IT News
ศึกเดือด! แอพเรียกมอเตอร์ไซต์ GrabBike และ UberMoto เทียบชัดๆ ดีอย่างไร
ตลาดเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่นดุเดือดอีกระลอกเมื่อ GrabBike เปิดตัวบริการรับส่งผู้โดยสาร พัสดุ ด้วยรถจักรยานยนต์ และตามมาด้วยอีกค่ายอย่าง Uber ก็ได้เปิดตัว UberMOTO ลงสนามแข่งด้วยเช่นกัน จนเกิดสงครามแย่งชิงลูกค้าอย่างดุเดือด มาดูกันว่า 2 เจ้านี้มีดีต่างกันอย่างไร
ราคา
GrabBike มีค่าบริการเริ่มต้น 10 บาท + ค่าบริการต่อกม. 5 บาท/กม. ในขณะที่ UberMoto มีค่าบริการเริ่มต้น 10บาท + ค่าบริการต่อกม. 3.5บาท/กม. + เวลาระหว่างเดินทางคิด 0.85บาท/นาที
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เราจะลองคำนวณการเดินทางจริง เช่น นั่งระยะทาง 10 กม. ใช้เวลา 20 นาที จะคิดค่าบริการได้ดังนี้
- GrabBike 10 + (10 x 5) = 60 บาท
- UberMoto 10 + (10 x 3.5)+(0.85 x 20)= 62 บาท
จะเห็นว่า GrabBike ถูกกว่านิดหน่อย เนื่องจากคิดค่าบริการเฉพาะเริ่มต้นกับระยะทาง ในขณะที่ UberMoto คิดค่าบริการในเรื่องของเวลาด้วย
สำหรับการแสดงค่าบริการของ GrabBike จะแสดงให้เห็นก่
จำนวนคนขับและพื้นที่ที่ครอบคลุม
GrabBike เปิดให้บริการมาแล้วประมาณ 8 เดือน ซึ่งในกรุงเทพเป็นเมืองที่ 4 ต่อจากฮานอย, โฮจิมินห์ และจาการ์ตา ปัจจุบันมีคนขับครอบคลุมพื้นที่ทั่ว กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ และกำลังจะขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมมากขึ้น ในขณะที่ UberMoto มาเปิดให้บริการในกรุงเทพเป็นที่แรก มีพื้นที่ครอบคลุมแค่สีลม สยาม และสาทรเท่านั้น
การเรียกใช้บริการแต่ละครั้ง ในแอพพลิเคชั่นของ GrabBike และ UberMoto จะแสดงตำแหน่งจำนวนรถในแผนที่ ซึ่งจะเห็นว่ารถของ GrabBike นั้นมีจำนวนที่มากกว่าชัดเจนเมื่อเทียบกับ UberMoto
เวลาในการรอรถ
GrabBike มีคนขับและครอบคลุมพื้นที่มากกว่า ทำให้การเรียกรถและรอรถใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที ในขณะที่ UberMoto มีพื้นที่ครอบคลุมน้อย ซึ่งอาจต้องรอนานถึง 5 นาที
ประกันอุบัติเหตุ
จากรายงานความปลอดภัยบนท้
ผู้โดยสารที่ใช้บริการ GrabBike จะได้รับประกันอุบัติเหตุ (Personal Accident Insurance – PAI) จาก Grab โดยคนขับได้รับสูงสุด 300,000 บาท และผู้โดยสารได้รับสูงสุด 300,000 บาท รวมเป็น 600,000 บาทต่อกรณี ในขณะที่ UberMoto ไม่มีประกันให้เลยไม่ว่าจะคนขับหรือผู้โดยสาร
ประกันสินค้า
นอกจากส่งคนแล้ว GrabBike ยังมีบริการรับส่งพัสดุ-เอกสาร และฝากซื้อของด้วย ซึ่งผู้ใช้บริการจะได้รับใบเสร็จ และ Tracking Number สามารถทำการติดตามสถานะของพัสดุได้บนหน้าเว็บไซต์ GrabExpress และบริการนี้ก็ยังมีประกันสินค้าให้สูงสุด 2,000 บาทต่อกรณีด้วย และเป็นอีกหนึ่งบริการที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน ในขณะที่ UberMoto ไม่มีบริการในส่วนนี้
ระบบติดตามสถานะ
ทั้ง GrabBike และ UberMoto มีระบบติดตามแบบ Real Time ด้วย GPS วินาทีต่อวินาทีผ่านในแอพพลิเคชั่น
จากข้อมูลทั้งหมดนี้จะเห็นทั้งบริการ Grab และ Uber ล้วนแล้วแต่ออกมาเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ซึ่งบริการจาก GrabBike ก็จะมีโปรโมชั่นส่วนลดค่าบริการหรือฟรีค่าเรียกออกมาเอาใจลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าทั้งดีและปลอดภัยต่อผู้โดยสารมาก ๆ เลยทีเดียว
ข้อมูลเพิ่มเติม www.grab.com