Buying Guides
วิธีเลือก iPhone รุ่นไหนดี เหมาะกับการใช้งาน ปี 2024
วิธีเลือก iPhone รุ่นไหนดี ปี 2024 วิธีเลือกซื้อ รุ่นที่เหมาะกับการใช้งาน หากมีงบไม่จำกัดก็เลือกซื้อเครื่องใหม่ล่าสุดและมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลหรือความจุเครื่อง 128GB ขึ้นไป แต่การเลือกซื้อแบบนั้นอาจไม่คุ้มค่าที่สุดในการใช้งาน วันนี้ทีมงาน iphone-droid จะมาแนะนำการเลือกรุ่น เพราะสเปคและราคาที่อาจสูงเกินความจำเป็นก็ได้ (ชมคลิป)
วิธีเลือกซื้อ iPhone 2024 รุ่นไหนดี ที่ดีที่สุด
iPhone ในปัจจุบันที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะมีด้วยกัน 5 รุ่นหลักๆ โดยมาพร้อมชิปประมวลผลที่ดีที่สุดในขณะนี้คือ Apple A17 Pro นั่นก็คือ iPhone 15 Pro และ 15 Pro Max ในขณะที่รุ่น iPhone 15 และรุ่น Plus ซึ่งทั้งคู่ใช้ชิป A16 Biomic ในขณะที่รุ่นก่อนหน้าก็ยังมีให้เลือกเพิ่มเติม ได้แก่ iPhone 14, iPhone SE 3 และ iPhone 13
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ดีที่สุดทุกความต้องการ
ราคาเริ่มต้น 41,900 บาท
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว หรือ 6.7 นิ้ว พร้อม ProMotion, การแสดงผลแบบติดตลอด และ Dynamic Island
- ดีไซน์แบบไทเทเนียมที่แข็งแกร่งและเบา พร้อมด้วยปุ่ม Action
- กล้องหลัก 48MP พร้อมกล้องเทเลโฟโต้ 3 เท่าสำหรับรุ่น Pro และกล้องเทเลโฟโต้ 5 เท่าสำหรับรุ่น Pro Max
- ชิป A17 Pro ที่ยกระดับประสิทธิภาพกราฟิกแบบก้าวกระโดด
- ช่องต่อ USB-C พร้อม USB 3 ที่ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วขึ้นสูงสุด 20 เท่า
iPhone 15 Pro และ Pro Max มาพร้อมฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่ แม้ว่าจะเป็น iPhone ที่แพงที่สุดสำหรับรุ่น Pro Max แต่ก็จัดเต็มทุกด้านที่สุดทั้งชิปเซ็ต A17 Pro ที่เร็วเป็นพิเศษ กล้องเทเลโฟโต้ 12MP ที่ได้รับการปรับปรุงพร้อมการซูม 5 เท่า และกรอบโลหะผสมไทเทเนียมที่สะดุดตา นอกจากนี้รุ่น Pro Max ยังมีจอแสดงผลขนาด 6.7 นิ้วที่มีความกว้างที่สุดพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
iPhone 15 Pro มีปุ่ม Action ด้านข้าง มาแทนปุ่ม Mute แบบเดิม อันนี้เราสามารถตั้งค่าที่ต้องการได้ พอเรากดปุ่มแอ็คชั่นค้างไว้ก็จะเรียกใช้งานได้ทันที การเลือก iPhone 15 Pro Max ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นโทรศัพท์ที่ดีที่สุดที่สามารถซื้อได้ในขณะนี้ แต่ยังเป็น iPhone ที่ดีที่สุดที่ Apple เคยผลิตมาด้วย
iPhone 15 และ iPhone 15 Plus รุ่นล่าสุดที่ถูกที่สุด
ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท
- ดีไซน์แบบกระจกแต่งสีและอะลูมิเนียมขนาด 6.1 นิ้ว หรือ 6.7 นิ้ว ที่มีด้านหน้าแบบ Ceramic Shield
- Dynamic Island จะเด้งการเตือนและกิจกรรมสดขึ้นมา
- กล้องหลัก 48MP พร้อมเทเลโฟโต้ 2 เท่า
- ชิป A16 Bionic ยังทรงประสิทธิภาพอย่างยอดเยี่ยมเพื่อแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวัน
- เชื่อมต่อและชาร์จด้วย USB-C
ใครก็ตามที่ต้องการโทรศัพท์รุ่นล่าสุดของ Apple ที่ราคาถูกที่สุด แนะนำ iPhone 15 ที่มีการอัพเกรดใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการย้ายจาก iPhone รุ่นเก่าอย่าง iPhone 13 หรือรุ่นเก่ากว่านั้น
iPhone 15 และรุ่น Plus ไม่มีรอยบากบนหน้าจอแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้เป็นดีไซน์ที่เรียกว่า Dynamic Island ที่เราเคยเห็นครั้งแรกใน iPhone 14 Pro นั่นเอง และใช้ชิปเซ็ต A16 Bionic ซึ่งก็น่าเสียดายแทนที่จะเป็น A17 Pro รุ่นใหม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าชิป A16 ก็มีคุณสมบัติ GPU ขั้นสูงและเหนือกว่า iPhone 14
แม้ว่าทั้งสองรุ่นใหม่จะไม่มีเลนส์เทเลโฟโต้ แต่ Apple ก็สามารถทำให้ใช้งานได้เสมือนมีกล้องซูมได้ด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ อันนี้ต้องขอบคุณเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ที่มีพิกเซลมากขึ้นของกล้องหลักนั่นเอง อีกทั้งยังปรับปรุงประสิทธิภาพในที่แสงน้อย และทำให้สามารถถ่ายซูม 2 เท่าได้ รวมไปถึงได้รับประโยชน์จาก Photonic Engine ที่ได้รับการปรับปรุงของ Apple ซึ่งให้ภาพที่สว่างยิ่งขึ้น
iPhone 14 และ iPhone 14 Plus คุ้มค่าที่สุด
ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว หรือ 6.7 นิ้ว ที่คมชัดและสว่างสดใส
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวัน โดยเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง
- ฟีเจอร์การตรวจจับการชนกัน สามารถตรวจจับเหตุรถชนอย่างรุนแรง และจะโทรหา 191
- กล้องหลักใหม่และการประมวลผลภาพที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อภาพถ่ายในทุกสภาพแสง
- ชิป A15 Bionic แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 13 Pro
วิธีเลือก iPhone ในเรื่องของขนาดคือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดของ iPhone 14 กับ iPhone 14 Plus ดังนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างแรกเลยก็คือการเลือกว่าชอบ iPhone ขนาดใหญ่หรือเล็ก ในขณะที่สเปคต่างๆ แทบจะเหมือนกันทั้งหมด จึงทำให้ราคาก็มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อได้เหมือนกัน
สำหรับชิปเซ็ตทั้งคู่เลือกใช้ A15 Bionic ปี 2021 ทำให้หลายคนมองว่าเป็นรุ่นเก่า แต่สำหรับการใช้งานนั้นเพียงพอทุกการประมวลผล ซึ่งเป็นปีที่ Apple ตัดสินใจใช้ชิป A16 Bionic ใหม่ให้กับ iPhone 14 Pro และ Pro Max เท่านั้น
นอกจากนี้ ก็มีกรอบอะลูมิเนียมเช่นเดียวกับ iPhone รุ่นก่อนหน้า สามารถกันน้ำและกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 และมีพอร์ต Lightning สำหรับชาร์จรุ่นสุดท้ายของ iPhone ที่ใช้พอร์ตนี้
iPhone 13 คุ้มค่าในราคาที่ถูกกว่า
ราคาเริ่มต้น 24,900 บาท
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว
- ระบบกล้องคู่ เพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยที่สวยงาม
- ชิป A15 Bionic พร้อม GPU แบบ 4-core
- Ceramic Shield แข็งแกร่งกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ทโฟน พร้อมความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ IP68
หากต้องการ iPhone ที่ยังไม่แน่ใจว่าต้องการเน้นอะไรเป็นพิเศษ iPhone 13 ก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของดีไซน์ ขนาดตัวเครื่อง ฟีเจอร์ต่างๆ ประสิทธิภาพตัวเครื่อง และราคา อีกทั้งกล้องหลังคู่ก็ได้รับการออกแบลใหม่ จัดวางเลนส์ในแนวทแยง
iPhone 13 มาพร้อมชิป A15 Bionic ใช้เทคโนโลยี 5 nm มีแผงหน้าจอเป็นชนิด OLED หรือที่เรียกว่าจอภาพ Super Retina XDR ให้สีสันที่สดใสสวยงาม แต่รอยบากที่เป็นพื้นที่ติดตั้งระบบกล้อง TrueDepth บริเวณเหนือหน้าจอของ iPhone 13 มีขนาดที่เล็กลงประมาณ 20% เมื่อเทียบกับ iPhone 12
iPhone SE 3 ดีที่สุดสำหรับเด็ก
ราคาเริ่มต้น 17,900 บาท
- จอภาพ Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว
- ชิป A15 Bionic ที่ทรงพลังสุดๆ แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 13
- 5G เพื่อการดาวน์โหลดที่รวดเร็วและการสตรีมวิดีโอคุณภาพสูง
- ปุ่มโฮมพร้อม Touch ID ปลดล็อคและลงชื่อเข้าใช้แอปได้อย่างปลอดภัย
