Connect with us

Smart Review

รีวิว Galaxy Z Flip6 พับเล็กใหม่จาก Samsung ภายนอกไม่หวือหวานัก แต่ใช้จริงแล้วลงตัวกว่าที่คิด!

Published

on

รีวิว Galaxy Z Flip6 สมาร์ทโฟนจอ “พับเล็ก” รุ่นล่าสุดของ Samsung ปีนี้มีการอัปเกรดภายในหลายจุด ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ด้วยชิป Snapdragon 8 Gen 3 For Galaxy สุดทรงพลัง, มีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber เป็นครั้งแรก, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000mAh, กล้องหลัก 50MP ไปจนถึงซอฟต์แวร์ One UI 6.1.1 ที่มาพร้อมความสามารถ Galaxy AI ใหม่ ๆ เพียบ!

อัปเกรดมาขนาดนี้จะบอกไม่ใหม่ได้ไงล่ะเนาะ ว่าแต่การใช้งานจริง ๆ แล้วเป็นยังไงบ้าง ถูกใจขึ้นไหม จากคนที่เคยใช้ Galaxy Z Flip5 มาก่อน วันนี้เรา รีวิว Galaxy Z Flip6 แบบเต็ม ๆ ในชม พร้อมแล้ว…ติดตามครับ!

สรุปสเปค Galaxy Z Flip6

  • หน้าจอนอก : Super AMOLED ขนาด 3.4″ ความละเอียด 720 x 748 พิกเซล
  • หน้าจอใน : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7” ความละเอียด FHD+ (2640 x 1080 พิกเซล)
  • Refresh rate : 60Hz (จอนอก) | 1 – 120Hz LTPO (หน้าจอหลัก)
  • CPU : Snapdragon 8 Gen 3 For Galaxy Octa-core 3.4GHz (4nm)
  • GPU : Adreno 750
  • RAM : 12GB
  • ROM : 256GB/512GB
  • แบตเตอรี่ : 4000mAh
  • ระบบชาร์จ : 25W Super Fast Charge
  • กล้องหลัง : 2 ตัว
    • 50MP กล้องหลัก f/1.8, Dual Pixel AF, OIS
    • 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2 มุมกว้าง 123°
  • กล้องหน้า : 10MP f/2.2
  • รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/6e, Bluetooth 5.3, NFC และพอร์ต USB-C
  • กันน้ำ : มาตรฐาน IP48
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14 (One UI 6.1.1)
  • สีสัน : Silver Shadow, Blue, Mint, Yellow

ดีไซน์ที่เหมือนเดิม แต่ได้ฟิลลิ่งใหม่!

เอาล่ะ ก่อนจะไปเริ่มเรื่องประสิทธิภาพและความสามารถใหม่ ๆ เราขอมาเริ่มที่เรื่องดีไซน์แบบทุกที ดีไซน์ภายนอกของ Galaxy Z Flip6 อาจจะดูเหมือนเดิมในความรู้สึกของหลาย ๆ คน ยังมีหน้าจอนอกทรงโฟลเดอร์ กล้องหลังคู่วางในแนวนอน สีสันตัวเครื่องอยู่ที่ฝาหลัง ขนาดก็ใกล้เคียงเดิม ใช่แล้วครับ…ถ้ามองแค่ภายนอกก็คงรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ แหละ (อ่าว)

แต่…ทันทีที่คุณหยิบเครื่องขึ้นมาจะรู้สึกถึงความต่างจากรุ่นก่อนได้ทันที เพราะรอบนี้ Samsung เลือกใช้วัสดุกรอบเครื่องเป็น Armor Aluminium ผิวด้านแทนแล้ว แถมลดความโค้งมนลงอีกหน่อย ทำให้ได้ฟิลลิ่งในการถือเครื่องที่ต่างออกไปมาก ละมุนมือขึ้น ไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือเท่ารุ่นก่อน ถือใช้งานแบบไม่ใส่เคสคือฟินหนักครับบอกเลย

เช่นเดียวกับกรอบเครื่องฝาหลังของ Galaxy Z Flip6 ก็ยังใช้กระจกผิวด้านด้วย ทำให้เวลาหยิบถืออยู่บนมือ ไม่ว่าจะเป็นตอนกางจอหรือพับจอ ก็จะได้ความเนียนมือทั้งหมดครับ

กรอบเลนส์ที่ใหญ่ขึ้น แอบสื่อถึงกล้องที่ทรงพลังกว่า

ที่ตัวกรอบเลนส์ของ Galaxy Z Flip6 รอบนี้จะมีการเพิ่มขอบรอบนอกให้ใหญ่ขึ้นอีกหน่อย เพื่อกันตัวเลนส์กล้องจริง ๆ ได้ดีขึ้น และยังแอบสื่อถึงกล้องใหม่ที่อัปเกรดขึ้นมาด้วยเช่นกัน ซึ่งสีสันที่กรอบเลนส์จริง ๆ จะตรงกับสีเครื่องเลย อย่างเครื่องสีฟ้าที่เราได้มากรอบเลนส์ก็จะเป็นสีฟ้าเดียวกับกรอบเครื่องเลยครับ

หน้าจอเท่าเดิม แต่สว่างกว่าที่เคย

ขอพูดถึงเรื่องหน้าจอกันหน่อย แม้ขนาดหน้าจอและรูปทรงของ Galaxy Z Flip6 นั้นจะเหมือนกับ Z Flip5 มากคือมีจอนอกเป็นจอ Super AMOLED ขนาด 3.4″ ความละเอียด HD+ (720×748 พิกเซล) Refresh rate 60Hz เท่าเดิม

ส่วนจอหลักก็เป็น Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7″ ความละเอียด FHD+ (2640×1080 พิกเซล) มี Refresh rate 120Hz เหมือนเดิม แต่จุดที่อัปเกรดขึ้นมาคือ “ความสว่างสูงสุด” ครับ เพราะรอบนี้สามารถทำได้ถึง 2600nits (เฉพาะจอหลักด้านในนะ) ทำให้สู้แสงกลางแจ้งได้ดีขึ้น เวลาต้องใช้งานกลางแจ้งจริง ๆ จะสบายตากว่ารุ่นก่อนพอสมควรเลย

แข็งแรงและทนทานกว่าเดิม

ส่วนเรื่องความทนทาน Samsung ก็เคลมว่า Galaxy Z Flip6 นั้นแข็งแรงและทนต่อแรงกดได้มากกว่าเดิม ด้วยการอัปเกรดบานพับ FlexHinge ด้านในด้วยนวัตกรรมใหม่ ที่มอบเรื่องความบางและทนทานได้ดีขึ้นอีกขั้น

และจุดที่ Samsung ทำได้ดีมาตลอดก็คือองศาในการพับ เพราะด้วยความแน่นที่กำลังดีของ FlexHinge ทำให้เราสามารถกางได้หลากองศาโดยที่จอไม่พับเข้าหากันเองหรือดีดออกเองในมุมกว้างมาก ๆ หรือแคบมาก ๆ ทำให้เราใช้งานได้หลากหลายและมั่นคงกว่าจริง ๆ ครับ

รอยพับที่แนบสนิทมาจากรุ่นก่อน รอบนี้ก็ยังคงพับได้แนบสนิทเหมือนเดิม ทำให้ตัวเครื่องดูกะดทัดรัดและลงตัวมาเวลาเราพับ แถมความบางก็ยังพอดิบพอดีตอนพับจะเหลือแค่ 14.9 มม. และตอนกางก็จะบางแค่ 6.9 มม.เท่านั้นครับ

ส่วนที่หน้าจอ Samsung เปลี่ยนมาใช้จอ FTG (Foldable Thin Glass) ที่เพิ่มความแข็งแรงมากขึ้น และเรื่องรอยพับบนหน้าจอ ก็รู้สึกได้ว่าจางลงอีกหน่อย สัมผัสลงไปแล้วก็แอบรู้สึกถึงการมีอยู่น้อยลงด้วย แต่ถามว่าถ้าตั้งใจดูหรือถ่ายให้เห็นจริง ๆ ก็ยังทำได้อยู่เหมือนเดิมครับ

Galaxy Z Flip6 ยังมีมาตรฐานกันน้ำมาให้เหมือนเดิม แต่รอบนี้ยกระดับขึ้นอีกเพราะได้มาตรฐานกันฝุ่นเข้ามาเพิ่ม เป็น IP48 แล้ว ทำให้รุ่นนี้แกร่งขึ้นได้อีก

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ Galaxy Z Flip6 ก็อย่างที่บอกไปครับ ภายนอกก็ไม่ได้ต่างจากเดิมนัก แต่ถ้าได้สัมผัสจริง การเปลี่ยนผิวสัมผัสใหม่ เพิ่มความแกร่งของบานพับ และมีตัวเลือกสีที่ดูเท่ขึ้นอย่าง Shadow Silver นี้ ก็ทำให้ตัวเครื่องดูลงตัวและอยากหยิบใช้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนอีกพอสมควรเลย ทำถึงเหมือนกันนะ Samsung!

Galaxy AI กับความสามารถใหม่ที่ใช้ได้จริงยิ่งขึ้น!

