาท และ Versa 2 Special Edition สี Navy และ Pink กรอบอลูมิเนียมสี Copper Rose และสี Smoke กรอบสี Mist Grey ราคา 8,990 บาท ซื้อออนไลน์บน Lazada ได้เลยที่นี่