สำหรับเด็กแล้ว มือถือที่มีขนาดเล็กคือตัวเลือกที่ดีที่สุด รวมไปถึงราคาไม่แพงด้วย iPhone SE 3 รุ่นใหม่ล่าสุดจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยมาพร้อมชิปประมวลผล A15 Bionic ประสิทธิภาพเร็วแรงใช้งานได้หลายปี เพราะอย่างที่ทราบกันว่า Apple สนับสนุนการอัปเดทซอฟต์แวร์ต่อเนื่องหลายปี
นอกจากนี้ยังมี Touch ID สำหรับสแกนลายนิ้วมือ แทนที่จะเป็น Face ID เพื่อลดความยากในการใช้งานสำหรับเด็กที่มีอายุน้อย เพราะ Apple เคยกล่าวว่า Face ID เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไปเท่านั้น
iPhone SE 3 มีขนาดที่เล็กพอดีมือและเด็กๆ ก็พกใส่กระเป๋าได้ง่าย อีกราคาเริ่มต้น 15,900 บาทสำหรับอุปกรณ์ของ Apple ก็ทำให้ผู้ปกครองตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น แม้ว่าตัวเครื่องจะมีดีไซน์เก่าไม่ต่างไปจากรุ่นก่อนหน้า
iPhone 12 ดีที่สุดสำหรับคนเริ่มใช้
ราคาเริ่มต้น 18,900 บาท
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว คอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยมและความแม่นยำของสีสัน
- ระบบกล้องคู่ พร้อมโหมดกลางคืนและการบันทึก HDR ในแบบ Dolby Vision
- ชิป A14 Bionic
- Ceramic Shield ซึ่งแข็งแกร่งกว่ากระจก และความสามารถในการทนน้ำ
- 5G เพื่อการดาวน์โหลดที่เร็วและการสตรีมคุณภาพสูง
วิธีเลือก iPhone รุ่นเก่ากว่าอย่าง iPhone 12 แต่ก็เป็นรุ่นที่รองรับ 5G ด้วย มีฟีเจอร์หลายอย่างที่ครบเครื่องกว่าและน่าซื้อมากกว่า โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นใช้งาน iPhone และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหากกำลังวางแผนซื้อให้คุณพ่อคุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่
iPhone 12 มีหน้าจอ 6.1 นิ้ว ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ดังนั้นถ้าใครกำลังลังเลระหว่าง iPhone SE ก็ตัดออกไปได้เลย แถมได้ขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกันอีกด้วย เพราะดีไซน์หน้าจอแบบใหม่ของ iPhone 12 นั่นเอง แถมมีระบบ Face ID และมีกล้องที่ดีกขึ้นสำหรับการ FaceTime
หน้าจอเป็นแบบ OLED หรือที่เรียกว่าจอภาพ Super Retina XDR ให้สีสันที่สดใสสวยงาม ด้านชิปประมวลผล A14 Bionic ไม่ส่งผลต่อการใช้งานสำหรับผู้เริ่มใช้งาน iPhone หรือผู้สูงอายุ และที่สำคัญแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
iPhone 11 ประหยัดมากกว่า
ราคาเริ่มต้น 12,900 บาท
iPhone 11 แม้จะเป็นรุ่นเก่าหลายปีแต่ยังมีความโดดเด่นหลายประการที่ยังคงใช้ได้ดีในปี 2024 เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นผู้เริ่มต้นใช้งาน iPhone หรือผู้อายุ หรือสำหรับเด็ก ด้วยชิป A13 Bionic ยังคงน่าประทับใจ มีระบบกล้องคู่ที่มีกล้องหลักและกล้องอัลตร้าไวด์ รวมไปถึงมอภาพ Retina LCD ขนาด 6.1 นิ้ว แม้ว่ารุ่นใหม่อาจมีเทคโนโลยีการแสดงผลขั้นสูง เช่น OLED หรือ ProMotion แต่จอภาพ Retina ของ iPhone 11 ยังคงมอบประสบการณ์การรับชมที่ดี
ปัจจุบัน iPhone 11 รองรับ iOS เวอร์ชันล่าสุด ทำให้มั่นใจได้ถึงความเข้ากันได้กับแอพและฟีเจอร์ล่าสุด แม้หลายคนอาจกังวลการอัปเดต iOS ในอนาคต แต่โดยทั่วไปแล้ว Apple จะรองรับอุปกรณ์ต่างๆ เป็นเวลาหลายปี ผู้ใช้สามารถคาดหวังว่าจะได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์อีกอย่างน้อยสองสามปี
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับการแนะนำ วิธีเลือก iPhone รุ่นไหนดี ในปี 2024 เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุดและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่หากไม่ติดเรื่องงบประมาณก็จะเลือกง่ายหน่อย สามารถเลือกรุ่นที่ชื่นชอบได้เลยครับ
อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