Smart Review
รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3 ระเบิดความมันส์ด้วยลำโพงคู่ไดรเวอร์ 11 มม. | รองรับ HWA และ Hi-Res Audio | ตัดเสียงเทพกับระบบ ANC 3.0
รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3 หูฟังไร้สายระดับเรือธงรุ่นล่าสุดจาก HUAWEI ที่มาพร้อมการอัปเกรดระบบเสียงทั้ง เบสหนักขึ้น แหลมครบเหนือจินตนาการด้วยลำโพงคู่ไดรฟ์เวอร์ 11 มม., รับรองมาตรฐานเสียง HWA และ Hi-Res Audio, ลดเสียงรบกวนด้วยไมค์ 3 ตัวพร้อมอัลกอริทึ่ม ANC 3.0 เสียงคมชัดทุกสถานการณ์ด้วย Pure Voice 2.0 นอกจากนี้ในเรื่องดีไซน์ก็ยังโดดเด่นด้วยสีเขียวใหม่อีกด้วย
การใช้งานจริงจะน่าประทับใจแค่ไหน วันนี้เรารีวิวให้ชมเต็ม ๆ ติดตามได้เลยครับ!
สรุปสเปค HUAWEI FreeBuds Pro 3
- ขนาดเคสชาร์จ : 65.9 x 46.9 x 24.5 มม.
- น้ำหนักเคสชาร์จ : 45.5 กรัม
- น้ำหนักหูฟัง(ต่อข้าง) : 5.8 กรัม
- ลำโพง : ไดรเวอร์คู่ = ไดนามิกไดรเวอร์ 11 มม. + แพลน่าไดอะแฟรมไดรเวอร์
- ระบบตัดเสียงรบกวน : การตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (Active noise cancellation) / การตัดเสียงรบกวนระหว่างการโทร / ต้านทานเสียงลม / โหมดการรับรู้ (Awareness)
- ไมโครโฟน : 3 ตัว + 1 ไมโครโฟน bone conduction
- รองรับเสียง HD : SBC / AAC / LDAC / L2HC 2.0
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2, พอร์ต USB-C
- แบตเตอรี่ : 55 mAh (หูฟัง), 510 mAh (เคสชาร์จ)
- กันน้ำ : IP54
- สีสัน : สีเขียว Green, สีขาว Ceramic White และสีเทา Silver Frost
แกะกล่อง HUAWEI FreeBuds Pro 3
ก่อนอื่นเรามาแกะกล่องดูอุปกรณ์ที่ให้มากันแบบเร็ว ๆ ก่อนดีกว่า HUAWEI FreeBuds Pro 3 จะมาพร้อมกล่องสีขาวขนาดมาตรฐานที่หน้ากล่องมีระบุชื่อรุ่นและภาพประกอบชัดเจน พร้อมโลโก้ที่การรองรับมากมายตั้งแต่การรับรอง HWA และคุณภาพเสียง Hi-Res Wireless Dual HD Audio ครับ
ซึ่งสีที่เราได้มาเป็นสีเขียว Green ที่ตรงตามที่แสดงอยู่บนหน้ากล่องเลย ไม่ต้องกลัวซื้อผิดเนาะ
ภายในชั้นต่อไปก็จะมีอุปสรรคเสริมอย่างสายชาร์จและเอกสารคู่มือ สรุปแล้วในกล่องของ HUAWEI FreeBuds Pro 3 ก็มีของมาให้ทั้งหมด 4 อย่างดังนี้ครับ
- หูฟังพร้อมเคสชาร์จ HUAWEI FreeBuds Pro 3
- สายชาร์จ USB-A to USB-C
- EarTips ขนาด XS, S และ L
- เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
ดีไซน์ยังพรีเมี่ยม เล็กลงอีก 4.5%
ได้เวลามาชมดีไซน์ HUAWEI FreeBuds Pro 3 แบบชัด ๆ แล้วครับ ภายนอกยังคงเรียบหรูสมกับเป็นรุ่นโปรเหมือนเดิม ผิวสัมผัสเป็นแบบด้านที่จับถือได้ดีแถมยังไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือจนเกินไป ขนาดตัวเคสชาร์จจะเล็กลงอีก 4.5% และเบาลงกว่า 14.51% เหลือ 45.5 กรัม ช่วยให้รู้สึกว่าเบาลงชัดเจน พกติดกระเป๋าเสื้อได้สบายขึ้น
ส่วนสีที่เราได้มาเป็นสีเขียวอย่างที่บอกไป เราว่าเป็นโทนที่ดูดีมาก มีความเขียวอมเทาหน่อย ๆ ที่ดูลงตัว เพราะได้ทั้งความทางการแต่ก็ยังแฝงด้วยสีสันที่ไม่ธรรมดา
ที่ด้านหลังยังคงมีโลโก้ HUAWEI ที่อยู่บนกระจกพื้นผิวมันวาวตัดกับผิวด้านของตัวเคสชาร์จได้เป็นอย่างดี มอบความหรูหราและชูชื่อแบรนด์ให้เด่นขึ้นได้อีกครับ และ HUAWEI ยังเพิ่มความทนทานต่อรอยขีดข่วนมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 32% ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าตรงส่วนนี้จะเป็นรอยได้ยากขึ้นเมื่อใช้งานแบบไม่ใส่เคสน่ะเนาะ
ที่ตัวบานพับก็มีการปรับดีไซน์ใหม่ให้เป็นแบบตัดเฉียงเพื่อให้เราเปิดฝาได้ง่ายขึ้นด้วย แถมยังผ่านการทดสอบเปิด-ปิดมากกว่า 100,000 ครั้ง มั่นใจในเรื่องความทนทานได้เลย
และที่ตัวเคสด้านหน้าก็มีไฟ LED บอกสถานะอยู่เลย ไม่ได้ซ่อนอยู่ภายในเหมือนรุ่นก่อนแล้ว ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่าแบตฯเหลือระดับไหนหรือชาร์จไปแล้วถึงระดับไหนโดยไม่ต้องเปิดฝาเคส
หูฟังทรง In-Ear จับถือได้ถนัด
ตัวหูฟังของ HUAWEI FreeBuds Pro 3 จะมาในทรง In-Ear เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้ามีก้านหูฟังทรงเหลี่ยมที่ช่วยให้เราหยิบถือได้อย่างพอดี ซึ่งตรงก้านนี้ก็ยังมีแผง Touch Control ให้เราได้สั่งงานด้วยการบีบด้วย 2 นิ้วด้วยครับ
ในเรื่องการสวมใส่ก็ถือว่าทำได้ดีเลย ตัวจุกหูฟังทำจากวัสดุซิลิโคนเกรดอาหารไม่ระคายเคลืองผิวหนังผ่านการทดสอบจนตรงตามมาตรฐาน FDA และ LFGB อีกด้วย ขนาดของ EarTips (จุกหูฟัง) ก็มีให้เลือกหลากหลาย ที่ให้มาตั้งแต่แกะกล่องเป็นไซซ์ M หรือขนาดกลางซึ่งเราใส่แล้วรู้สึกว่าพอดีเป๊ะ จึงทำให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนและไม่แน่นหูจนเกินไป อุดช่องว่างที่จะมีเสียงภายนอกมารบกวนได้ดีแต่ก็ไม่อึดอัดแม้จะใส่ไปนาน ๆ ครับ
แต่ถ้าใครใส่แล้วยังรู้สึกว่าใหญ่หรือเล็กไป ในกล่องจะมี EarTips อีก 3 ขนาดคือ XS, S และ L มาให้เลือกเปลี่ยนด้วย แนะนำว่าให้ลองใส่ในหลายขนาดเพื่อหาขนาดที่เหมาะที่สุดดูก่อน เพื่อได้ประสบการณ์เสียงที่ HUAWEI ตั้งใจจริง ๆ ครับ
มีความสามารถกันน้ำ IP54 ทนเหงื่อ ทนฝนได้
สำหรับความทนทาน HUAWEI FreeBuds Pro 3 ได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 มาเหมือนเดิม มั่นใจได้ว่าแม้จะใส่ออกกำลังกายมีเหงื่อออกมาหรือต้องลุยฝุ่นปรอย ๆ ตัวหูฟังก็จะไม่เกิดอันตรายจนพังไปแน่นอนครับ
พอร์ตชาร์จ USB-C พร้อมลำโพงที่ตัวเคสชาร์จ
ย้อนกลับมาที่เคสชาร์จอีกที HUAWEI FreeBuds Pro 3 มาพร้อมพอร์ตชาร์จแบบ USB-C ที่ด้านล่างตัวเครื่อง และข้าง ๆ ก็จะเป็นลำโพงสำหรับส่งเสียงเวลาใช้ฟีเจอร์ Find My Device จากสมาร์ทโฟน HUAWEI ด้วยครับ
ส่วนที่มุมขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่ม Connect ที่เอาไว้ใช้เวลาเราเชื่อมต่อกับหูฟังเครื่องอื่นหรือรีเซ็ตสัญญาณเวลาที่อยากจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใหม่นั่นเองครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ HUAWEI FreeBuds Pro 3 ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมเลย เพราะเป็นการต่อยอดจุดที่ดีอยู่แล้วของรุ่นก่อนให้ลงตัวยิ่งขึ้น ทั้งรูปทรงแคปซูลสวย ๆ ลดขนาดน้ำหนักลง, ปรับบานพับให้เปิดได้ง่ายขึ้นพร้อมเพิ่มความทนทาน, ตัวหูฟังที่ใส่ได้กระชับกว่าเดิมมี EarTips หลายขนาดให้เลือกกว่า และที่สำคัญสีเขียวใหม่ที่ดูโดดเด่นอย่างมาก เรียกว่าสวยน่าใช้ตั้งแต่แกะกล่องออกมาเลยล่ะครับ!
เชื่อมต่อได้ง่าย
มาลองเชื่อมต่อกันเลยดีกว่า HUAWEI FreeBuds Pro 3 ถ้าเราใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนและสมาร์ทดีไวซ์ของ HUAWEI จะมีฟีเจอร์ Pop-up Pairing ซึ่งจะตรวจจับได้อัตโนมัติว่ามีหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 3 อยู่ในบริเวณใกล้เคียง และรองรับการเชื่อมต่ออัตโนมัติหลังการจับคู่อุปกรณ์ครั้งแรก เรียกว่าแค่เปิดฝาเคสแล้วนำมาใกล้ ๆ ตัวระบบจะตรวจจับและเด้งขึ้นมาถามเราทันทีว่าจะเชื่อมต่อกันเลยไหม ตรงนี้สะดวกสุด ๆ ครับ
ส่วนของแอปที่จะใช้งานร่วมกับหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 3 คือ HUAWEI AI Life ซึ่งถ้าเป็นสมาร์ทโฟน HUAWEI อยู่แล้วก็เพียงแค่อัปเดตก็จะพร้อมใช้งานทันที แต่ถ้าเป็นระบบอื่นก็ดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จากที่นี่เลยครับ
โดยในแอปนี้จะมีข้อมูลของตัวหูฟังทั้งเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่คงเหลือ การตั้งค่าเพิ่มเติมทั้งระบบ Active Noise Cancelling รูปแบบ Equalizer ของหูฟัง หรือฟีเจอร์การสั่งงานที่ตัวหูฟังเราสามารถเลือกปรับได้จากตรงนี้ได้หมดเลยครับ
ประสบการณ์ระดับพรีเมี่ยม
HUAWEI FreeBuds Pro 3 มาพร้อมกับไดรเวอร์ Dual-Hearing แบบ Ultra-Hearing ซึ่งประกอบด้วยยูนิตคอยล์ไดนามิกแม่เหล็กสี่อันอันเพื่อแรงขับเคลื่อนเสียง และยูนิตเสียงแหลมไมโครระนาบสำหรับการควบคุมความถี่ต่ำลงไปที่ 14Hz ในขณะที่ความถี่สูงถึง 48kHz มอบประสบการณ์การฟังที่เต็มอิ่มด้วยเสียงเบสและรายละเอียด
นอกจากนี้หูฟังยังรวมอาร์เรย์แม่เหล็ก Halbach ใหม่ไว้ภายในการตั้งค่าไดรเวอร์คู่ เพื่อเพิ่มความสามารถในการรับส่งข้อมูลชั่วคราวที่สูงเป็นพิเศษ ให้เสียงแหลมใสคมชัดทุกคลื่นความถี่, เสียงร้องและดนตรีอย่างชัดเจน มีจุดเด่นการหูฟังอื่นๆที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกแยะระหว่างเครื่องดนตรีต่าง ๆ ในเพลงได้
นอกจากนี้ HUAWEI FreeBuds Pro 3 ยังใช้ตัวแปลงสัญญาณเสียงบลูทูธชั้นนําของอุตสาหกรรม LDAC และ L2HC 2.0 (พัฒนาโดย HUAWEI) อัตราการส่งผ่านเสียงถึง 990 kbps และอัตราการสุ่มตัวอย่างถึง 96 kHz / 24 บิต ซึ่งทำให้สามารถรับสัญญาณเสียงจากวิดีโอได้ดีขึ้น 3 เท่า รายละเอียดของเสียงที่ได้ยิน เช่น เสียงของเครื่องดนตรีก็ดีขึ้น 3 เท่า ช่วยให้ได้เสียงที่คมชัดแยกรายละอียดของหลาย ๆ เสียงที่ซ้อนกันมาอย่างดีเยียม
เท่าที่เราลองฟังก็ต้องบอกว่าคุณภาพยังพรีเมี่ยมสมกับเป็นรุ่น Pro จริง ๆ ทั้งมิติเสียงและคุณภาพที่ได้ ให้เราได้ระเบิดความมันส์กับการฟังดนตรีอย่างแท้จริง! ใครที่ชอบเสียงแบบขั้นสุด รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ตัดเสียงรบกวนได้ดีขึ้น 50% ด้วย Intelligent ANC 3.0
ส่วนเรื่องการตัดเสียงที่เป็นจุดเด่นของ HUAWEI FreeBuds Pro มาตั้งแต่รุ่นแรก บน FreeBuds Pro 3 ก็อัปเกรดขึ้นอีกด้วย Intelligent ANC 3.0 ที่นำเสนอการตัดเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์ด้วยอัลกอริธึมได้รับการปรับปรุงใหม่ให้แม่นยำยิ่งขึ้น ตรงนี้ HUAWEI เคลมเลยว่าทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 50%
พูดคุยได้คมชัดกับ PureVoice 2.0
การใช้งานไมโครโฟน HUAWEI FreeBuds Pro 3 ก็ยังได้ฟีเจอร์ Pure Voice 2.0 ที่ใช้อัลกอริธึมการตัดเสียงรบกวน Deep Neural Network (DNN) หลายช่องสัญญาณที่เป็นเอกสิทธิ์ของ HUAWEI สำหรับการโทร เมื่อรวมกับเทคโนโลยีไดนามิกฟิวชั่น AI จะช่วยให้การตัดเสียงรบกวนที่แม่นยำยิ่งขึ้นและจะรักษารายละเอียดเสียงได้มากขึ้นและปรับปรุงความต้านทานเสียงรบกวนได้ 5dB ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น รถไฟความเร็วสูง รถไฟใต้ดิน และสนามบิน ผลลัพธ์ที่ได้คือประสบการณ์เสียงที่ชัดเจนที่สุดนั่นเองครับ
ควบคุมได้ง่ายผ่านตัวหูฟัง
ส่วนเรื่องการควบคุมอย่างที่บอกไปว่า HUAWEI FreeBuds Pro 3 นั้นมีฟีเจอร์ Gesture มาให้เราใช้งานด้วย วิธีการก็คือให้บีบที่ก้านหูฟัง วิธีการควบคุมก็มีหลากหลายดังนี้
- บีบ 1 ครั้ง เพื่อรับสายเรียกเข้า, เล่น-หยุดเพลง
- บีบ 2 ครั้ง เพื่อปฏิเสธสายเรียกเข้า, เล่นเพลงถัดไป
- บีบ 3 ครั้ง เพื่อย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า
- บีบค้าง เพื่อเรียกผู้ช่วยอัจฉริยะ หรือปรับโหมด ANC
- รูดขึ้น-ลงที่ก้านหูฟัง เพื่อปรับระดับเสียง
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 31 ชม.
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ HUAWEI เคลมว่า HUAWEI FreeBuds Pro 3 นั้นสามารถเล่นเพลงต่อเนื่องนาน 6.5 ชม.เมื่อปิด ANC (เปิด ANC ได้นาน 4.5 ชม.) และนานสูงสุด 31 ชม.(เปิด ANC ได้นาน 22 ชม.) เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ ถือว่าใช้งานได้ยาวนานเลยล่ะครับแบบนี้
ส่วนเรื่องชาร์จก็มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ชาร์จเต็มในเวลาแค่ 40 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ตัวเคสชาร์จยังมีระบบชาร์จไร้สายมาให้ด้วยผ่านมาตรฐาน Qi Wireless ใครที่มีแท่นชาร์จไร้สายหรือสมาร์ทโฟนที่ปล่อย Wireless Charge ได้ก็แปะชาร์จกันได้แบบไม่เสียบสายเลย
ราคาและโปรโมชั่น
HUAWEI FreeBuds Pro 3 เปิดราคามาที่ 6,990 บาท มีโปรโมชั่นเมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 66 – 7 มกราคม 67 รับของแถมเป็นกระเป๋าหูฟังมูลค่า 599 บาทไปเลยด้วย
สั่งซื้อได้ที่นี่ >> https://bitly.ws/32RWk
สรุปแล้ว “นี่คือหูฟัง TWS ที่ให้เราได้ระเบิดความมันส์กับเสียงดนตรีแบบขั้นสุดในราคาไม่ถึง 7,000 บาท”
สรุปแล้ว HUAWEI FreeBuds Pro 3 ก็ถือเป็นหูฟัง TWS รุ่นท็อปที่อัปเกรดมาในทุกด้าน ตั้งแต่ระบบเสียงที่มีเบสหนักขึ้น แหลมครบ เหนือจินตนาการด้วยลำโพงคู่ไดรฟ์เวอร์ 11 มม., รับรองมาตรฐานเสียง HWA และ Hi-Res Audio, ลดเสียงรบกวนด้วยไมค์ 3 ตัวพร้อมอัลกอริทึ่ม Intelligent ANC 3.0 เสียงคมชัดทุกสถานการณ์ด้วย Pure Voice 2.0 แถมเรื่องดีไซน์ยังปรับปรุงใหม่ กะทัดรัดขึ้น พกพาสะดวก และสีเขียวใหม่ที่สวยหรูพรีเมี่ยมเอามาก ๆ ทั้งหมดที่ว่ามานี้เคาะราคาไม่ถึง 7,000 บาท เราว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับใครที่ต้องการหูฟังคุณภาพสูงที่เราพกพาไปได้ทุกทีจริง ๆ ครับ!