รีวิว HONOR 200 Pro สมาร์ตโฟนพลังกล้องระดับสตูดิโอ “The Portrait Master” สเปคระดับเรือธงผ่านขุมพลัง Snapdragon 8s Gen 3 ดีไซน์พรีเมียม ใช้แบตเตอรี่ซิลิคอนใหม่ความจุใหญ่ 5200mAh ชาร์จเร็ว 100W SuperCharge โดยสเปคทั้งหมดและฟีเจอร์มีอะไรให้ใช้งานกันบ้าง มาดูรีวิวกันเลยครับ !
สรุปสเปค HONOR 200 Pro
- ขนาดรอบตัวเครื่อง : 163.3 x 75.2 x 8.2 มม.
- น้ำหนัก : 199 กรัม
- หน้าจอแสดงผล OLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K+ (2700 × 1224 พิกเซล) อัตราส่วน 19.85:9 รองรับ Refresh Rate 120Hz รองรับ 3840Hz PWM Dimming แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี และความสว่างสูงสุด 4000 นิต
- หน่วยประมวลผล : Snapdragon 8s Gen 3 Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.0GHz
- GPU : Adreno 735
- RAM : 12GB
- ROM : 512GB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.9 รองรับกันสั่น OIS เซ็นเซอร์ H9000 ขนาด 1/1.3″
- เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 112 องศา
- เลนส์ Telephoto 2.5x ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.4 รองรับกันสั่น OIS เซ็นเซอร์ Sony IMX856
- กล้องหน้า 2 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.1
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย MagicOS 8.0
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.3, NFC, 5G และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5200mAh รองรับชาร์จเร็ว HONOR 100W SuperCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง HONOR 200 Pro
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ HONOR 200 Pro ถือว่าได้มาครบถ้วน ไม่จำเป็นต้องหาอะไรมาเพิ่มเติมแล้วครับ โดยสิ่งที่ให้มีดังนี้
- ตัวเครื่อง HONOR 200 Pro พร้อมติดฟิล์มกันรอยมาให้
- อะแดปเตอร์ HONOR 100W SuperCharge
- สาย USB Type-C to Type-A
- เคสใสแบบ TPU
- คู่มือเริ่มต้นใช้งาน
- เข็มเปิดถาดซิม
- ใบรับประกัน
ดีไซน์แห่งสุนทรียภาพอันชาญฉลาด
HONOR 200 Pro จัดดีไซน์ที่เพรียบพร้อมไปด้วยความเรียบหรู มีสไตล์ ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์สุนทรียภาพอันชาญฉลาด ทั้งยังมีความเพรียวบางของตัวเครื่องที่อยู่เพียง 8.2 มม. เท่านั้นให้ความรู้สึกที่บางเฉียบเบาสบายและจับถือได้ถนัดมือมากขึ้นครับ
โดยสีที่เราได้มาเป็นสีดำ (Black) ที่ได้ความคลาสสิกและลึกลับมากๆ ผิวฝากหลังเป็นกระจกผิวด้านที่มีความลื่น ป้องกันการติดรอยนิ้วมือได้อย่างยอดเยี่ยมครับ
ที่สำคัญโมดูลกล้องหลังจะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวพอสมควรเลยครับ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปแบบของ “Casa Mila” ของ Gaudi ที่มีความสมมาตรมาบรรจบกับเส้นโค้งอันน่าสัมผัส และมีสัญลักษณ์ที่ส่วนล่างโมดูลกล้องเป็น “OIS 1/1.3″ 50X ZOOM”
ระบบระบายความร้อนขั้นสูง All-range Cooling System 2.0
HONOR 200 Pro เพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายความร้อนขั้นสูงแบบ 2.0 ที่ใช้สแตนเลสสตีล Biomimetic VC ขนาดใหญ่พิเศษ 5564 ตารางมิลลิเมตร มีพื้นที่รวมถึง 36881 ตารางมิลลิเมตร เพิ่มประสิทธิภาพการนำความร้อนสูงเป็นพิเศษระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม แถมยังมีความหนาเพียง 0.3 มม. เมื่อเปรียบเทียบกับ Copper VC ในสถาปัตยกรรมเดียวกันด้วย
หน้าจอโค้งพร้อมการใช้งานระดับเรือธง
HONOR 200 Pro ใช้หน้าจอแสดงผลแบบโค้ง พาเนลแบบ OLED ขนาด 6.78 นิ้ว คมชัดระดับ 1.5K+ มีอัตราส่วน 19.85:9 ทั้งยังแสดงผลสี 1.07 พันล้านสีที่เหมาะมากๆ ในการรับชมวิดีโอและภาพยนตร์ผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ ด้วย
ขณะที่ความสว่างของหน้าจอจะได้มาสูงสุดถึง 4000 นิต เพื่อให้ใช้งานในที่กลางแจ้งอย่างชัดเจนมากขึ้นครับ
ส่วนเรื่องความไหลลื่นก็ให้มาสูง Refresh Rate 120Hz ใครที่เป็นสายเกมก็สามารถเล่นได้ลื่นๆ ตอบสนองได้เรียลไทม์เหมือนกันครับ
หน้าจอถนอมสายตาระดับพรีเมียมจาก HONOR
ใน HONOR 200 Pro มาพร้อมเทคโนโลยีความถี่สูง 3840Hz PWM Dimming เพื่อให้เราใช้งานในที่แสงน้อยได้ไม่เมื่อยล้าดวงตาและถนอมสายตาได้ดีขึ้นครับ ที่สำคัญยังมี Nature Tone 2.0 ที่สามารถปรับสีบนหน้าจออัตโนมัติตามการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสีของสภาพแวดล้อมอย่างฉลาด
พาชมรอบเครื่อง
ดูดีไซน์หลักๆ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังกันไปแล้ว ก็พามาดูรอบเครื่องกันต่อเลยครับ โดยหน้าจอส่วนบนจะมีกล้องหน้า 2 เลนส์ ซึ่งจะเป็นเลนส์หลัก 50MP และ Depth เพื่อตรวจจับความชัดลึกครับ ทั้งยังมีลำโพงเพื่อใช้ในการสนทนาและลำโพงตัวที่ 2 มาให้
ฝั่งขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power
ทั้งนี้ที่ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่องแบบพลิกหน้า-หลัง ถัดไปจะเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1 พอร์ต USB-C และลำโพงตัวที่ 1
ทางด้านบนจะมีเซ็นเซอร์อินฟราเรด (IR Blaster) และไมโครโฟนตัวที่ 2
ท้ายสุดที่ด้านหลังจะมีกล้อง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED แบบ 2 ดวงครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
มาพร้อม MagicOS 8.0 พร้อมฟีเจอร์ให้ใช้เพียบ
HONOR 200 Pro แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย MagicOS 8.0 ที่มีความไหลลื่นและมีฟีเจอร์ให้ใช้งานกันเยอะพอสมควรเลยทีเดียวครับ
ระบบความปลอดภัยจัดมาให้ครบ
ในรุ่นนี้มาพร้อมกับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ใช้งานได้อย่างไหลลื่น เสถียร และมีความแม่นยำมากๆ ครับ ทั้งนี้ก็ยังมีการสแกนใบหน้าใช้งานกันอย่างสะดวกเหมือนเดิม
มาพร้อม Always on Display ทั้งแบบเต็มหน้าจอและแบบเดิม
ใน MagicOS 8.0 มาพร้อมกับฟีเจอร์ Always on Display (AOD) ที่ให้ใช้งานกันเป็นปกติ ซึ่งจะมีทั้งแบบการแสดงบางส่วนที่มีให้เลือกหลายรูปแบบ
รวมถึงจะมีการเพิ่มการใช้งานแบบเต็มหน้าจอให้ใช้งานกันด้วย โดยจะเป็นภาพวอลเปเปอร์เต็มๆ ที่หรี่แสงหน้าจอลงไปครับ
มาพร้อมลำโพงสเตอริโอคู่พร้อมเพิ่มเสียงได้ถึง 200%
HONOR 200 Pro จัดลำโพงสเตอริโอคู่มาแบบจัดเต็ม ให้เราได้ใช้งานกันแบบเต็มอิ่มในการรับชมวิดีโอได้เต็มอรรถรส เสียงมีมิติ ดังกระหึ่มสะใจจริงๆ ที่สำคัญยังสามารถเร่งเสียงได้สูงสุดถึง 200%
มาพร้อมลูกเล่น Magic Capsule
ด้วยการที่ให้กล้องหน้าแบบ Capsule แล้ว เราก็สามารถใช้ประโยชน์จากดีไวน์นี้ได้ด้วยผ่านฟีเจอร์ Magic Capsule ที่เป็นการทำงานด่วนและการทำงานแบบต่อเนื่องที่จะแสดงเป็นแถบเสริมที่บริเวณกล้องหน้า เช่น การอัดบันทึก เครื่องเล่นสื่อต่างๆ และการจับเวลา เป็นต้น
Magic Portal เคลื่อนย้ายข้อมูลแต่ละแอปได้อย่างสะดวกมากขึ้น
Magic Portal จะเป็นการคัดลอกข้อความหรือรูปภาพต่างๆ ของแอปใดแอปหนึ่งไปยังอีกแอปได้สบายมากขึ้น โดยการทำงานก็ง่ายมากๆ เพียงแค่เราแตะข้อความหรือสิ่งที่เราต้องการค้างไว้ จากนั้นก็ลากไปที่ขอบหน้าจอ พร้อมกับเลือกแอปที่ตอแงการวางเนื้อหาที่คัดลอกมาก็สามารถใช้งานต่อได้เลยทันทีครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ต Snapdragon 8s Gen 3 พลังเรือธง
HONOR 200 Pro ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 8s Gen 3 แบบ Octa-core ความเร็ว Clock สูงสุด 3.0GHz ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 4nm จาก TSMC ซึ่งเป็นการผลิตแบเดียวกับตัวชิปรุ่นพี่ใหญ่อย่าง Snapdragon 8 Gen 3 ช่วยให้การทำงานนั้นเร็ว ไหลลื่น และประสิทธิภาพต่างๆ ทั้งการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมก็ไปได้สุดมากขึ้นครับ
ผลการทดสอบบน AnTuTu v10 และ Geekbench 6
ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.2.7 ได้มาที่ 1,079,060 คะแนน
ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 1,178 คะแนน และ Multi-Core ที่ 4,162 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกม
การเล่นเกมบนรุ่นนี้เราได้ทดสอบ 3 เกมหลักๆ คือ ROV, PUBG Mobile และ Genshin Impact โดยทั้ง 3 เกมสามารถเปิดกราฟิกระดับสูงได้ทั้งหมดครับ เฟรมเรททำได้นิ่งมาก ตัวเครื่องก็ไม่ได้ร้อนจนเกินไป และที่ชอบเลยคือหน้าจอแสดงผลนั้นตอบสนองได้ไวและรวดเร็วเลยครับ
แบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนขนาดใหญ่ พร้อมชาร์จเร็ว 100W HONOR SuperCharge
HONOR 200 Pro ใช้แบตเตอรี่แบบซิลิคอนคาร์บอนที่ให้ความจุ 5200mAh ซึ่งการใช้งานทั่วไปสามารถอยู่ครบวันแน่นอนครับ ส่วนใครจะเล่นเกมก็อยู่ได้ราวๆ 7-8 ชั่วโมงต่อเนื่อง ที่สำคัญก็ยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว 100W HONOR SuperCharge ซึ่งเป็นความเร็วการชาร์จที่สูงสุดของแบตเตอรี่แบบซิลิคอนคาร์บอนครั้งแรกในอุตสาหกรรมนี้ด้วย
กล้อง The AI Portrait Master พร้อมจับมือกับ Harcourt Studio
HONOR 200 Pro จัดพลังกล้องหลังที่มาในสโลแกน The AI Portrait Master ที่เป็นการร่วมการพัฒนากับทาง Harcourt Studio ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านศิลปะการถ่ายภาพบุคคลอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี 1934 เพื่อให้เราถ่ายภาพ Portrait ได้สวยงามยิ่งขึ้น รวมถึงภาพทั่วไปที่ได้ AI เข้ามาช่วยได้แบบจบได้ในหลังกล้องเลยครับ
เลนส์หลักพลัง AI ถ่ายสวยจบกลังกล้อง
เลนส์หลักของรุ่นนี้ใช้เซ็นเซอร์ปรับแต่งพิเศษอย่าง H9000 ขนาด 1/1.3″ ช่วยให้เก็บแสงได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมี Auto HDR ที่ช่วยให้เก็บแสงและเงาได้ครบทั้งฉากหน้าและฉากหลัง มีมิติและคมชัดมากขึ้นตามฉากต่างๆ ที่ AI ตรวจจับได้ ทั้งนี้ ในโหมดหลักจะมี 3 โหมดสีให้เลือก ได้แก่ ธรรมชาติ (คอนทราสต์สูงและความเข้มของสีจะสูงขึ้น) มีชีวิตชีวา (ภาพจะปรับแสงขึ้นเล็กน้อย) และต้นฉบับ (คอนทราสต์เยอะและความเข้มสีสันมากที่สุด) ซึ่งเราถ่ายภาพทั้งหมดนี้ในโหมดต้นฉบับ
และเราก็ได้รวมการถ่ายด้วยเลนส์ Telephoto ที่ให้มาจะสามารถให้เราได้ถ่ายการซูมแบบไม่เสียรายละเอียดได้ที่ 2.5x ภาพที่ได้มีความคมชัดสูงมากจริงๆ เพราะมีความละเอียดสูงสุดถึง 50MP รองรับกันสั่นแบบ OIS ที่ช่วยให้เราถ่ายได้นิ่งและง่ายมากขึ้นจริงๆ ขณะที่ฟีเจอร์ความสวยงามของภาพก็แทบไม่ต่างจากเลนส์หลักเลยครับ ถือว่ารอบนี้ HONOR 200 Pro ทำเลนส์ซูมออกมาได้ยอดเยี่ยม ทั้งยังได้เลนส์ Ultra Wide มุมกว้างที่เข้ามาใช้งานในรุ่นนี้จะอยู่ที่ 112 องศา ซึ่งไม่ได้กว้างจนเกินไป แต่ยังคงเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วน และตรงขอบภาพก็ไม่ได้โค้งมนจนเสียรายละเอียดเกินไปครับ
Portrait สวยงามด้วยเทคโนโลยี HONOR AI Portrait Engine
ความสามารถในการถ่ายภาพบุคคลของ HONOR 200 Pro ถูกขนานนามว่าเป็น The AI Portrait Master ที่ให้ประสิทธิภาพของภาพบุคคลที่คมชัดสูงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่มีการตรวจจับบนใบหน้าและปรับแต่งได้อย่างเหมาะสม เห็นโทนสีผิวที่ชัดเป็นธรรมชาติ ทั้งยังให้แสงและเงาที่ปรับได้อย่างสมบูรณ์แบบมากจริงๆ ครับ ที่สำคัญ ในโหมด Portrait ยังร่วมการพัฒนากับ Studio Harcourt สตูดิโอถ่ายภาพชื่อดังของฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1934 โดยจะมีเอฟเฟกต์แสงที่หลากหลายได้อย่างมีศิลปะถึง 3 แบบ ได้แก่ Harcourt แบบสีสันสดใส, Harcourt แบบสี และ Harcourt แบบคลาสสิก
ถ่าย Macro ระยะใกล้สุดถึง 2.5 ซม.
แม้จะไม่มีเลนส์ Macro แยกออกมาให้ แต่ก็ใช้เลนส์ Ultra-Wide ในการถ่าย Macro ในระยะใกล้ได้ด้วย ซึ่งเจาะลึกได้ใกล้สุดถึง 2.5 ซม. ทั้งยังมีความคมชัดสูงและไม่จำเป็นต้องถ่ายกลางแจ้งด้วยเพราะเป็นเลนส์เดียวกับ Ultra-Wide ครับ
ถ่ายเซลฟี่ได้คมชัดถึง 50MP
กล้องหน้ารุ่นนี้ก็จัดความละเอียดมาให้ถึง 50MP เซลฟี่ได้คมชัด เบลอหลังได้เนียนๆ เลยครับ ที่สำคัญภาพที่ได้มีความสว่าง ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ขณะที่การปรับบิวตี้ก็ไม่จัดจ้านเกินไป ยังให้ความเป็นธรรมชาติได้ดีเลยทีเดียวครับ
สรุปการใช้งาน HONOR 200 Pro
HONOR 200 Pro ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่ครบเครื่องมากๆ รุ่นหนึ่งเลยครับ ด้วยสเปคที่ให้มาแบบจัดเต็มระดับเรือธง ตั้งแต่หน้าจอแสดงผลแบบ OLED แบบโค้ง ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K+ ไหลลื่น 120Hz ความสว่างสูงสุด 4000 นิต ใช้งานกลางแจ้งได้ชัดเจนแน่นอน รวมถึงขุมพลังให้มาเป็น Snapdragon 8s Gen 3 ประสิทธิภาพโดยรวมเร็ว แรง เล่นเกมได้สบายๆ ครับ และยังแบตมาถึง 5200mAh ใช้งานครบเต็มวัน และชาร์จเร็ว HONOR 100W SuperCharge
นอกจากนี้ กล้องหลังถือว่าจัดมาครบทุกฟังก์ชันที่ต้องการเลยครับ มีทั้งเลนส์หลัก เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ปรับแต่งมาเป็นอย่างดี Portrait ดี มี Ultra Wide และยังรองรับการซูมสูงสุด 50 เท่าเลยครับ
ราคาและโปรโมชัน HONOR 200 Pro
HONOR 200 Pro วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในราคาเพียง 19,990 บาท ที่ Shopee และ Lazada และหากสั่งซื้อระหว่างวันนี้ – 31 สิงหาคม 2567 จะได้รับฟรี ! Premium Gift HONOR Earbuds X6 มูลค่า 1,699 บาท และ HONOR Wireless Charger 100W มูลค่า 2,499 บาท รวมกว่า 4,198 บาท
มีมือถือเครื่องใหม่แล้ว อย่าลืมนำมือถือเครื่องเก่ามาทิ้งให้ถูกที่เพื่อโลกที่ดีกว่าไปด้วยกันนะครับ
AIS ชวนทุกคนมาฝากทิ้ง E-Waste หรือมือถือเก่า ที่ AIS Shop และจุดรับทิ้งกว่า 2,500 จุดทั่วประเทศ เช็กจุดรับทิ้งได้ที่ https://sustainability.ais.co.th/th/sustainability-projects/ais-ewaste/collection-channels