มาต่อในเรื่องซอฟต์แวร์เลยดีกว่า ซึ่งรอบนี้ Galaxy Z Flip6 ได้ซอฟต์แวร์ภายในมาเป็น One UI 6.1.1 เวอร์ชั่นอัปเกรดที่มีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ เข้ามาซึ่งที่เด่นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นความสามารถของ Galaxy AI ชุดใหม่ที่ต่อยอดมาจากตอน S24 Series นั่นเองครับ ที่บอกว่าต่อยอดเพราะว่าอะไรที่เคยทำได้บน S24 Series รุ่นนี้ทำได้เหมือนกัน แต่เพิ่มของใหม่เข้ามาให้ใช้งานได้ดีขึ้นอีก

ซึ่งของใหม่ที่ว่านั้นจะแบ่งออกเป็น 3 หมวดหลัก ๆ คือ Call Assist, Chat Assist, Inter Preter และ Photo Assist นั่นเองครับ แต่ละอย่างมีอะไรบ้าง เรามาเจาะกันไปทีละฟีเจอร์เลยดีกว่าเนาะ

Call Assist

เริ่มที่ Call Assist กับ Live Translate ก่อนเลย รอบต้นปีฟีเจอร์นี้ดูเป็นหนึ่งในจุดขายหลักของ Galaxy AI เลยก็ว่าได้กับการแปลงภาษาระหว่างโทรคุยแบบเรียลไทม์ แต่แน่นอนว่าตอนนั้นยังจำกัดแค่ในแอปโทรศัพท์เท่านั้น รอบนี้ Samsung เลยเพิ่มทางเลือกในการแปลภาษาใหม่ให้เข้าถึงแอป 3rd Party อื่น ๆ อาทิ LINE, Messenger หรือ IG ได้แล้ว สะดวกขึ้นไปอีกขั้นใช่ไหมล่ะ

Chat Assist

ต่อกันที่ Chat Assist หรือฟีเจอร์สำหรับการแชท ตอนต้นปีเราจะเห็นเครื่องมือที่มาจัดการรูปแบบประโยคใหม่ให้ใช้งานจริงได้มากขึ้นกับ Writing Style ใช่ไหมครับ แต่รอบนี้ AI เรียนรู้มาเก่งขึ้น ช่วยสร้างประโยคจากคำไม่กี่คำได้เลย ฟีเจอร์นี้เรียกว่า Composer ที่เพิ่มเข้ามาใน Samsung Keyboard อีกหัวข้อ ซึ่งในนี้จะมีให้เลือกรูปแบบการสร้างประโยคหลัก ๆ อยู่ 4 รูปแบบคือ มาตรฐาน, อีเมล, โซเชี่ยลมีเดีย, คอมเมนต์ และเรายังสามารถเลือกรูปแบบของประโยคได้อีกว่าจะเป็น ทางการ, สบาย ๆ หรือสุภาพอีกต่างหาก

ทำให้การสร้างประโยคของเราง่ายขึ้นมาก ยกตัวอย่างเช่นเราอยากลาพักร้อนสัก 4 วันผ่านอีเมล แน่นอนว่าถ้าคนที่ไม่ได้พิมพ์อะไรแบบนี้บ่อย ๆ น่าจะใช้เวลานานมากแน่ แต่ฟีเจอร์ Composer นี้จะช่วยให้เราพิมพ์ง่ายมากขึ้น เราเพียงแค่ใส่ข้อความสั้น ๆ ไว้ว่า “ลางาน 4 วัน” เลือกเป็นหมวด email แล้วจะเลือกเป็นแบบทางการเลย หรือสุภาพก็ได้เลย ทีนี้ Galaxy AI ก็จะเจนออกมาแบบตัวอย่างด้านล่างนี้เลยครับ

Interpreter

แปลภาษาด้วยแอป Interpreter ที่รอบที่แล้วทำได้ดีเช่นกัน แต่ยังมีข้อจำกัดที่เราต้องยื่นไป-มาอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ รอบนี้ด้วยความเป็นสมาร์ทโฟนจอพับ จึงใช้ความสามารถในการแปลแบบ 2 หน้าจอซะเลย ซึ่งทำได้ดีมากด้วย เพราะเราสามารถใช้จอด้านนอกแสดงข้อความที่แปลได้ทันที ทำให้ไม่ต้องยื่นเครื่องไป-มาแล้ว คุยกันต่อเนื่องตรงนั้นเลย

Photo Assist

การตกแต่งภาพรอบนี้มีลูกเล่นใหม่ใน Photo Assist ก็คือ Portrait Studio ที่จะช่วยให้เราเปลี่ยนภาพถ่ายมาเป็นภาพวาดได้ 4 รูปแบบได้แก่ Comic, 3D Cartoon, Watercolor หรือ Sketch ครับ ซึ่งแต่ละหมวดจะเจนภาพออกมาได้ทีละ 4 ภาพ ให้เราได้เลือกไปใช้งานได้ทั้งหมด ความดีงามคือเราสามารถใช้รูปภาพบุคคลใดมาทำก็ได้ ไม่จำเป็นต้องถ่ายใหม่จากเครื่องครับ ซึ่งภาพที่ได้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย เก็บรายละเอียดของแบบได้ครบ ใช้เวลาไม่นานก็ได้ภาพแนวใหม่ ๆ มาเปลี่ยนโปรไฟล์ หรือภาพ Wallpaper ได้แล้ว อันนี้ชอบมากครับ!

