รีวิว HUAWEI FreeBuds SE 3 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่จาก HUAWEI ที่รอบนี้จัดเต็มมาด้วยดีไซน์สุดพรีเมี่ยม, น้ำหนักเบา สวมใสสบาย, การเชื่อมต่อแน่นด้วย Bluetooth 5.4, และแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 42 ชม. แต่ทั้งหมดนี้ราคาเบา ๆ เพียง 1,399 บาทเท่านั้น (มีโปรโมชั่นไม่ถึง 1,000 บาทอีก)
ใครที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายดีไซน์ดีไซน์พรีเมี่ยม ราคาเบา ๆ มาติดตามรีวิวของ HUAWEI FreeBuds SE 3 ตัวนี้กันได้ครับ!
สรุปสเปค HUAWEI FreeBuds SE 3
- ขนาดเคสชาร์จ : 50.4 มม. × 50.3 มม. × 23.4 มม.
- น้ำหนักเคสชาร์จ : 33 กรัม
- น้ำหนักหูฟัง(ต่อข้าง) : 3.8 กรัม
- ขนาดไดรเวอร์ : ไดร์เวอร์ไดนามิก 10.0 มม
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.4, พอร์ต USB-C
- แบตเตอรี่ : 41 mAh (หูฟัง), 510 mAh (เคสชาร์จ)
- กันน้ำ : IP54
- สีสัน : สีดำ, สีเบจ
แกะกล่อง HUAWEI FreeBuds SE 3
ก่อนจะไปรีวิวกันเต็ม ๆ เรามาแกะเช็กอุปกรณ์ที่ให้มาก่อนดีกว่าครับ HUAWEI FreeBuds SE 3 จะมาพร้อมกล่องขนาดมาตรฐานใช้สีขาวพร้อมชื่อรุ่นและภาพประกอบของตัวหูฟังชัดเจน สีที่เราได้มารีวิวก็เป็นสีดำ ที่ดูคมเข้ม คลาสสิก ที่หน้ากล่องยังมีตัวเลขเด่น ๆ ว่า 42h เพื่อเป็นการย้ำจุดขายเรื่องแบตเตอรี่ด้วยนะ
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาก็มีแค่ 2 อย่างดังนี้เลย
- หูฟังพร้อมเคสชาร์จ HUAWEI FreeBuds SE 3
- เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
ดีไซน์สวยพรีเมี่ยม ผิวสัมผัส 2 แบบ
มาเริ่มเรื่องดีไซน์กันที่เคสชาร์จก่อนเลย HUAWEI FreeBuds SE 3 นั้นโดดเด่นมาก เพราะรอบนี้ใช้ดีไซน์แบบ 2 ผิวสัมผัสที่แตกต่าง แต่ลงตัวมาก ๆ ตัวฝาเคสชาร์จจะเป็นแบบมันวาวสีเงินหรู ๆ ตัดเข้ากับวัสดุพิเศษของส่วนล่างแบบหนัง ให้ความรู้สึกที่พรีเมี่ยมตั้งแต่แรกเห็นจริง ๆ ครับ คือไม่น่าเชื่อว่านี่คือหูฟังราคา 1 พันนิด ๆ น่ะนะ สวยเกินเบอร์จริง ๆ
ส่วนขนาดก็กะทัดรัดครับ ไม่ได้ใหญ่เทอะทะ ยังคงเป็นไซซ์ที่เราพกพาติดกระเป๋าเสื้อไปได้ง่าย ๆ หรือจะติดกระเป๋าใบเล็ก ๆ ไปก็ไม่ใช่ปัญหา และที่เราชอบอีกอย่างคือพอผิวสัมผัสส่วนล่างเป็นแบบหนัง ก็ทำให้เวลาเราจับถือนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะเก็บคราบรอยนิ้วมือจนดูเลอะเทอะ หยิบใช้ได้สบายใจจริง ๆ
ที่ด้านหน้าของตัวเคสชาร์จจะมีไฟแสดงสถานะของแบตเตอรี่อยู่ที่บ่งบอกได้ทันทีเมื่อเปิดฝาเคสขึ้น หรือถ้าเปิดมาครั้งแรกยังไม่ได้จับคู่กับอุปกรณ์ใด ๆ ก็จะเป็นสีขาวกระพริบ เพื่อให้สัณณาณว่าตอนนี้ Bluetooth กำลังทำงานอยู่เพื่อรอการจับคู่นะ
หูฟังทรง Open-Ear สวมใส่สบาย น้ำหนักเบา
