Apple News
สวัสดีสีเหลือง Apple เปิดตัว iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ใหม่
สีเหลืองที่สวยงามเข้าร่วมในตระกูลผลิตภัณฑ์ มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน ระบบกล้องคู่ที่ทรงพลังสำหรับภาพถ่ายและวิดีโอระดับโปร และความสามารถด้านความปลอดภัยสุดล้ำ ซึ่งรวมถึงคุณสมบัติ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมและการตรวจจับการชนกัน
วันนี้ Apple เปิดตัว iPhone 14 และ iPhone 14 Plus สีเหลืองใหม่ มอบตัวเลือกสีสันเพิ่มเติมแก่ตระกูลผลิตภัณฑ์ในปีนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก โดย iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ออกแบบมาอย่างสวยงามและทนทานยาวนาน มีตัวเครื่องด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ดีไซน์ด้านในที่อัปเดตใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นและซ่อมแซมได้ง่ายกว่าเดิม และระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าทึ่ง ซึ่ง iPhone 14 Plus ให้แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone1 นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมระบบกล้องคู่เพื่อรูปถ่ายและวิดีโออันน่าทึ่ง ชิป A15 Bionic ที่ทรงพลัง และความสามารถด้านความปลอดภัยที่เหนือชั้นซึ่งรวมถึงคุณสมบัติ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมและการตรวจจับการชนกัน ทั้งนี้ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus สีเหลืองใหม่จะพร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 10 มีนาคมนี้ และเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันอังคารที่ 14 มีนาคมนี้
“ลูกค้ารัก iPhone และหยิบใช้ทุกวันไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เรื่องที่น่ายินดีเพิ่มเติมสำหรับผลิตภัณฑ์ตระกูลนี้ก็คือ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus สีเหลืองใหม่” Bob Borchers รองประธานฝ่าย Worldwide Product Marketing ของ Apple กล่าว “แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานเหลือเชื่อ ดีไซน์ที่มีน้ำหนักเบา คุณสมบัติของกล้องและวิดีโอระดับโปร ความสามารถด้านความปลอดภัยสุดล้ำ เช่น SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม และสิ่งอื่นๆ ทั้งหมดที่มีใน iOS 16 ทำให้ iPhone 14 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทุกคนในตลาดที่กำลังอยากได้ iPhone เครื่องใหม่”
ดีไซน์ที่สวยงามและทนทานพร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานอย่างน่าทึ่ง
iPhone 14 ขนาด 6.1 นิ้ว และ iPhone 14 Plus ขนาด 6.7 นิ้ว2 มาพร้อมดีไซน์แบบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศซึ่งทนทั้งน้ำและฝุ่น3 และมีตัวเครื่องด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ที่มีความแข็งแกร่งยิ่งกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ทโฟน ช่วยปกป้อง iPhone จากการทำน้ำหกใส่และอุบัติเหตุทั่วไป ดีไซน์ด้านในที่อัปเดตใหม่ยังให้ประสิทธิภาพที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น เหมาะแก่การรับมือเวิร์กโหลดหนักๆ และการเล่นเกมที่ต้องใช้ประสิทธิภาพสูง ขณะที่สามารถซ่อมแซมได้ง่ายด้วยค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลยิ่งขึ้น ทั้งสองรุ่นมีจอภาพ Super Retina XDR® ที่สวยสะกดตาพร้อมเทคโนโลยี OLED ซึ่งรองรับความสว่าง HDR สูงสุดเฉพาะจุด 1,200 นิต เคียงคู่ไปกับการรองรับ Dolby Vision ส่วนจอภาพ iPhone 14 Plus ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมก็ทำให้การรับชมคอนเทนต์ และการเล่นเกมเป็นไปอย่างน่าประทับใจ โดยให้แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone
ระบบกล้องคู่ที่ทรงพลังที่เก็บภาพทุกช่วงเวลา
ผู้ใช้ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus จะได้รับระบบกล้องคู่สุดล้ำที่พกพาได้อย่างสะดวก มาพร้อมกล้องหลักระดับโปรใหม่ที่น่าประทับใจ มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อภาพถ่ายและวิดีโอที่สวยสะดุดตา และมีกล้องอัลตร้าไวด์ที่ถ่ายภาพได้ในมุมมองเฉพาะตัว ทั้ง iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ยังมาพร้อมกล้องหน้า TrueDepth ใหม่ที่สามารถโฟกัสหลายๆ ตัวแบบโดยอัตโนมัติในระยะห่างที่ต่างกัน เพื่อให้ได้ภาพระยะใกล้ที่คมชัดยิ่งกว่าเดิมและภาพหมู่เซลฟี่ที่สวยงาม รูรับแสงที่กว้างขึ้นยังทำให้ภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยมีสีสันที่สว่างขึ้นและมีรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม
ผลิตภัณฑ์ตระกูล iPhone 14 ยังมี Photonic Engine ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในสภาวะแสงปานกลางถึงน้อยแก่รูปภาพบนกล้องทุกตัวเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยมากขึ้น 2 เท่าสำหรับกล้อง TrueDepth และกล้องอัลตร้าไวด์ และมากขึ้น 2.5 เท่าสำหรับกล้องหลักตัวใหม่ โดย Photonic Engine สามารถเก็บรักษาพื้นผิวที่มีความละเอียดลออ ให้สีสันที่ดียิ่งขึ้น และช่วยคงข้อมูลในรูปภาพได้มากขึ้นผ่านการผสานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ล้ำลึก
คุณสมบัติวิดีโออย่างโหมดแอ็คชั่นและโหมดภาพยนตร์มีให้ใช้งานในผลิตภัณฑ์ตระกูล iPhone 14 ทุกรุ่น เพื่อให้ผู้ใช้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ โหมดแอ็คชั่นทำให้วิดีโอดูลื่นไหลอย่างน่าทึ่ง โดยสามารถปรับให้สัมพันธ์กับการส่ายไปมาและการเคลื่อนไหวในระดับมากๆ แม้กระทั่งการถ่ายวิดีโอระหว่างแอ็คชั่นก็ตาม ส่วนโหมดภาพยนตร์ซึ่งรองรับความละเอียด 4K ที่ 30 fps และ 4K ที่ 24 fps ทำให้ได้เอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึกที่สวยงามซึ่งเปลี่ยนโฟกัสในการถ่ายวิดีโอสไตล์ภาพยนตร์ได้โดยอัตโนมัติด้วยวิธีที่ง่ายดายไม่ยุ่งยาก
ความสามารถด้านความปลอดภัยที่เหนือชั้นที่ทำให้คุณอุ่นใจ
iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มีความสามารถด้านความปลอดภัยที่สำคัญซึ่งให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ในเวลาที่สำคัญที่สุด คุณสมบัติ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความถึงบริการฉุกเฉินเมื่ออยู่นอกพื้นที่ให้บริการเซลลูลาร์และ Wi-Fi ผ่านองค์ประกอบที่ออกแบบมาโดยเฉพาะและซอฟต์แวร์ที่ผสานการทำงานอย่างกลมกลืน นอกจากนี้ผู้ใช้ที่ต้องการแจ้งตำแหน่งแก่เพื่อนและครอบครัวอย่างมั่นใจแม้จะอยู่ในพื้นที่อับสัญญาณก็ตาม ก็สามารถเปิดแอปค้นหาของฉันแล้วแชร์ตำแหน่งที่ตั้งผ่านดาวเทียมได้ด้วย บริการนี้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วทั้งในสหรัฐฯ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ไอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร และจะพร้อมให้บริการภายในเดือนนี้สำหรับออสเตรีย เบลเยียม อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกส4
คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันในผลิตภัณฑ์ตระกูล iPhone 14 สามารถตรวจจับเหตุรถชนรุนแรงและโทรติดต่อบริการฉุกเฉินได้โดยอัตโนมัติหากผู้ใช้หมดสติหรือไม่สามารถหยิบ iPhone ได้ โดย Apple ได้ออกแบบอัลกอริทึมการเคลื่อนที่ซึ่งพัฒนาขึ้นจากข้อมูลการขับขี่และการชนกันในชีวิตจริงถึง 1 ล้านชั่วโมง ผสานรวมกับข้อมูลการเคลื่อนที่จากอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวและไจโรสโคปใหม่, GPS, บารอมิเตอร์ และไมโครโฟน5บน iPhone เพื่อมอบคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เหนือชั้นแก่ชีวิตของผู้คน นอกจากนี้เมื่อจับคู่กับ Apple Watch® คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันก็สามารถเลือกใช้ประโยชน์จากจุดเด่นเฉพาะตัวของอุปกรณ์ทั้งสองได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที6
ขับเคลื่อนด้วยชิป A15 Bionic พร้อม GPU แบบ 5-core
ชิป A15 Bionic นำประสิทธิภาพระดับโปรที่ทรงพลังมาสู่ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus พร้อมด้วย GPU แบบ 5-core ที่มอบความเร็วที่เหนือกว่าสำหรับเวิร์กโหลดที่ต้องประมวลผลหนักๆ และยังให้กราฟิกที่ลื่นไหลยิ่งขึ้นทั้งสำหรับแอปวิดีโอและการเล่นเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ชิป A15 Bionic ยังมอบขุมพลังแก่คุณสมบัติกล้องอย่าง Photonic Engine, โหมดแอ็คชั่น และโหมดภาพยนตร์ โดยที่ยังคงให้ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่นานเป็นพิเศษ ให้การปกป้องความเป็นส่วนตัวที่สำคัญ และมอบคุณสมบัติด้านความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสโดยใช้ Secure Enclave อีกทั้ง CPU แบบ 6-core ดังกล่าวยังมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ที่รับมือกับงานหนักๆ ได้ง่ายดาย พร้อมด้วย Neural Engine แบบ 16-core ที่สามารถประมวลผลได้ 15.8 ล้านล้านรายการต่อวินาที ทำให้การประมวลผลด้านการเรียนรู้ของระบบสำหรับคุณสมบัติต่างๆ ในการใช้งาน iOS 16 และแอปของบริษัทอื่นทำได้เร็วขึ้นยิ่งกว่าที่เคย
มาพร้อม iOS 16
iOS 16 มาพร้อมการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของหน้าจอล็อค ทั้งเอฟเฟ็กต์แบบหลายเลเยอร์ที่ทำให้ตัวแบบในภาพถ่ายโดดเด่นสวยงามอยู่ด้านหน้าเวลาที่แสดงบนหน้าจอ วิดเจ็ตที่ให้ข้อมูลได้มากขึ้นเพียงแค่เหลือบมอง และแกลอรี่ภาพพื้นหลังใหม่ที่ให้แรงบันดาลใจ โหมดโฟกัสยังมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยการเชื่อมโยงกับหน้าจอล็อคในรูปแบบใหม่และสร้างฟิลเตอร์สำหรับโหมดโฟกัสภายในแอป คุณสมบัติกิจกรรมสดช่วยให้ผู้ใช้เกาะติดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้โดยตรงบนหน้าจอล็อคในแบบเรียลไทม์ เช่น การแข่งขันกีฬาหรือการแชร์รถ ด้านแอปข้อความก็อนุญาตให้ผู้ใช้แก้ไขข้อความ ยกเลิกส่ง และทำเครื่องหมายการสนทนาเป็นยังไม่ได้อ่าน7 การท่องเว็บด้วย Safari จะปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยพาสคีย์ ซึ่งเป็นข้อมูลประจำตัวเจเนอเรชั่นถัดไปที่ไม่สามารถใช้การหลอกหลวงแบบฟิชชิ่งหรือรั่วไหลได้ คุณสมบัติข้อความในภาพมีความสามารถเพิ่มเติมในด้านการโต้ตอบกับข้อความในวิดีโอ แปลงสกุลเงินได้เร็ว และแปลข้อความได้ทันที ผู้ใช้ยังสามารถแตะที่ตัวแบบในภาพค้างไว้แล้วดึงออกมาจากพื้นหลังเพื่อนำไปวางในแอปต่างๆ อย่างแอปข้อความได้ทันที นอกจากนี้คลังรูปภาพ iCloud ที่แชร์ยังมอบวิธีใหม่ในการแชร์รูปภาพอย่างไร้รอยต่อกับสมาชิกในครอบครัวสูงสุดถึง 6 คน และยังมี Apple Music Sing ที่ผู้ใช้สามารถร้องตามเพลงโปรดไปกับเสียงร้องที่ปรับแต่งได้และเนื้อเพลงแบบเรียลไทม์8
iPhone กับสิ่งแวดล้อม
iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด รวมถึงสายอากาศที่ใช้ขวดน้ำพลาสติกที่ผ่านการอัปไซเคิลโดยอาศัยกระบวนการทางเคมีเพื่อเปลี่ยนเป็นวัสดุที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและแข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากจะมาพร้อมการออกแบบสถาปัตยกรรมภายในใหม่ที่ทำให้การซ่อมแซมสะดวกยิ่งขึ้น iPhone 14 รุ่นต่างๆ ยังใช้แร่โลหะหายากที่ผ่านการรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น รวมถึงที่ใช้ใน MagSafe และยังใช้ทังสเตนรีไซเคิล 100% ใน Taptic Engine® ด้วย นอกจากนี้โลหะบัดกรีของแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้นในเครื่องทั้งสองรุ่นยังใช้ดีบุกรีไซเคิล 100% และยังใช้ทองคำรีไซเคิล 100% ในการเคลือบแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้นรวมถึงในสายไฟของกล้องทุกตัว ขณะเดียวกันบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เยื่อไม้ก็เลิกใช้พลาสติกหุ้มชั้นนอก และทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายของบริษัทมากยิ่งขึ้น นั่นคือการเลิกใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025
วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า การชาร์จ ตลอดจนการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ
ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย
- ปัจจุบัน iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มีให้เลือกทั้งสีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์, (PRODUCT)RED9, สีฟ้า และสีม่วง และจะวางจำหน่ายในสีเหลืองโดยมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ 128GB, 256GB และ 512GB ในราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท และ 37,900 บาท ตามลำดับ
- ลูกค้าในออสเตรเลีย แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 60 ประเทศและภูมิภาคอื่นๆ จะสามารถสั่งซื้อ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus สีเหลืองล่วงหน้าได้ตั้งแต่เวลา 20:00 น. ตามเวลาในประเทศไทยของวันศุกร์ที่ 10 มีนาคมนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันอังคารที่ 14 มีนาคม
- นอกจากนี้ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ยังวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตจาก Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์บางรายด้วย
- ปัจจุบันคุณสมบัติ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมและค้นหาของฉันผ่านดาวเทียมพร้อมให้บริการในแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา และจะพร้อมให้บริการภายในเดือนนี้สำหรับออสเตรีย เบลเยียม อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกส บริการนี้จะให้บริการฟรีเป็นระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เปิดใช้งาน iPhone 14 และ iPhone 14 Plus เครื่องใหม่10
- ลูกค้าที่ซื้อ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus จะได้รับ Apple Arcade ฟรีเป็นระยะเวลา 3 เดือน เมื่อมีการสมัครบริการใหม่
- เคสซิลิโคนสำหรับ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus จะมีให้เลือกใน 4 สีใหม่ ได้แก่ สีเหลืองคานารี่ สีเขียวมะกอก สีท้องฟ้า และสีม่วงไอริส