Connect with us

ข่าวประชาสัมพันธ์

หัวเว่ยสร้างธุรกิจดิจิทัลที่ยั่งยืน

Published

on

นายไซมอน หลิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพร้อมรับโอกาสในการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากรายงาน Asian Economic Integration Report ประจำปี พ.ศ. 2564 ระบุว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะได้รับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี หรือมากกว่า 8.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2568 การเติบโตของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลส่งผลให้มีการสร้างงานใหม่ประมาณ 65 ล้านตำแหน่งต่อปีในภูมิภาคนี้ ไปจนถึงปี พ.ศ. 2568

ด้วยเสถียรภาพของธุรกิจทั้งด้านทรัพยากรมนุษย์และการเงิน จะทำกำไรสุทธิสูงสุดในประวัติการณ์ และการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องของหัวเว่ย พิสูจน์ว่ากลยุทธ์หลักทางธุรกิจที่เน้นการเชื่อมต่อ การประมวลผล และการพัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งธุรกิจดิจิทัล พาวเวอร์ และคลาวด์ จะขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียแปซิฟิกอย่างสมบูรณ์แบบ

ใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทรนด์สำคัญด้านดิจิทัล

เมื่อโควิด-19 ทำให้เราเห็นโอกาสใหม่จากการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกตื่นเต้นกับความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ของอนาคตดิจิทัลของเรา ในปี พ.ศ. 2565 พันธกิจและวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยคือการนำดิจิทัลมาสู่ทุกคน ทุกบ้าน และทุกองค์กรเพื่อโลกที่เชื่อมต่อกันอย่างอัจฉริยะ และงาน Mobile World Congress 2022 ที่ผ่านมา ทำให้ผมคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งที่จะเน้นย้ำวิสัยทัศน์ของเราเพื่อขยายไปสู่มุมมองสำหรับโลกอนาคตในปี พ.ศ. 2573

โลกอนาคตในปี พ.ศ. 2573 จะมีลักษณะเฉพาะตัวและส่งผลกระทบต่อชีวิตในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านอุตสาหกรรม สังคมและเศรษฐกิจ หัวเว่ยได้คาดการณ์ตัวชี้วัด 4 ด้านไว้ด้วยกัน​​ได้แก่ ชีวิตดิจิทัล (Digital Life) อุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital Industries) โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) และผู้ให้บริการดิจิทัล (Digital Carriers)

สำหรับชีวิตดิจิทัล (Digital Life) เทคโนโลยี extended reality (XR) แบบใหม่และประสบการณ์มัลติมีเดียที่ได้รับการยกระดับจะขยายไปถึงผู้ใช้ 1 พันล้านคน นำเสนอโซลูชันสำหรับสุดยอดประสบการณ์ในการชมพิพิธภัณฑ์ไปจนถึงการช้อปปิ้ง เมื่อรวมความต้องการในการใช้ข้อมูลของบริการนี้เข้ากับอุตสาหกรรมดิจิทัลจะทำให้ปริมาณข้อมูลที่สร้างขึ้นทั่วโลกต่อปีมีแนวโน้มเกินหนึ่งล้านล้านกิกะไบต์ และค่าใช้จ่ายด้านแอปพลิเคชันในองค์กรกว่า 87% คือบริการระบบคลาวด์

โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) ช่วยประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยมลพิษด้วยพลังงานหมุนเวียน คิดเป็น 42% ของการผลิตไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีไอซีทีที่มีอัตราการใช้พลังงานเพียง 2% ของโลก จะช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ลง 20%

นอกจากนี้ ผู้ให้บริการดิจิทัล (Digital Carriers) ยังมีบทบาทในการสนับสนุนการเชื่อมต่อกันมากกว่า 2 แสนล้านรายการ เพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูลให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ

โลกอัจฉริยะจะสร้างประสบการณ์ที่เหนือระดับ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและจุดประกายการสร้างธุรกิจใหม่ ด้วยการเปิดรับโอกาสทางธุรกิจ เทคโนโลยีและความยั่งยืน เราหวังว่าจะทำงานร่วมกับลูกค้า คู่ค้า หน่วยงานภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภคเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับอนาคตในวิถีดิจิทัล

ขับเคลื่อนนวัตกรรมในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

โลกอนาคตขึ้นอยู่กับแรงขับเคลื่อน 3 ประการ คือด้านธุรกิจ เทคโนโลยี และความยั่งยืน แรงขับเคลื่อนประการแรกโดยธุรกิจ เกิดจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการทำงานในยุคดิจิทัลและยกระดับการบริการ

แรงขับเคลื่อนประการที่สอง คือเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ซึ่งรวมถึง 5G ขั้นสูง, 6G และ IPv6+ และเทคโนโลยีการประมวลผลที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับแอปพลิเคชันใหม่ ๆ

การเชื่อมต่อและคลาวด์เป็นสิ่งสำคัญของพรมแดนดิจิทัล แต่ความพร้อมทางดิจิทัลของแต่ละภูมิภาคก็แตกต่างกันมาก รายงาน Global Connectivity Index (GCI) ของหัวเว่ยเปิดเผยว่า อินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับที่ 63, 58 และ 59 จากทั่วโลก ในขณะที่สิงคโปร์อยู่ในอันดับที่2 ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียมีความเร็วบรอดแบนด์คงที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับสิงคโปร์และประเทศไทย การเข้าถึงระบบคลาวด์ในเอเชียแปซิฟิกยังน้อยกว่า 20% ในขณะที่การใช้มือถือ 4G นั้นสูงกว่า 50% เล็กน้อย และครัวเรือนเพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่เข้าถึง FBB (Fixed Broadband)

และสุดท้าย คือแรงขับเคลื่อนด้านความยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว ซึ่งเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนอย่างมีเป้าหมาย

ตัวอย่างในด้านนี้คือ โครงการ RuralStar ของหัวเว่ย ภายใต้แนวคิด Tech4All ซึ่งมีเป้าหมายในการให้บริการอินเทอร์เน็ตและการเชื่อมต่อสำหรับพื้นที่ห่างไกลตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับผู้ให้บริการ 12 รายใน 8 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยและอินโดนีเซียในปีแรกของการดำเนินงาน

ณ หุบเขาห่างไกลในจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย โซลูชัน AirPON ของหัวเว่ยได้นำเสาและโครงสร้างไฟเบอร์ที่มีอยู่กลับมาใช้ใหม่ เพื่อสร้าง “ห้องอุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย” เชื่อมต่อกับหมู่บ้านมากกว่า 10,000 แห่ง

สร้างอนาคตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เอเชียแปซิฟิกเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีจำนวนประชากรและความหลากหลายของชาติพันธุ์มากที่สุดในโลก เป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นแถวหน้าด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทั่วโลก เราเห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และหลายประเทศก็พร้อมดำเนินกลยุทธ์ดิจิทัลในระดับประเทศ

ตัวอย่างที่มีให้เห็นคือ การที่สิงคโปร์เปิดตัวพิมพ์เขียว Smart Nation 2025 อินโดนีเซียและมาเลเซียเปิดตัวกลยุทธ์สู่วิถีชีวิตแบบดิจิทัล บังกลาเทศเปิดตัวกลยุทธ์ Digital Bangladesh และประเทศไทยได้ประกาศวิสัยทัศน์พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน

เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้สนับสนุนหลักของวิสัยทัศน์เชิงดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เราเน้นที่สามด้านหลัก คือ การเชื่อมต่อและเทคโนโลยีอัจฉริยะ การพัฒนาในด้านการลดการใช้คาร์บอนอย่างยั่งยืน และการเข้าถึงระบบดิจิทัลอย่างเท่าเทียม