ส่วนตัวหูฟังก็มาในทรง Open-Ear หรือแบบไม่มีจุกซิลิโคน เชื่อว่าหลายคนชอบดีไซน์แบบนี้ เพราะสวมใส่ได้สบายกว่า ไม่อึดอัดแม้ใช้งานไปนาน ๆ ซึ่งที่ตัวหูฟังก็จะมีก้านยื่นออกมาพอประมาณ ให้เราได้หยิบจับได้พอดี และที่ตัวก้านจะมีการทำดีไซน์มันวาว พร้อมตำแหน่งของแผงควบคุมไว้ด้วยครับ
นอกจากรูปลักษณ์จะดูสวมใส่สบายแล้ว น้ำหนักของหูฟัง FreeBuds SE 3 ก็ยังเบาเพียง 3.8 กรัมต่อข้าง เป็นน้ำหนักที่เบาและให้ความกระชับเวลาสวมใส่ในหูอย่างมากครับ ทำให้เวลาใส่ใช้งานไปนาน ๆ ไม่อึดอัดอย่างที่บอก อันนี้ดีจริง ๆ
เรื่องความทนทานหูฟัง HUAWEI FreeBuds SE 3 ยังมีมาตรฐานกันน้ำ IP54 ที่ช่วยให้เรามั่นใจ แม้จะสวมใส่ไปนาน ๆ มีเหงื่อหรือโดนละอองน้ำก็ไม่ต้องกังวลครับ ใช้งานได้ไม่ติดขัด แต่มาตรฐานนี้มีแค่หูฟังนะครับ เคสชาร์จไม่กันน้ำนะ อย่าเผลอล่ะ
มีปุ่มจับคู่มาให้ด้วย
ย้อนกลับมาที่ตัวเคสอีกหน่อย ที่ด้านล่างจะมีพอร์ตชาร์จแบบ USB-C และข้าง ๆ จะเป็นปุ่มสำหรับจับคู่ใหม่ เพียงแค่กดค้างไว้ตัวไฟสถานะที่เคสก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาว ให้เราได้จับคู่หูฟังกับอุปกรณ์อื่นได้แล้วครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ HUAWEI FreeBuds SE 3 ก็ถือว่าสวยเกินราคา พรีเมี่ยมโดนใจเราจริง ๆ ทั้งผิวสัมผัส 2 แบบที่ตัวเคส มอบความแปลกใหม่แต่ลงตัว ขนาดและน้ำหนักที่เบา กะทัดรัดของตัวหูฟัง สวมใส่สบายดีจริง ๆ เป็นหูฟังอีกตัวจาก HUAWEI ที่ออกแบบมาดีมาก ๆ
เชื่อมต่อง่ายมีแอปจัดการเพิ่มเติม
การเชื่อมต่อของ HUAWEI FreeBuds SE 3 ก็ทำได้ง่ายครับ ถ้าใช้มือถือ HUAWEI ที่รัน WMUI 10 ขึ้นไป แค่มาเปิดเคสชาร์จใกล้ ๆ ก็จะมี Pop Up ให้เราเชื่อมต่อได้ทันที ส่วนของแอปที่จะใช้งานร่วมก็จะใช้ HUAWEI AI Life ซึ่งถ้าเป็นสมาร์ทโฟน HUAWEI เองก็ดาวน์โหลดได้จาก HUAWEI AppGallery ได้เลย หรือระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ
โดยในแอปนี้จะมีข้อมูลของตัวหูฟังทั้งเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่คงเหลือ การตั้งค่าเพิ่มเติมทั้ง รูปแบบ Equalizer ของหูฟัง, หรือฟีเจอร์การสั่งงานที่ตัวหูฟังเราสามารถเลือกปรับได้จากตรงนี้ได้หมดเลยครับ
เชื่อมต่อสัญญาณแน่นด้วย Bluetooth 5.4
ด้านการเชื่อมต่อ HUAWEI FreeBuds SE 3 ก็มอบความเสถียรยิ่งขึ้นด้วย Bluetooth 5.4 เวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว เท่าที่ลองจริง ๆ แม้ในสถานที่ที่ผู้คนเยอะ มีสัญญาณรบกวนแยะ หูฟังก็ยังจับได้อย่างแม่นยำเลยล่ะครับ
คุณภาพเสียงใช้ได้ Crystal Clear Audio
HUAWEI FreeBuds SE 3 มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 10 มม.มอบเสียงที่แน่นกำลังดีในฉบับของหูฟัง Open-Ear บรรเลงเสียงและเพลงที่เราชอบได้แบบพอดิบพอดี และความดีงามก็คือตัวหูฟังใส่สบายมาก ทำให้เราติดหูไปได้ตลอดแบบไม่อึดอัดครับ
แบตเตอรี่อึดสะใจสูงสุด 42 ชม.!
