Android News
เปรียบเทียบสเปค Galaxy Z Fold3 vs Z Flip3 vs iPhone 13 vs iPhone 13 Pro
เปรียบเทียบ Galaxy Z Fold3 และ Galaxy Z Flip3 vs iPhone 13 และ iPhone 13 Pro สี่เรือธงรุ่นล่าสุดของทาง Samsung และ Apple มาดูกันดีกว่าครับว่าแต่ละรุ่นจะมีจุดแตกต่างกันยังไงบ้าง วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net รวมไว้ให้ที่นี่แล้ว!
ดีไซน์
ดีไซน์ | Galaxy Z Fold3 | Galaxy Z Flip3 | iPhone 13 | iPhone 13 Pro |
ทรง | Book Type | Clamshell | Bar Type | Bar Type |
ขนาดตัวเครื่อง | 158.2 x 67.1 x 14.4-16 มม.(เวลาพับ) 158.2 x 128.1 x 6.4 มม. (เวลากาง) | 86.4 x 72.2 x 15.9-17.1 (เวลาพับ) 166 x 72.2 x 6.9 (เวลากาง) | 146.7 x 71.5 x 7.7 มม. | 146.7 x 71.5 x 7.7 มม. (13 Pro) 160.8 x 78.1 x 7.7 (13 Pro Max) |
น้ำหนัก | 271 กรัม | 183 กรัม | 174 กรัม | 204 กรัม (13 Pro) 240 กรัม (13 Pro Max) |
สีสัน | Phantom Black, Phantom Silver, Phantom Green | Phantom Black, Green, Lavender, Cream | Starlight, Midnight, Blue, Pink, Product Red | Graphite, Gold, Silver, Sierra Blue |
กันน้ำ | IPX8 | IPX8 | IP68 | IP68 |
เริ่มต้นที่เรื่องดีไซน์ก่อนเลย ต้องบอกก่อนว่าทั้ง 2 แบรนด์นี้มีดีไซน์ที่แตกต่างกันชัดเจน โดยทางฝั่ง Samsung จะเป็นทรงของสมาร์ทโฟนจอพับที่แปลกใหม่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนแบบ Bar Type ทั่วไปอย่างชัดเจน ฝั่ง Z Fold3 จะใช้ดีไซน์แบบเปิด-ปิดเหมือนสมุดในขณะที่ Z Flip3 เป็นทรง Clamshell ให้หน้าจอเต็มเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไปแต่พับเก็บแล้วกะทัดรัด ในขณะที่ฝั่ง Apple iPhone 13 และ iPhone 13 Pro นั้นยังใช้ดีไซน์แบบทั่วไปที่เราคุ้นเคยอยู่ครับ
สีสันของทั้ง 4 รุ่นก็จะมีแตกต่างกันไป โดยแต่ละรุ่นก็จะมีสีพิเศษประจำรุ่นด้วยอย่าง Galaxy Z Fold3 เน้นไปที่สี Phantom Green สีเขียวโทนเข้มที่โดดเด่นไม่น้อย Z Flip3 จะมีสีใหม่อย่าง Cream และ Lavender สีพาสเทลเข้ากับแฟชั่นได้ดี
ส่วนทาง iPhone 13 ก็มีตัวเลือกสีใหม่อย่างสีชมพูที่ออกพาสเทลไม่แพ้กัน และปิดท้ายที่ iPhone 13 Pro ใช้สี Sierra Blue ออกฟ้าอ่อน ๆ ที่ดูดีไปอีกแบบ
หน้าจอ
หน้าจอ | Galaxy Z Fold3 | Galaxy Z Flip3 | iPhone 13 | iPhone 13 Pro |
ขนาด | 6.2″ (หน้าจอนอก) 7.6″ (หน้าจอหลัก) | 6.7″ | 6.1″ | 6.1″ (13Pro) 6.7″ (13 Pro Max) |
ชนิด | Dynamic AMOLED | Dynamic AMOLED | OLED | OLED |
ความละเอียด | 832 x 2268 พิกเซล (หน้าจอนอก) 1768 x 2208 พิกเซล, 374 ppi (หน้าจอหลัก) | 1080 x 2640 พิกเซล, 426 ppi | 1170 x 2532 พิกเซล, 460 ppi | 1170 x 2532 พิกเซล, 460 ppi (13 Pro) 1284 x 2778 พิกเซล, 458 ppi (13 Pro Max) |
refresh rate | 120Hz | 120Hz | 60Hz | 120Hz |
ฟีเจอร์เพิ่มเติม | HDR, รองรับ S Pen | HDR | HDR | HDR |
มาต่อเรื่องหน้าจอ Galaxy Z Fold3 ได้หน้าจอมา 2 จอคือหน้าจอนอกและหน้าจอหลักด้านในมีขนาด 6.2″ กับ 7.6″ ส่วนชนิดหน้าจอเป็น Dynamic AMOLED มี refresh rate 120Hz ทั้ง 2 จอด้วยครับ และที่สำคัญรุ่นนี้ยังมีความสามารถพิเศษคือรองรับปากกา S Pen ด้วยครับ ในขณะที่ Galaxy Z Flip3 ได้หน้าจอหลักมาที่ 6.7″ มี refresh rate 120Hz เช่นกัน
ส่วนฝั่ง iPhone 13 รุ่นธรรมดาจะได้จอ OLED ขนาด 6.1″ refresh rate 60Hz มาตรฐาน แต่รุ่นพี่อย่าง iPhone 13 Pro และ 13 Pro Max จะได้จอ ProMotion refresh rate 120Hz มาครับ
สเปค
สเปค | Galaxy Z Fold3 | Galaxy Z Flip3 | iPhone 13 | iPhone 13 Pro |
ชิปเซ็ต | Snapdragon 888 | Snapdragon 888 | Apple A15 Bionic | Apple A15 Bionic |
RAM | 12GB | 8GB | 4GB | 6GB |
ROM | 256GB/512GB | 128GB/256GB | 128GB/256GB/512GB | 128GB/256GB/512GB/1TB |
micro-SD | ไม่รองรับ | ไม่รองรับ | ไม่รองรับ | ไม่รองรับ |
ถัดมาเป็นเรื่องขุมพลังและสเปคของทั้ง 4 รุ่นกัน ทางฝั่งของ Samsung ก็ใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปของ Android ตอนนี้ทั้ง Z Fold3 และ Z Flip3 ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 888 มีแรม 12GB และ 8GB ตามลำดับเลย และความจุสูงสุดคือ 512GB บน Z Fold3 และ 256GB บน Z Flip3 ครับ
ในขณะที่ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro นั้นก็ใช้ชิปเซ็ตตัวล่าสุด Apple A15 Bionic เช่นกัน แต่มีแรมที่แตกต่างกันนิดหน่อยคือ 4GB สำหรับ iPhone 13 และ 6GB สำหรับ iPhone 13 Pro ครับ ส่วนความจุก็ดันไปสุดที่ 512GB กับ 1TB กันเลย
กล้อง
กล้อง | Galaxy Z Fold3 | Galaxy Z Flip3 | iPhone 13 | iPhone 13 Pro |
กล้องหลัก | 12MP f/1.8 OIS | 12MP f/1.8 OIS | 12MP f/1.6 OIS | 12MP f/1.5 OIS |
Ultra Wide | 12MP f/2.2 (123º) | 12MP f/2.2 (123º) | 12MP f/2.4 (120º) | 12MP f/1.8 มี AF (120º) |
Tele | 12MP f/2.4 OIS (2x Zoom) | – | – | 12MP f/2.8 OIS (3x Zoom) |
ฟีเจอร์เพิ่มเติม | Hands Free Capture (พับ ตั้งถ่ายได้โดยไม่ต้องถือ) เซลฟี่ด้วยกล้องหลัง | Hands Free Selfie (พับ ตั้ง ถ่ายเซลฟี่) เซลฟี่ด้วยกล้องหลัง | – | LiDAR Scanner |
กล้องหน้า | 10MP f/2.2 (หน้าจอนอก) 4MP ใต้หน้าจอ f/1.8 (หน้าจอหลัก) | 10MP f/2.4 | 12MP f/2.2 | 12MP f/2.2 |
อีกเรื่องที่ชนกันได้อย่างสูสีก็คือเรื่องกล้องครับ ทั้งฝั่ง Samsung ก็มี Z Flip3 ที่มี 2 กล้องหลังส่วน Apple ก็มี iPhone 13 ที่มีกล้องคู่ Wide + Ultra Wide เช่นกัน สเปคก็ใกล้เคียงกันมากจริง ๆ
ส่วนรุ่น Z Fold3 ก็จะไปชนกับ iPhone 13 Pro ที่มีกล้องหลัง 3 ตัวเช่นกัน ได้ทั้งมุมกว้าง ระยะหลัก รวมถึงซูมครบเลยครับ ความละเอียดของกล้องหลังก็เป็น 12MP เท่ากันทุกรุ่นเลยด้วย ส่วนกล้องหน้าจะแตกต่างกันนิดหน่อย ฝั่ง iPhone ได้กล้อง 12MP บนรอยบากหน้าจอ ในขณะที่ Z Fold3 ใช้กล้องใต้หน้าจอเป็นครั้งแรกความละเอียด 4MP และยังมีฟีเจอร์เซลฟี่ด้วยกล้องหลังด้วยครับ
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ | Galaxy Z Fold3 | Galaxy Z Flip3 | iPhone 13 | iPhone 13 Pro |
ความจุ | 4400mAh | 3300mAh | 3095mAh | 3095mAh (13 Pro) 4352mAh (13 Pro Max) |
ชาร์จผ่านสาย | 25W | 15W | 20W | 20W |
ชาร์จไร้สาย | 10W | 10W | 7.5W (Qi) 15W (MagSafe) | 7.5W (Qi) 15W (MagSafe) |
Reverse Wireless Charge | 4.5W | 4.5W | ไม่รองรับ | ไม่รองรับ |
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ฝั่งของ Galaxy Z Fold3 นั้นได้แบตฯมาเยอะ 4400mAh รองรับชาร์จไวแบบสาย 25W ส่วน Galaxy Z Flip3 แบตฯ 3300mAh รองรับชาร์จไวที่ 15W ทั้งคู่ยังมีฟีเจอร์ชาร์จไร้สายที่ 10W และมีฟีเจอร์ Reverse Wireless Charge ปล่อยไฟให้เครื่องอื่นได้ด้วยครับ
ส่วนฝั่ง iPhone 13 และ iPhone 13 Pro ได้แบตเตอรี่มาที่ 3095mAh ในขณะที่ iPhone 13 Pro Max จัดใหญ่มา 4352mAh ทุกรุ่นรองรับชาร์จไวที่ 20W รองรับชาร์จไร้สายผ่าน MagSafe ที่ 15W แต่ไม่มีฟีเจอร์ Reverse Wireless Charge มาให้ครับ
ก็ถือว่าเป็นข้อมูลสเปคเบื้องต้นที่เรารวมมาให้เห็นภาพคร่าว ๆ ของทั้ง 4 รุ่นนี้นะครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยในการตัดสินใจสำหรับใครที่กำลังเล็ง ๆ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากทั้ง 2 แบรนด์นี้ไม่มากก็น้อย ส่วนการใช้งานจริงของแต่ละรุ่นจะเป็นอย่างไร สามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