Samsung ได้เปิดตัว Galaxy S25 Series อย่างเป็นทางการไปแล้วครับ ซึ่งจะมีความแตกต่างและได้รับการอัปเกรดจาก Galaxy S24 Series ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะดีไซน์ที่มีการปรับเปลี่ยนโฉมในรุ่นของ Ultra ให้โค้งมนมากขึ้นกว่าเดิมครับ ส่วนอื่นๆ จะมีอะไรบ้างของทั้ง 6 รุ่นใน 2 ตระกูล เราได้เปรียบเทียบหลักๆ ไว้ให้แล้ว !!
Galaxy S25 Ultra vs. Galaxy S24 Ultra
มาเปิดการเทียบกับรุ่น Ultra ของทั้ง 2 รุ่นกันเลยครับ ซึ่งดีไซน์มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่เราบอกตอนแรก ซึ่ง Galaxy S25 Ultra จะมีความโค้งมนทั้ง 4 มุมแบบชัดเจน ต่างจากรุ่นเดิมที่เป็นมุมเหลี่ยม ที่สำคัญ ตัวเครื่องในรุ่นใหม่ยังบางลงกว่าเดิมและเบากว่าเดิมด้วย (232 กรัม / 219 กรัม)
หน้าจอใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย
สำหรับหน้าจอแสดงผลทั้ง 2 รุ่นจะยังใกล้เคียงกันมาก โดย Galaxy S25 Ultra ได้รับขอบหน้าจอที่บางมากขึ้นกว่าเเดิม ทำให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาเป็น 6.9 นิ้ว จากเดิมที่ 6.8 นิ้วครับ ส่วนความละเอียดยังคงเท่าเดิมที่ 3120 x 1440 พิกเซล รองรับ Refresh Rate 120Hz ขณะที่ความสว่างของ Galaxy S25 Ultra ก็สูงขึ้นกว่าเดิมมาเป็น 2600 นิต รวมถึงอัปเกรดหน้าจอที่ลดการสะท้อนแสงได้ดีขึ้นด้วย
สเปคภายในยังคล้ายเดิมและชิปเซ็ตยังคง Snapdragon !
สำหรับชิปฌซ็ตในรุ่น Ultra ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังคงเป็นของ Qualcomm โดยรุ่นใหม่จะเป็น Snapdragon 8 Elite for Galaxy ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องความเร็วและแรงขึ้นดีขึ้นแบบเห็นได้ชัดมากๆ แถมในรุ่นใหม่ยังมีขนาดเล็กลงมาเป็น 3nm จากเดิมใน Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy คือ 4nm ครับ ส่วน RAM ยังเท่าเดิมที่ 12GB รวมถึง ROM ที่มี 256GB/512GB/1TB เท่ากัน
ส่วนแบตเตอรี่ยังเหมือนเดิม คือ 5000mAh และชาร์จเร็ว 45W ผ่านสาย อย่างไรก็ตาม ก็มีการอัปเกรดขึ้นมาในเรื่องการชาร์จไร้สายที่เป็น 25W จากเดิมที่ 15W ตามมาตรฐานของ Qi2 นั่นเอง
S-Pen ภายในไม่เหมือนเดิม !
แม้ว่าภายนอกของปากกา S-Pen จะยังคล้ายเดิม แต่ฟังก์ชันภายในของ Galaxy S25 Ultra ได้ถูกตัดบลูทูธออกไปแล้วครับ แต่ยังคงใช้งานการเขียนได้ตามปกติ แต่จะไม่สามารถใช้วนๆ เพื่อซูมกล้อง ปัดเพื่อเปลี่ยนโหมดกล้อง รวมถึงการกดชัตเตอร์ได้แล้วครับ
กล้องอัปเกรดขึ้นอยู่นะ
สำหรับกล้องหลังของ Galaxy S25 Ultra และ Galaxy S24 Ultra นั้นจะเหมือนกันถึง 3 เลนส์ คือเลนส์หลัก 200MP (มี OIS) + Telephoto 3x 10MP + Periscope 5x (50MP) แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือเลนส์ Ultra-Wide ที่ขยับขึ้นมาใช้ 50MP แทนที่ 12MP แล้วครับ
Galaxy S25 l S25+ vs. Galaxy S24 l S24+
มาต่อกันที่รุ่นธรรมดากันบ้างครับ บอกเลย่าวหลายอย่างยังคงคล้ายกันมากๆ โดยเฉพาะเรื่องของดีไซน์ที่มีความโค้งมนตามปกติของรุ่งธรรมดา แต่ก็จัมีต่างกันที่ความหนาของตัวโมดูลกล้องที่มีขอบดำมากขึ้นกว่าเดิมครับ
หน้าจอแสดงผลของทั้ง 2 ในรุ่นในทั้ง 2 ตระกูลยังคงเท่าเดิม โดย S25 และ S24 จะอยู่ที่ 6.2 นิ้ว แบบ FHD+ 120Hz ครับ ขณะที่รุ่น Plus จะอยู่ที่ 6.7 นิ้วเหมือนเดิม ความละเอียด 3120 x 1440 พิกเซล แบบ 120Hz
ชิปเซ็ตภายในอัปเกรดได้ถูกใจ !!
รอบนี้ตัวธรรมดาอย่าง S25 และ S25+ ได้ใช้ Snapdragon 8 Elite ทั้งหมด ต่างจาก S24 และ S24+ ที่ใช้ Exynos 2400 ครับ ซึ่งหลายคนน่าจะต้องการชิปฝั่ง Qualcomm อยู่แล้ว ปีนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมาก !! ทั้งนี้ RAM ทุกรุ่นได้ใช้ 12GB เหมือนกันหมดแล้ว ต่างจาก S24 ที่ยังได้ RAM 8GB อยู่เท่านั้น ขณะที่ ROM ในไทยก็อยู่ที่ 256GB/512GB เท่ากันครับ
ส่วนแบตเตอรี่ของต้องบอกว่ายังเท่าเดิมครับ โดย S25 อยู่ที่ 4000mAh ชาร์จเร็ว 25W + ชาร์จไร้สาย 15W เหมือนกับ S24 ส่วน S25+ ก็เท่ากับ S24+ ที่ 4900mAh ชาร์จเร็ว 45W แต่รุ่นใหม่จะได้ชาร์จไร้สายแบบ Qi2 ครับ
กล้องเหมือนเดิมเด๊ะ !
ต้องบอกว่าแอบเสียกายเล็กๆ ตรงที่กล้องของทั้ง 3 เลนส์ของทั้ง 4 รุ่น 2 ตระกูล ไม่ได้ถูกเปลี่ยนไปเลยครับ คือ เลนส์หลัก 50MP + Tele 3x 10MP + Ultra-Wide 12MP
ถือว่าจบการเปรียบเทียบระหว่าง Galaxy S25 Series และ Galaxy S24 Series กันแล้วครับ ใครที่ชอบรุ่นใหม่กันบ้างก็คอนเมนต์กันได้เลย นอกจากนี้ เราก็ขอสรุปราคารุ่นใหม่ให้ชมกันอีกรอบ ตามนี้ !
Galaxy S25 Ultra มี 4 สีหลัก ได้แก่ Titanium Silverblue, Titanium Black, Titanium Whitesilver และ Titanium Gray โดยยังมีอีก 3 สีพิเศษ (เฉพาะ samsung.com) ได้แก่ Titanium Jadegreen, Titanium Jetblack และ Titanium PinkGold
- 12GB + 256GB ราคา 46,900 บาท
- 12GB + 512GB ราคา 52,900 บาท
- 12GB + 1TB ราคา 62,900 บาท
Galaxy S25+ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Mint, Navy, Silver Shadow และ Icyblue โดยยังมีอีก 3 สีพิเศษ (เฉพาะ samsung.com) ได้แก่ Pinkgold, Blueblack และ Coralred
- 12GB + 256GB ราคา 36,900 บาท
- 12GB + 512GB ราคา 41,900 บาท
Galaxy S25 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Mint, Navy, Silver Shadow และ Icyblue โดยยังมีอีก 3 สีพิเศษ (เฉพาะ samsung.com) ได้แก่ Pinkgold, Blueblack และ Coralred
- 8GB + 256GB ราคา 29,900 บาท
- 8GB + 512GB ราคา 34,900 บาท