การเชื่อมต่อดิจิทัลซึ่งรวมถึงเทคโนโลยี 4G, 5G, ไฟเบอร์ และ IoT เป็นพื้นฐานสู่ความสำเร็จของเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งโควิด-19 ทำให้ความต้องการบริการด้านดิจิทัลเติบโตขึ้นอย่างมาก หัวเว่ยจะมีบทบาทสำคัญในด้านนี้ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชัน รวมถึงการวิจัยทฤษฎีพื้นฐานและการออกแบบอุตสาหกรรมด้วย

โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง และคลาวด์อัจฉริยะสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะรวบรวมบริการฐานข้อมูล บริการคลาวด์ และเทคโนโลยี AI เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้ของธุรกิจจากการนำข้อมูลไปต่อยอดและการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล รายงานล่าสุดของการ์ทเนอร์ระบุว่า หัวเว่ย คลาวด์ เป็นระบบคลาวด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในตลาด IaaS ทั่วโลก โดยมีอัตราการเติบโตมากกว่า 220% และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก ในเอเชียแปซิฟิก หัวเว่ยมี 7 Availability Zone ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์ รวมถึงมีทีมบริการในพื้นที่มากกว่า 10 ประเทศ

การลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนา ทำให้อัตราการปล่อยคาร์บอนสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการ E2E ลดลงกว่า 80% โดยคงประสิทธิภาพเดิมไว้ หัวเว่ยผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาบริการเชิงนวัตกรรมด้านดิจิทัล
พาวเวอร์ ทำให้การใช้พลังงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโครงสร้างพื้นฐานไอซีที ภายในปี 2564 หัวเว่ยช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกลดการปล่อยคาร์บอนลงได้ถึง 230 ล้านตัน

สุดท้ายนี้ เรามุ่งขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ครอบคลุม และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยวิสัยทัศน์ของเรา โลกดิจิทัลไม่ได้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวกับผู้คนและมนุษยชาติ ใน 3 ปีข้างหน้าจากนี้ หัวเว่ยวางแผนลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสร้างอีโคซิสเต็มของสตาร์ตอัพในเอเชียแปซิฟิก และอีก 5 ปีจากนี้ เราจะลงทุน 50 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพัฒนาผู้มีความสามารถด้านดิจิทัล 500,000 คน

อนาคตของหัวเว่ย

กลยุทธ์ธุรกิจของหัวเว่ยนั้นมีความชัดเจน ซึ่งเน้นการเชื่อมต่อและการประมวลผล รวมถึงการพัฒนาธุรกิจใหม่อย่างพลังงานดิจิทัล และระบบคลาวด์

ธุรกิจการให้บริการด้านเครือข่ายของหัวเว่ยใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ส่งผลให้ธุรกิจดำเนินได้อย่างแข็งแกร่ง จากการสำรวจโดยองค์กรภายนอก พบว่าผู้ใช้งานเครือข่าย 5G ของหัวเว่ยใน 13 ประเทศของเอเชียแปซิฟิกต่างมีประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยม หัวเว่ยจะยังคงทำงานร่วมกับผู้ให้บริการและพันธมิตร และใช้ประโยชน์จากโครงการ 5GtoB กว่า 3,000 โครงการ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรม สำหรับธุรกิจเหมืองอัจฉริยะ (Smart Mining) การผลิตอัจฉริยะ (Smart Manufacturing) และท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Ports)

ธุรกิจสำหรับองค์กรของเราที่ก่อตั้งในปี 2554 ได้รับผลตอบรับเกินความคาดหมาย ซึ่งได้ให้บริการแก่บริษัท
ชั้นนำของ Fortune Global 500 ไว้มากกว่าครึ่ง และมีจำนวนคู่ค้ามากกว่า 30,000 ราย ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งด้านการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ การเงิน พลังงาน การขนส่ง และอื่นๆ

ในด้านอุปกรณ์อัจฉริยะมียอดขายสะสมเกิน 100 ล้านเครื่องทั่วโลก ขับเคลื่อนธุรกิจสำหรับผู้บริโภคของเราอย่างต่อเนื่อง และขยายไปสู่การพัฒนาจากประสบการณ์และการพัฒนาเพื่ออีโคซิสเต็มมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างแท้จริง ระบบปฏิบัติการ Harmony ของเรามีผู้ใช้มากกว่า 220 ล้านคนทั่วโลก และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วยแพลตฟอร์มอัจฉริยะ Huawei Mobile Service

ธุรกิจคลาวด์และด้านพลังงานดิจิทัลประสบความสำเร็จด้วยการเติบโตถึงตัวเลขสองหลัก เป็นผลมาจากการทำงานของบุคลากรนักพัฒนาระบบคลาวด์ของหัวเว่ยที่มีกว่า 8 ล้านคน และไซต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

ในอนาคต หัวเว่ยพร้อมปรับโครงสร้างองค์กรที่เสริมการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หัวเว่ยมีศักยภาพในการให้บริการลูกค้าด้วยโซลูชันล้ำสมัย ที่มีความยั่งยืนและสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจ

เราต่อยอดการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้าง เน้นการทำงานร่วมกันเพื่อความสำเร็จขององค์กร เราลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์แม้อยู่ภายใต้แรงกดดัน เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์สู่ความเป็นสากลทั้งด้านมาตรฐานการดำเนินงาน การพัฒนาบุคลากร และห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลให้องค์กรมอบคุณค่าจากสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อความสำเร็จไปพร้อมกับการตอบแทนสังคม การทำงานร่วมกันช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับบริการ และเพิ่มความเชื่อมั่นที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนไปสู่โลกอัจฉริยะ

Funtouch OS 15 All new features you need to know Funtouch OS 15 All new features you need to know
Android News14 ชั่วโมง ago

Funtouch OS 15 มีอะไรใหม่ ระบบปฏิบัติการอัปเกรดใหม่จาก vivo บน Android 15

ในยุคสมัยที่ผู้คนพึ่...

IT News1 วัน ago

AIS รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567

AIS รายงานผลประกอบกา...

IT News1 วัน ago

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 26 ต.ค. – 1 พ.ย. 67

ข่าวเด่นช่วงระหว่างว...

HUAWEI MatePad Pro 12.2 Jubilee Diamond HUAWEI MatePad Pro 12.2 Jubilee Diamond
News1 วัน ago

กุญแจแห่งความสำเร็จ! เมื่อผู้บริหาร JUBILEE DIAMOND เลือก HUAWEI MatePad Pro 12.2 ตัวช่วยทำงานที่ครบครัน พร้อมมอบสิทธิพิเศษเครื่องประดับเพชรแท้ JUBILEE DIAMOND

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ย...

News1 วัน ago

AIS eSports ปิดฉากทัวร์นาเมนต์อีสปอร์ต ระดับมัธยมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในไทย ปีที่ 4

AIS eSports ปิดฉากทั...

Infinix HOT 50 Pro+ Smartphone gaming Infinix HOT 50 Pro+ Smartphone gaming
Android News1 วัน ago

Infinix เปิดตัว HOT 50 Pro+ เกมมิ่งสมาร์ทโฟน 6,499 บาท

Infinix เปิดตัว HOT ...

Apple News1 วัน ago

ลือต่อ !! ชิปโมเด็ม 5G และ Wi-Fi บน iPhone รุ่นปี 2025 จะเป็นชิปแยก 2 ตัว

ไม่นานนี้มีข้อมูลจาก...

Samsung Galaxy Immersive Gardena Samsung Galaxy Immersive Gardena
News1 วัน ago

ครั้งแรก! ของการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยจากซัมซุง SAMSUNG GALAXY IMMERSIVE GARDENA ในงานดอกไม้ประจำปี ที่เซ็นทรัลชิดลม วันนี้-15 พ.ย. 67

ซัมซุง ร่วมเฉลิมฉลอง...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก