Smart Review
รีวิว Google Pixel Watch ควรซื้อหรือข้ามไปก่อน (ชมคลิป)
รีวิว Google Pixel Watch สมาร์ทวอทช์ที่มาพร้อม Fitbit ดีไซน์สวยงาม มีความหรูและก็ดูเท่ด้วยตัวเรือนที่เป็นทรงกลมและโค้งเว้า มีอะไรน่าสนใจ และมีจุดสังเกตอะไรบ้าง ครั้งนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมาเล่าให้ฟัง (ชมคลิปรีวิว)
ดีไซน์และหน้าจอแสดงผล
Google Pixel Watch บอกได้เลยว่าสวยมาก ด้วยวัสดุที่ผสมผสานและประกอบกันอย่างลงตัว ซึ่งดีไซน์แบบนี้เราจะไม่ค่อยเห็นในสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ อย่างของ Apple Watch ก็จะเป็นดีไซน์อีกแบบหนึ่ง หรือถ้าเป็นของ Fitbit ก็จะไม่ใช่ดีไซน์แบบนี้ อันนี้ถือว่า Google ทำออกมาได้เป็นเอกลักษณ์ดีเลย
หน้าจอแสดงผล 1.2 นิ้ว มีความละเอียดอยู่ที่ 450 x 450 พิกเซล หรือประมาณ 320 PPI ก็ถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานของสมาร์ทโฟนพรีเมียมในเรทราคานี้ และเป็นหน้าจอ AMOLED เรื่องสีสันบนหน้าจอคือให้สีสันสดใสแน่นอน โดยความสว่างของหน้าจอสูงสุดที่ 1,000 นิต
Pixel Watch มีปุ่มเม็ดมะยมแบบโครเมียมที่ด้านข้างของตัวเรือน และก็มีปุ่มด้านข้างใกล้ๆ กับปุ่มเม็ดมะยม สำหรับกดเพื่อเข้าถึงแอปที่ใช้งานล่าสุด หรือจะกดยาวเพื่อเรียกใช้งาน Google Assistant
ตัวเครื่องของ Pixel Watch เป็นสแตนเลสที่มีความมันเงา มีรูไมโครโฟนมาให้ 2 ตัว และช่องลำโพงที่เป็นแถบยาว ซึ่งถามสเปคแล้วตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้มีความสามารถในการทนน้ำที่ความลึกสูงสุด 50 เมตร หรือ 5ATM
ด้านหลังก็จะเป็นในส่วนของเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่มีลักษณะเป็นโดม ส่วนสายที่มากับตัวเรือนในรีวิวนี้เป็นสายแบบ Active Band สีดำ ซึ่งก็จะเหมาะกับการใส่ออกกำลังกาย ใส่สบายเพราะตัวสายมีความยืดหยุ่น และไม่ต้องกังวลในเรื่องของเหงื่อด้วย
ฟีเจอร์การใช้งาน
การตั้งค่า Google Pixel Watch สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟน Android 8.0 ขึ้นไป โดยให้ทำการติดตั้งแอป Google Pixel Watch สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้จาก Play Store จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำ ก็จะคล้ายๆ กับการเชื่อมต่อสมาร์ทวอทช์ทั่วไป
อย่างที่ทราบกันแล้วว่า Google Pixel Watch ไม่ใช่แค่สมาร์ทวอทช์ Android Wear OS เท่านั้น แต่มาพร้อม Fitbit ในตัวด้วย ซึ่งก็น่าจะเป็นฟีเจอร์ที่ดึงผู้ใช้งาน Fitbit มาใช้งานเจ้าสมาร์ทวอทช์ตัวนี้ได้เหมือนกัน โดยจะเป็นฟีเจอร์สำหรับการติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายเกือบทั้งหมด สามารถเข้าถึงได้ด้วยบัญชี Fitbit ที่แยกจากบัญชี Google ถ้าใครยังไม่เคยมีบัญชี Fitbit ระบบก็จะให้ติดตั้งและสร้างบัญชีบนสมาร์ทโฟน
โหมดการออกกำลังกามมีให้เลือกกว่า 40 โหมดเพื่อติตดามข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ระหว่างการออกกำลังกาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโหมดออกกำลังกายด้วยเครื่อง Machine ในฟิตเนส
Pixel Watch มาพร้อม GPS ในตัว ทำให้ติดตามตำแหน่งเส้นทางการออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องใช้ GPS จากสมาร์ทโฟน และคำนวนเส้นทาง ความเร็วในการเคลื่อนได้แบบเรียลไทม์ และมีความแม่นยำมากขึ้นด้วย
สำหรับข้อมูลการนอนหลับ ถ้าใครเคยใช้ Fitbit อยู่แล้วจะทราบกันดีว่าข้อมูลละเอียดมากและเข้าใจง่าย โดยเจ้าา Pixel Watch จะทำการเก็บข้อมูลทุกอย่างเอาไว้ให้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นนอนหลับไปตอนไหน หลับลึก หลับตื้น หรือตื่นช่วงไหนบ้าง ตื่นมากน้อยขนาดไหน ดูได้หมดเลยบนแอปพลิเคชั่น Fitbit และมีการให้คะแนนนอนหลับด้วย
พูดถึงฟีเจอร์ต่างๆ กันไปเยอะแล้ว มาถึงฟีเจอร์ที่เป็นข้อจำกัดของ Pixel Watch กันบ้าง อันแรกคือเซ็นเซอร์ SpO2 ซึ่งจากข้อมูลในตอนนี้ยังไม่สามารถใช้งานได้ และ ECG วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ อันนี้ก็ยังใช้งานในไทยไม่ได้ อันนี้ก็เข้าใจได้เพราะ Google เองก็ยังไม่ได้เข้ามาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ หรือแม้แต่สมาร์ทวอทช์ที่ทำตลาดในไทยตอนนี้ก็มีเพียงไม่กี่รุ่นที่เปิดใช้งานได้
สุดท้ายอีกอย่างหนึ่งที่ไม่มีคือเซ็นเซอร์วัดอัณหูมิผิว และฟีเจอร์การจัดการความเครียดด้วยเซ็นเซอร์ EDA ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานได้บน Fitbit Sense รุ่นแรก และก็รุ่นที่ 2 แต่ว่าตัวแอป Fitbit เองก็มีการคำนวณคะแนนการจัดการความเครียดให้ได้ จากการวิเคราะห์หลายๆ อย่างที่บันทึกข้อมูลได้ในแต่ละวัน
Android Wear OS และแบตเตอรี่
Pixel Watch รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับ Android Wear OS เวอร์ชั่น 3.5 ต้องบอกเลยว่า UI ดูสะอาดตา ใช้งานได้ลื่นไหลมากๆ ปัดหน้าจอก็มีความ Smooth ไปหมด สำหรับชิปเซ็ตที่เลือกใช้ในรุ่นนี้ก็จะเป็นชิป Exynos 9910
แอปต่างๆ สามารถดาวน์โหลดได้จาก Play Store เผื่อใครอยากได้แอปออกกำลังกายอื่นๆ ก็ดาวน์โหลดมาติดตั้งได้ และสำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ จากสมาร์ทโฟนมาบนตัวนาฬิกาก็รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบเพราะเป็น Android Wear OS นั่นเอง และถ้าเราเชื่อมต่อ Wi-Fi ให้กับตัวสมาร์ทวอทช์ไว้ ตัวแอปที่ติดตั้งบน Pixel Watch ก็จะแจ้งเตือนได้โดยตรง
Pixel Watch มีไมโครโฟนและก็ลำโพงในตัว สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟน อันนี้ก็สะดวกดีเหมือนกันครับ
แบตเตอรี่ของ Pixel Watch จากการใช้งานจริง วันแรกที่เราเปิดใชังานจะพบว่าตัวนาฬิกาแบตหมดเร็วจนตกใจ เพราะว่าระบบมีการอัปเดทซอฟต์แวร์หลายอย่าง หลายครั้งมาก แต่หลังจากอัปเดททุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แบตอยู่ได้เกิน 1 วันสบายๆ ผมชาร์จ 100% แล้วใส่ตลอดเวลา เปิด Alway on display รวมใส่ออกกำลังกาย 1 ชั่วโมงกว่าๆ และแจ้งเตือนแอปต่าง ๆ ทั้งวัน กลับมาบ้านก็ใส่นอนด้วย ตื่นมาแบตก็จะเหลือประมาณ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ อันนี้ก็จะบอกเราได้ว่าเหมาะกับผู้ใช้ที่สามารถชาร์จแบตได้ทุกวันในการใช้งานเต็มทุกฟังก์ชั่นตลอดทั้งวัน
แต่ถ้าเปิดใช้ GPS ในการติดตามการออกกำลังกายก็จะหมดเร็วขึ้น โดยสายชาร์จที่ให้มาในกล่องก็จะเป็นแบบแม่เหล็กยึดติดที่เป็นแท่นกลมๆ ชาร์จไร้สาย ทำให้วางชาร์จได้ง่าย ชาร์จเต็มร้อย % ก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ
ถ้าใครที่นำไปใช้งานกับแท่นชาร์จไร้สาย Qi ตัวอื่นๆ เท่าที่ผมลองไปวางชาร์จดู สมาร์ทวอทช์จะขึ้นว่ากำลังชาร์จ ทิ้งไว้เป็นนาที แต่ % แบตเตอรี่ไม่ขึ้นเลย ซึ่งก็ตรงกับที่ทาง Google ได้บอกเอาไว้ว่าให้ใช้ที่ชาร์จที่ของ Pixel Watch ที่ให้มาในกล่องเท่านั้น และก็ไม่รองรับการชาร์จไร้สายย้อนกลับหรือ Wireless Reverse Charging จากสมาร์ทโฟน Pixel ด้วย
สรุปจุดเด่น
- สมาร์ทวอทช์ดีไซน์เรียบๆ ทรงกลม สวยหรู ดูแล้วสะดุดตา
- จอ AMOLED สวยคมชัด และรองรับ Always on display
- มีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายของ Fitbit
- Android Wear OS เรื่องประสิทธิภาพ UI ลื่นไหล และรองรับภาษาไทยอย่างสมบูรณ์
จุดสังเกต
- SpO2 และ ECG ยังใช้งานไม่ได้
- ขนาดตัวเรือนที่มีเพียงขนาดเดียวคือ 41 มม.