Android News
พรีวิว Galaxy Tab S10 Series สองแท็บเล็ตเรือธงพร้อม Galaxy AI และครั้งแรกกับชิป MediaTek Dimensity!
พรีวิว Galaxy Tab S10 Series แท็บเล็ตเรือธงรุ่นล่าสุดของ Samsung รอบนี้เหลือเพียง 2 รุ่นคือ Galaxy Tab S10+ และ Galaxy Tab S10 Ultra ตัดรุ่นเริ่มต้นออกไป เน้นไปที่รุ่นจอใหญ่ที่ทรงพลังแบบขั้นสุดไปเลย ทีมงาน iphone-droid.net ได้มีโอกาสลองสัมผัสเครื่องจริงของทั้ง 2 รุ่นมาแล้ว เป็นเวลาสั้น ๆ และก็ไม่พลาดเก็บมาทำบทความแรกสัมผัสให้ชมกันอีกเช่นเคย น่าสนใจแค่ไหน ติดตามครับ!
AI-Powered Tablet
Galaxy Tab S10 Series นั้นถือเป็นแท็บเล็ตเรือธงรุ่นแรกของ Samsung ที่มาพร้อมพลัง AI ตั้งแต่แกะกล่อง ถูกวางให้เห็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ทำงานได้ฉลสดยิ่งขึ้น ต่อยอดจาก Tab S9 Series รุ่นก่อน ที่รอบนี้จะเน้นการทำงานด้าน Galaxy AI ที่จริงจังขึ้น รวดเร็วกว่าที่เคย มีให้เลือก 2 รุ่นอย่างที่บอกไปครับคือ Galaxy Tab S10+ และ Galaxy Tab S10 Ultra ทั้ง 2 รุ่นนี้จะต่างกันหลัก ๆ ที่ขนาดหน้าจอและแบตเตอรี่ แต่ความสามารถต่าง ๆ นั้นเหมือนกันหมด!
ดีไซน์ Galaxy Tab S10 Series
แม้จะบอกว่าทั้งคู่ให้อะไรมาเหมือน ๆ ต่างกันที่ขนาดหน้าจอ แต่จริง ๆ ในรายละเอียดของหน้าจอก็มีความต่างกันอยู่นิดหน่อย ตรงที่ Galaxy Tab S10+ จะใช้หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 12.4″ มาตรฐานที่ยังมีขอบจอให้เห็นอยู่พอสมควร
ในขณะที่ Galaxy Tab S10 Ultra รุ่นใหญ่สุดจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 14.6″ อลังการสุด ๆ แถมยังได้ขอบจอที่บางเฉียบลงไปอีก ถ้าเทียบกันจริง ๆ จะเห็นเลยว่ารุ่น Ultra นั้นขอบบางจนแทบจะชิดไปแล้วแหละ
แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะหน้าจอของ Galaxt Tab S10 Ultra ยังมาพร้อมเทคโนโลยีลดแสงสะท้อนใหม่ แบบเดียวกับที่เราเคยเห็นบน Galaxy S24 Ultra อีกด้วย ทำให้เวลาเราใช้งาน ไม่ว่าจะเสพคอนเทนต์หรือทำงานนั้นสบายตายิ่งขึ้น
และอีกอย่างที่ทำให้จอของ Galaxy Tab S10 Ultra ดูต่างไปจาก Tab S10+ ก็คือรอยบากบนหน้าจอที่ยังมียื่นออกมานิดหน่อย ก็ขอบจอบางกว่าตัวกล้องซะขนาดนั้นนี่เนอะ ซึ่งบนรอยบากนี้ก็จะมีกล้องหน้าให้ 2 ตัวคือกล้องหลักและ Ultra Wide เลยด้วยนะ
อัตราส่วนหน้าจอของ Galaxy Tab S10 Series นั้นออกแบบมาสำหรับความบันเทิงได้ดี รวมถึงทำงานก็ยอดเยี่ยมด้วยอัตราส่วนแบบ 16:10 ซึ่งจะเข้ากับวิดีโออัตราส่วนมาตรฐาน (16:9) มากกว่าแท็บเล็ตคู่แข่งในตลาด อย่างในภาพจะเห็นเลยว่าคู่แข่งที่อยู่ซ้าย (4:3) และขวา (3:2) นั้นเหลือขอบดำที่มากกว่าเครื่องกลางที่เป็น Tab S10+ อย่างชัดเจน
ความบางยังคงเป็นอีกเอกลักษณ์ของ Galaxy Tab S10 Series เช่นกัน ตัวเครื่องมาพร้อมความบางแค่ 5.4 มม. ในขณะที่รุ่นน้อง Tab S10+ จะบาง 5.6 มม.ครับ ซึ่งถือว่าบางมากในกลุ่มแท็บเล็ตเรือธง
สำหรับสีสันของ Galaxy Tab S10 Series บ้านเราจะมีให้เลือกสีเดียวเลยคือ Moonstone Gray หรือสีเทาที่รอบนี้สว่างขึ้น มีความอมฟ้าหน่อย ๆ ให้ความโดดเด่นขึ้นมาอีก ได้ทั้งความสดใสที่มากขึ้นและเข้าถึงได้มากกว่าสีเทาเข้มของรุ่นที่แล้ว
ไม่ใช่แค่สีตัวเครื่องโดยรวมเท่านั้นด้วย เพราะที่กรอบเลนส์รอบนี้ก็ใช้สีขาวรอบ ๆ เพื่อเพิ่มความสว่างเข้าไปอีก ทั้ง 2 รุ่นก็จะได้กล้องหลัง 2 ตัวเหมือนกันแบ่งเป็นกล้องหลัก 13MP + กล้อง Ultra Wide อีก 8MP นั่นเอง
เช่นเดียวกับช่องชาร์จ S Pen รอบนี้ก็มีการปรับมาใช้สีเทาอ่อนเลย เพื่อให้เห็นเด่นชัดกว่าเดิมเวลาเราจะแปะชาร์จ ไม่ใช่สีเดียวกับตัวฝาหลังเหมือนรอบที่ผ่าน ๆ มาแล้วครับ
ส่วนตัว S Pen เองก็ใช้สีเทาอ่อนขึ้น มาในขนาดที่พอดีมือเหมือนเดิม และแน่นอนว่ามีแถมมาในกล่องไม่ต้องซื้อเพิ่มเติม
เคสคีย์บอร์ดยังคงใช้งานได้คล่องแคล่วเหมือนเดิม ตัวปุ่มนั้นเป็นแบบ Full-Sized เว้นระยะห่างได้เหมือนกับบนแล็ปท็อปดี ๆ เลย มีปุ่มฟังก์ชั่นมาให้ใช้งานด้วย
แต่ความพิเศษใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในรอบนี้คือปุ่ม Galaxy AI ที่เมื่อเรากดปุ๊บจะเป็นการเรียก Gemini ขึ้นมาทันที แถมเป็นแบบ Pop-up view ขึ้นมาเลยด้วย ทำให้ไม่ว่าจะอยู่หน้าแอปไหนอยู่ก็พร้อมสั่งงานหรือค้นหาข้อมูลได้แบบทันที
ด้านดีไซน์ Galaxy Tab S10 Series อาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจาก Tab S9 Series มากนัก ยังคงได้ตัวเครื่องที่เพรียวบาง มีหน้าจอขนาดใหญ่ให้เลือกสูงสุดที่ 14.6″ งานประกอบโลหะแบบ Unibody เหมือนเดิม แต่จุดที่เปลี่ยนไปก็คือสีสันที่รอบนี้ดูสว่างขึ้น บวกกับหน้าจอลดแสงสะท้อนที่เพิ่มเข้ามาบนรุ่น Tab S10 Ultra ก็มอบความต่างเมื่อลองใช้งานได้เหมือนกันนะ
สเปค Galaxy Tab S10 Series
จุดที่เปลี่ยนไปจริง ๆ ของ Galaxy Tab S10 Series ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องภายใน เพราะรอบนี้มีการเปลี่ยนชิปเซ็ตเป็นของ MediaTek ครั้งแรกในรุ่นเรือธง ก่อนหน้า Samsung เลือกใช้ชิป Snapdragon มาตลอด รอบนี้ใช้เป็น Dimensity 9300+ ชิปเรือธงในปีนี้
ด้านประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับ Galaxy Tab S9 Series ที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 เดิมแล้วจะดีขึ้นรอบด้าน ทั้ง CPU เร็วขึ้น 18% GPU แรงกว่าเดิม 28% และ NPU ฉลาดกว่าเดิมอีก 14% ด้วยกัน
และเอาใจสายเกมชิป Dimensity 9300+ จะเพิ่มประสิทธิภาพของ Ray Tracing ขึ้นอีก 57% และนอกจากนี้ด้านการจัดการพลังงานก็จะดีขึ้นอีก 16% รวมถึงมีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ใหญ่ขึ้นอีก 1.48 เท่า เล่นเกมหนัก ๆ ก็จะดีขึ้นไปอีกด้วย
ซอฟต์แวร์ Galaxy Tab S10 Series
และไฮไลท์หลักของ Galaxy Tab S10 Series รอบนี้ก็มาอยู่ที่ซอฟต์แวร์ที่ปรับรูปแบบมาให้ใช้งานได้จริงจังยิ่งขึ้น มีฟีเจอร์ AI เข้ามาเสริมการทำงานให้สะดวกขึ้น อย่างปุ่มลัด Galaxy AI บนคีย์บอร์ดอย่างที่บอกไป หรือฟีเจอร์ Galaxy AI ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ต่อยอดให้ใช้งานได้รวดเร็วขึ้นไปอีก
อาทิ การสรุปเนื้อหาบนหน้าเว็บ บางทีเข้าไปอ่านเว็บไซต์ที่มีเนื้อหามากเหลือเกิน อยากให้สรุปเป็นใจความสั้น ๆ ไม่กี่บรรทัด ก็ใช้ Galaxy AI สรุปความให้ได้เลย จะเป็นเว็บไซต์ภาษาต่างประเทศก็ไม่ต้องกลัว เพราะสรุปเสร็จแล้วสามารถแปลให้เราได้อีกแหนะ
ถอดเทปจากเสียงที่บันทึกมาก มีประโยชน์มากเวลาเราจดโน้ตในห้องเรียน หรือการประชุมที่มีข้อความเยอะ ๆ Galaxy AI จะสามารถรวบรวมและสรุปย่อเนื้อหาอีกทีได้เลย ทำให้สะดวกต่อการทำงานขึ้นไปอีก
หรือเป็นสายจดที่มักจดโน้ตมาแบบรีบ ๆ ลายมืออาจไม่เข้าที่ไม่ตรงบรรทัดนัก Galaxy AI ก็สามารถจัดเรียงให้ตรงบรรทัดได้อีก
มี Circle to Search ให้เราได้วงเพื่อค้นหาข้อมูลได้ทันที หรือจะแปลภาษาเมื่อเปิดกล้องก็ได้ อย่างในเดโม่นี้สามารถแปลข้อความจากหน้าหนังสือพิมพ์ต่างประเทศได้เลยล่ะครับ
และสำหรับสายดูหนัง Galaxy Tab S10 Series ก็มีฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Boost Dialogue ที่ใช้ AI ช่วยเร่งเสียงพูดคุยในหนังให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แก้ปัญหาเวลาเราดูหนังแล้วเสียงเอฟเฟกต์ดังเกินเสียงพูดได้เลยครับตรงนี้
สรุปสเปค Samsung Galaxy Tab S10+
- ขนาดตัวเครื่อง : 185.4 x 285.4 x 5.6 มม.
- น้ำหนัก : 571 กรัม (WiFi) | 576 กรัม (รุ่น 5G)
- หน้าจอ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 12.4” + กระจกกันแสงสะท้อน
- ความละเอียด : 2800 x 1752 พิกเซล
- refresh rate : 120Hz
- ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 9300+ Octa-Core ความเร็ว 3.4GHz (4nm)
- RAM : 12GB
- Storage : 256GB
- micro-SD : ใส่เพิ่มได้สูงสุด 1.5TB
- แบตเตอรี่ : 10,090 mAh
- ระบบชาร์จ : รองรับสูงสุด 45W Super Fast Charge
- กล้องหน้า : 12MP (Ultra Wide)
- กล้องหลังคู่ : 13MP (Wide) + 8MP (Ultra Wide)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 (802.11a/b/g/n/ac/7), Bluetooth 5.3, NFC และพอร์ต USB Type-C (3.2)
- รองรับปากกา Stylus : S Pen
- มาตรฐานกันน้ำ : IP68
- ระบบปฎิบัติการ : Android 14 (One UI 6.1.1)
- วางจำหน่ายสีเดียว : Moonstone Gray
สรุปสเปค Samsung Galaxy Tab S10 Ultra
- ขนาดตัวเครื่อง : 208.6 x 326.4 x 5.4 มม.
- น้ำหนัก : 723 กรัม (รุ่น 5G)
- หน้าจอ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 14.6” + กระจกกันแสงสะท้อน
- ความละเอียด WQXGA+ (2960 x 1848 พิกเซล)
- refresh rate : 120Hz
- ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 9300+ Octa-Core ความเร็ว 3.4GHz (4nm)
- RAM : 12GB
- Storage : 512GB
- micro-SD : ใส่เพิ่มได้สูงสุด 1.5TB
- แบตเตอรี่ : 11,200 mAh
- ระบบชาร์จ : รองรับสูงสุด 45W Super Fast Charge
- กล้องหน้าคู่ : 12MP (Wide) + 12MP (Ultra Wide)
- กล้องหลังคู่ : 13MP (Wide) + 8MP (Ultra Wide)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 (802.11a/b/g/n/ac/7), Bluetooth 5.3, NFC และพอร์ต USB Type-C (3.2)
- รองรับปากกา Stylus : S Pen
- มาตรฐานกันน้ำ : IP68
- ระบบปฎิบัติการ : Android 14 (One UI 6.1.1)
- วางจำหน่ายสีเดียว : Moonstone Gray
ทั้งหมดนี้ก็เป็นพรีวิวแรกสัมผัสของ Galaxy Tab S10 Series หลังจากที่ได้ลองเล่นคร่าว ๆ เนาะ ภายนอกอาจจะยังไม่ได้เห็นความแตกต่างชัดเจน จุดที่อัปเกรดหลัก ๆ จะเป็นเรื่องสเปคภายในที่เป็น Dimensity 9300+ แล้ว จากการใช้งานก็ลื่นไหลดีมาก ส่วนความแรงที่เพิ่มขึ้นนั้นอาจจะยังสัมผัสไม่ได้เท่าไหร่ เพราะยังไม่มีเกมให้ลองในรอบนี้ แต่ฟีเจอร์ Galaxy AI หลายอย่างที่ได้ลองก็ดูใช้งานได้จริง แถมที่สำคัญคือรองรับภาษาไทยได้เลย ไม่ต้องรออัปเดตนี่แหละเนาะ
สำหรับราคาและรุ่นความจุของ Galaxy Tab S10 Series ที่วางจำหน่ายในบ้านเรา ก็จะมีดังนี้เลยครับ
- Galaxy Tab S10+ (WiFi) 12GB+256GB = 36,900 บาท
- Galaxy Tab S10+ (5G) 12GB+256GB = 41,900 บาท
- Galaxy Tab S10 Ultra (5G) 12GB+512GB = 52,900 บาท
มีโปรโมชั่นสุดร้อนแรงเมื่อซื้อช่วงเปิดตัว 3 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 67 รับฟรีทันที Book Cover Keyboard Slim มูลค่า 5,990 บาท (Tab S10+) และ 6,990 บาท (Tab S10 Ultra) พร้อมโปรเก่าแลกใหม่ได้ลดเพิ่ม Top Up ทันที 6,000 บาท