
รีวิว Garmin MARQ (Gen 2) Adventurer ในรุ่นวัสดุพิเศษอย่างวัสดุเหล็กดามัสกัส (Damascus Steel Edition) สมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียมขั้นสุดจาก Garmin MARQ Collection โดยดีไวซ์มีความหรูหราและทันสมัยในตัว ทั้งยังใส่ฟีเจอร์และเทคโนโลยีด้านการใช้งานกิจกรรมกลางแจ้งได้ครบถ้วน พร้อมการตรวจจับด้านสุขภาพที่ทำได้แม่นยำมากด้วยเซ็นเซอร์ระดับโลก
สรุปสเปค Garmin MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition
- ขนาดตัวเครื่อง : เส้นผ่านศูนย์กลาง x ความหนา: 46 x 15 มม.
- น้ำหนัก : 114 กรัม หรือ 106 กรัม หากมียางซิลิโคน
- น้ำหนักเฉพาะตัวเรือน : 81 กรัม
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว (30.4 มม.) ความละเอียด 390 x 390 พิกเซล
- วัสดุเลนส์ : กระจกคริสตัลแซฟไฟร์โดม
- หน่วยความจำ 32GB
- ระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth ANT+ Wi-Fi ในตัว
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android หรือ iOS
- กันน้ำระดับ 10 ATM (แรงดันน้ำที่ระดับ 100 เมตร)
- แบตเตอรี่ได้นานสูงสุด 16 วัน
ดีไซน์พิเศษจากเหล็กดามัสกัสที่แข็งแกร่งกว่าเหล็กทั่วไป
MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition นับเป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีความหรูหรา หรือ Luxury Outdoor Smartwatch ที่อยู่ในรุ่นพิเศษของ MARQ (Gen 2) Collection ของ Garmin เป็นการใช้วัสดุพิเศษเหล็กดามัสกัส (Damascus Steel) ที่เป็นวัสดุที่อันทรงคุณค่ามาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีคุณสมบัติที่มีความแข็งแรงทนทานและยืดหยุ่นเหนือกว่าเหล็กทั่วไป ซึ่งในอดีตเหล็กดามัสกัสเคยถูกใช้ในการทำใบมีดอาวุธ และเพียบพร้อมด้วยความสวยงามผ่านลวดลายคล้ายลายน้ำ

ด้วยการที่ Garmin นำเหล็กดามัสกัสมาใช้ใน MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition ก็ถือเป็นการนำศิลปะของยุคโบราณที่มีความคลาสสิกเข้ามาผสานกับความหรูหราในปัจจุบัน ทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดรุ่นหนึ่งบนสมาร์ทวอทช์ในโลก

และหากดูแบบลึกแล้วเข้าไปแล้ว การออกแบบของ MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition ก็ยังมีลวดลายเส้นสวยงาม มีการบอกทิศและเวลาบนขอบหน้าปัดแบบครบถ้วน ทำให้ใครที่เน้นการผจญภัยก็จะได้รับประโยชน์จากการใช้งานเข็มทิศไปด้วยนั่นเองครับ

ในเรื่องความแข็งแกร่งนั้น ที่กรอบหน้าปัดได้ใช้เหล็กถึง 10 ชั้น ซึ่งผ่านทั้งความร้อน การหลอม และขึ้นรูปซ้ำถึง 4 ครั้งเพื่อให้ได้เหล็ก 80 ชั้น ช่วยให้มีลวดลายที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของนาฬิกาแต่ละเรือนด้วย เรียกว่าแต่ละชิ้นใน MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition นั้นแทบจะเป็นความ Limited ในตัวด้วย

มาพร้อมสายนาฬิการูปแบบไฮบริด
รีวิว MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition มาพร้อมสายนาฬิการูปแบบไฮบริด จะเป็นแบบหนังที่เหมาะมากในการใส่เพื่อเน้นความสวยงามและความสง่างามร่วมกับเครื่องหนัง ทั้งยังได้ความทนทานต่อเหงื่อและรอยเปื้อนของวัสดุยางฟลูออโรคาร์บอน (FKM) ด้วยครับ


หน้าจอ AMOLED คู่กับความแกร่งของกระจกแซฟไฟร์
ไม่ใช่แค่แข็งแกร่งที่ตัวเรือนเท่านั้น แต่ MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition ยังได้หน้าจอแสดงผลที่แกร่งตามไปด้วยเพราะใช้กระจกเลนส์แบบแซฟไฟร์ทรงโดม แข็งแกร่ง ทนทานต่อรอบขีดข่วนและการกระแทกครับ

และกรอบหน้าปัดยังมีเข็มทิศพร้อมระบุทิศทางและตัวเลขแบบ 360 องศาอีกด้วย

ทั้งนี้ หน้าจอยังเป็นแบบสัมผัสบนพาเนล AMOLED แสดงผลสีที่สดใส สว่างสู้แสงแดดสบายๆ โดยจอมีขนาดใหญ่ถึง 1.2 นิ้ว (30.4 มม.) และความละเอียด 390 x 390 พิกเซล

วิธีการเชื่อมต่อง่ายๆ ผ่าน GARMIN CONNECT
ในการเชื่อมต่อการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนก็ง่ายเหมือนเดิม เพียงแค่โหลดแอปพลิเคชั่น GARMIN CONNECT (มีทั้ง Google Play Store และ App Store) จากนั้นก็ทำการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธและตำแหน่งได้เลยทันที จากนั้นก็เพียงทำตามขั้นตอนจนมาถึงหน้าหลัก

ปุ่มต่างๆ รอบตัวเรือนทำงานอะไรบ้าง?
ตัวเรือนของ MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition จะมีทั้งหมด 5 ปุ่ม แบ่งเป็นฝั่งซ้าย 3 ปุ่ม และฝั่งขวา 2 ปุ่ม โดยการทำงานก็แตกต่างกัน และบอกเลยว่าการใช้งานก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ตามนี้เลยครับ
ปุ่มซ้ายบน
- กด 1 ครั้ง : เปิด-ปิดหน้าจอ
- กด 2 ครั้ง : เปิดไฟฉาย
- กดค้าง : ดูตัวเลือกการควบคุม
ปุ่มซ้ายกลาง
- กด 1 ครั้ง : เลื่อนดูภาพรวมและเมนูต่างๆ
- กดค้าง : ดูตัวเลือก
ปุ่มซ้ายล่าง
- กด 1 ครั้ง : เลื่อนดูภาพรวมและเมนูต่างๆ
- กดค้าง : ดูการควบคุมเพลงจากหน้าจอที่เชื่อมต่อ
ปุ่มขวาบน
- กด 1 ครั้ง : เลือกตัวเลือกในเมนู / ดูรายการกิจกรรม / เริ่มหรือหยุดกิจกรรม
- กดค้าง : ดูเมตริกประสิทธิภาพ
ปุ่มขวาล่าง
- กด 1 ครั้ง : ย้อนกลับหน้าจอก่อนหน้า
- กดค้าง : ดูหน้าปัดนาฬิกาจากหน้าจอต่างๆ


แตะจ่ายด้วย Garmin Pay / Rabbit Card พร้อมฟังก์ชันการเชื่อมต่ออีกเพียบ
แตะจ่ายง่ายๆ ด้วย Garmin Pay / Rabbit Card
ฟีเจอร์การแตะจ่าย Garmin Pay / Rabbit Card นับเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ชูโรงของสมาร์ทวอทช์จาก Garmin ครับ ซึ่งในรุ่นนี้ก็ใช้งานได้เหมือนกัน โดยเราสามารถเชื่อมกับบัตร Rabbit Card เพื่อใช้งานเข้า-ออกบนรถไฟฟ้า BTS ได้เลย ไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนหรือบัตรออกมาอีกแล้ว ทำให้เราประหยัดเวลาไปได้เยอะมากๆ ทั้งนี้ ไม่ใช่แต่บน BTS เท่านั้น แต่ร้านค้าที่รองรับการแตะจ่ายด้วยบัตร Rabbit Card ก็ยังให้เราได้ใช้งานได้ครบทั้งหมด
และไม่ใช่แค่ Rabbit Card เท่านั้น แต่การใช้งาน Garmin Pay ยังเขื่อมต่อกับบัตรเครดิตของเราได้ด้วยเหมือนกันทั้งแบบ Mastercard และ VISA
ส่วนเรื่องความปลอดภัยของบัตรที่เชื่อมต่อก็มั่นใจได้เหมือนกัน เพราะ Garmin จะไม่เก็บหมายเลขบัตรทั้งบนอุปกรณ์และเซิร์ฟเวอร์ รวมถึงจะไม่ส่งต่อให้ร้านค้าเมื่อชำระเงินครับ



การแจ้งเตือนอัจฉริยะ
เมื่อเราชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแล้ว MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition สามารถแจ้งเตือนแบบอื่นๆ ได้ด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการรับอีเมล ข้อความ และการแจ้งเตือนต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนสนมาร์ทโฟนครับ

ดาวน์โหลดเพลงมาฟังในเครื่องได้เลย !
ใครที่ออกกำลังกายและต้องการฟังเพลงเป็นประจำอยู่แล้ว ในรุ่นนี้ก็สามารถโหลดแอปพลิเคชันฟังเพลงจาก Spotify Deezer, Amazon Music หรือ YouTube Music (ต้องสมัครสมาชิกระดับพรีเมียม) ได้ทั้งหมดครับ โดยสามารถเชื่อมต่อหูฟังเพื่อฟังเพลงได้เลยจาสมาร์ทวอทช์ครับ

การตรวจจับด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย
เซ็นเซอร์แม่นยำทั้งการออกกำลังกายและการตรวจจับสุขภาพ
MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition รองรับการติดตามสุขภาพและฟิตเนสตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยมีเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับด้านสุขภาพแบบครบถ้วนและแม่นยำมากขึ้นครับ ซึ่งจะมีฟีเจอร์หลักๆ อะไรให้ใช้งานกันบ้าง ตามมาดูกัน

วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
ในรุ่นนี้ก็แน่นอนว่าจะมาพร้อมเซ็นเซอร์การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำแบบตบลอดทั้งวันและทั้งคืนครับ โดยเราสามารถเปิดให้ระบบตรวจจับตลอดเวลาแบบอัตโนมัติได้เลย รวมถึงมีการแจ้งเตือนเมื่อมีอัตราการเต้นที่สูงเกินไปตามที่การตั้งค่าไว้ (แจ้งเตือนที่สูงเกิน 100 – 200bpm) หรือต่ำเกินไป (40-60bpm)

ทั้งนี้ก็ยังมีระบบการตรวจจับค่า HRV (Heart Rate Variability) หรือความแปรผันอัตราการเต้นของหัวใจ ที่จะมีการตรวจวัดเมื่อเรานอน ซึ่งหากตัวเลขที่ได้ของ HRV ยิ่งเยอะก็ถือว่ายิ่งสุขภาพที่ดีครับ

วัดออกซิเจนในเลือด (SpO2)
แน่นอนว่าฟีเจอร์นี้ก็มาคู่กับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะเป็นเซ็นเซอร์ PULSE OX ที่เป็นตัววัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) ซึ่งค่าที่ควรได้คือมากกว่า 90% แต่ถ้าจะให้ดีๆ เลยคือมากกว่า 95% ครับ หรือใครที่น้อยกว่านั้นก็แนะนำให้นั่งพักเป็นเวลาประมาณ 10 นาที แล้วจึงวัดค่าใหม่ครับ โดยการวัด PULSE OX สามารถตั้งค่าให้วัดได้ตลอดวัน หรือวัดเฉพาะตอนนอนก็ได้ตามต้องการเลยครับ


การติดตามการนอนหลับที่แม่นยำ
หากเราใส่ในช่วงการนอนหลับ ระบบของสมาร์ทวอทช์ก็สามารถรับรู้ได้ว่าเรากำลังนอนหลับ จากนั้นก็จะมีการตรวจวัดเวลาการนอน รวมถึงค่ารายละเอียดการนอนหลับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงของการนอน ตั้งแต่หลับลึก, หลับไม่ลึก, REM (หลับฝัน) ทั้งนี้ เราก็ยังได้คะแนนการนอน และกราฟข้อมูลให้เราได้เห็นกันเต็มๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง


แอปกีฬาในตัวมากกว่า 100 รายการ
ผ่านเรื่องสุขภาพแบบจ๋าๆ ไปแล้ว ก็มาถึงด้านการออกกำลังกายกันบ้างครับ ซึ่งใครที่ใช้สมาร์ทวอทช์ Garmin ก็จะรู้ดีว่าการออกกำลังกายนั้นเป็นตัวชูโรงอยู่แล้ว และในรุ่นนี้ MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition ก็มีโหมดการออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด ไม่ว่าจะเป็นกีฬาแบบปกติ กีฬาทางน้ำ หรือกีฬาที่เน้นการผจญภัย เช่น การวิ่งเทรล ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เดินป่า กอล์ฟ และอื่นๆ โดยตัวเซ็นเซอร์จะมีการตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อการออกกำลังกาย

มีโค้ชในการออกกำลังกายด้วย Garmin Coach
ไม่ใช่แค่การเลือกการออกกำลังกายได้ด้วยตัวเองและฝึกเองตามคามต้องการแล้ว MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition ก็ได้ Garmin Coach จากแอป Garmin Connect ที่เราสามารถเลือกได้เลยว่าต้องการวิ่ง เดิน หรืออื่นๆ และมีการตั้งเป้าหมายต่างๆ เช่น หากเราเลือกวิ่ง ก็จะมีให้เราเลือกเป้าหมาย 5 หรือ 10 กิโลเมตร หรือจะเป็นการวิ่งมาราธอนด้วย จากนั้น Garmin Coach ก็จะให้เราได้ฝึกจากโค้ชผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ตรงกับเป้าหมายของเราครับ

ตำแหน่งแม่นยำพร้อมแผนที่บอกได้ครบ
MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition ยังมาพร้อม GPS แบบหลายย่านความถี่พร้อมเทคโนโลยี SatIQ ที่เอาไว้บอกตำแหน่งของเราได้อย่างแม่นยำมากๆ ไม่ว่าจะอยู่ในที่อับสัญญาณหรือที่คนเยอะๆ ครับ ทั้งนี้หากใครที่ สมัครสมาชิก Outdoor Maps+ ก็จะได้รับแผนที่ที่ละเอียดมากขึ้นในระดับพรีเมียม เช่น ภาพถ่ายดาวเทียมและแผนที่ภูมิประเทศ เป็นต้น ซึ่งเราสามารถดูผ่านสมาทวอทช์ได้เลยครับ

แบตอึด พร้อมใช้งานนานสุดถึง 16 วันเต็ม
แน่นอนว่าด้วยความแกร่งแบบครบทุกด้านขนาดนี้แล้ว แบตเตอรี่ก็ต้องทนเหมือนกัน เพราะหากเราใช้งานในโหมดสมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานทั่วไป จะใช้งานได้นานสูงสุดถึง 16 วัน แต่หากใครที่ใช้งานแบบเต็มที่และเปิดตำแหน่ง GPS ไว้ตลอดก็จะใช้งานได้นานสุด 42 ชั่วโมง หรือเกือบๆ 2 วันเต็มเลยทีเดียวครับ

และในการชาร์จเข้าก็ทำได้ง่ายๆ ผ่านแท่นแม่เหล็ก Magnetic Charger โดยจะชาร์จเร็วและเต็มได้ภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้นครับ

สรุปการใช้งาน Garmin MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition
Garmin MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition จัดเป็นสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียมที่ได้ความพิเศษตั้งแต่เรื่องของวัสดุพิเศษที่ใช้งานเป็นเหล็กดามัสกัส (Damascus Steel) ที่แข็งแกร่งกว่าเหล็กทั่วไปควบคู่กับความสวยงาม พรีเมียม และมีความเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดรุ่นหนึ่งบนสมาร์ทวอทช์ในโลกเลยทีเดียวครับ ทั้งนี้ ในฟังก์ชันการใช้งานก็รองรับทั้งการใช้งานทั่วไปและการใช้งานแบบจริงจัง โดยเฉพาะการรองรับการแตะจ่ายด้วย Garmin Pay / Rabbit Card ที่ได้ใช้งานแน่นอนในชีวิตประจำวัน ทั้งการแตะเข้ารถไฟฟ้า BTS หรือการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตต่างๆ ได้ทันทีแบบไม่ต้องเปิดสมาร์ทโฟนให้เสียเวลา ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ในด้านการตรวจจับสุขภาพและการออกำลังกายก็ถือเป็นตัวชูโรงของ Garmin อยู่แล้ว และในรุ่นนี้ก็ให้มาครบถ้วนพร้อมใช้งานจริงแบบเต็มที่ครับ
นอกจากนี้ ที่ชอบอีกอย่างคือแบตเตอรี่ที่อึดมากๆ ใช้งานนานสุด 16 วัน หมดปัญหาใช้งานตอนเช้ากลับมาชาร์จตอนเย็นทุกวันไปเลย ถ้าใครที่ใช้งานจริงจังอาจจะ 4 – 5 วันชาร์จครั้งหนึ่งก็ยังเหลือๆ ครับ

ราคา Garmin MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition
Garmin MARQ (Gen 2) Adventurer – Damascus Steel Edition ราคา 115,990 บาท โดยสามารถสั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่ : https://gar.mn/9Gx2b3K3x
