Huawei Mate 20 Series สุดยอดสมาร์ทโฟนแห่งปีด้วย AI Chipset

หากพูดถึงสมาร์ทโฟนแห่งปี เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง Huawei Mate 20 Series เป็นรุ่นแรกๆ ในใจอย่างแน่นอน ด้วยความฉลาดของชิปเซ็ต AI ที่อยู่ใน Kirin 980 ทำให้สมาร์ทโฟนในซีรีส์นี้เป็นมากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราให้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้นและทำได้มากกว่าเดิมด้วย

เร็วแรง แซงทุกรุ่น

Huawei Mate 20, Mate 20 Pro และ Mate 20 X มาพร้อมกับชิพประมวลผล Kirin 980 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตรุ่นแรกที่มีสถาปัตยกรรมการผลิตที่ขนาด 7 นาโนเมตร ด้วยขนาดที่เล็กลงนี้เอง ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์ต่อพื้นที่บรรจุ 1 ตารางเซ็นติเมตรสูงกว่าชิปเซ็ตรุ่นก่อนถึง 1.6 เท่า ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีกว่า 20% โดยมีอัตราการใช้พลังงานที่ต่ำลงถึง 40% เมื่อเทียบกับชิปเซ็ตขนาด 10 นาโนเมตร

ด้านประสิทธิภาพในการทำงานของ Kirin 980 นั้นทำได้ดีขึ้นถึง 75% เมื่อเทียบกับ Kirin 970 ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกด้วยซีพียู Cortex-A76 ที่มีการแบ่งคอร์การทำงานออกเป็น 2 ระดับ คือ Dual-core 2.76GHz สำหรับการประมวลผลที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด และ Dual-core 1.92GHz สำหรับการใช้งานระดับกลางๆ แต่ถ้าเครื่องต้องการประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ก็จะเรียกใช้งานซีพียูทั้ง 8-core พร้อมกัน

ด้านการประมวลผลด้านกราฟิกดีขึ้นถึง 46% และประหยัดพลังงานได้มากถึง 178% เมื่อเทียบกับชิปเซ็ตรุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกอีกเช่นกันสำหรับ Mali-G76 GPU ที่ใส่มาในชิปเซ็ต Kirin 980 เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่เหนือชั้นกว่า และแม้ว่าตัวชิปจะมีความเร็วแรงแล้วก็ตาม Huawei ก็ยังพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับดึงความสามารถให้เต็มประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีกด้วย GPU Turbo

จากผลการทดสอบ Huawei Mate 20 X ของ GameBench Labs ได้รับยืนยันถึงความแรงในการเล่นเกม PUBG Mobile ในระดับ Ultra ทำความเร็วเฟรมเรตในการเล่นเกมนี้ได้นิ่งมากๆ ไม่ต่ำกว่า 54fps เลยตลอดการเล่น ทำให้ได้ภาพที่ลื่นไหล ไม่สะดุด ในขณะที่เรือธงของค่ายอื่นตกลงไปที่ 52fps

สำหรับการทดสอบด้วยเกม NBA 2K18 บน Huawei Mate 20 X ก็ทำเฟรมเรตได้ดีที่สุด 60fps และเกม Mobile Legends: Bang Bang ไม่เคยตกไปต่ำกว่า 59pfs เลยตลอดการเล่น จึงทำให้ได้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ได้รับคะแนนในระดับ Ultra ที่ช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าตัวเครื่องมีความเร็วแรงในการประมวลผลด้านกราฟิกที่สวยงามได้เหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้ทุกสิ่งรอบตัวคุณด้วย HiVision

นอกจากความเร็วแรงแล้ว Kirin 980 ยังมีความฉลาดด้วย Dual-NPU ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลด้าน AI แบบคู่ที่มีความฉลาดมากยิ่งขึ้น การทำงานที่ต้องใช้ความซับซ้อนในการประมวลผลก็จะทำได้รวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการจดจำรูปภาพได้ 4,500 ภาพต่อนาที ดีกว่าชิปเซ็ต Kirin 970 ถึง 120%

ความฉลาดในการทำงานของ AI ได้รับการพัฒนาได้ทำได้มากกว่าการรู้ฉากหรือสิ่งของที่กำลังถ่ายด้วยกล้อง ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า HiVision Technology ที่มีอยู่ในกล้องของ Huawei Mate 20 Series จะทำให้การค้นหาข้อมูลต่างๆ ทำได้ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสแกนรหัส การแปล บริการร้านค้า และการจดจำวัตถุสำหรับแสดงข้อมูลสถานที่สำคัญ งานศิลปะ และด้านสุขภาพในการแสดงแคลลอรี่อาหาร เป็นต้น

การใช้งานของ HiVision ทำได้ง่ายๆ เพียงเปิดกล้องแล้วเลือกไปที่ฟีเจอร์ HiVision ตัวกล้องก็จะให้เลือกว่าเราต้องการทำอะไร เช่น การจดจำวัตถุเพื่อระบุสิ่งที่กล้องกำลังจับภาพ อันนี้ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่เจ๋งมากๆ ถ้าเราอยากทราบว่าสถานที่สำคัญแห่ง งานศิลปะชิ้นนี้คืออะไร ระบบก็จะแสดงชื่อพร้อมกับลิงค์ไปยังข้อมูลเพิ่มเติมด้วย

ถ้าหันกล้องไปยังอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ เป็นต้น ระบบจะบอกชื่อของวัตถุและประมาณแคลลอรี่ได้ทันที ซึ่งขนาดของผลไม้แต่ละลูกหรือผักแต่ละขนาด ก็จะแสดงปริมาณแคลลอรี่ไม่เท่ากันด้วย ถือว่าเป็นประโยชน์มากๆ สำหรับใครที่รักสุขภาพ

หากต้องการหาข้อมูลสินค้าที่เรามีอยู่ในบ้านว่าราคาเท่าไหร่ มีขายที่ไหนบ้าง ก็ให้เลือกไปไอคอนร้านค้า เพียงหันกล้องไปที่สินค้าที่เรามีอยู่ เพียงเท่านี้ระบบก็จะทำการแสดงรายการสินค้านั้นๆ รวมไปถึงสินค้าที่คล้ายกันด้วย พร้อมกับช่องทางในการซื้อ เป็นต้น เรียกได้ว่าหาสินค้าที่ตรงกับความต้องการได้อย่างแม่นยำมากกว่าการค้นหาด้วยข้อความที่อาจไม่ตรงกับสิ่งที่เรากำลังมองหา หากสินค้านั้นๆ เราไม่รู้จักชื่อเรียกของมัน

กล้องฉลาด ถ่ายสวยทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

Huawei Mate 20 Pro และ Mate 20 X เหนือชั้นกว่าด้วยกล้องหลังดีไซน์ใหม่ Leica Matrix Camera System ประกอบด้วย 3 เลนส์ต่างชนิดกัน ได้แก่ 40 ล้านพิกเซล f/1.8 (Wide) + 20 ล้านพิกเซล f/2.2 (Ultra Wide) และ 8 ล้านพิกเซล f/2.4 (Telephoto) พร้อมแฟลช Dual LED

หลายคนอาจสงสัยว่าการเพิ่มเลนส์ Ultra Wide ขนาด 16mm จาก Leica จะช่วยให้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ถ่ายภาพได้ดีขึ้นได้อย่างไร ซึ่งความสามารถของเลนส์ตัวนี้นอกจากใช้ถ่ายภาพมุมกว้างแล้ว ยังสามารถถ่ายภาพวัตถุที่มีระยะใกล้กับเลนส์กล้องถึง 2.5 เซนติเมตรได้ด้วย และฟีเจอร์นี้่เองที่ทำได้ Mate 20 Pro และ Mate 20 X ถ่ายภาพในระยะใกล้แบบมาโครที่สวยคมชัดได้เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ

การถ่ายภาพมุมกว้างและระยะใกล้ได้แล้ว ก็ยังเหลือระยะไกล ซึ่งทาง Huawei ก็ได้ใส่เลนส์เทเลความละเอียด 8 ล้านพิกเซลมาให้ ตัวเลนส์นี้สามารถซูมแบบออพติคอลที่เป็นการใช้ตัวฮาร์ดแวร์ของเลนส์ในการซูมทำได้ไกลมากขึ้นถึง 5 เท่า โดยที่รายละเอียดของภาพยังคงชัดเจน ภาพไม่แตก ส่วนหนึ่งก็มาจากระบบกันสั่น OIS และเทคโนโลยี AI ที่ช่วยล็อคตำแหน่งของภาพไม่ให้เกิดการสั่นแกว่งนั่นเอง

หากมองระยะของเลนส์มุมกว้างที่ถ่ายภาพมาโครได้ และเลนส์ซูมที่ใส่มาให้ ก็จะทำให้สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้สามารถ่ายภาพในระยะเทียบเท่าเลนส์ 16-270mm

กล้องหลังของ Huawei Mate 20 Series ทั้ง 3 รุ่นยังมีโหมดกลางคืนที่ใช้หลักการถ่ายภาพหลายๆ เฟรมในทุกสภาพแสงแล้วนำมาประมวลผลเป็นภาพเดียวกัน โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ซึ่งเป็นการใช่ความสามารถของตัวกันสั่นแบบ OIS และยังมี AI ที่สามารถล็อคตำแหน่งของที่กำลังถ่ายได้ตรงกันทุกเฟรมได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้สามารถเก็บภาพกลางคืนได้ง่ายมากขึ้นในทุกๆ ที่ได้ตามต้องการ ไม่แบกขาตั้งกล้องติดตัวให้เกะกะอีกต่อไปแล้ว

เมื่อมีฮาร์ดแวร์กล้องที่ดีแล้ว ซอฟต์แวร์ที่ดีก็สำคัญเช่นเดียวกัน โดยใน Mate 20 Series มี AI Portrait Color สำหรับการถ่ายวิดีโอ โดย AI สามารถตรวจจับว่าจุดใดคือมนุษย์และปรับแต่งแสงเพื่อไฮไลท์บุคคลนั้นๆ ให้เป็นภาพสี แล้วปรับฉากและวัตถุอื่นๆ เป็นโทนสีขาวดำ นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ AI Spotlight Reel สำหรับตรวจจับคลิปที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันและสร้างคลิปไฮไลท์สั้นๆ ให้โดยอัตโนมัติได้

สำหรับใครที่ชอบถ่ายคลิปหรือหนังสั้น Huawei Mate 20 Series สามารถบันทึกวิดีโอได้เหมือนภาพยนตร์โดยใช้สัดส่วนภาพ 21:9 พร้อมกับฟังก์ชั่น HDR ในการช่วยสร้างวิดีโอที่สวยสมจริงและมีความคมชัดได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องไปนั่งปรับแต่งแต่งหรือใส่ฟิลเตอร์ให้ยุ่งยาก ทั้งหมดนี้ทำได้ครบแล้วจบในเครื่องเดียวจริงๆ

แบตเยอะ ชาร์จไว ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี Wireless Reverse Charging

ด้านแบตเตอรี่และเทคโนโลยีชาร์จไฟ Huawei Mate 20 Pro มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4200mAh และรองรับเทคโนโลยีการชาร์จไวใหม่ล่าสุด SuperCharge ด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 40W โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 30 นาที ได้แบตถึง 70% ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากๆ ไม่ต้องเสียเวลารอนาน

สำหรับการชาร์จไร้สายของ Huawei Mate 20 Pro ก็สามารถชาร์จไวได้ด้วยกำลังไฟสูงสุด 15W ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายไม่ต้องหาสายชาร์จ และปลอดภัยภายใต้การรับรองจาก TÜV Rheinland

ไม่เพียงแต่มีแบตใหญ่ ชาร์จเร็วเท่านั้น ยังเป็นครั้งแรกด้วยที่ Huawei Mate 20 Pro มีเทคโนโลยี Wireless Reverse Charging ระบบชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นแบบไร้สาย ช่วยให้ผู้ใช้แบ่งปันพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไปยังอุปกรณ์อื่นที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายได้ เพียงนำรุ่นที่ต้องการชาร์จไฟมาวางประกบด้านหลังเครื่อง Mate 20 Pro และรุ่นที่นำมาชาร์จต้องรองรับการชาร์จไร้สายด้วย

สำหรับในรุ่น Huawei Mate 20 มีแบตเตอรี่ขนาด 4000mAh และ Mate 20 X มีแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว SuperCharge 22.5W ซึ่งก็ถือว่าเร็วมากๆ เช่นเดียวกัน โดยต้องใช้อะแดปเตอร์และสายชาร์จของแท้ที่มาในกล่องจาก Huawei เท่านั้นด้วยนะ จึงจะชาร์จไฟได้ปลอดภัยและเต็มประสิทธิภาพ

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ Huawei Mate 20 Series กับความเร็วแรงของชิปเซ็ต Kirin 980 ที่อัจฉริยะมากขึ้นกว่าเดิมด้วย AI มาพร้อมกล้องถ่ายรูปที่ทำงานได้อย่างดีเยี่ยมด้วยฮาร์ดแวร์ที่มีคุณภาพและซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่อึดซึ่งเป็นจุดเด่นของสมาร์ทโฟน Huawei และรองรับการชาร์จไฟที่เร็วที่สุดด้วย Huawei SuperCharge กำลังไฟสูงสุด 40W ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนในยุคนี้ของจริงๆ ซึ่งศักยภาพของตัวเครื่องเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันว่า Huawei Mate 20 Series เป็นสมาร์ทโฟนแห่งปีนี้เลยก็ว่าได้