Android News
เปรียบเทียบ Galaxy S21 FE vs Galaxy S21+ ห่างกัน 11,000 บาท ต่างกันแค่ไหน ควรซื้อรุ่นไหนดี !?
Galaxy S21 FE เปิดตัวต้อนรับปี 2022 ได้อย่างฮือฮา เพราะจัดสเปคและฟีเจอร์มาให้ระดับเดียวกับ Galaxy S21 และ S21+ ในราคาที่สบายกระเป๋ากว่า แล้ว…ถ้าเทียบกับรุ่นพี่อย่าง Galaxy S21+ ในปี 2022 แบบนี้รุ่นไหนน่าสนใจกว่ากัน ด้วยราคาที่แตกต่างกันอยู่ 11,000 นี้
เราขอมาเปรียบเทียบกันชัด ๆ ในทุกจุดระหว่าง Galaxy S21 FE vs Galaxy S21+ ว่ารุ่นไหนกันแน่ที่เหมาะกับคุณ เผื่อมีแผนจะซื้อเรือธงรุ่นใหม่จาก Samsung อยู่น่ะเนาะ พร้อมแล้วติดตามได้จากรีวิวนี้เลยครับ
ดีไซน์
ดีไซน์ | Galaxy S21 FE | Galaxy S21+ |
ขนาดตัวเครื่อง | 155.7 x 74.5 x 7.9 มม. | 161.5 x 75.6 x 7.8 มม. |
น้ำหนัก | 177 กรัม | 202 กรัม |
วัสดุ | Polycarbonate | กระจกผิวด้าน |
สีสัน | มีให้เลือก 4 สี Olive, Graphite, White, Lavender | มีให้เลือก 3 สี Phantom Violet, Silver, Black |
เริ่มต้นที่เรื่องดีไซน์รูปลักษณ์กันก่อนเลย Galaxy S21 FE และ Galaxy S21+ มาในรูปแบบดีไซน์เดียวกันคือ Contour-Cut Design คือมาพร้อมกรอบเลนส์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ด้านหลัง แต่จะแตกต่างกันที่ S21 FE จะใช้ฝาหลังสีเดียวกับกรอบเลนส์ไปเลย ส่วน S21+ จะเป็นแบบ Two-Tone และวัสดุที่ใช้ก็แตกต่างกันไปด้วย
Galaxy S21+ ได้เปรียบกว่าเพราะใช้ฝาหลังกระจกผิวด้านพร้อมกรอบเครื่องผิวมันวาว ดูแล้วหรูหรากว่าชัดเจนสัมผัสของฝาหลังดูเป็นเรือธงสมราคา 30K จริง ๆ แต่ก็มีจุดสังเกตคือน้ำหนักที่อาจจะมากกว่าในการจับถือใช้งานครับ ส่วน Galaxy S21 FE จะใช้ฝาหลังเป็น Polycarbonate ซึ่งแน่นอนว่าเกรดนั้นต่างกว่า แต่ความรู้สึกในการสัมผัสก็ยังยอดเยี่ยมอยู่เพราะผิวสัมผัสเป็นแบบด้าน เนียนมือแถมยังได้น้ำหนักที่เบากว่าเข้ามาทดแทน (177 กรัม vs 202 กรัม) ซึ่งตรงนี้เราว่าดีกันคนละแบบ
อีกอย่างที่เราชอบบน Galaxy S21 FE มากกว่า S21+ ก็คือการจับถืออย่างที่บอกว่าน้ำหนักนั้นเบากว่าแล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือเรื่องกรอบตัวเครื่องบน S21 FE เป็นผิวแบบด้านแถมเต็มพื้นที่กว่าทำให้ถือได้สะดวกสบายและเข้ามือมากกว่า กรอบแบบมันวาวและเว้นขอบให้ฝาหลังโค้ง 3D ของ S21+ ครับ
หน้าจอ
หน้าจอ | Galaxy S21 FE | Galaxy S21+ |
ขนาด | 6.4″ | 6.7″ |
ชนิดหน้าจอ | Dynamic AMOLED 2X | Dynamic AMOLED 2X |
ความละเอียด | FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) | FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) |
refresh rate | 120Hz | 120Hz |
มาต่อกันที่หน้าจอทั้งคู่ใช้จอ Dynamic AMOLED 2X เหมือนกัน ในเรื่องการแสดงผลสีสัน ทำออกมาได้ดีทั้งคู่ ทั้งความสดความคมชัดจัดว่าเป็นระดับท็อปของ Samsung แล้วล่ะครับ ทั้งคู่ใช้ดูหนังหรือเล่นเกมได้แบบฟินมาก ๆ ครับ
ขนาดหน้าจอใครที่ชอบความบันเทิงที่เต็มตากว่าคงต้องไปที่ Galaxy S21+ เนื่องจากให้จอมาใหญ่ถึง 6.7″ ในขณะที่ S21 FE มีจอขนาด 6.4″ แต่จากการใช้งานเทียบกันจริงก็ถือว่าต่างไม่เยอะ แต่ขนาด 6.4″ ของ S21 FE ก็กำลังเป็นไซซ์ที่พอดีสำหรับหลาย ๆ อย่างรวมถึงการพกพาด้วยครับ
ในเรื่องการตอบสนองก็ทำได้ดีทั้งคู่เพราะรองรับ refresh rate สูง 120Hz เหมือนกัน ใช้งานแล้วรับรู้ได้เลยว่าลื่นไหลดีมาก ตรงนี้เรียกว่าให้ประสบการณ์ได้เทียบเท่ากันเลยครับ ใช้เล่นโซเชี่ยลหรืออ่านเว็บฟินสุด ๆ
สเปค
สเปค | Galaxy S21 FE | Galaxy S21+ |
ชิปเซ็ต | Exynos 2100 (5nm) | Exynos 2100 (5nm) |
แรม | 8GB | 8GB |
รอม | 128GB/256GB | 128GB/256GB |
แบตเตอรี่ | 4500mAh | 4800mAh |
ระบบชาร์จ | ชาร์จไว 25W | ชาร์จไว 25W |
เข้าเรื่องสเปคเป็นจุดที่ Galaxy S21 FE ทำได้ดีมาก อย่างที่บอกว่าให้สเปคมาเหมือนรุ่นพี่เลย เท่าที่เห็นจากตารางด้านบนสเปคทั้งหมดแทบจะเหมือนกันเลย ทั้ง ชิปเซ็ต แรม รอม ระบบชาร์จ จะแตกต่างกันเพียงแค่ความจุแบตเตอรี่ซึ่งก็ถือว่าใกล้เคียงกันเนื่องจากหน้าจอของทั้งคู่มีขนาดแตกต่างกัน
ในเรื่องประสิทธิภาพเท่าที่เราลองทดสอบผ่านแอป AnTuTu ดูคะแนนที่ออกมาใกล้เคียงกันมาก Galaxy S21 FE 702851 คะแนน vs Galaxy S21+ 730835 คะแนน ถือว่าใกล้เคียงกัน ใช้งานจริงแทบไม่รู้สึกถึงความต่างเลย ทั้งคู่ทำได้ดีมาก ๆ ครับ
หรือจะเป็นการเล่นเกมเท่าที่เราลองเล่น Call of Duty เทียบกันดู ก็ทำได้ลื่นไหลไม่ต่างกันด้วย ในเรื่องประสิทธิภาพถือว่าทำได้เสมอกันเลย บอกแล้วว่า S21 FE เขาจัดสเปคมาเทียบเท่ารุ่นพี่ S21+ จริง ๆ
กล้อง
กล้อง | Galaxy S21 FE | Galaxy S21+ |
กล้องหลัก | 12MP f/1.8 | 12MP f/1.8 |
กล้อง Ultra Wide | 12MP f/2.2 | 12MP f/2.2 |
กล้อง Tele 3X | 8MP f/2.4 | 64MP f/2.0 |
กล้องหน้า | 32MP f/2.2 | 10MP f/2.2 |
ปิดท้ายที่เรื่องกล้องทั้งคู่ได้กล้องโปร 3 เลนส์ 3 ระยะเหมือนกัน ในกล้องหลักและกล้อง Ultra Wide ทำได้ดีสมกับเป็น Samsung ทั้งคู่ เก็บรายละเอียดของภาพได้ดี เก็บมุมกว้างก็กว้างถูกใจมีฟีเจอร์ AI Scene ปรับภาพให้สวยเหมือนกัน ภาพที่ได้จากกล้องของทั้งคู่ก็ใกล้เคียงกัน แถมยังมี Night mode ให้ใช้ในทุกเลนส์อีกด้วย เรียกว่ากินกันไม่ลงจริง ๆ ครับ
แต่จุดที่แตกต่างแบบเห็นชัดหน่อยคงเป็นกล้อง Tele แม้ความละเอียดของกล้องจะต่างกัน ถ้าดูจากตัวเลขแน่นอนว่า S21+ กินขาด (8MP vs 64MP) แต่ในการใช้งานจริง ทั้งคู่ทำได้ดีพอกันในระยะ 3X แต่ถ้าซูมไปมากกว่านั้นสัก 10X หรือ 30X จะได้ความคมชัดที่มากกว่า รวมถึงในโหมด Portrait บน S21 FE ก็ยังได้ระยะซูมสูงสุดที่ 3X ส่วน S21+ จะได้แค่ 2X ใครที่อยากได้ระยะซูมที่ไกลกว่า คงต้องมองไปที่ S21 FE แทนล่ะครับงานนี้
อีกจุดที่ S21 FE ชนะ S21+ คือกล้องหน้าครับ เพราะด้วยความเน้นกลุ่มวัยรุ่นกว่าจึงมาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดสูงถึง 32MP เมื่อเทียบกับ S21+ ที่มีกล้องหน้า 10MP แล้วชนะไปเลย ทั้งความละเอียดและผลลัพธ์ที่ได้จากกล้องครับ
ส่วนลูกเล่นอื่น ๆ ในการปรับแต่ง แชร์ Galaxy S21 FE ก็มีมาให้เหมือน S21+ ทุกประการทั้งโหมด Portrait หน้าชัด-หลังเบลอ ฟีเจอร์ My Filters ปรับโทนสี หรือ ลบวัตถุ ถ่ายแลัวปรับแต่งในเครื่องไม่ได้ปรับเพิ่ม อันนี้ทำได้ดีเหมือนรุ่นพี่เลยครับ
ราคา
ราคา | Galaxy S21 FE | Galaxy S21+ |
เปิดตัวเริ่มต้น | 22,900 บาท | 33,900 บาท (มีโปรโมชั่นเหลือ 28,900 บาท) |
และเรื่องราคา อย่างที่บอกว่าทั้ง 2 รุ่นนั้นราคาเปิดตัวต่างกันถึง 11,000 บาท แม้ปัจจุบัน Galaxy S21+ จะมีโปรโมชั่นพิเศษลดราคามาเหลือ 28,900 แล้วก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าห่างกันถึง 6,000 บาทแหนะ
สรุปแล้วถ้ามองในมุมความคุ้มค่า เราขอยกให้ Galaxy S21 FE เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า เพราะหลาย ๆ อย่างที่ให้มานั้นไม่แพ้รุ่นพี่เลย ทั้งสเปค กล้อง หน้าจอ จะมีจุดที่ด้อยกว่าเล็กน้อยก็คือเรื่องวัสดุและงานประกอบ ซึ่งหากมองว่าประหยัดไปได้กว่า 6,000 – 11,000 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่ากว่ากันเยอะครับ
ฟันธงให้เลยว่าใครที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับเรือธงจาก Samsung ในตอนนี้แนะนำไปที่ Galaxy S21 FE เลยครับ ด้วยความสดใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมา แถมยังได้สเปคและฟีเจอร์ระดับเดียวกับรุ่นพี่ S21+ แต่มาในราคาที่สบายกระเป๋ากว่า แบบนี้ก็ต้องโดนแล้วล่ะ! Galaxy S21 FE (Fan Edition) ออกมาเพื่อแฟนจริง ๆ ครับ