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ ที่เราว่านี่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ HUAWEI FreeBuds SE 3 รุ่นนี้เลยก็ว่าได้ เพราะอย่างที่บอกไว้ตั้งแต่หน้ากล่อง ว่ารุ่นนี้ใช้งานสูงสุดได้ถึง 42 ชม. เรียกว่าเยอะที่สุดในหูฟังเรตราคานี้เลย
ซึ่งจะแบ่งออกเป็นตัวหูฟังเอง ฟังได้ต่อเนื่องถึง 9 ชม.เรียกว่าดูหนังดูซีรีส์กันฉ่ำแน่นอน ถ้าดูซีรีส์สัก 8 ตอน ก็แทบไม่ต้องกลับไปชาร์จเลย รวดเดียวจบ!
นอกจากนี้ HUAWEI FreeBuds SE 3 ยังมีระบบชาร์จเร็วที่ชาร์จแค่ 10 นาที ก็สามารถฟังต่อเนื่องได้ถึง 3 ชม.แล้วล่ะครับ ใช้ได้นาน ชาร์จได้เร็วแบบนี้ แจ่มมากเนอะ
ราคาและโปรโมชั่น
HUAWEI FreeBuds SE 3 เปิดราคามาเพียง 1,399 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำและสีเบจครับ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายวันแรกวันที่ 3 มีนาคม 2568 ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง Lazada, Shopee, TikTok Shop และ HUAWEI Online Store
มีโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษราคาเริ่มต้นไม่ถึง 1,000 บาทด้วย พร้อมรับของสมนาคุณในแต่ละแพลตฟอร์มดังนี้
- Shopee รับ Skipping Rope มูลค่า 1,100 บาท
- Lazada รับ Frisbee มูลค่า 890 บาท
- Tiktok Shop รับ Tote Bag มูลค่า 790 บาท
- HUAWEI Store รับ Umbrella Black มูลค่า 390 บาท
สรุปแล้ว “นี่คือหูฟังไร้สายที่ดีไซน์พรีเมี่ยม คุณภาพเยี่ยม ในราคาสบายกระเป๋าจาก HUAWEI”
สรุปแล้ว HUAWEI FreeBuds SE 3 ก็ถือเป็นหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ที่จัดเต็มมาให้ทั้งดีไซน์ที่สวยหรูพรีเมี่ยมด้วยผิวสัมผัสหนัง โดดเด่นกว่า คุณภาพเสียงดี ไดรเวอร์ 10 มม.ใช้ Bluetooth 5.4 สัญญาณแน่น แบตเตอรี่อึดสะใจใช้งานได้สูงสุด 42 ชม.เลยด้วย และทั้งหมดนี้อยู่ในราคาเพียง 1,000 ต้น ๆ เรียกว่าคุ้มค่าเกินจริง ๆ ใครที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายที่ได้ทั้งสไตล์และการใช้งาน เราว่า HUAWEI FreeBuds SE 3 รุ่นนี้เหมาะมากจริง ๆ ครับ!
