รีวิว HONOR X7 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก HONOR X Series ที่กลับมาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยรุ่นนี้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ก็มาพร้อมสเปคที่ไม่ธรรมดาเลยทั้ง ชิป Snapdragon 680, หน้าจอใหญ่ 6.74″ 90Hz, แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมชาร์จไว 22.5W HONOR SuperCharge แถมยังมีสโลแกนน่าลองว่า “นวัตกรรมความแรงที่ต้องลอง” ดูดีทีเดียวเลยใช่ไหมล่ะครับ
เรียกว่าเป็นอีกรุ่นที่เชียร์ให้ลองเลย เพราะรุ่นนี้เปิดราคามาเพียง 6,299 บาทเท่านั้น แต่ได้สเปคมาระดับนี้ถือว่าใช้งานได้อย่างคุ้มค่าแน่นอน รายละเอียดเต็ม ๆ จะเป็นอย่างไรติดตามได้จากรีวิว HONOR X7 นี้เลยครับ
สรุปสเปค HONOR X7
- ขนาดตัวเครื่อง : 167.59 × 77.19 × 8.62 มม.
- น้ำหนัก : 198 กรัม
- หน้าจอ : HONOR FullView Display ขนาด 6.74” ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล)
- refresh rate : 90Hz
- CPU : Snapdragon 680 Octa-Core 2.4GHz (6nm)
- GPU : Adreno 610
- RAM : 4GB (+ RAM Turbo 2GB)
- ROM : 128GB
- แบตเตอรี่ : 5,000mAh
- ระบบชาร์จ : 22.5W HONOR SuperCharge
- กล้องหน้า : 8MP f/2.0
- กล้องหลัง : 4 ตัว
- 48MP กล้องหลัก f/1.8
- 5MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
- 2MP กล้อง Macro f/2.4
- 2MP กล้อง Depth f/2.4
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1, ช่องหูฟัง 3.5 มม.และพอร์ต USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย Magic UI 4.2
- สีสัน : สีน้ำเงิน Ocean Blue, สีดำ Midnight Black, สีเงิน Titanium Silver
แกะกล่อง HONOR X7
ตัวกล่องของ HONOR X7 จะเป็นขนาดมาตรฐาน ที่ด้านหน้ามีรูปภาพผลิตภัณฑ์ชัดเจนในสีน้ำเงิน Ocean Blue พร้อมชื่อรุ่นชัดเจนครับ แต่สีที่หน้ากล่องต้องบอกก่อนว่าจะใช้สีนี้เป็นภาพปกทั้งหมดครับ เพราะฉะนั้นถ้าสั่งสีอื่นแล้วได้กล่องหน้าตาแบบนี้ไม่ต้องตกใจไปครับ
อย่างในเครื่องรีวิวที่เราได้มาก็เป็นสี Titanium Silver ซึ่งรายละเอียดของสีต้องดูที่ใต้กล่องจะมีระบุไว้อีกทีเนาะ
เปิดกล่องเราจะเจอกับตัวเครื่องอยู่ในซองก่อนเลย และถัดลงไปจะมีอุปกรณ์เสริมไว้ด้านใน เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ภายในกล่องของ HONOR X7 ก็มี 6 อย่างดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง HONOR X7
- เคสซิลิโคนใส
- สายชาร์จ USB-C to USB-A
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว 22.5W HONOR SuperCharge
- เอกสารคู่มือ
- เข็มจิ้มถาดซิม
ดีไซน์พรีเมี่ยม ฝาหลังไล่เฉดสีอย่างโดน
มาเริ่มกันที่ดีไซน์กันเลยดีกว่าครับ HONOR X7 มาพร้อมดีไซน์ที่ดูพรีเมี่ยมเกินราคา 6,299 บาทไปไกลมาก ฝาหลังจะมีความโค้งในเล็ก ๆ เพื่อให้รับกับมือเวลาจับถือ และสี Titanium Silver ที่เราได้มาก็จะเป็นผิวสัมผัสแบบด้านด้วย ทำให้เวลาเราถือใช้งานแล้วละมุนมือไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือแบบผิวมันวาว
นอกจากนี้ฝาหลังก็ยังมีความไล่เฉดสีเมื่อกระทบกับแสงด้วย สีเงินที่มีประกายของสีส้มและชมพูอยู่ภายในก็ให้ความรู้สึกที่ไม่หยุดนิ่ง มีความหลากหลายขึ้นไปอีก ใครที่ชอบมือถือที่สวย ๆ แต่มองไม่เบื่อถูกใจแน่นอนครับ
ส่วนดีไซน์กล้องก็ใช้แบบ Dual-Matrix หรือวงแหวนคู่วางตำแหน่งอยู่ที่มุมซ้ายบน ยิ่งทำให้นึกถึงสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นหนึ่งเลย ทำให้ตัวกล้องของ HONOR X7 ดูพรีเมี่ยมขึ้นไปอีก บอกแล้วว่าดูเกินราคาจริง ๆ ครับ
หน้าจอ HONOR FullView ใหญ่ 6.74″ ลื่นไหล 90Hz
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง HONOR X7 มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.74″ ดีไซน์แบบติ่งหยดน้ำที่ยื่นออกมาจากขอบหน้าจอเพียงเล็กน้อย ถือว่าเป็นดีไซน์ที่ดีเพราะไม่กวนใจเวลาใช้งานหรือดูคอนเทนต์เท่าไหร่นัก
ในเรื่องการแสดงผลหน้าจอของ HONOR X7 มีความละเอียดระดับ HD+ (1600 x 720 พิกเซล) อาจจะดูน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอใหญ่ระดับนี้ แต่เท่าที่ใช้งานมาก็ถือว่าเพียงพอครับ อาจจะมีรอยหยักบ้างบนตัวหนังสือ แต่ถ้าไม่ได้จ้องกันจริง ๆ ก็ถือว่าเป็นจอที่ทำได้ดีเลย สีสันสวยสดกำลังดีด้วย
ส่วนเรื่องการตอบสนองของหน้าจอ HONOR X7 ก็ได้ Refresh rate มาที่ 90Hz ตรงนี้เราชอบเลย เพราะการทำงานต่าง ๆ ดูลื่นไหลขึ้นมามาก ไม่ว่าจะเลื่อนหน้าจอไป-มา หรือเล่นแอปต่าง ๆ ก็ถูกใจแน่นอนครับ
ขนาดและน้ำหนักที่ลงตัว
สำหรับขนาดของตัวเครื่อง HONOR X7 มีความบางที่ 8.62 มม.และน้ำหนักที่ 198 กรัม ซึ่งหากเทียบกับสเปคทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 6.74″ และแบตเตอรี่ถึง 5000mAh การที่ได้สัดส่วนตัวเครื่องมาเท่านี้ก็ถือว่ารับได้ครับ เราว่าเป็นอะไรที่ลงตัวดีด้วย ไม่หนาหรือบางจนเกินไป
ตำแหน่งปุ่มดี มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power ด้วย
ส่วนตำแหน่งปุ่มกดต่าง ๆ ของ HONOR X7 ก็วางไว้ได้ดีครับอยู่ในตั้งแหน่งที่แตะกดได้ง่าย ไม่ต้องเอื้อมนิ้วไปเยอะ และปุ่มจะวางไว้ที่ฝั่งขวามือของตัวเครื่องทั้งหมด ทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและ Power ที่มีดีไซน์เว้าลงไปเล็กน้อยด้วย
ซึ่งที่ปุ่ม Power นี้จะซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้นั่นเองครับ การออกแบบโดยเว้าลงไปเล็กน้อยช่วยให้แตะสแกนได้ง่ายขึ้นครับ
พอร์ตการเชื่อมต่อก็จะวางไว้ที่ด้านล่างตัวเครื่องครับ มีพอร์ตหลักเป็น USB-C และช่องหูฟัง 3.5 มม. ก็มีมาให้ด้วย ข้าง ๆ ก็จะเป็นไมโครโฟนสนทนา และลำโพงหลักของตัวเครื่องครับ
ส่วนช่องใส่ซิมของ HONOR X7 จะอยู่ที่ด้านบนตัวเครื่องครับ ถาดซิมเป็นแบบ Hybrid Slot คือใส่ได้ 2 ซิม แต่ในช่องซิม 2 เราจะเลือกได้ว่าเปลี่ยนไปใส่ MicroSD แทนได้ครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ HONOR X7 ก็ทำได้ดีทีเดียว ฝาหลังถ้ามองเผิน ๆ ไม่ได้บอกก็คงคิดว่าเป็นสมาร์ทโฟนราคาหมื่นกลาง ๆ – หมื่นปลายได้สบาย ผิวสัมผัสของสี Titanium Silver ที่เป็นแบบด้านพร้อมความละมุนเมื่อสะท้อนกับแสงก็ยิ่งทำให้ลงตัวเข้าไปใหญ่ อีกทั้งยังมีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.74″ ที่เต็มตาเอามาก ๆ แต่บอดี้ตัวเครื่องบางและน้ำหนักกำลังดีอีก
ชิปเซ็ต Snapdragon 680 กับความแรงที่ต้องลอง
HONOR X7 มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 680 ขนาด 6nm ถือว่าเป็นชิปที่แรงพอตัวในกลุ่ม 4G ช่วยมอบประสบการณ์การทำงานที่ลื่นไหล รวมถึงการทำงานหนัก ๆ และการจัดการพลังงานได้เป็นอย่างดีทีเดียวล่ะครับ
RAM 4GB + RAM Turbo อีก 2GB
ส่วนเรื่องหน่วยความจำ HONOR X7 ให้ RAM มาที่ 4GB และยังมีฟีเจอร์ RAM Turbo ขยาย RAM ด้วยการดึงเอาหน่วยความจำภายในมาใช้ได้อีก 2GB เพื่อให้การทำงานต่าง ๆ นั้นราบรื่นขึ้น เสมือนเรามี RAM 6GB ทำให้การใช้งานนั้นลื่นไหลไม่มีอาการแอปเบื้องหลังหลุดออกไปเองบ่อย ๆ ด้วยครับ
ซึ่งด้วยสเปคระดับนี้ ก็ได้คะแนนจากผลทดสอบของ AnTuTu Benchmark ไปที่ 251188 คะแนนครับ
และทางฝั่ง Geekbench 5 ก็ได้คะแนน Single-Core ที่ 377 กับ Multi-Core ที่ 1665 คะแนนครับ
ลองเล่นเกมกับความแรงที่ต้องลอง
ชื่อสโลแกนที่ชวนให้ทดสอบแบบนี้ ก็ได้เวลามาลองเล่นเกมกันแล้ว สำหรับเกมที่เราจะเล่นบน HONOR X7 นี้มี 2 เกมคือ Asphalt 9 และ Apex Legend ครับ โดยในเรื่องการเล่นเกม HONOR จะมีฟีเจอร์ GPU Turbo ที่ช่วยจัดการพลังงานรวมถึงรีดประสิทธิภาพออกมาให้สูงที่สุดด้วยนะ
เล่น Asphalt 9 บน HONOR X7
สำหรับ Asphalt 9 เราเล่นในระดับกราฟิก Default หรือค่าเริ่มต้นดู ตัวเกมทำกราฟิกออกมาได้สวยงามดีทีเดียว ส่วนเรื่องความลื่นไหลก็ทำได้ดีครับ เล่นต่อเนื่องกัน 3 – 4 แมทช์ก็ยังลื่นไหล ไม่เจออาการเฟรมดรอปหรือกระตุกให้ขัดใจเลย
เล่น Apex Legend บน HONOR X7
ส่วน Apex Legend ก็เป็นเกมใหม่ที่มีกราฟิกสูงเอาเรื่อง บน HONOR X7 เราสามารถปรับระดับกราฟิกได้ที่ Normal และเฟรมเรตที่ High เท่าที่เราเล่นจริง ๆ ก็พบว่าตัวเกมรันได้อย่างลื่นไหลเลยที่ 40fps ภาพกราฟิกก็สวยกำลังดีแล้วบนหน้าจอขนาดใหญ่ 6.74″ นี้ครับ การตอบสนองหน้าจอที่ได้จอ 90Hz มาก็ช่วยให้เราเล่นเกมแนว FPS ได้สนุกยิ่งขึ้นอีกด้วย
ในเรื่องประสิทธิภาพ HONOR X7 ก็ทำได้ดีครับ ในเรื่องการเล่นเกมกราฟิกสูง ๆ ก็เล่นได้อย่างลื่นไหล อย่าง 2 เกมที่เราใช้ทดสอบก็เห็นได้ชัดว่าไม่เจออาการกระตุกแบบจริงจังเลย ตัว RAM Turbo ที่เพิ่ม RAM แบบจำลองเข้ามาอีก 2GB ก็ช่วยให้เราทำงานลื่นไหลได้มากขึ้นจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 4GB เล่นแล้วไม่รู้สึกถึงความหน่วงหรือช้าเลยล่ะครับ
ใช้ Magic UI เวอร์ชั่น 4.2
มาต่อในเรื่องซอฟต์แวร์ HONOR X7 ใช้ Magic UI 4.2 ที่ครอบทับอยู่บน Android 11 ในเรื่องความลื่นไหลไม่ต้องห่วงเลยครับ ตอบสนองเราได้ดีมาก อีกทั้งระบบยังนำเสนอให้เราใช้งานรูปแบบการควบคุมแบบ Navigation Gesture อีกด้วย พอได้ใช้งานร่วมกับหน้าจอ 90Hz แล้วทำให้ลื่นไหลแบบสุด ๆ
มี GMS มาเลย ใช้แอป Google ได้สมบูรณ์
ส่วนเรื่องที่หลายคนกังวลอย่างบริการต่าง ๆ บน HONOR X7 ก็ไม่ต้องห่วงครับเพราะมาพร้อม Google Mobile Services หรือ GMS มาให้เลยด้วย พร้อมใช้งานแอปหรือบริการจาก Google ได้ทันทีและสมบูรณ์ด้วย
กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP
มาต่อกันที่เรื่องกล้อง HONOR X7 ให้กล้องหลังมาทั้งหมด 4 ตัว ในดีไซน์ Dual-Matrix สุดพรีเมี่ยมนี้ มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้
- กล้องหลัก 48MP f/1.8
- กล้อง Ultra Wide 5MP f/2.2
- กล้อง Macro 2MP f/2.4
- กล้อง Depth 2MP f/2.4
ซึ่งระยะที่ให้มาก็ถือว่าครบและเพียงพอต่อการใช้งานไม่น้อยเลย ใครที่ชอบถ่ายวิวแบบมุมกว้างและกว้างพิเศษก็น่าจะถูกใจแน่นอน หรืออยากถ่ายภาพในระยะใกล้ ๆ แบบ Macro ก็มีด้วย ส่วนเรื่องซอฟต์แวร์ HONOR X7 ก็มีฟีเจอร์ AI คอยจัดการภาพและปรับแต่งให้สวยขึ้นแบบพร้อมแชร์เลยทันที
กล้องหลัก 48MP ถ่ายสวยใช้ได้เลย
คุณภาพของกล้องหลักความละเอียด 48MP ก็ถือว่าทำได้ดีเลย ด้วยตัวช่วย AI ที่คอยปรับแต่งภาพให้สวยงามขึ้นทั้งในภาพวิว ภาพอาหาร หรือภาพดอกไม้ต่าง ๆ สีสันดีขึ้นดึงโทนสีขึ้นมาแม้จะย้อนแสงด้วย ถือว่าถ่ายออกมาได้สวยใช้ได้เลยในสมาร์ทโฟนกลุ่มราคา 6 – 7,000 บาทแบบน้ี
กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง 5MP
ส่วนกล้อง Ultra Wide หรือมุมกว้างพิเศษ HONOR X7 ก็ได้ความละเอียดมาที่ 5MP อาจจะไม่ได้มากหรือคมชัดเท่ากล้องหลัก แต่เท่าที่ลองใช้งานก็ถือว่าให้มุมมองที่กว้างกว่ากันเยอะ เหมาะสำหรับภาพที่ต้องการความกว้างหรือภาพถ่ายที่เราไม่อยากถอยออกห่างเยอะ
กล้อง Macro ภาพระยะใกล้ 2MP
และกล้อง Macro ก็ให้ความละเอียดมาที่ 2MP เข้าใกล้วัตถุได้ในระยะ 2 ซม.เรียกว่าเหมาะกับภาพที่ต้องการการเข้าใกล้สูง ๆ เลย แต่ด้วยความละเอียดและเซ็นเซอร์ที่ไม่ใหญ่มาก แนะนำว่าควรถ่ายในที่ที่มีแสงเพียงพอจะดีที่สุดครับ
กล้อง Depth ช่วยให้ถ่าย Portrait ได้สวย ละลายหลังเนียน
ปิดท้ายที่กล้อง Depth ตัวนี้ความละเอียด 2MP จะใช้งานร่วมกับกล้องหลักในโหมด Portrait เพื่อวัดระยะและเพิ่มเอฟเฟกต์ละลายฉากหลังให้เนียนยิ่งขึ้น ซึ่งเท่าที่เราลองในโหมดถ่ายคนจริง ๆ แล้ว ก็ทำได้เนียนตาเลย ฉากหลังละลายเป็นธรรมชาติ และความเก่งของโหมดนี้ก็คือมีการเพิ่มเอฟเฟกต์ใบหน้าเนียนสวยให้เราด้วย ถ่ายออกมาแบบจบหลังกล้องพร้อมใช้ได้เลยล่ะครับ
กล้องหน้า 8MP เซลฟี่ใช้ได้
ส่วนกล้องหน้าของ HONOR X7 ก็ให้ความละเอียดมาที่ 8MP ถือว่ากลาง ๆ แต่เท่าที่ถ่ายออกมาก็ใช้งานได้ดีครับ มีโหมดหน้าเนียน Face Beauty และ Portrait มาให้ใช้งานด้วย
แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมชาร์จไว 22.5W SuperCharge
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่และการชาร์จ HONOR X7 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh ใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดวันแน่นอน เท่าที่เราลองใช้งานจริง ถ้าเล่นไม่หนักมากก็ลากยาวได้ถึง 2 วันสบาย ๆ และถ้าใกล้หมดจริง ๆ ก็ยังมีระบบชาร์จไว 22.5W SuperCharge มาให้ที่ชาร์จเพียง 30 นาที สามารถดูซีรีส์ได้ถึง 10 ตอนหรือชาร์จแค่ 10 นาทีเล่นเกมต่อได้ถึง 2 ชม.เลยด้วย
ราคาเปิดตัว 6,299 บาท
HONOR X7 เปิดราคามาที่ 6,299 บาท มาพร้อมความจุ 4GB + 128GB มีให้เลือก 3 สีคือ Midnight Black, Ocean Blue และ Titanium Silver (สีที่รีวิว)
โดยเปิดให้สั่งจองแล้ววันนี้ – 26 กรกฎาคม มีโปรโมชั่น Pre-Order รับของแถมเป็น สายชาร์จ S-Gear 3-in-1 และ HONOR X Privilege Card (ประกันจอแตก 90 วัน, สิทธิซ่อมบำรุงโดยไม่เสียค่าบริการนาน 2 ปี) มูลค่ารวมกว่า 4,959 บาท
สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมนวัตกรรมความแรงที่ต้องลองกับราคาเบา ๆ”
สรุปแล้ว HONOR X7 ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่ครบเครื่องทั้งความแรง และตอบโจทย์ในเรื่องความบันเทิงครบครันในราคาไม่ถึง 6,300 บาทจริง ๆ ครับ ด้วยสเปคที่ให้มาทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 6.74″ ชิปเซ็ต Snapdragon 680 แบตเตอรี่ใหญ่ 5000mAh และมีระบบชาร์จไว 22.5W อีก พร้อมใช้งานแบบเต็มที่ อีกทั้งยังมีดีไซน์หรูหราพรีเมี่ยมระดับไฮเอนด์ มีกล้องหลัง 4 ตัวที่เพียงพอต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดีอีกต่างหาก ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ครบจบในงบประมาณ 6 – 7,000 บาทอยู่ เราว่ารุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยงาม ตัวเครื่องพรีเมี่ยม
- หน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ 6.74″ พร้อม Refresh rate 90Hz
- ชิปเซ็ต Snapdragon 680 ไว้ใจได้
- แบตเตอรี่ใหญ่ 5000mAh มีชาร์จไว 22.5W SuperCharge ด้วย
- กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูง 48MP
- มี GMS
จุดสังเกต
- หน้าจอความละเอียดแค่ HD+ แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว