Galaxy A53 5G และ iPhone SE 3 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung และ Apple ที่มีระดับราคาใกล้เคียงกันมากๆ แล้วสเปคทั้งสองรุ่นแตกต่างกันอย่างไร ควรเลือกรุ่นไหนดี และเหมาะกับใคร
เทียบสเปค Galaxy A53 5G และ iPhone SE 3
[table id=80 /]
Galaxy A53 5G และ iPhone SE 3 เหมาะกับใคร
อยากแรกเลยที่สมาร์ทโฟนทั้งสองมีความแตกต่างกันชัดเจนคือในเรื่องของระบบปฏิบัติการระหว่าง Android และ iOS หากใครกำลังเคยใช้ระบบไหนอยู่แล้ว การใช้ระบบเดิมหรือมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่เป็นของค่ายนั้นๆ ก็เป็นทางเลือกที่ง่ายกว่าที่จะเลือกระบบปฏิบัติการนั้น
ถัดมาเป็นเรื่องของหน้าจอ หากคุณเป็นแฟน Android หรือ Samung การเลือก Galaxy A53 5G ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนในกว่าด้วยหน้าจอที่ใหญ่ ความคมชัดระดับ Full HD และรองรับอัตรารีเฟรชหน้าจอ 120Hz แต่หากต้องการเลือก iOS ควรมองไปที่รุ่นใหญ่กว่า iPhone SE 3 เนื่องจากรุ่นนี้หน้าจอเล็กเกินไปแล้วสำหรับคอนเทนท์ในปัจจุบัน
สำหรับแฟนๆ Apple หรือผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนขนาดเล็ก พกพาง่าย เหมาะกับเด็กๆ โดยมาพร้อมชิปประมวลผล A15 Bionic ประสิทธิภาพเร็วแรงใช้งานได้หลายปี เพราะอย่างที่ทราบกันว่า Apple สนับสนุนการอัปเดทซอฟต์แวร์ต่อเนื่องหลายปี และยังมี Touch ID สำหรับสแกนลายนิ้วมือ แทนที่จะเป็น Face ID เพื่อลดความยากในการใช้งานสำหรับเด็กที่มีอายุน้อย (แนะนำการเลือก iPhone 2022)
ในเรื่องของกล้องถ่ายรูป Galaxy A53 5G จะตอบโจทย์การถ่ายรูปในทุกสถานการณ์มากกว่าด้วยกล้องหลัง 4 ตัว แต่ถ้าจะเลือก iPhone และใช้งานถ่ายรูปจริงจัง ควรมองไปที่รุ่นที่มีเลนส์คู่ขึ้นไป แทนที่จะเป็น iPhone SE 3 และหากเป็นแฟน Apple แต่ไม่แน่ใจว่าต้องการเน้นอะไรเป็นพิเศษ iPhone 13 จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของดีไซน์ ขนาดตัวเครื่อง ฟีเจอร์ต่างๆ ประสิทธิภาพตัวเครื่อง และราคา
ประสิทธิภาพชิปประมวลผลก็ต้องยกให้ iPhone SE 3 เพราะเป็นชิปตัวเดียวกันกับ iPhone 13 นั่นก็คือ A15 Bionic ตัวใหม่ล่าสุดในขณะนี้
นอกจากนี้แล้วในเรื่องของแบตเตอรี่ IPhone SE 3 รองรับชาร์จไร้สาย แต่ทางด้าน Galaxy A53 5G มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และชาร์จเร็ว 25W
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ก็เป็นการเปรียบเทียบสเปคระหว่าง Galaxy A53 5G และ iPhone SE 3 ที่มีราคาใกล้เคียงกัน เพื่อให้เห็นจุดแตกต่างสำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลสองรุ่นนี้ แต่สุดท้ายแล้วการเลือกรุ่นที่ดีที่สุดก็คือรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุดนั่นเองครับ
อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