Android App
Google Maps บน App Store และ Play Store มีอะไรใหม่ ในปี 2022
Google Maps บน App Store สำหรับ iPhone, iPad, Apple Watch และ Play Store สำหรับ Android วันนี้จะพาทุกคนไปอัปเดทฟีเจอร์ มีอะไรใหม่ ในปี 2022 แผนที่ที่ทุกคนควรมีติดเครื่องไว้ เดินทางไปได้ทุกที่ในโลก
Google Maps มีอะไรใหม่
ฟีเจอร์ที่หลายคนใช้งานกันบ่อยที่สุดคงไม่พ้นเรื่องการค้นหาสถานที่ จุดหมายปลายทางสำหรับการเดินทาง ด้วยระบบค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุด และมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางตามสภาพการจราจร เหตุการณ์บนท้องถนน และการปิดถนนที่กำลังเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติอีกด้วย
ผู้ใช้งานสามารถวางแผนการเดินทางได้ล่วงหน้าด้วยฟีเจอร์ที่บอกเวลาถึงโดยประมาณและสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ โดยผู้ที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ก็ไม่พลาดรถประจำทาง รถไฟ หรือบริการแชร์รถโดยสารด้วยข้อมูลขนส่งสาธารณะแบบเรียลไทม์ก็มีให้
สำหรับใครที่เดินแล้วเคยเจอปัญหาหลงทาง หรือเดินเลี้ยวเข้าผิดซอย ตอนนี้ฟีเจอร์ Live View จะแสดงลูกศรและคำแนะนำซ้อนทับเส้นทางด้านหน้า ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องเดาทางหรือเลยทางเลี้ยวอีกต่อไป
วิธีนำทางด้วยฟีเจอร์ Live View
ตอนนี้จะมีการนําทางสําหรับการเดิน 2 มุมมอง ได้แก่ แผนที่ 2 มิติ และ Live View เมื่อใช้ Live View ผู้ใช้งานจะเห็นคำแนะนำที่แสดงตามเส้นทางจริงและแผนที่ขนาดเล็กที่ด้านล่างของหน้าจอ สามารถใช้การนำทางแบบ Live View ได้ในการบอกทางส่วนที่เป็นการเดินเท้า
- เปิดแอปในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android หรือ iPhone, iPad
- ในแถบค้นหา ให้ป้อนจุดหมายหรือแตะจุดหมายบนแผนที่
- แตะเส้นทาง
- เหนือแผนที่ในแถบเครื่องมือรูปแบบการเดินทาง ให้แตะ “เดิน”
- แตะ Live View ที่ตรงกลางด้านล่าง
- ทําตามวิธีการบนหน้าจอเพื่อให้ Maps ระบุตำแหน่งที่คุณอยู่
เคล็ดลับ: เล็งกล้องโทรศัพท์ไปที่อาคารและป้ายฝั่งตรงข้าม ไม่ใช่ต้นไม้และผู้คน - เมื่อ Maps รู้ตำแหน่งของเราแล้ว เราจะเห็นคำแนะนำผ่านมุมมองกล้องบนหน้าจอ
เคล็ดลับ: แนะนำให้เก็บโทรศัพท์เมื่อทราบแล้วว่าจะไปที่ไหน เพื่อความปลอดภัยและประหยัดแบตเตอรี่ - โทรศัพท์จะสั่นเมื่อถึงขั้นตอนการนำทางถัดไปหรือจุดหมาย
- เมื่อต้องการกลับไปใช้ Live View ก็เพียงเอียงโทรศัพท์ให้อยู่ในแนวตั้งหรือกดปุ่ม Live View
ถ้าต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัด อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ควรทำไว้เลยก็คือแผนที่ออฟไลน์ที่ช่วยค้นหาและนำทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต
วิธีดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ Android
- เปิดแอปในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android
- ตรวจสอบว่าคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่และลงชื่อเข้าใช้ Google Maps
- ค้นหาสถานที่ เช่น เชียงใหม่
- ที่ด้านล่าง ให้แตะชื่อหรือที่อยู่ของสถานที่ ดาวน์โหลด ดาวน์โหลด หากคุณค้นหาสถานที่อย่างเช่นร้านอาหาร ให้แตะ “เพิ่มเติม” ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ ดาวน์โหลด
บันทึกแผนที่ออฟไลน์ใน microSD card บน Android
โดยค่าเริ่มต้นแล้ว ระบบจะดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ลงในที่จัดเก็บข้อมูลภายในสมาร์ทโฟน Android แต่เราจะดาวน์โหลดแผนที่ลงในการ์ด SD แทนก็ได้ หากสมาร์ทโฟนใช้ Android 6.0 ขึ้นไป สามารถบันทึกพื้นที่ลงในการ์ด SD ที่กำหนดค่าสำหรับพื้นที่เก็บข้อมูลแบบพกพาได้เท่านั้น
- เสียบการ์ด SD เข้าไปในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android
- เปิดแอปในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android
- แตะ รูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อ แผนที่ออฟไลน์
- แตะ “การตั้งค่า” ที่มุมขวาบน
- ในส่วน “ค่ากำหนดพื้นที่เก็บข้อมูล” ให้แตะอุปกรณ์ การ์ด SD
วิธีดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ iPhone, iPad
- เปิดแอปใน iPhone หรือ iPad
- ตรวจสอบว่าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ และไม่ได้อยู่ในโหมดไม่ระบุตัวตน
- ค้นหาสถานที่ เช่น
เชียงใหม่
- ที่ด้านล่างสุด ให้แตะชื่อหรือที่อยู่ของสถานที่ แตะเพิ่มเติม
- เลือก ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ ดาวน์โหลด
หลังจากที่ดาวน์โหลดแผนที่แล้ว เราก็สามารถใช้แอปได้เหมือนปกติ หากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตช้าหรือเชื่อมต่อไม่ได้ ระบบจะใช้แผนที่ออฟไลน์เพื่อแสดงเส้นทาง แต่จะไม่ใช่เส้นทางการขนส่งสาธารณะ จักรยาน หรือเดินเท้า และจะไม่มีข้อมูลการจราจร
วิธีวัดระยะทางระหว่างจุด
- เปิดแอปในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android, iPhone, iPad
- แตะที่ใดก็ได้บนแผนที่ที่ไม่ใช่ไอคอนหรือชื่อสถานที่ค้างไว้ หมุดสีแดงจะปรากฏขึ้น
- เลือกวัดระยะทาง
- เลื่อนแผนที่จนวงกลมสีดำอยู่ในจุดถัดไปที่ต้องการเพิ่ม
- แตะเพิ่มจุด ที่ด้านขวาล่าง
- ที่ด้านล่าง เพื่อดูระยะทางรวมได้ในหน่วยไมล์และกิโลเมตร
- เคล็ดลับ: สามารถเพิ่มหลายจุดได้
- หากต้องการนำจุดสุดท้ายที่เพิ่มออก ให้แตะเลิกทำ หากต้องการล้างจุดทั้งหมด ที่ด้านขวาบน ให้แตะเพิ่มเติม ล้าง
- เมื่อเสร็จแล้ว ให้แตะลูกศรกลับที่ด้านซ้ายบน
วิธีเปิดเลเยอร์โควิด-19
วิธีดูเลเยอร์ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 ในแผนที่ได้
- เปิดแอปในอุปกรณ์เคลื่อนที่
- แตะเลเยอร์ ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 ที่ด้านบน
เลเยอร์โควิด-19 แสดงจำนวนเคสใหม่โดยเฉลี่ยต่อ 100,000 คนในรอบ 7 วัน และยังระบุอีกด้วยว่ามีจำนวนเคสเพิ่มขึ้นหรือลดลง สีของเลเยอร์หมายถึงช่วงจำนวนเคสดังต่อไปนี้
- สีเทา: น้อยกว่า 1 เคส
- สีเหลือง: 1-10 เคส
- สีส้ม: 10-20 เคส
- สีส้มเข้ม: 20-30 เคส
- สีแดง: 30-40 เคส
- สีแดงเข้ม: มากกว่า 40 เคส
สำหรับในสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันที่หลายๆ คนไม่อยากเสียเวลาในการต่อคิวและเบียดเสียดกับฝูงชนในการเลือกซื้อสินค้า หรือเข้าใชับริการ จะแสดงวันและเวลายอดนิยมที่ผู้คนเข้าใช้บริการตามร้านค้าปลีกต่างๆ เอาไว้ด้วย
ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งบน App Store และ Play Store