Android News
พรีวิวแรกสัมผัส Galaxy A35 | A55 5G อัปเกรดใหม่ Awesome กว่าเดิม!
มาแล้ว! Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G สองสมาร์ทโฟนรุ่นกลางจาก A-Series ของ Samsung ที่รอบนี้อัปเกรดมาได้ Awesome ขึ้นมาก ทั้งดีไซน์, สเปค, กล้อง และหลังจากที่ได้ลองสัมผัสเครื่องจริงมากว่า 2 ชม.ก็ไม่พลาดทำบทความพรีวิวแรกสัมผัสของทั้ง 2 รุ่นนี้มาฝากอีกเหมือนเคยครับ จะ Awesome แค่ไหนติดตามกันเลยเถอะ!
ดีไซน์ Galaxy A35 | A55 5G
เริ่มต้นที่ดีไซน์กันก่อนเลย รอบนี้ Samsung อัปเกรดใหญ่ให้ทั้ง Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G สวยลงตัวขึ้นมาก อย่างที่หน้าจอได้จอ Super AMOLED ขนาด 6.6″ เท่ากันแล้ว มีการปรับสัดส่วนของขอบหน้าจอให้บางลงและสมมาตรกันในทุกมุมกว่าเดิม สังเกตว่าเราจะไม่เห็นส่วนล่างที่หนากว่าส่วนอื่น ๆ แบบมีนัยสำคัญแล้วนะ
และความดีงามอีกอย่างของรุ่น Galaxy A35 5G ก็คือรอบนี้ปรับดีไซน์มาใช้แบบจอเจาะรู Infinity-O เหมือน A55 5G แล้ว (ก่อนหน้านี้ A34 5G ยังเป็นจอ Infinity-U) ซึ่งทำให้หน้าจอดูทันสมัยขึ้น แสดงผลได้เต็มตาขึ้นไปอีก
ตัวหน้าจอของทั้งคู่จะเป็นแบบ Flat หรือแบนราบไปเลยไม่มีมุมโค้งใด ๆ เลยคือเป็น 2D เต็มรูปแบบนั่นแหละ เรื่องการความคมชัดก็ทำได้ดีบนความละเอียด FHD+ ครับ ได้ความสว่างสูงสุด 1000nits ใช้งานกลางแจ้งได้ดีขึ้น ส่วนสีสันรู้สึกว่าปรับจูนมาใหม่ให้ธรรมชาติขึ้น ตรงนี้เราว่าแอบสบายตาดี (อารมณ์คล้าย ๆ S24 ซอฟต์แวร์แรก)
กรอบเครื่องจะใช้ดีไซน์ใหม่คือ Key Island แบบเดียวกับ Galaxy A15 ก่อนหน้านี้เลย เพิ่มการจับถือที่ดีขึ้นและแปลกใหม่ให้ตัวเครื่องได้พอสมควรเลย
แต่ยังไม่หมดเท่านั้นอย่างที่บอกว่ารอบนี้ Samsung อัปเกรดใหญ่ให้ 2 รุ่นนี้ รอบนี้ Galaxy A55 5G เลยได้วัสดุกรอบเครื่องใหม่เป็นกรอบโลหะ ที่มีลวดลายแบบ Brush Finish เสริมความสวยงามและดูรู้ในทันทีว่านี่คือการอัปเกรดวัสดุที่ดีงามและเมื่อสัมผัสก็ยิ่งได้ความพรีเมี่ยมของความเย็นของโลหะกับความแข็งแกร่งชัดเจนครับ
ส่วน Galaxy A35 5G แม้วัสดุจะยังไม่เปลี่ยนเป็นโลหะแต่ก็ได้ผิวสัมผัสแบบด้านที่รู้สึกดีเมื่อจับถืออยู่เหมือนกัน จับถือได้สะดวกและไม่บาดมือครับ
พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังกันบ้างนี่เป็นจุดที่ Galaxy A35 5G ได้อัปเกรดมาอีกอย่างคือวัสดุฝาหลังของรุ่นนี้จะเปลี่ยนมาใช้เป็นกระจกแล้ว (จากเดิมเป็นพลาสติก) และ Galaxy A55 5G ก็อัปเกรดตัวกระจกใหม่เป็น Gorilla Glass Victus+ (จากเดิม Gorilla Glass 5) เช่นเดียวกัน ทำให้ภาพรวมทั้งคู่ดูหรูขึ้น แข็งแกร่งขึ้นด้วยครับ
ซึ่งตัวกระจกด้านหลังก็จะมีความแบนราบแบบ 2D ไปเหมือนกับหน้าจอด้านหน้าเลย ที่ด้านหลังมาพร้อมดีไซน์กล้องหลัง 3 ตัววางเรียงกันลงมาคล้ายรุ่นก่อน แต่พอกระจกหรูขึ้นกรอบเครื่องเป็นโลหะแบบนี้ มองเผิน ๆ แอบได้ความรู้สึกเหมือนเรือธงอย่าง Galaxy S24 เลยว่าไหมล่ะ!?
ตำแหน่งรอบ ๆ ตัวเครื่องก็วางไว้ตามฉบับของ Galaxy A รุ่นใหม่คือมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนและช่องใส่ซิมการ์ดอยู่ด้านบน
ด้านล่างมีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB-C ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และลำโพงหลักของตัวเครื่องที่รอบนี้เปลี่ยนจากช่อง ๆ มาเป็นแถบเส้นเดียวเหมือนกับ Galaxy S24 แล้วด้วยเนาะ
และจุดเด่นหลักของ Galaxy A ในยุคหลักอย่างการกันน้ำทั้ง Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G จะมีความสามารถกันน้ำระดับ IP67 มาเหมือนเดิม ให้เราลุยได้ทุกทีแบบ Awesome Durability เลยจริง ๆ ล่ะ
ส่วนสีสัน Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G จะได้สีเทรนดี้ใหม่มา 3 สีเหมือนกันคือ
- Awesome Navy สีกรมท่า
- Awesome Iceblue สีฟ้า
- Awesome Lilac สีม่วง
ซึ่งสีใหม่อย่าง Awesome Iceblue ก็จะเป็นฟ้าโทนพาสเทลที่ใกล้ขาวมาก ๆ มีความเป็นสีที่เรียบหรูและลงตัว ทั้ง Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G จะเป็นโทนเดียวกัน ความต่างจะอยู่ที่กรอบเครื่องที่ A55 5G จะมันวาวกว่าด้วยขอบโลกะอย่างที่บอกไปครับ
ส่วนอีกสี Awesome Lilac ก็เป็นม่วงโทนพาสเทลที่มีลูกเล่นของสีรุ้ง ๆ ซ่อนอยู่ภายในเวลาสะท้อนกันแสง ชวนให้นึกถึง Aura Pink ของ Galaxy Note10 อยู่ไม่น้อยเลยล่ะ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G ก็ถือว่าได้รับการอัปเกรดอยู่หลายจุด แม้ถ้ามองแว้บแรกจะไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่การได้เปลี่ยนทรงหน้าจอจาก Infinity-U มาเป็น Infinity-O ขอบจอสมมาตรขึ้นของ A35 5G หรือจะเป็นการเปลี่ยนวัสดุกรอบเครื่องเป็นโลหะของ A55 5G ก็ถือว่าช่วยให้การสัมผัสใช้งานจริงดูดีขึ้นมากเลยล่ะครับ
กล้อง Galaxy A35 | A55 5G
พูดถึง Galaxy A นอกจากเรื่องดีไซน์ที่เทรนดี้แล้ว เรื่องกล้องก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายด้วย Awesome Camera รอบนี้ Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G อัปเกรดกล้องมาได้น่าสนใจทีเดียว มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
สเปคกล้อง Galaxy A35 5G
- 50MP กล้องหลัก (Sony IMX882) f/1.8 OIS
- 8MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
- 5MP กล้อง Macro f/2.4
- 13MP กล้องหน้า f/2.2
สเปคกล้อง Galaxy A55 5G
- 50MP กล้องหลัก (Sony IMX906) f/1.8 OIS
- 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
- 5MP กล้อง Macro f/2.4
- 32MP กล้องหน้า f/2.2
จะเห็นว่ารอบนี้ทั้ง Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G จะได้กล้องหลักชุดเดียวกันเลยคือ 50MP พร้อม OIS ช่วยให้ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้นิ่งขึ้น นอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นยังอัปเกรดในเรื่องการถ่ายวิดีโอให้ยอดเยี่ยมขึ้นเป็นระดับ 4K ซึ่งคมชัดกว่า FHD ทั่วไปถึง 4 เท่าด้วย
ซึ่งวิดีโอ 4K ของทั้ง Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G จะรองรับระบบกันสั่น OIS ที่อัปเกรดใหม่แบบ Adaptive VDIS จึงทำให้เราได้ทั้งภาพที่คมชัดแถมยังกันสั่นเยี่ยมอีกต่างหาก ชัดระดับนี้เวลาเราถ่ายวิดีโอ Extreme มาก็ยังสามารถแคปภาพจากวิดีโอมาใช้งานได้เลยล่ะครับ
ส่วนในโหมด Portrait ก็มีการยกเครื่องใช้ AI เข้ามาเสริมการถ่ายภาพ ทำให้ตัดขอบได้เนียนตามากขึ้น หรือจะเป็นแสงน้อยก็เก่งขึ้นกว่าเดิมด้วย จากที่เราลองใช้งานมาคร่าว ๆ ก็ถือว่าทำได้ดีเลย ตัวกล้องหลักคุณภาพสูงและได้ไฟล์ที่สวยคม ตัดขอบเนียนจริง ๆ ครับ
สเปค Galaxy A35 | A55 5G
มาต่อเรื่องสเปค Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G ได้รับอัปเกรดชิปเซ็ตใหม่เป็น Exynos รุ่นล่าสุดที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหลาย % ดังนี้
- Galaxy A35 5G ใช้ชิป Exynos 1380 Octa-Core (5nm) | CPU แรงขึ้น 16% | GPU แรงขึ้น 15%
- Galaxy A55 5G ใช้ชิป Exynos 1480 Octa-Core (4m) | CPU แรงขึ้น 15% | GPU แรงขึ้น 32%
แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะทั้ง Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G อัปเกรดเรื่องระบบระบายความร้อนหรือ Vapor Chamber ใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 74% ช่วยลดความร้อนขณะเล่นเกมหนัก ๆ ได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน
แบตเตอรี่ของ Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G ก็ยังมาพร้อมความจุเยอะระดับ 5000mAh และมีระบบชาร์จเร็ว 25W Super Fast Charging เหมือนเดิม ส่วนระบบปฏิบัติการเป็น Android 14 และ One UI 6.1 มาตั้งแต่แกะกล่องเลย แต่น่าเสียดายที่ไม่มีฟีเจอร์ Galaxy AI มาให้ด้วยครับ
สรุปสเปค Galaxy A35 5G
- หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 6.6″
- ความละเอียดหน้าจอ : FHD+ อัตราส่วน 19.5:9, ความสว่างสูงสุด 1000nits
- Refresh rate : 120Hz
- ชิปเซ็ต : Exynos 1380 Octa-Core (5nm)
- RAM : 8GB
- ความจุ : 128GB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จไว : 25W
- กล้องหน้า : 13MP f/2.2
- กล้องหลัง : 3 ตัว
- 50MP กล้องหลัก f/1.8 พร้อม OIS
- 8MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
- 5MP กล้อง Macro
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 (One UI 6.1)
สรุปสเปค Galaxy A55 5G
- หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 6.6″
- ความละเอียดหน้าจอ : FHD+ อัตราส่วน 19.5:9, ความสว่างสูงสุด 1000nits
- Refresh rate : 120Hz
- ชิปเซ็ต : Exynos 1480 Octa-Core (4nm)
- RAM : 8GB/12GB
- ความจุ : 128GB/256GB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จไว : 25W
- กล้องหน้า : 32MP f/2.2
- กล้องหลัง : 3 ตัว
- 50MP กล้องหลัก f/1.8 พร้อม OIS
- 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
- 5MP กล้อง Macro
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 (One UI 6.1)
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงพรีวิวแรกสัมผัสของ Galaxy A35 5G และ Galaxy A55 5G หลังจากลองใช้งานมาคร่าว ๆ เท่านั้น เราว่านี่เป็นการอัปเกรดที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะมีทั้งเรื่องวัสดุที่พรีเมี่ยมขึ้น สีสันที่เทรนดี้ตรงกลุ่มวัยรุ่น กล้องที่เก็บภาพนิ่งและวิดีโอได้ความละเอียดสูงกว่าเดิม และยังสเปคที่แรงขึ้นอีกด้วย เป็น Galaxy A ใหม่ที่แฟน ๆ น่าจะถูกใจในความ Awesome ใหม่แน่นอนครับ!
ราคาและโปรโมชั่น
สำหรับ Galaxy A35 5G มีให้เลือกความจุเดียว ส่วน Galaxy A55 5G มีให้เลือก 2 ความจุ มีราคาและความจุดังนี้เลย
- Galaxy A35 5G (8GB+128GB) ราคา 11,999 บาท
- Galaxy A55 5G (8GB+128GB) ราคา 13,999 บาท
- Galaxy A55 5G (12GB+256GB) ราคา 15,999 บาท
โดย Galaxy A55 5G จะมีโปรโมชั่นพิเศษ 2 ต่อเมื่อซื้อภายในวันที่ 11 – 31 มีนาคมนี้ ประกอบด้วย
- ต่อที่ 1 อัปความจุฟรี! มูลค่า 2,000 บาท (จาก 8GB+128GB เป็น 12GB+256GB)
- ต่อที่ 2 ลดพิเศษอีก 500 บาท จ่ายเพียง 13,499 บาท