เปิดตัว Honor V30 และ Honor V30 Pro มาพร้อมขุมพลัง Kirin 990 รองรับ 5G และกล้อง 3 เลนส์ 40MP

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Honor V30 และ Honor V30 Pro ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยมาพร้อมกับขุมพลัง Kirin 990 5G และเป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่รองรับ 5G ด้วย

Honor V30 และ Honor V30 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอ Punch Hole ที่ฝังกล้อง 2 เลนส์เข้าไป ในชนิดหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 โดยการสแกนลายนิ้วมือสามารถใช้งานได้ที่ปุ่ม Power ด้านข้างเครื่อง และมีพื้นที่การใช้งานอยู่ที่ 91.46% เหมือนกันทั้งหมด

ภายใน Honor V30 Pro 5G มาพร้อมหน่วยประมวลผล Kirin 990 5G ที่รองรับ 5G โดยไม่ต้องมีโมเด็ม, RAM 6/8GB + ROM 128/256GB และมีแบตเตอรี่ความจุ 4100mAh รองรับ Fast Charge 40W และ Wireless Charging 27W และ Reverse Wireless Charging 7.5W

ส่วน Honor V30 มีความแตกต่างเล็กน้อยตรงที่จะใช้หน่วยประมวลผล Kirin 990 ที่มีโมเด็ม Balong 5000 เพื่อให้รองรับ 5G และมีแบตเตอรี่ความจุ 4200mAh แต่ไม่สามารถใช้งาน Wireless Charging หรือ Reverse Wireless Charging ได้

ด้านกล้อง Honor V30 และ Honor V30 Pro 5G มาพร้อมกับเทคโนโลยี Matrix Camera ที่ใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ในการประมวลผล0ช่วยกัน โดย Honor V30 Pro 5G จะมีเซ็นเซอร์ Laser AF มาให้ พร้อมกับกล้อง 3 เลนส์ แบ่งเป็นเลนส์หลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX600 RYYB รูรับแสง f/1.8 + เลนส์ Telephoto 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 + เลนส์ Ultra-Wide 109 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ขณะที่กล้องของ Honor V30 จะมีความคล้ายกันแต่ในเลนส์ Ultra-Wide จะมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

ส่วนกล้องหน้าทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมความละเอียด 32 + 8 ล้านพิกเซล มีเลนส์มุมกว้าง 105 องศาสำหรับถ่ายแบบกลุ่มมาให้ด้วย

ด้านราคาทั้ง 2 รุ่นมีดังนี้

Honor V30

• RAM 6 GB + ROM 128 GB – 3,299 หยวน (ประมาณ 14,000 บาท)
• RAM 8 GB + ROM 128 GB – 3,699 หยวน (ประมาณ 15,800 บาท)

Honor V30 Pro 5G

• RAM 8 GB + ROM 128 GB – 3,899 หยวน (ประมาณ 16,700 บาท)
• RAM 8 GB + ROM 256 GB – 4,199 หยวน (ประมาณ 18,000 บาท)

โดยวันวางจำหน่าย Honor V30 จะวางจำหน่ายในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ที่ประเทศจีน ส่วน Honor V30 Pro 5G จะวางจำหน่ายในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ผ่านทาง VMall

ที่มา : GizmoChina