รีวิว HUAWEI Band 8 สมาร์ทแบนด์รุ่นล่าสุดจาก HUAWEI ที่มาพร้อมสโลแกน สมาร์ทแบนด์ที่รู้ใจคุณ มาพร้อมฟีเจอร์ครบเครื่องทั้ง ฟีเจอร์ตรวจจับการนอนหลับ TruSleep 3.0, รองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 100 โหมด, หน้าจอ AMOLED คมชัดขนาด 1.47″ และที่ขาดไม่ได้ Ultra Thin Design บางเฉียบเพียง 8.99 มม.อีกด้วย เป็นอีกรุ่นที่เราอยากแนะนำสำหรับใครที่อยากได้สมาร์ทแบนด์สักเรือนไว้ตรวจจับจริง ๆ ครับ ส่วนการใช้งานจริงจะน่าสนใจแค่ไหน ติดตามได้จากรีวิวนี้เลยครับ!
คุณสมบัติ HUAWEI Band 8
- ขนาดตัวเครื่อง : 43.45 x 24.54 x 8.99 มม.
- น้ำหนัก : 14 กรัม
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 1.47″
- เซ็นเซอร์ : เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, เซ็นเซอร์ Gyroscope, เซ็นเซอร์ Accelerometer
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0
- แอปพลิเคชั่นเชื่อมต่อ : HUAWEI Health (รองรับ iOS 9 ขึ้นไป และ Android 6.0 ขึ้นไป)
- มาตรฐานกันน้ำ : 5ATM
- สีสัน : Emerald Green, Sakura Pink, Midnight Black, Vibrant Orange
แกะกล่อง HUAWEI Band 8
ก่อนอื่นเรามาเช็กอุปกรณ์ในกล่องกันก่อนเลย ตัวกล่องจะเป็นสีขาวมาตรฐานของ HUAWEI ที่ด้านหน้าจะมีชื่อรุ่นและจุดเด่นของรุ่นนี้ระบุไว้ชัดเจน 3 อย่างประกอบด้วย ดีไซน์บาง-เบา | การติดตามการนอนหลับทางวิทยาศาสตร์ | แบตเตอรี่ใช้งานได้ พร้อมภาพประกอบของ Band 8 ที่ตรงกับสีในกล่องเลย และสีที่เราได้มารีวิวก็เป็นสีเขียว Emerald Green นั่นเองครับ
แกะกล่องออกมาเราจะเจอกับตัว Band 8 วางนอนอยู่อย่างเรียบร้อย ลึกลงไปอีกก็จะมีอุปกรณ์เสริมอีก 2 อย่างรวมเป็น 3 อย่างดังนี้ครับ
- HUAWEI Band 8
- สายชาร์จ
- เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
Ultra-thin Design สวมใส่สบายมากขึ้น
ได้เวลามายลโฉม HUAWEI Band 8 กันแล้วครับ อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องดีไซน์ที่บาง-เบา รุ่นนี้จะมีความบางของตัวเรือนเพียง 8.99 มม.ถือว่าเป็นสมาร์ทแบนด์ที่บางที่สุดในวงการเลยก็ว่าได้ แถมน้ำหนักก็เบาแค่ 14 กรัม ทำให้เวลาเราสวมใส่จะได้ความรู้สึกที่สบายมากขึ้น
ดีไซน์โดยรวมก็มีการปรับขอบมุมให้คมชัดยิ่งขึ้น มีความตัดเหลี่ยมลดความโค้งมนลงจากรุ่นก่อนอีกเล็กน้อย เสิรมให้สไตล์ของ HUAWEI Band 8 นั้นเรียบง่ายและลงตัวมากขึ้นนั่นเองครับ
ส่วนน้ำหนัก (ไม่รวมสาย) ก็ประมาณ 14 กรัม ใส่แล้วแทบไม่รู้สึกถึงความหนักบนข้อมือ อีกทั้งสายรัดข้อมือยังถูกออกแบบมาให้สวมใส่ง่ายและสบาย มีรูให้เลือกเยอะเหมาะกับทุกข้อมือไม่ว่าจะเป็นคนข้อมือเล็กใหญ่ก็ปรับใช้งานได้ทั้งหมด
สำหรับสีเขียว Emerald Green ในรอบนี้ก็มีการเพิ่มลูกเล่นของตัวสายให้เป็นแบบกึ่งโปร่งใสคือเราจะเห็นความใสบาง ๆ อยู่ภายในมอบความแปลกใหม่ให้กับดีไซน์ไปอีกแบบ
หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.47″
ในส่วนของหน้าจอ HUAWEI Band 8 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ถึง 1.47″ มาในทรงสี่เหลี่ยมที่ให้ความรู้สึกที่เต็มตาเอามาก ๆ ใช้พื้นที่ได้เยอะเลย ทำให้เราเห็นข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนครับ
ความคมชัดของหน้าจอก็ทำได้ดีด้วยความละเอียด 194 × 368 พิกเซล ทำให้เห็นสีสันและตัวเลขได้อย่างคมชัด แถมตัวหน้าจอยังเป็น AMOLED ที่มีความสว่างสูง เราสามารถใส่ใช้งานกลางแจ้งได้อย่างไม่มีปัญหาเลย
เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ด้านหลังพร้อมทุกการตรวจจับ
ที่ด้านหลังของ HUAWEI Band 8 จะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และ PIN สำหรับชาร์จแบตเตอรี่กับที่ชาร์จแบบแม่เหล็กที่ติดมาให้ในกล่องครับ
มีปุ่มกดให้เลือกเปิด-ปิดอุปกรณ์ได้ด้วย
อีกจุดที่เราชอบเกี่ยวกับดีไซน์ของ HUAWEI Band 8 มาก ๆ ก็คงหนีไม่พ้นปุ่มกดที่ให้มาด้านขวามือของตัวเครื่อง เพราะนอกจากเราจะเป็นปุ่มโฮมในการควบคุมทั่วไปแล้ว เรายังสามารถใช้ปุ่มนี้ในการเปิด-ปิดเครื่องได้ด้วย ถ้าไม่ใช้ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดทิ้งไว้จนใช้แบตฯไปเรื่อย ๆ และถ้ากดปิดไปก็ไม่ต้องมาคอยเสียบที่ชาร์จเพื่อเปิดเครื่องใหม่รุ่นอื่น ๆ ครับ
กันน้ำลึกได้ระดับ 50 เมตร
และอีกความสามารถเด่นของ HUAWEI Band 8 ก็คือความสามารถกันน้ำที่รุ่นนี้ได้มาตรฐานมาถึง 5ATM คือลงน้ำลึกได้ที่ระดับ 50 เมตรเลย ไม่ใช่แค่กันละอองน้ำหรือล้างน้ำได้ แต่สามารถใส่ว่ายน้ำได้เลยครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องใส่ออกกำลังลายแล้วเหงื่อออกแล้วล่ะครับระดับนี้
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ HUAWEI Band 8 ก็ออกแบบมาได้ดี เพราะมาทั้งความบางเฉียบแค่ 8.99 มม.น้ำหนักเบาแค่ 14 กรัม มอบความสะดวกสบายในการสวมใส่ ติดข้อมือเราได้ตลอดเวลาโดยไม่อึดอัด ความเรียบหรูของกรอบที่เหลี่ยมยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มลูกเล่นในสายแบบกึ่งโปร่งใสอีกด้วยครับ
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอป HUAWEI Health
สำหรับการเชื่อมต่อ HUAWEI Band 8 ก็จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth 5.0 โดยใช้แอป HUAWEI Health ในการซิงค์ข้อมูลซึ่งมีให้เลือกใช้ทุกระบบไม่ว่าจะเป็นของ HUAWEI เองที่มีติดเครื่องมาตั้งแต่ต้น, iOS หรือ Android ก็สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ครับผม
ซึ่งในแอปจะเป็นศูนย์รวมข้อมูลสุขภาพของเราจากที่เครื่องเก็บมาได้ รวมถึงหน้าอุปกรณ์ที่ให้เราเช็กสถานะขอ งHUAWEI Band 8 เอง เลือกดาวน์โหลด Watch Faces อื่น ๆ การตั้งค่าการแจ้งเตือน รวมไปถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์ก็รวมไว้ในแอปนี้หมดแล้วครับ
ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการด้วย Watch Faces กว่า 10,000 แบบ
ในการปรับแต่งหน้า Watch Faces เราสามารถเลือกปรับได้จาก HUAWEI Band 8 โดยตรงโดยการแตะค้างที่หน้าปัดหลักแล้วเลื่อนเลือกรูปแบบได้เลย ในค่าเริ่มต้นจะมีให้เลือกประมาณ 8 แบบ ก็เลือกเปลี่ยนกันเกินวันละแบบอยู่แล้ว
แต่ถ้าไม่พอเราก็สามารถเข้าไปเลือกดาวน์โหลดจากแอป HUAWEI Health ได้อีก ซึ่งในนั้นจะมี Watch Faces ให้เลือกมากถึง 10,000 แบบ ทั้งแบบฟรีและเสียตังค์ เลือกปรับเปลี่ยนให้แมตช์เข้ากับมู้ดของเราในแต่ละวันได้เลย
มี Watch Face “Style” เลือกรูปแบบเฉพาะของเราได้ด้วย
หรือถ้าที่มีให้เลือกยังไม่ถูกใจอีก อยากได้แบบแมทช์กับชุดหรือเครื่องประดับแบบตรงเป๊ะ ๆ รอบนี้ HUAWEI ก็มี Watch Face ชื่อ Style เข้ามาใหม่ ให้เราถ่ายรูปหรือดึงต้นแบบจากภาพถ่ายมาเป็น Ref และคำนวณด้วย AI สร้างหน้าปัดแบบเฉพาะขึ้นมาได้ด้วย
เข้าไปตั้งค่าได้ที่แอป HUAWEI Health > Devices > HUAWEI Band 8 > Watch Faces > More > Mine > เลือก Watch Face ชื่อ Style > กดเครื่องหมาย + จากนั้นถ่ายรูปหรือเลือกภาพใน Gallery ให้ AI คำนวณได้เลย
การจัดการสุขภาพอย่างมืออาชีพ
มาเข้าสู่เรื่องฟีเจอร์ด้านสุขภาพกันบ้าง HUAWEI Band 8 มาพร้อมเทคโนโลยีอัปเกรดใหม่ HUAWEI TruSeenTM 3.0 ที่มีความแม่นยำในการติดตามการนอนเพิ่มขึ้น 10% พร้อมประเมินคุณภาพการนอนหลับ เช่น ระบุการนอนหลับลึก หรือ หลับตื้น พร้อมคำแนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
และเท่าที่เราลองใส่นอนมาก็ถือว่าทำได้ดีจริง ๆ เพราะด้วยขนาดที่บางเฉียบน้ำหนักที่เบาทำให้เราสวมใส่นอนตอนกลางคืนได้แบบไม่อึดอัดหรือฝืนจนเกินไป แถมตัวรายละเอียดที่ติดตามมาได้ก็บอกค่อนข้างละเอียดทีเดียวครับ รอบนี้เราสามารถเช็กข้อมูลการนอนแบบละเอียดผ่าน Band 8 ได้เลยด้วย ทำให้ไม่ต้องมาเปิดแอปบนสมาร์ทโฟนให้เสียเวลาครับ
หรือจะเป็นตอนตื่น HUAWEI Band 8 ก็ยังมีฟีเจอร์วัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) ตลอดวัน เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการกีฬา ปืนเขาหรือท่องเที่ยว และตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการออกกำลังกายได้อย่างแม่นยำ ประหนึ่งมีคนคอยดูแลสุขภาพให้ตลอดเวลา
โหมดออกกำลังกายมากถึง 100 โหมด
ส่วนเรื่องการออกกำลังกายใคร HUAWEI Band 8 ก็มีโหมดออกกำลังกายรองรับมากถึง 100 โหมดเช่น แบ่งเป็นของเดิมกว่า 96 โหมดทั้ง การวิ่ง การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ หรือแม้กระทั่งการกระโดดเชือก และอีก 4 ที่เป็นโหมดใหม่เพิ่มเข้ามากับ ฟุตบอล, บาสเกตบอล, เทนนิสในร่ม และ eSport อีกด้วย
ควบคุมง่าย UI เป็นมิตรและสีสันสดใส
