รีวิว HUAWEI Band 7 สมาร์ทแบนด์อัจฉริยะรุ่นใหม่จาก HUAWEI ที่มาพร้อมรูปลักษณ์บางเบาทันสมัย มาพร้อมกับหน้าจอคมชัด AMOLED FullView Display 1.47″ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพแบบอัดแน่น ครบครันแบบสมาร์ทวอทช์ เช่น สามารถตรวจเช็คข้อมูลด้านสุขภาพอย่างแม่นยำได้ตลอดวัน อีกทั้งยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานอีก!
บอกเลยว่าน้องใหม่ไฟแรงอย่าง HUAWEI Band 7 พร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจคนใหม่ที่คอยตอบโจทย์ในทุกวันและทุกไลฟ์สไตล์ของสายรักสุขภาพ การใช้งานจริงจะน่าสนใจแค่ไหน วันนี้เรารีวิวให้ชมกันแบบชัด ๆ ติดตามครับ!
คุณสมบัติ HUAWEI Band 7
- ขนาดตัวเครื่อง : 44.35 x 26 x 9.99 มม.
- น้ำหนัก : 16 กรัม
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 1.47″
- เซ็นเซอร์ : เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, เซ็นเซอร์ Gyroscope, เซ็นเซอร์ Accelerometer
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0
- แอปพลิเคชั่นเชื่อมต่อ : HUAWEI Health (รองรับ iOS 9 ขึ้นไป และ Android 6.0 ขึ้นไป)
- มาตรฐานกันน้ำ : 5ATM
อุปกรณ์ภายในกล่อง
ก่อนอื่นเรามาเช็กอุปกรณ์ในกล่องกันก่อนเลย ตัวกล่องจะเป็นสีขาวมาตรฐานของ HUAWEI ที่ด้านหน้าจะมีชื่อรุ่นและจุดเด่นของรุ่นนี้ระบุไว้ชัดเจน 3 อย่างประกอบด้วย ดีไซน์บาง-เบา | วัดค่า SpO2 ได้อัตโนมัติ | แบตเตอรี่ใช้งานได้ พร้อมภาพประกอบของ Band 7 ครับ
แกะกล่องออกมาเราจะเจอกับตัว Band 7 วางนอนอยู่อย่างเรียบร้อย ลึกลงไปอีกก็จะมีอุปกรณ์เสริมอีก 2 อย่างรวมเป็น 3 อย่างดังนี้ครับ
- HUAWEI Band 7
- สายชาร์จ
- เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
สีที่เราได้มารีวิวจะเป็นสี Flame Red ซึ่งเราว่าแอบมีสีสันที่โดดเด่นกว่าที่หน้ากล่องพอสมควรเลย ใครที่ชอบโทนแดงร้อนแรงน่าจะถูกใจไม่น้อยครับ
หน้าจอ AMOLED FullView Display 1.47″
เอาล่ะ มาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่าครับ HUAWEI Band 7 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED FullView Display ขนาดใหญ่ถึง 1.47″ มาในทรงสี่เหลี่ยมที่ให้ความรู้สึกที่เต็มตาเอามาก ๆ ใช้พื้นที่ได้เยอะเลย ทำให้เราเห็นข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน
ในเรื่องความละเอียดก็คมชัดถึง 194 x 368 พิกเซล ตัวเลขและสีสันคมชัดใช้ได้เลย แถมตัวหน้าจอยังเป็น AMOLED ที่มีความสว่างสูง เราสามารถใส่ใช้งานกลางแจ้งได้อย่างไม่มีปัญหาเลย
นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นหน้าจอแบบ AMOLED จึงมีฟีเจอร์ Always On Display ติดมาให้ด้วย ซึ่ง HUAWEI Band 7 เองก็ยังมีลูกเล่นของหน้า AOD ที่เป็นแบบเดียวกับ Watch Face ปกติให้เลือกหลายแบบ ทำให้กลมกลืนกันมากไม่ว่าจะเป็นหน้า AOD หรือแตะให้หน้าจอติดมาดูรายละเอียดเต็ม ๆ ครับ
รูปลักษณ์บางโฉบเฉี่ยว น้ำหนักเบาคล่องตัว
จุดเด่นหลักของ HUAWEI Band 7 ก็คือดีไซน์ที่มีความบางและน้ำหนักที่เบา ช่วยให้เราใส่ใช้งานได้อย่างคล่องตัว ไม่ปวดเมื่อยข้อมือเวลาสวมใส่เป็นเวลานาน ตัวบอดี้มีความบางเพียง 9.99 มม.เท่านั้น แต่ก็ยังมีปุ่มกดให้เราได้ใช้งานควบคุมได้ง่ายด้วย
ส่วนน้ำหนัก (ไม่รวมสาย) ก็ประมาณ 16 กรัม ใส่แล้วแทบไม่รู้สึกถึงความหนักบนข้อมือ อีกทั้งสายข้อมือยังถูกออกแบบมาให้สวมใส่ง่ายและสบาย สามารถใส่ได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนโดยไม่รู้สึกระคายเคืองหรือเกะกะ
ที่ด้านหลังของตัว Band 7 จะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และ PIN สำหรับชาร์จแบตเตอรี่กับที่ชาร์จแบบแม่เหล็กที่ติดมาให้ในกล่องครับ
กันน้ำลึกได้ระดับ 50 เมตร
และอีกความสามารถเด่นของ HUAWEI Band 7 ก็คือความสามารถกันน้ำที่รุ่นนี้ได้มาตรฐานมาถึง 5ATM คือลงน้ำลึกได้ที่ระดับ 50 เมตรเลย ไม่ใช่แค่กันละอองน้ำหรือล้างน้ำได้ แต่สามารถใส่ว่ายน้ำได้เลยครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องใส่ออกกำลังลายแล้วเหงื่อออกแล้วล่ะครับระดับนี้
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ HUAWEI Band 7 ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม สมกับที่ชูในเรื่องของขนาดและน้ำหนักมาจริง ๆ เพราะตัวเครื่องบาง-เบาสวมใส่ได้สบาย แต่ก็ยังได้หน้าจอสวย ๆ และเต็มตาในการใช้งานอีกด้วย สีสันที่มีให้เลือกก็มีมากถึง 4 ประกอบด้วย Wilderness Green, Flame Red (สีที่รีวิว), Graphite Black และ Nebula Pink ที่ให้มู้ดและสไตล์ที่แตกต่างกันไป ชอบลุคไหนก็เลือกให้เหมาะได้ง่าย ๆ
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอป HUAWEI Health
สำหรับการเชื่อมต่อ HUAWEI Band 7 ก็จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth 5.0 ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนของ HUAWEI เองก็เพียงแค่เปิดเครื่องเปิด Bluetooth แล้วนำมาใกล้ ๆ ก็จะมี Pop-Up ขึ้นมาทันที ใช้งานได้ง่ายมาก ๆ ครับ
แต่ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนระบบ iOS หรือ Android ก็ใช้แอป HUAWEI Health ได้เหมือนกัน ไม่ยุ่งยากครับแค่เข้าไปเชื่อมต่อผ่านหมวดอุปกรณ์ในแอปได้เลย ซึ่งในแอปจะมีการจัดการอุปกรณ์หลาย ๆ อย่างทั้งข้อมูลสถานะของตัว Band 7 เอง หรือจะเป็นการตั้งค่าการแจ้งเตือน การอัปเดตซอฟต์แวร์ก็รวมไว้ในหน้านี้หมดแล้ว
ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการด้วย Watch Faces กว่า 4,000 แบบ
ในการปรับแต่งหน้า Watch Faces เราสามารถเลือกปรับได้จากตัว Band 7 โดยตรงโดยการแตะค้างที่หน้าปัดหลักแล้วเลื่อนเลือกรูปแบบได้เลย ในค่าเริ่มต้นจะมีให้เลือกประมาณ 8 – 9 แบบ เพียงพออยู่แล้ว
แต่ถ้าไม่พอเราก็สามารถเข้าไปเลือกดาวน์โหลดจากแอป HUAWEI Health ได้อีก ซึ่งในนั้นจะมี Watch Faces ให้เลือกมากถึง 4,000 แบบ ทั้งแบบฟรีและเสียตังค์ เลือกปรับเปลี่ยนให้แมตช์เข้ากับมู้ดของเราในแต่ละวันได้ รวมถึงของ AOD ก็ด้วยเช่นกัน สายปรับแต่งถูกใจแน่นอน
นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกรูปภาพจากบนสมาร์ทโฟนมาใช้เป็น Watch Face ได้ด้วย ซึ่งก็เพียงแค่เข้าไปตั้งค่าในแอป HUAWEI Health เลือก Watch Face ชื่อ Gallery (อันแรกสุด) แล้วเข้าไปเพิ่มภาพถ่ายได้เลย ทีนี้เราก็จะได้หน้าปัดแบบ Exclusive เฉพาะเราแล้วครับ
เพื่อนคู่ใจสายเฮลตี้ด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพครบครัน มอนิเตอร์ค่า SpO2 ได้ตลอดทั้งวัน
HUAWEI Band 7 มาพร้อมเทคโนโลยีอัปเกรดใหม่ HUAWEI TruSeenTM 4.0 ซึ่งช่วยวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) ตลอดวัน เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการกีฬา ปืนเขาหรือท่องเที่ยว และตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการออกกำลังกายได้อย่างแม่นยำ ประหนึ่งมีคนคอยดูแลสุขภาพให้ตลอดเวลา
หรือจะเป็นการติดตามคุณภาพการนอนหลับ ก็มีเทคโนโลยี HUAWEI TruSleep เพื่อตรวจวัดแต่ละช่วงการนอน (Sleep Stage) พร้อมประเมินคุณภาพการนอนหลับ เช่น ระบุการนอนหลับลึก หรือ หลับตื้น พร้อมคำแนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
สำหรับสุภาพสตรี HUAWEI Band 7 ก็มาพร้อมฟังก์ชันติดตามรอบเดือน พร้อมคำนวนระยะตกไข่และรอบเดือนครั้งถัดไป เพื่อการวางแผนครอบครัวและการดูแลสุขภาพองค์รวมของคุณผู้หญิงได้ด้วย
HUAWEI Band 7 ยังมีฟีเจอร์ตรวจจับค่าความเครียดด้วยเทคโนโลยี HUAWEI TruRelax พร้อมแจ้งเตือนให้ฝึกหายใจเข้าออกอย่างเป็นจังหวะเมื่อระดับความเครียดเพิ่มสูงขึ้น เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชีวิตตั้งอยู่บนความรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา
HUAWEI Band 7 มาพร้อมผู้ช่วยด้านสุขภาพสุดเจ๋งอย่าง Health Living Shamrock ที่สามารถช่วยกำหนดเป้าหมายด้านสุขภาพองค์รวมของเราได้ด้วย พร้อมคอยเตือนให้เราดื่มน้ำ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานยาตามที่หมอสั่ง นับก้าวเดิน และอื่น ๆ อีกมากมาย
โหมดออกกำลังกายมากถึง 96 โหมด
ส่วนเรื่องการออกกำลังกายใคร HUAWEI Band 7 ก็มีโหมดออกกำลังกายรองรับมากถึง 96 โหมดเช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ หรือแม้กระทั่งการเล่นปืนเชือก เป็นต้น สายออกกำลังกายที่ชอบท้าทายตัวเองในหลาย ๆ รูปแบบไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั่วไปได้ครบ
นอกจากสายเฮลตี้แล้ว การใช้งานเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับสายไลฟ์สไตล์ HUAWEI Band 7 ก็รองรับได้ครบ ทั้งการเปิดเพลง ควบคุมเครื่องเล่นเพลงผ่านข้อมือก็ทำได้เมื่อเชื่อมกับสมาร์ทโฟนแล้ว
หรือจะเป็นการใช้ Band 7 เป็นตัวลั่นชัตเตอร์ระยะไกล นาฬิกาปลุก นาฬิกาจับเวลา หรือแม้กระทั่งการใช้งานไฟฉายก็ทำได้หมดไม่ต่างจากพวกสมาร์ทวอทช์รุ่นใหญ่ ๆ เลยด้วยครับ
หรือจะเป็นการแจ้งเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้า ไม่ให้เราพลาดทุกสายแม้สมาร์ทโฟนจะอยู่ไกลตัวก็ยังรับรู้ได้จากข้อมือทันทีและสามารถตอบกลับได้แบบด่วน ๆ หากไม่ว่างรับสายหรือปฏิเสธสายได้จากข้อมือเช่นกัน
ในเรื่องการแจ้งเตือนก็ทำได้ครบและรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบแล้วด้วย ไม่ต้องห่วงว่าหากมีเพื่อนแชทมาแล้วจะพลาดเลยล่ะครับ
แบตฯอึกใช้งานได้ยาวนาน 2 สัปดาห์
และปิดท้ายที่แบตเตอรี่ HUAWEI เคลมว่า Band 7 นั้นสามารถใช้งานทั่วไปได้ต่อเนื่องถึง 14 วัน ซึ่งถือว่าเป็นการใช้งานที่ยาวนานมาก เราไม่จำเป็นต้องคอยชาร์จบ่อย ๆ ให้เราได้วัดค่าต่าง ๆ ด้านสุขภาพเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและต่อเนื่อง หรือจะใส่ติดตัวเพื่อคอยรับการแจ้งเตือนก็มั่นใจได้ว่าเราไม่ต้องคอยถอดออกมาชาร์จบ่อย ๆ ด้วย
และอีกจุดที่เราชอบมาก ๆ ก็คือ HUAWEI Band 7 นั้นมาพร้อมกับปุ่ม Power ในตัว ทำให้เราสามารถกดปิด-เปิดเครื่องได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน เพราะสมาร์ทแบนด์หลาย ๆ รุ่นมักไม่มีปุ่ม Power มาให้ ทำให้หลังจากที่เราเลิกใช้งานแล้วก็ต้องมีการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ตลอดนั่นเอง
เปิดจองแล้ววันที่ 18 ส.ค.นี้ ราคาพิเศษเพียง 1,299 บาท
HUAWEI Band 7 เปิดราคามาที่ 1,899 บาท มีให้เลือก 4 สีคือ Graphite Black, Nebula Pink, Wilderness Green, Flame Red แต่…! มีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะช่วงพรีออเดอร์ ระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ถึง 1 กันยายน 2565 สามารถสั่งจอง HUAWEI Band 7 ในเราคาพิเศษเพียง 1,299 บาทเท่านั้น (จากราคาปกติ 1,899 บาท)
โดยจะวางจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่ HUAWEI Online Stores และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของหัวเว่ย Shopee,Lazada, JD Central และ Thisshop ครับผม
สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทแบนด์ที่ลงตัวทั้งดีไซน์ ฟีเจอร์ และราคา”
สรุปแล้ว HUAWEI Band 7 ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ที่ครบเครื่องทั้งดีไซน์ที่บาง-เบาและทันสมัยจับต้องได้ ตัวเลือกสีสันหลากหลายเหมาะกับทุกลุคทุกคน ได้หน้าจอ AMOLED FullView Display ที่ใหญ่และสวยงามพร้อมใช้งาน ฟีเจอร์ก็ครบตั้งแต่สายเฮลตี้มีความสามารถตรวจเช็คข้อมูลด้านสุขภาพอย่างแม่นยำได้ตลอดวัน สายออกกำลังกายก็มีโหมดกว่า 96 โหมด สายไลฟ์สไตล์ก็มีตัวช่วยให้การทำงานคล่องขึ้น อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ที่อึดใช้งานได้ยาวนานถึง 2 สัปดาห์จากการชาร์จเพียงแค่ครั้งเดียวอีก เรียกว่าเป็นสมาร์ทแบนด์อีกรุ่นที่เราเชียร์มาก ๆ แถมถ้าใครที่สั่งจองในช่วงโปรโมชั่นยังได้ไปในราคาพิเศษแค่ 1,299 บาท (จากปกติ 1,899 บาท) คุ้มขนาดนี้ ไม่จับจองก็คงไม่ได้แล้วล่ะครับ!