Drawing Assist

แต่แค่เปลี่ยนเป็นภาพวาดคงไม่พอเพราะ ในแอป Gallery ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Sketch to Image ให้เราได้วาดรูปลงไปในภาพ และ Galaxy AI จะเปลี่ยนเป็นภาพแบบสมจริงขึ้นมาให้เลย แถมความเก่งกาจก็คือเราไม่ต้องวาดสวยหรือจริงจังมากเลย แค่วาดพอให้ AI เดาได้ว่าจะสื่ออะไรก็พอ AI จะเปลี่ยนลายเส้นของเราเป็นสัตว์หรือสิ่งของได้เข้ากับภาพนั้นมาก ๆ ไม่ใช่แค่เอามาแปะแบบไม่คำนึงถึงสภาพแวดล้อม แต่นี่ทำได้เนียนมาก อย่างในภาพเราวาดน้องแมวอยู่บนบันไดที่มีแสงพาดผ่าน สังเกตว่าจะมีภาพที่น้องแมวโดนเงาพาดผ่านตัวไปตามองศาของแดดด้วยนะ โอ้!

นี่ก็เป็นเพียงบางฟีเจอร์ของ Galaxy AI ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในซอฟต์แวร์ One UI 6.1.1 ของ Galaxy Z Flip6 เท่านั้นเนาะ จริง ๆ ยังมีฟีเจอร์ที่ทำได้ยอดเยี่ยมตั้งแต่ Galaxy AI เวอร์ชั่นแรกให้ใช้งานครบเหมือนกัน จะเป็นการถอดเทปเสียงที่บันทึกไว้เป็นข้อความ, สรุปความจากหน้าเว็บ, เคลื่อนย้ายวัตถุในภาพ, ลบคนในภาพ, Circle to Search หรืออะไรที่เคยทำได้ บนรุ่นนี้ก็ยังทำได้อยู่ เพิ่มเติมคือฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เสริมไปด้านบนอีก บอกแล้วว่าปีนี้ Samsung เน้นเรื่องซอฟต์แวร์อย่างมาก และใช้งานได้จริงทั้งหมดด้วย

Flex Window จอนอกที่ใช้งานได้ขึ้นอีก

ดู ๆ มาก็เหมือนว่าซอฟต์แวร์ทั้งหมดของ Galaxy Z Flip6 จะทุ่มไปที่ Galaxy AI ซะส่วนใหญ่ แต่รอบนี้ Samsung ก็ยังมีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ให้กับ Flex Window หรือหน้าจอนอกของ Galaxy Z Flip6 ด้วยนะ อย่างแรกเลยก็คือ Interactive Wallpaper หรือ Wallpaper ที่เราสามารถใช้เล่นได้ที่หน้าจอนอกนั้นเอง

ในชุดแรก Samsung จะมีให้เราเลือกใช้งาน Interactive Wallpaper 5 แบบ อย่างในตัวอย่างจะเป็นไอคอน emoji น้องหมา น้องหมี ที่จะกลิ้งไปตามองศาของเครื่องเมื่อเราเอียงไปทางซ้ายน้อง ๆ จะกลิ้งไปทางซ้าย หรือถ้าเราแตะลงไปบนจอน้อง ๆ ก็จะขยับเด้งไปในมุมต่าง ๆ ด้วย เสริมความน่านักให้กับหน้าจอนอกได้อีกเยอะเลยล่ะ

หรือจะเป็นหน้า Widget บน One UI 6.1.1 ก็มีการเพิ่มตัวเลือกให้เราได้ใส่ Widget เพิ่มบนหน้าจอนอกได้หลากหลายขึ้นในหน้าเดียว สะดวกขึ้นเวลาเราจะดูข้อมูลแบบเร็ว ๆ ก็ไม่ต้องมาคอยเลื่อนไปทีหลังหน้าให้หลายขั้นตอนครับ

ใช้งานได้หลายแอปเหมือนเดิมด้วย Good Lock

ส่วนเรื่องการใช้งานแอป ก็ยังทำได้ดีเหมือนเดิมครับ แม้ในการตั้งค่าของเครื่องเองจะได้ไม่กี่แอป แต่เราก็ยังสามารถเพิ่มตัวช่วยเรื่องการเล่นแอปบนหน้าจอนอกด้วยแอปที่ชื่อ Good Lock ได้เหมือนเดิม (ดูวิธีตั้งค่าที่นี่) ทีนี้เราจะเปิด X อ่านฟีดแบบไม่กางจอ, ดู MV จากจอนอก หรือแม้กระทั่งเล่นเกมก็ทำได้หมดเลยครับ

กล้องหลังที่อัปเกรดใหม่ กล้องหลัก 50MP แล้วนะ

มาต่อในเรื่องกล้องกันเลยครับ อย่างที่บอกว่ารอบนี้ Galaxy Z Flip6 มีการอัปเกรดกล้องใหม่ ทั้งกล้องหลักและกล้อง Ultra Wide เลย ทำให้ถ่ายภาพได้ยอดเยี่ยมขึ้น สายคอนเทนต์ที่อยากได้คุณภาพที่ดีขึ้นปีนี้ Samsung จัดให้แล้ว โดยจะมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้เลย

  • 50MP กล้องหลัก f/1.8, Dual Pixel AF, OIS
  • 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2 มุมกว้าง 123°

อย่างที่เห็นครับ Galaxy Z Flip6 ได้กล้องหลักตัวใหม่ที่มีความละเอียดระดับ 50MP มาแล้ว เท่ากับ Galaxy S24 กับ S24+ ช่วยให้เราถ่ายภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น ทั้งในสภาพปกติและแสงน้อย นอกจากนี้ความดีงามของเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงนี้ก็คือเรายังสามารถถ่ายภาพในความละเอียด 12MP แบบ In-Sensor Zoom ได้ 2x ที่ไม่เสียรายละเอียดได้ด้วย หมายความว่าแม้จะมีกล้องเพียง 2 ตัวเท่าเดิม แต่เราก็สามารถถ่ายได้หลายระยะมากขึ้นนั่นเองครับ

Flex Camera เก่งขึ้น มี Auto Zoom ด้วย

อีกหนึ่งความได้เปรียบของสมาร์ทโฟนจอพับก็คือ มีหน้าจอให้แสดงผลได้หลากหลาย บวกกับจอที่พับปรับองศาได้เยอะ ทำให้เหมือนเรามีขาตั้งติดตัวไปถ่ายในมุมมองที่หลากหลายได้แบบ Hands Free ซึ่งรอบนี้ Samsung เพิ่มความสามารถ Auto Zoom เข้ามาช่วยให้เราเซลฟี่ได้ง่ายขึ้นมาก เพราะ AI จะคอยตรวจจับใบหน้าและท่าทางของเราว่าควรจะใช้กล้องระยะไหน ถ้าตัวเราออกห่างจากกล้องเยอะ หรือมีหลายคนในเฟรมก็จะขยายไปที่ Ultra wide ให้ เป็นต้นครับ

และรอบนี้การตรวจจับท่าทาง Gesture ก็ยังตรวจจับได้ไกลกว่าเดิมมาก อย่างที่บอกว่าตัวกล้องมีระบบ Auto Zoom เพราะฉะนั้น ถ้าเราไปไกลจนกล้องสลับไป Ultra Wide การแบมือไกล ๆ ก็ยังจับท่าทางให้ใช้ Palm Gesture ได้แม่นยำ สั่งถ่ายได้โดยไม่ต้องพึ่งรีโมท

ส่วนคุณภาพของกล้องเท่าที่ลองใช้งานมา กล้องใหม่ที่อัปเกรดของ Galaxy Z Flip6 ก็ใช้งานได้ดีสมการรอคอยครับ คุณภาพยอดเยี่ยม คมชัดและใช้งานได้ครอบคลุม ซูมได้ดีขึ้น โหมด Portrait ก็มี 2x ให้ใช้ด้วย ส่วนซอฟต์แวร์ประมวลผลรอบนี้มีการปรับอัลกอริธึมของกล้องมาใช้ ProVisual Engine แบบเดียวกับ Galaxy S24 Series ซึ่งทำให้ภาพดูสวยงามเป็นธรรมชาติมากขึ้น เก็บรายละเอียดของภาพมาได้เยอะกว่าเดิม แต่ในเรื่องความสดใสหรือจัดจ้านจะถูกลดทอนลงบ้าง อย่างที่บอกว่าปีนี้ Samsung เน้นในโทนสมจริง ไม่ได้สว่างหรือสีจัดเป็นหลัก ส่วนตัวเราชอบแบบใหม่นี้มากกว่าเพราะถ้าอยากแต่งก็ไปทำเพิ่มทีหลังได้ง่าย เพราะโทนจะออกมากลาง ๆ ไม่ได้จัดมาแล้วเหมือนรุ่นก่อนครับ

กล้องหน้า 10MP เซลฟี่สวยเนียนใช้ได้

ที่กล้องหน้า Galaxy Z Flip6 ก็ยังได้ความละเอียด 10MP มาเท่าเดิม คุณภาพก็กลาง ๆ ครับ สีสันและความเนียนอยู่ระดับทั่วไป อัลกอริธึมใหม่เพิ่มความคมชัดอีกหน่อย ตรงนี้ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ก็ใช้งานได้ไม่ติดขัดครับ

ใช้กล้องหลังเซลฟี่ไปเลยสิ ถูกใจแน่นอน

แต่ถ้าเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าในหน้าจอยังไม่พอ ก็ใช้กล้องหลังคู่เซลฟี่ไปเลยสิครับ! นี่ก็ถือเป็นอีกจุดเด่นของ Galaxy Z Flip6 เพราะด้วยจอที่ใหญ่เพียงพอให้โชว์ตัวอย่างก่อนถ่าย แถมเรายังควบคุมตัวเลือกกล้องได้จากตรงน้ีเลยไม่ต้องกางออก ทั้งการปรับอัตราส่วนภาพที่ถ่าย, เลือกโหมด (Portrait, Photo, Video), ฟิลเตอร์, หรือจะสลับเลนส์ด้วยการใช้ 2 นิ้วขยายหรือย่อเข้าหากันก็ได้ด้วย

คุณภาพก็จัดเต็มสมกับใช้กล้องหลังจริง ๆ ช่วยเปลี่ยนการเซลฟี่แบบเดิม ๆ จากกล้องหน้าไปได้เลย ทั้งภาพที่สวยเคลียร์กว่าหรือมุมกว้างที่กว้างจริง ๆ จากกล้อง Ultra Wide ด้วยเนาะ

วิดีโอ 4K/60fps ทั้งกล้องหน้าและหลัง

ส่วนวิดีโอ Galaxy Z Flip6 ก็ไม่ทำให้ผิดหวังสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 4K/60fps ทั้งกล้องหน้า-หลังเลยทีเดียว ไม่ว่าจะใช้ตอนกางหน้าจอ-พับจอก็ได้สูงสุดเหมือนกันหมด ทำให้ทำงานได้อย่างไร้รอยต่อใครเป็นสาย Vlog หรือต้องการได้วิดีโอความละเอียดสูงก็ถูกใจเลยล่ะ แถมรอบนี้ได้กล้อง Ultra Wide ตัวใหม่ ทำให้ถ่ายวิดีโอแบบ 4K/60fps ได้ที่กล้องมุมกว้างพิเศษนี้ได้แล้วด้วยนะ

โดยรวมในเรื่องกล้อง Galaxy Z Flip6 ก็ถือว่าอัปเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อนอีกด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP ช่วยให้เราเก็บภาพได้คมชัดขึ้น ถ่ายได้หลายระยะมากขึ้น มีกล้อง Ultra Wide ที่อัปเกรดให้ถ่ายวิดีโอได้ถึง 4K/60fps ได้แล้ว หรือจะเป็นอัลกอริธึมใหม่อย่าง ProVisual Engine ที่เน้นในเรื่องโทนภาพให้สมจริงกว่าเดิม ก็ทำให้ภาพถ่ายที่ได้จากกล้องนั้นดีงามกว่าเดิม โหมด Flex Camera ที่มี Auto Zoom มาให้เราได้ใช้งานได้อย่างสะดวกกว่าเดิมด้วย รวม ๆ แล้วถือเป็นการอัปเกรดที่ดูไม่มาก แต่ใช้จริงแล้วเห็นผลอยู่ไม่น้อยเลยครับ

อัปเกรดสเปคด้วย Snapdragon 8 Gen 3 For Galaxy และ Vapor Chamber ครั้งแรกของ Z Flip!

ปิดท้ายเรื่องประสิทธิภาพ Galaxy Z Flip6 อัปเกรดสเปคมาด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 For Galaxy (ตัวเดียวกับบน Galaxy S24 Ultra) ซึ่งถือว่าเป็นชิปที่แรงที่สุดบนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ตอนนี้เลยก็ว่าได้ และรอบนี้ Samsung ยังอัปเกรด RAM ขึ้นมาจาก 8GB เป็น 12GB แล้วด้วย ทำงานได้ลื่นไหลขึ้น ส่วนความจุจะมีให้เลือก 2 ตัวเลือกคือ 256GB กับ 512GB เหมือนเดิมครับ

นอกจากชิปเซ็ตกับ RAM ที่อัปเกรดขึ้นมาแล้ว Galaxy Z Flip6 ยังมีระบบระบายความร้อนอย่าง Vapor Chamber เพิ่มเข้ามาเป็นครั้งแรกของตระกูล Z Flip ด้วยนะ ช่วยจัดการความร้อนสะสมได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ๆ

และเพื่อให้เห็นภาพของประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นมาบน Galaxy Z Flip6 เราก็เลยลองทดสอบจากแอป Benchmark ยอดนิยมอย่าง AnTuTu Benchmark v10 ก็ได้คะแนนออกมาที่ 1579174 คะแนนกันเลย

ส่วนฝั่ง Geekbench 6 ก็ได้คะแนนสูงขึ้นเช่นกันฝั่ง Single-Core ได้ไป 2085 และ Multi-Core ได้ไป 6406 คะแนนครับ

เล่นเกมหายห่วงเลยแหละสเปคนี้

อัปเกรดสเปคมาระดับนี้ ก็เพียงพอที่จะเล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ แน่นอน แต่ยังไงก็ขอลองเล่นให้รู้ว่ามันแตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปยังไงบ้างเนาะ เกมที่เราใช้ทดสอบในรอบนี้คือ Asphalt 9 กับ Call of Duty Warzone ครับ

เล่น Asphalt 9 บน Galaxy Z Flip6

เริ่มที่ Asphalt 9 Legends Unite ที่อัปเดตมาใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น แต่ด้วยสเปคระดับสูงขนาดนี้ ก็ยังปรับได้สุดทุกอย่างทั้ง กราฟิกระดับ High Quality คู่กับ 60fps เหมือนเดิมครับ ตัวเกมมีการเพิ่มเอฟเฟกต์ในฉากเพิ่มมากขึ้น แต่ Z Flip6 ก็เล่นได้อย่างลื่นไหลสุด ๆ อัตราส่วนหน้าจอที่อาจจะยาวกว่าปกติก็ไม่ใช่ปัญหาในการเล่นเกมนี้เลยครับ

เล่น Call of Duty Warzone บน Galaxy Z Flip6

ต่อมากับเกมยิงใหม่ที่กราฟิกจัดเต็ม เกมเพลย์สุดอลังการ ตัว Z Flip6 สามารถปรับระดับกราฟิกได้หลากหลาย ในการทดสอบนี้เราเลือกปรับสุดเลยคือ Visual Quality = Peak | fps แบบไม่จำกัด | Resolution = High แน่นอนว่าเล่นได้แบบลื่น ๆ ครับ ในกราฟิกสูงสุดเลย มุมมองก็กว้างมีพื้นที่ของปุ่มกดไม่บดบังการแสดงผลหลักได้เป็นอย่างดีครับ

แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเป็น 4000mAh

สุดท้ายกับเรื่องแบตเตอรี่ รอบนี้ก็ได้อัปเกรดขึ้นมาเหมือนกันเพราะ Galaxy Z Flip6 นั้นได้แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh มาเลย (เพิ่มจาก 3700mAh ของ Z Flip5) ในใช้งานจริง แบตเตอรี่ก็อึดขึ้นแบบเห็นได้ชัดครับ ใช้งานทั่วไปก็เอาอยู่ทั้งวันสบาย ตรงนี้คงต้องยกความดีความชอบให้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 For Galaxy และความจุที่เพิ่มขึ้นเลยล่ะ

ส่วนชาร์จไวก็ได้ความเร็ว 25W มาเหมือนเดิม ส่วนตัวคิดว่าความเร็วเท่านี้ก็เพียงพอแล้วครับ ไม่ได้ช้าจนน่าเกลียด แถมแบตเตอรี่ก็ไม่ได้เยอะมากระดับ 5000mAh ชาร์จทิ้งไว้ไม่นานก็กลับมาเล่นต่อได้แบบยาว ๆ

โดยรวมในเรื่องประสิทธิภาพของ Galaxy Z Flip6 ก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ ทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 For Galaxy ที่อัปเกรดมาใหม่ แรงถึงใจ ใช้งานได้อีกยาว มี RAM ที่เพิ่มเป็น 12GB รองรับการประมวลผล AI ในอนาคตสบาย แบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นเป็น 4000mAh ก็ช่วยให้เราใช้งานได้นานขึ้นอีกหน่อย แต่ที่ชอบจริง ๆ คงเป็นเรื่องระบบระบายความร้อนที่มี Vapor Chamber เข้ามาแล้ว ทำให้เวลาเราใช้งานหนัก ๆ ขอเวลาพักสักครู่เครื่องก็จะกลับมาเย็นได้พร้อมให้เล่นต่อแล้วล่ะ

ราคาเปิดตัว 42,900 บาท มีให้เลือก 2 ความจุ

Galaxy Z Flip6 เปิดตัวมาด้วยกัน 2 ความจุคือ 12GB+256GB และ 12GB+512GB อย่างที่บอกไปครับ ส่วนราคาแต่ละรุ่นก็ตามนี้เลยครับ

  • รุ่น 12GB+256GB ราคา 42,900 บาท
  • รุ่น 12GB+512GB ราคา 47,900 บาท

สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทโฟนจอพับเล็กที่ภายนอกไม่หวือหวานัก แต่จริง ๆ แล้วลงตัว”

สรุปแล้ว Galaxy Z Flip6 ก็ถือเป็นสมาร์ทโฟนจอพับเล็กรุ่นอัปเกรดที่ภายนอกอาจจะไม่ได้หวือหวาขึ้นกว่ารุ่นก่อนสักเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ลองใช้แล้วจะบอกเลยว่ามัน “ลงตัว” เพราะทั้งฮาร์ดแวร์ภายนอกที่ปรับให้เข้าที่เข้าทาง หยิบถือได้แบบคล่องตัวมากขึ้นในจุดเด่นเรื่องความกะทัดรัดเหมือนเดิม แข็งแรงขึ้น รอยพับบนหน้าจอบางลง หรือจะเป็นฮาร์ดแวร์ภายในที่อัปเกรดสิ่งที่จำเป็นต้องใช้มาครับ ชิป Snapdragon 8 Gen 3 For Galaxy ที่แรงขึ้น RAM 12GB ลื่นไหลกว่าเดิม มี Vapor Chamber จัดการความร้อนได้ดีขึ้นแล้ว มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นใช้งานได้ยาวนานกว่า กล้องหลัก 50MP ที่ถ่ายภาพสวยขึ้นอีก แต่ทีเด็ดจริง ๆ ของรุ่นนี้ก็คงเป็น Galaxy AI ที่มีลูกเล่นใหม่ ๆ เพียบ ช่วยให้การใช้งานจริงเปลี่ยนไปมากกว่าแค่แรงขึ้น เราว่าทั้งหมดนี้คือความลงตัวในแบบที่สมาร์ทโฟนจอพับในปี 2024 ควรมีแล้วล่ะครับ ใครอยากเปิดใจใช้รุ่นจอพับเล็กอยู่ รุ่นนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน!

Best Smartphone 12000 for 2025 Best Smartphone 12000 for 2025
Buying Guides13 ชั่วโมง ago

10 มือถือราคาไม่เกิน 12,000 บาท ตัวจบ ครบทุกฟีเจอร์ ใช้ยาว ปี 2025

กำลังมองหามือถือใหม่...

Android News1 วัน ago

OPPO จับมือ Maison Kitsuné สร้างสรรค์ประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับ OPPO Find X8 Series

OPPO แบรนด์สมาร์ตโฟน...

IT News1 วัน ago

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 14 – 20 ธ.ค. 67

ข่าวเด่นช่วงระหว่างว...

IT News1 วัน ago

สรุป 6 จุดเด่นที่ทำให้คุณต้องเลือก HUAWEI MatePad 12 X นวัตกรรมแท็บเล็ตใช้งานได้ดั่งกับพีซี ที่มาพร้อมโปรเด็ดลดสูงสุดถึง 2,000 บาท กับ Shopee

HUAWEI MatePad 12 X ...

ข่าวประชาสัมพันธ์1 วัน ago

กรี๊ดสนั่น! ทรู เสิร์ฟความฟินขั้นสุดส่งท้ายปี ดึง “โฟร์ท ณัฐวรรธน์” สาดรอยยิ้ม และความสุขมาแจกแบบจัดเต็ม ในงาน “Truedtac5G ยิ้มทั่วไทย ยิ้มทั่วโซเชียล กับโฟ้ดๆ”

ทรู ขอส่งต่อพลังบวกแ...

IT News1 วัน ago

AIS ยึดหัวหาดทะเลอ่าวไทยครอบคลุม ลึก สูง กว้าง ไกล ยืนหนึ่งตัวจริงภาตตะวันออก

AIS ปักหมุดผู้น...

Android News1 วัน ago

ไม่ลือแล้ว ! OnePlus 13R ปรากฏบน Amazon ยืนยันใช้ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 3

แม้ว่าก่อนหน้านี้ On...

IT News1 วัน ago

อินฟินิกซ์จัดกิจกรรม PUBG MOBILE WATCH PARTY สุดมันส์ พร้อมให้เหล่าเกมเมอร์ได้สัมผัสกับ GT20 PRO 5G สมาร์ทโฟนเกมมิ่งระดับมืออาชีพ

อินฟินิกซ์ (Infinix)...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก