Android News
แฮงค์เอาท์คาเฟ่สุดฮิป ไปกับ OPPO Mirror 5
แฮงค์เอาท์คาเฟ่สุดฮิป ไปกับ OPPO Mirror 5
หลีกหนีความจำเจจากร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดบนห้างดัง ถอยห่างจากความพลุกพล่านของสังคมเมือง แล้วมาสัมผัสกับชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ นั่งชิลในร้านกาแฟบรรยากาศดีในย่านซอยอารีย์ที่สุขสงบ แถมยังเดินทางสะดวกทั้งด้วยรถส่วนตัวและรถไฟฟ้า BTS
เราขอพาทุกท่านไปนั่งชิลๆ ใน 3 ร้านกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และจัดว่าดีงามทั้งบรรยากาศ การตกแต่งร้าน และรสชาติอาหาร เราจะพาทุกท่านไปนั่งกินอาหารอร่อยๆ ที่ร้าน Kaffe by Li-bra-ry Ari , ร้าน Casa Lapin x Aree และร้าน Porcupine café ครับ
เมื่อมีโอกาสได้ไปร้านอาหารบรรยากาศดีๆ แน่นอนว่าสำหรับชาว Hipster รวมถึงคนที่ชอบการถ่ายภาพสวยๆ ย่อมต้องมีอุปกรณ์ชิ้นสำคัญติดตัวไว้คือ สมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้สวยๆ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ในทริปนี้ผมเลยเลือก OPPO Mirror 5 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่เด่นด้วยดีไซน์เหลี่ยมเพชรบนฝาหลัง แถมยังถ่ายภาพได้สวยๆ ด้วยกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ตามมาดูกันครับว่า OPPO Mirror 5 จะทำหน้าที่เป็นกล้องบันทึกภาพประกอบการรีวิวครั้งนี้ได้สวยงามขนาดไหน
ภาพซ้าย เป็นภาพที่ถ่ายด้วยโหมดกล้องปกติ ส่วนภาพขวา ถ่ายด้วยโหมด “ตัวกรองสีที่สวยงาม” (Various Filters) ที่มีฟิลเตอร์ให้เลือกโทนสีภาพสวยๆ ได้ถึง 11 โทนสี ถ่ายมาแล้วได้ภาพสวยๆ เลย ไม่ต้องใช้แอพแต่งภาพให้ยุ่งยาก
ด้วยระบบประมวลผลภาพ Pure Image 2.0+ ทำให้ OPPO Mirror 5 มีโหมดการถ่ายภาพที่โดดเด่น แตกต่างจากสมาร์ทโฟนอื่นๆ ตัวอย่างเช่น โหมดการถ่ายแบบ “ตัวกรองสีที่สวยงาม” (Various Filters) ที่ถ่ายภาพออกมาแล้วได้โทนสีสวยๆ แบบอินสตาแกรม หรือ VCSO Cam เลย ไม่ต้องเสียเวลามาแต่งภาพกันทีหลัง โดยที่ในโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม มีฟิลเตอร์ปรับโทนสีภาพให้เลือกใช้ได้ถึง 11 แบบครับ ในรีวิวนี้มีภาพสวยๆ จากโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ให้ดูกันแน่นอนครับ
เซลฟี่ก็เป็นงานถนัดของ OPPO Mirror 5 ด้วยเทคโนโลยี Beautify 3.0 ที่ทำให้การเซลฟี่เป็นเรื่องง่ายและสวยงามยิ่งขึ้น ด้วยการปรับระดับความเนียนของใบหน้า ที่มีให้เลือกได้ถึง 3 ระดับ รับรองว่าถ่ายออกมาแล้วสวยเนียนหล่อเนียนอย่างแน่นอน
และอีกหนึ่งโหมดการถ่ายภาพที่สร้างสรรค์ และเหมาะสำหรับการถ่ายภาพบรรยากาศในร้านกาแฟ คือโหมด “รับแสงสองครั้ง” (Double Exposure) ได้ภาพถ่ายที่แปลกใหม่สะดุดตาด้วยการนำ 2 ภาพมาซ้อนรวมเป็นภาพเดียว
ถ้าพร้อมแล้วเรามาติดตามอ่านรีวิว 3 ร้านกาแฟสุดชิค พร้อมด้วยภาพประกอบสวยๆ ที่ถ่ายจาก OPPO Mirror 5 กันครับ
Kaffe by Li-bra-ry Ari ร้านกาแฟสไตล์ห้องสมุดสุดคลูที่เป็นมิตรกับนักปั่น
ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “หวนคิดถึง”
เริ่มแรกกันด้วยร้านกาแฟที่ตกแต่งในบรรยากาศเท่ห์เคร่งขรึมด้วยโทนสีเข้มอย่างร้าน Kaffe by Li-bra-ry Ari ร้านตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธินฝั่งสนามเป้า อยู่ติดกับกับปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ และอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์ ใครเอารถส่วนตัวมาก็เลี้ยวเข้าไปจอดในช่องจอดรถข้างร้านที่เป็นของโครงการคอนโด Noble Revole ได้เลยครับ
มุมนั่งสบายๆ ที่ชั้น 1 ของร้าน
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “อาทิตย์ตก”)
เคาน์เตอร์ที่ชั้น 1 ของร้าน ให้ความรู้สึกเหมือนห้องครัวสไตล์โมเดิร์น
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “โตเกียว”)
บรรยากาศร้านเป็นอาคาร 2 ชั้น เมื่อเดินเข้ามาที่ชั้น 1 ก็สะดุดตากับเคาน์เตอร์สำหรับรับออเดอร์ และจัดเตรียมอาหาร ที่ตกแต่งจัดวางได้อย่างสวยงาม ที่ชั้น 1 ของร้านมีโต๊ะไม้ยาวขนาดใหญ่ 2 ตัว และมุมเก้าอี้โซฟานั่งสบายๆ มีเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆ ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย ภายนอกอาคารมีโซนที่นั่งแบบ Outdoor ด้วยโต๊ะไม้ยาว 2 ตัว สำหรับคนที่อยากนั่งจิบกาแฟใต้ร่มเงาไม้
ภาพถ่ายโทนสีสวยๆ ในโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ด้วยฟิลเตอร์ภาพแบบ “สีเหลือง”
บรรยากาศมุมสงบ นั่งทานอาหาร นั่งอ่านหนังสือชิลๆ บนชั้น 2 ของร้าน
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “โมโน”)
ส่วนชั้นที่ 2 ของร้านนั้น เป็นที่มาของคำว่า Li-bra-ry (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชื่อร้าน) ด้วยบรรยากาศการตกแต่งในแบบห้องสมุดที่มีสไตล์ และเงียบสงบ ไม่มีเสียงเพลงเปิดคลอที่ชั้น 2 ของร้าน น่าจะเหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อน หรือกลุ่มคนทำงานที่ต้องการหาที่นั่งคุยงานที่สงบและเป็นส่วนตัว หนังสือบนชั้นวางที่มีให้หยิบอ่านได้ฟรีส่วนใหญ่ก็เป็นหนังสือนิยายภาษาอังกฤษเล่มหนาๆ ครับ และใครที่จะหิ้วโน้ตบุ๊กมานั่งทำงาน ที่ร้านนี้ก็มี Wi-Fi ให้ใช้ฟรี 3 ชั่วโมง และมีปลั๊กให้เสียบชาร์จแบตฯ ด้วยครับ
นั่งอยู่ในร้านกาแฟบรรยากาศชิลๆ แบบนี้ก็ต้องเซลฟี่อวดเพื่อนกันซะหน่อย OPPO Mirror 5 จัดเซลฟี่ให้แบบสวยๆ เนียนๆ
ภาพถ่ายโทนสีสวยๆ ในโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ด้วยฟิลเตอร์ภาพแบบ “บ่าย”
เป็นร้านกาแฟที่ต้อนรับนักขี่จักรยานอย่างดี และมีส่วนลด 10% สำหรับคนที่ปั่นจักรยานมา
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “สไตล์โกธิก”)
ภาพถ่ายโทนสีสวยๆ ในโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ด้วยฟิลเตอร์ภาพแบบ “อาทิตย์ตก”
ซ้าย Library Waffle และขวา Iced Latte สองเมนูที่น่าลองของร้าน Kaffe by Li-bra-ry Ari
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “อาทิตย์ขึ้น”)
มาพูดถึงเรื่องรสชาติอาหารกันบ้างครับ เราลองชิม 1 เมนูเครื่องดื่มอย่าง Iced Latte (แก้วละ 110 บาท) และอีก 1 เมนูเบเกอรี่ที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง Library Waffle โดยในส่วนของน้ำ Iced Latte ต้องบอกว่ารสชาติเข้มข้น และขมนิดๆ ถูกใจคนที่ชอบสัมผัสกับรสชาติแท้ๆ ของกาแฟ จัดว่ารสชาติดีคุ้มค่าน่าลองชิมครับ
สร้างสรรค์ภาพถ่ายเมนูอาหารแบบแปลกใหม่สะดุดตาด้วยโหมดการถ่ายแบบ “รับแสงสองครั้ง” (Double Exposure)
มาว่ากันต่อด้วย Library Waffle (85 บาท) เมนูอันเป็นเอกลักษณ์ของทางร้านที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง หน้าตาของเมนูนี้เป็นการนำแผ่นวาฟเฟิ่ลสีเขียว 4 แผ่นมาวางเกยกันให้มีรูปร่างคล้ายปล่องภูเขาไฟ ดูแปลกตาน่ากินมากๆ เมื่อลองลิ้มชิมรสก็สัมผัสได้ถึงความกรอบนอกนุ่มในของแผ่นวาฟเฟิ่ล และความหวานหอมของรสชาติใบเตยที่อบอวนอยู่ในปาก บอกเลยว่าอร่อยครับ เป็นเมนูที่ต้องลองจริงๆ
ภาพบรรยากาศภายนอกของร้าน Casa Lapin ดูสวยขึ้นด้วยฟิลเตอร์การถ่ายภาพของ OPPO Mirror 5
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “อบอุ่น”)
Casa Lapin x Aree วินเทจคาเฟ่ในบรรยากาศอันสุดแสนจะโรแมนติก
มาต่อกันที่ร้านที่สองกับวินเทจคาเฟ่สุดชิคที่ตั้งอยู่บนชั้นที่ 1 ของอาคารคอนโด Noble Reform อยู่แถวปากซอยอารีย์ (ซอยพหลโยธิน 7) กันเลยทีเดียว การเดินทางมาก็สะดวกมากๆ ด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอารีย์ฝั่งอาคารปิยวรรณ แล้วเดินเลี้ยวเข้าซอยอารีย์ไปนิดเดียว สังเกตทางขวามือจะเห็นอาคารคอนโด Noble Reform แล้วก็เดินเข้าไปได้เลยครับ ร้านอยู่ที่ชั่นหนึ่ง และสำหรับคนที่เอารถส่วนตัวมา ก็จอดในลานจอดของคอนโดได้เลยครับ (เสียค่าจอดชั่วโมงละ 30 บาท) เวลาเปิดทำการของร้าน8:30 – 22:00 น. ในวันจันทร์ – พฤหัส และ 8.30-23:00 น. ในวันศุกร์ – เสาร์ครับ
ภายในร้านบรรยากาศดีน่านั่ง สะดุดตากับโคมไฟระย้าสีเหลืองนวลที่ดูมีเสน่ห์
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “อาทิตย์ตก”)
มุมนั่งชิลเห็นวิวนอกร้าน ภาพนี้ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ของ OPPO Mirror 5 ที่ปรับโทนสีภาพให้สวยงามได้แบบง่ายๆ
ภายนอกร้านตกแต่งด้วยกลุ่มตะบองเพชรจิ๋ว บ่งบอกความเป็นคาเฟ่สำหรับ Hipster ขนานแท้
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “โตเกียว”)
บรรยากาศร้านตกแต่งสไลต์ค่าเฟ่ยุคเก่า ด้วยเคาน์เตอร์บาร์และเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ดูคลาสิกมีรสนิยม สะดุดตากับโคมไฟระย้าทรงสวยที่ห้อยยาวลงมาตรงใจกลางร้าน เป็นรายละเอียดการตกแต่งที่ทำให้ร้านนี้ดูมีเสน่ห์ขึ้นมามากๆ เลย และมีการเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ขับกล่อมบรรยากาศ บวกกับแสงไฟสีเหลืองนวลๆ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนติก เป็นร้านที่เหมาะกับคู่รักที่อยากจะมาหาอะไรอร่อยๆ กินกัน รวมถึงการสังสรรค์ให้หมู่เพื่อนฝูง หรือใครที่มองหาร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ไว้พูดคุยเรื่องงานหรือเจรจาธุรกิจ ร้าน Casa Lapin x Aree ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะไม่น้อยครับ
เคาน์เตอร์บาร์สุดเก๋ ตกแต่งด้วยถาดผลไม้สีสันสดใส และอุปกรณ์ในการชงกาแฟสารพัดรูปแบบ
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “หวนคิดถึง”)
ภาพถ่ายด้วยฟิลเตอร์แบบ “สไตล์โกธิก” ให้โทนภาพที่ดูมีเสน่ห์ ลึกลับ น่าค้นหา
มีมุมให้หยิบหนังสือไปนั่งอ่านได้ฟรี มี KINFOLK ให้หยิบไปเปิดดูรูปสวยๆ ด้วยนะ
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “อาทิตย์ขึ้น”)
เกือบลืมบอกไปว่าร้านนี้มีฟรี Wi-Fi ให้ 1 ชั่วโมงต่อ 1 บิล และโซนที่นั่งโซฟายาวทางซีกซ้ายของร้าน นั้นมีปลั๊กไฟให้เสียบใช้เครื่องโน้ตบุ๊กหรือชาร์จแบตฯ สมาร์ทโฟนได้ครับ
ซ้าย Chocolate Flourless Cake และขวา Hot Green Tea Latte สองเมนูที่น่าลองของทางร้าน Casa Lapin
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “โตเกียว”)
เมื่อมารีวิวร้านแล้วก็ต้องหาของอร่อยๆ กินสักหน่อย ในส่วนของเครื่องดื่มเราเลือกชิม Hot Green Tea Latte (แก้วละ 60 บาท) เมนูขึ้นชื่อของทางร้าน และในส่วนของเบเกอรี่ เราเลือกชิม Chocolate Flourless Cake (ชิ้นละ 140 บาท) เมนูขึ้นชื่อของทางร้านอีกเช่นกันครับ
โหมดการถ่าย Double Exposure ของ OPPO Mirror 5 ให้ภาพถ่ายที่แปลกใหม่สวยงามด้วยเทคนิคการถ่ายภาพซ้อน
เมนูเครื่องดื่ม Hot Green Tea Latte ทำให้เราประทับใจกับลาเต้อาร์ตลวดลายหัวใจสวยๆ เรียกว่าสวยซะจนไม่กล้ากินกันเลยทีเดียว เมื่อลองชิมก็ได้สัมผัสกับความหวานมัน และความเข้มข้นกลมกล่อมของรสชาติชาเขียว แผงด้วยความขมนิดๆ ติดปลายลิ้น ใครชอบดื่มชาเชียวแนะนำเลยว่าต้องลองครับ
OPPO Mirror 5 เซลฟี่แจ่ม สวยเนียน หล่อเนียนด้วยกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล บวกกับโหมดการถ่ายภาพพร้อมแต่งสวย
เมนูเบเกอรี่ของร้านนี้ก็มีดีไม่แพ้กันกับ Chocolate Flourless Cake ที่โดนใจช็อกโกเลตเลิฟเวอร์อย่างแน่นอน เนื้อเค้กรสชาติเข้มข้นมาก สัมผัสได้ถึงความอร่อยของช็อกโกแลตแบบเต็มๆ เนื้อเค้กแน่นด้วยวัตถุดิบระดับคุณภาพ ใครที่ชอบช็อกโกแลตอยู่แล้ว ถ้าได้แวะไปร้าน Casa Lapin อย่างลืมสั่งเมนูนี้นะครับ
Porcupine ร้านกาแฟที่อบอุ่นเหมือนนั่งกินอาหารอยู่ที่บ้าน
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “อาทิตย์ตก”)
มุมนั่งชิล Outdoor หน้าร้าน Porcupine
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “สีเหลือง”)
Porcupine Café อบอุ่นสุขสันต์เหมือนอยู่บ้านของตัวเอง
ลองหลับตานึกถึงบ้านสีขาวหลังเล็กๆ ที่มีอาหารดีๆ เบเกอรี่อร่อยๆ และมีที่นั่งมากพอสำหรับเพื่อนๆ ทุกคน นี่หล่ะครับคือสิ่งที่เราจะได้เจอในร้าน Porcupine ส่วนการเดินทางมาร้านนั้นก็ไม่ลำบากยากเย็นครับ สำหรับคนที่มารถไฟฟ้า BTS ก็ให้ลงที่สถานีอารีย์ (ลงฝั่งอาคารปิยวรรณ) จากนั้นเดินมาที่ซอยอารีย์ (ซอยพหลโยธิน 7) แล้วเดินตรงเข้าไปในซอยประมาณ 300 เมตร ก็จะเห็นร้าน Porcupine อยู่ทางซ้ายมือ สำหรับคนที่มารถส่วนตัว ก็หาที่จอดรถในซอยได้ตามสะดวกครับ เวลาเปิดทำการของร้าน 10:00-22:00 น. ของทุกๆ วันครับ
ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “สไตล์โกธิก”
ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “อาทิตย์ตก”
มุมโชว์ของตกแต่งเก๋ๆ ในร้าน มีนิตยสารแจกฟรีหลายๆ เล่มให้หยิบติดมือกลับบ้านด้วย
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “อาทิตย์ขึ้น”)
เซลฟี่ด้วย OPPO Mirror 5 แล้วออกมาสวยเนียนหล่อเนียนกันทุกคนครับ ^^
บรรยากาศในร้านเหมือนเรานั่งอยู่ในบ้านหลังย่อมๆ ที่ตกแต่งในสไตล์ที่อบอุ่นน่ารัก เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีขาว เสียงเพลงที่เปิดขับกล่อมบรรยากาศในร้านออกไปในโทนสนุกสนุกสนานคึกคัก ทำให้ดูเหมือนว่าเป็นร้านที่เหมาะสำหรับการสังสรรค์ในหมู่เพื่อนฝูง อาจจะไม่เหมาะกับคนที่หาร้านเพื่อนั่งทำงานเงียบๆ สักเท่าไหร่ และที่ร้านนี้ใจดีครับมี Wi-Fi ฟรีให้เล่นไม่จำกัดชั่วโมง มีปลั๊กไฟให้เสียบโน้ตบุ๊ก หรือเสียบชาร์จสมาร์ทโฟนได้เลย (แต่ OPPO Mirror 5 แบตเตอรี่อึด ไม่ต้องเสียบชาร์จกันบ่อยๆ ครับ)
ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “โมโน”
ด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ของ OPPO Mirror 5 ทำให้ภาพถ่ายธรรมดา กลายเป็นภาพถ่ายที่สวยงามราวกับภาพศิลปะ
มุมเล็กๆ หน้าร้านมีโต๊ะยาวสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
(ถ่ายด้วยโหมด ตัวกรองสีที่สวยงาม ใช้ฟิลเตอร์ภาพแบบ “บ่าย”)
จุดเด่นของสมาร์ทโฟน OPPO คือถ่ายเซลฟี่ได้สวยงาม และ Mirror 5 ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ
Porcupine เป็นร้านที่ขึ้นชื่อว่าโดดเด่นในเมนูอาหารเค้ก ถ้ามาแล้วไม่กินเค้กอาจถือว่ามาไม่ถึงร้าน เราเลยต้องสั่ง Blueberry Cheese Cake มาลองลิ้มชิมรส (ชิ้นละ 158 บาท) กินแกล้มกับ Drip Coffee ถ้วยเล็กๆ (ถ้วยละ 88 บาท) เพื่อเรียกความสดชื่นแก้ง่วง มาพูดถึงรสชาติของเครื่องดื่มอย่าง Drip Coffee กันก่อนครับ ต้องบอกว่าเข้มข้นสะใจมากๆ จิบแล้วตาสว่างแก้ง่วงดีมากๆ เลย พอมาถึงเมนู Blueberry Cheese Cake ก็ต้องบอกว่าไม่ทำให้ผิดหวังครับ แยมบูลเบอรี่ที่ราดอยู่บนชิ้นเค้ก นั้นก็มีบูลเบอรี่ลูกเล็กๆ ให้ได้เคี้ยวกันเพลินๆ น้ำแยมให้รสชาติหวานซ่อนเปรี้ยวนิดๆ กินแล้วรู้สึกสดชื่นเลย ในส่วนของชีสเค้กก็ได้กลิ่นหอมของนมเนย และเนื้อเค้กแน่นดีมากๆ สรุปเลยครับว่าเป็นเค้กที่อร่อยถูกใจจริงๆ
ค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการถ่ายภาพด้วยโหมดการถ่าย “รับแสงสองครั้ง” ของ OPPO Mirror 5
ก็ต้องขอจบการรีวิว 3 ร้านกาแฟสุดชิคเอาไว้เพียงเท่านี้ และอย่าลืมนะครับ ใครอยากได้สมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้สวยๆ ในราคาไม่แรง หรืออยากได้มุมมอง แรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการถ่ายภาพ OPPO Mirror 5 ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในราคาเพียง 7,990 บาท เท่านั้นครับ
คลิกที่นี่ เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ OPPO Mirror 5