ในเรื่องการควบคุมต่าง ๆ HUAWEI Band 8 ก็ออกแบบมาได้ดี เข้าใจง่ายควบคุมผ่านการสัมผัสที่หน้าจอแทบทั้งหมด แต่ถ้าอยากกลับหน้าหลักก็เพียงกดปุ่มที่ด้านขวาแค่นั้นเอง ในแต่ละหน้าที่แสดงบนหน้าจอก็จะแบ่งเป็นหัวข้อไว้ชัดเจน อาทิ เลื่อนขวาเราจะเจอกับแอปสภาพอากาศกับเครื่องเล่นเพลง, เลื่อนซ้ายจะมีการวัดอัตราการเต้นหัวใจ, วัดออกซิเจนในเลือด, ข้อมูลการนอนหลับ, ข้อมูลการออกกำลังกาย เป็นต้น
การแจ้งเตือนมีครบ รองรับภาษาไทยด้วย
ในส่วนของการแจ้งเตือนก็ได้มาครบรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบหรือจะเป็นการแจ้งเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้า ไม่ให้เราพลาดทุกสายแม้สมาร์ทโฟนจะอยู่ไกลตัวก็ยังรับรู้ได้จากข้อมือทันทีและสามารถตอบกลับได้แบบด่วน ๆ หากไม่ว่างรับสายหรือปฏิเสธสายได้จากข้อมือเช่นกันครับ
แบตฯอึดใช้งานได้ยาวนาน 2 สัปดาห์
ปิดท้ายที่แบตเตอรี่ HUAWEI เคลมว่า HUAWEI Band 8 นั้นสามารถใช้งานทั่วไปได้ต่อเนื่องถึง 14 วันในการใช้งานปกติ และใช้งานหนักได้ถึง 10 วัน ซึ่งถือว่าเป็นการใช้งานที่ยาวนานมาก เราไม่จำเป็นต้องคอยชาร์จบ่อย ๆ ให้เราได้วัดค่าต่าง ๆ ด้านสุขภาพเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและต่อเนื่อง หรือจะใส่ติดข้อมือเพื่อคอยรับการแจ้งเตือนก็มั่นใจได้ว่าเราไม่ต้องคอยถอดออกมาชาร์จบ่อย ๆ ด้วย
ราคาพิเศษเพียง 1,299 บาทเท่านั้น!
HUAWEI Band 8 เปิดราคามาที่ 1,899 บาท แต่มีโปรโมชั่นเมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 6 – 8 มิถุนายน 2566 ได้ไปเลยในราคาพิเศษเพียง 1,299 บาท (จากปกติ 1,899 บาท)
ช่องทางการสั่งซื้อที่ Lazada ก็นี่เลยครับ https://bit.ly/3q0s1x4
สรุปแล้วนี่คือ “สมาร์ทแบนด์ที่รู้ใจยิ่งกว่ารุ่นไหน”
สรุปแล้ว HUAWEI Band 8 ก็ถือเป็นสมาร์ทแบนด์ที่คุ้มค่าตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบคลุมสมกับสโลแกน “สมาร์ทแบนด์ที่รู้ใจคุณ” จริง ๆ ครับ เพราะทั้งดีไซน์ที่สวยหรู เรียบง่ายแต่ก็แฝงไปด้วยการออกแบบเล็ก ๆ ที่เพิ่มรายละเอียด ความบาง-เบานั้นเหมาะกับการสวมใส่สบาย ๆ ตลอดวันได้ดี ฟีเจอร์ที่ให้มาก็ครบตั้งแต่การปรับแต่งที่หลากหลาย Watch Faces มีให้เลือกเป็น 10,000 หรือเลือกตามสไตล์เราเองก็ทำได้ ฟีเจอร์สุขภาพก็มีติดตามการนอนหลับได้อย่างแม่นยำ, วัดออกซิเจนในเลือดได้ตลอด หรือจะเป็นการออกกำลังกายก็รองรับมากถึง 100 โหมด ทั้งหมดนี้น่าจะตอบโจทย์ที่สุดในบรรดาสมาร์ทแบนด์ที่ให้ได้แล้วในตอนนี้ ยิ่งเจอราคาโปรโมชั่นเพียง 1,299 บาทแบบนี้ ไม่รู้ใจแล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะเนาะ!
25 มิ.ย. นี้ ลาซาด้าชวนทุกคนมาวิ่งอันล็อกลิมิต เพิ่มความฟิตให้ชีวิตกับ LAZADA RUN THAILAND
งานวิ่งรูปแบบใหม่ ยิ่งใหญ่ระดับอาเซียน! 🏃
เตรียมพบดีลปังจาก HUAWEI ลดสูงสุด 37% ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2566 – 25 มิถุนายน 2566 ที่แอปลาซาด้า!
งานนี้รับรองว่านอกจากจะได้สนุกกับการวิ่งแล้วยังได้ส่วนลดแบบจุกๆ แน่นอน!
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แอปลาซาด้า