ก้าวข้ามขีดจำกัดของกล้องสมาร์ทโฟน เล่าเรื่องราวด้วยภาพกับ HUAWEI Mate 30 Pro

ก้าวข้ามขีดจำกัดของกล้องสมาร์ทโฟน สร้างนิยามใหม่ของโลกแห่งการเล่าเรื่องราวด้วยภาพกับ HUAWEI Mate 30 Pro ที่ให้ทุกคนเป็นผู้กำกับชีวิตของตัวเอง

“เป็นคนชอบเก็บภาพเคลื่อนไหว… ชอบการตกหลุมรัก… มันทำให้โลกขยับตัวช้าๆ ให้เราได้หายใจ …ชอบความโรแมนติก ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น… ดีที่โลกนี้มีอะไรช่วยเก็บบันทึกทุกอย่างเอาไว้ได้…..”

คำโปรยของนักแสดงและผู้กำกับมากความสามารถ “โดนัท – มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล” ที่นำ HUAWEI Mate 30 Pro บินลัดฟ้าไปเป็นผู้ช่วยบันทึกโมเมนต์พิเศษที่เกิดขึ้น ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร และถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพเคลื่อนไหว “A Memorable moment” ซึ่งมีทั้งความโรแมนติกและน่าสนใจ นับเป็นอีกหนึ่งโปรเจคต์พิเศษที่ใช้สมาร์ทโฟนในการสร้างสรรค์และถ่อยทอดพลังของภาพได้อย่างน่าทึ่ง

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา การพัฒนานวัตกรรมกล้องในสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยไม่เคยหยุดนิ่ง ด้วยความเชื่ออย่างสุดหัวใจว่า เพียงหนึ่งภาพสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้มากมายกว่าคำพูดนับพัน สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงอย่าง HUAWEI Mate 30 Pro จึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่กล้องที่ถ่ายภาพได้ดีที่สุด แต่ยังได้สร้างนิยามใหม่ให้กับการถ่ายภาพวีดีโอ ที่จะทำให้ทุกคนสามารถเป็นผู้กำกับเรื่องราวในชีวิตของตัวเองได้เช่นกัน

เมื่อต้นปีนี้ หัวเว่ยเปิดตัวสมาร์ทโฟน P Series ที่ได้ชื่อว่ามีกล้องที่ดีที่สุดในโลก แต่สำหรับปลายปีนี้ เราได้เห็นพัฒนาการที่สำคัญในระบบกล้องของ HUAWEI Mate 30 Pro ซึ่งหัวเว่ยได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของสมาร์ทโฟนไปอีกขั้น โดยเฉพาะความสามารถของกล้องหลัง 4 ตัวที่จัดวางอยู่ใน Futuristic Halo ring Design (วงแหวนฮาโล) อย่างลงตัว รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่เติมเต็มยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ
มืออาชีพ

HUAWEI Mate 30 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในโลกที่มีกล้อง Dual Main Camera ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล จึงเป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอคุณภาพสูง โดยประกอบไปด้วย Cine Camera ซึ่งเป็นกล้องที่มีความละเอียดสูงถึง 40 ล้านพิกเซล และมีเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.54 นิ้ว ในมุมมองที่กว้างพิเศษด้วยทางยาวโฟกัสเทียบเท่าเลนส์ 18 มม. ให้สัดส่วนภาพที่ 3:2 ที่ลงตัวสวยงามเช่นเดียวกับกล้อง DSLR แบบฟูลเฟรม กล้อง Cine Camera สามารถถ่ายวีดีโอแบบ HDR ความละเอียด 4K ซึ่งมีความละเอียดสูงกว่าวีดีโอแบบ Full HD ถึง 4 เท่า พร้อมด้วยช่วงการเก็บแสงที่กว้างเป็นพิเศษ
เมื่อรองรับด้วย เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.54 นิ้ว จึงสามารถถ่ายวีดีโอด้วยช่วงการรับแสงที่กว้างยิ่งขึ้นและยังคงเก็บรายละเอียดต่างๆ ไว้ได้ทั้งหมด ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถผลิตผลงานวีดีโอคุณภาพสูงเทียบเท่าภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ ที่พร้อมเก็บช่วงเวลาที่แสนวิเศษไว้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและชัดเจนในความทรงจำอยู่เสมอ

และเมื่อเวลาถูกชะลอความเร็วลง 256 เท่า โลกของสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อาทิ สายฟ้าที่ฟาดแบ่งท้องฟ้าออกเป็นซีก หรือผงสีที่ถูกสาดให้ปะทะกันกลางอากาศ ช่วงเวลาเหล่านี้เคยเป็นสิ่งที่ต้องใช้กล้องความเร็วสูงระดับมืออาชีพเท่านั้นจึงจะจับภาพเอาไว้ได้ แต่สำหรับกล้อง Cine Camera ที่โดดเด่นด้วยความสามารถในการถ่ายวีดีโอแบบสโลว์โมชั่นที่อัตรา 960 เฟรม
ต่อวินาทีไปจนถึงวีดีโอแบบอัลตร้าสโลว์โมชั่นที่อัตรา 7,680 เฟรมต่อวินาที ซึ่งเป็นผลจากความสามารถในการจัดการและระบบประมวลผลสัญญาณภาพที่พัฒนาขึ้นของชิปเซ็ต HUAWEI Kirin 990 พร้อมด้วย System Gallery ที่เพิ่มคุณสมบัติการแก้ไขภาพเพื่อสร้างวีดีโอแบบอัลตร้าสโลว์โมชั่น ทั้งยังทำให้ผู้ใช้สามารถตัดคลิปวีดีโอและแชร์ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

กล้อง Cine Camera ใน HUAWEI Mate 30 Pro ยังให้คุณภาพความละเอียด Ultra HD ระดับ 4K ที่สามารถเลือกช่วงเวลาและอัตราในการถ่ายได้ จึงสามารถบันทึกภาพวีดีโอแบบไทม์แลปส์ได้ อาทิ ดอกไม้กำลังผลิบาน การจราจรที่หนาแน่น หรือแม้แต่ทางช้างเผือกหรือกลุ่มดาวที่กำลังเคลื่อนตัว ด้วยการถ่ายวีดีโอแบบอัลตร้าไวด์ไทม์แลปส์ความละเอียด 4K ได้แม้ในสภาพแสงน้อย

และกล้องหลักอีกตัวหนึ่งคือ SuperSensing Camera ด้วยความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่พิเศษ 1/1.7 นิ้วโดยใช้ฟิลเตอร์ RYYB เพื่อนำพิกเซลสีเหลืองมาแทนที่พิกเซลสีเขียว ซึ่งพิกเซลสีเหลืองจะสามารถลอดผ่านทั้งแสงสีแดงและแสงสีเขียวได้ในเวลาเดียวกัน จึงเพิ่มปริมาณแสงในระดับพิกเซลขึ้นอีกถึง 40% ส่งผลให้ HUAWEI Mate 30 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดด้วยค่าความไวแสงที่สูงที่สุดในโลก นอกจากนี้ หัวเว่ยยังใส่ ระบบ Dual OIS Stabilization ซึ่งมีความสามารถที่เป็นเลิศในเรื่องการลดการสั่นไหวของภาพด้วยระบบลดการสั่นไหวของภาพที่ตัวเลนส์ (โดยมอเตอร์ลดการสั่นไหวจะทำงานร่วมกับไจโรสโคปและเซ็นเซอร์วัดความเร่งเพื่อคำนวนการขยับตัวของอุปกรณ์และลดการสั่นไหว) ตลอดจนเพิ่มความเสถียรและโอกาสที่จะได้ภาพที่คมชัดสดใสไม่พร่ามัว ไม่ว่า
จะเป็นการช็อตที่เปิดหน้ากล้องนานๆ หรือภาพแคนดิด โดย OIS จะทำงานร่วมกับและ AIS (AI Stabilization) เพื่อภาพถ่ายและวีดีโอที่สวยสมบูรณ์แบบ

นอกจาก Dual Main Camera แล้ว ใน Futuristic Halo ring Design (วงแหวนฮาโล) ยังประกอบด้วย กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยกล้องเทเลโฟโต้นี้สามารถซูมแบบออพติคอลได้ 3 เท่าและรองรับระบบ OIS ซึ่งทำหน้าที่ลดการสั่นไหวของภาพที่ตัวเลนส์ จึงไม่เพียงให้ผลในการซูมที่ดีที่สุดเช่นเดียวกับกล้องถ่ายภาพปกติ แต่ยังสามารถซูมแบบไฮบริดได้ถึง 5 เท่าและซูมแบบดิจิทัลได้ถึง 30 เท่า โดยการผสมผสานข้อมูลภาพที่ถ่ายด้วยกล้อง SuperSensing Camera และกล้อง Telephoto เข้าด้วยกัน ทำให้สิ่งที่อยู่ไกลแสนไกลกลับรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้จนจับต้องได้ และสุดท้ายสำหรับ กล้อง 3D Depth Sensing Camera ที่มีความสามารถในการแยกตัวแบบออกจากฉากหลัง เพื่อถ่ายภาพที่พื้นหลังเป็นโบเก้ได้อย่างสวยงามแบบมือโปร แต่ยังคงรายละเอียดของแบบไว้ได้อย่างน่าทึ่ง พร้อมเอฟเฟ็คท์โบเก้แบบเรียลไทม์ที่จะช่วยเบลอฉากหลังและขับจุดโฟกัสให้ดูโดดเด่นขึ้น

การผสานชิ้นเลนส์หลายชิ้นเข้าด้วยกันอย่างทรงพลัง ส่งผลให้ HUAWEI Mate 30 Pro ครอบคลุมโฟกัสที่เทียบเท่ากับระยะ 18 จนถึง 80 มม. ผู้ใช้งานจึงสามารถเดินทางเพื่อท่องเที่ยวถ่ายภาพไปทั่วโลก
ได้ด้วยอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว

ผู้ใช้งาน HUAWEI Mate 30 Pro สามารถสร้างโปรดักชั่นสตูดิโอระดับมืออาชีพได้ด้วยตนเอง เพราะนอกจากระบบกล้องที่พัฒนานวัตกรรมจนได้รับการยอมรับจากทั่วโลกแล้ว HUAWEI Mate 30 Pro
ยังสร้างพื้นที่ ที่เปิดกว้างให้พันธมิตรด้านอุปกรณ์เสริมและซอฟท์แวร์ ได้ร่วมสร้างสรรค์อีโคซิสเต็มของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนอันทรงพลัง โดยสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ลดการสั่นไหวตลอดจนอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อาทิ การจับมือกับ DJI OSMO Mobile 3 เพื่อครีเอทการเชื่อมต่อใหม่ที่แข็งแกร่งตั้งแต่โครงสร้างสถาปัตยกรรม HUAWEI Mate 30 Pro จึงเปรียบดังสตูดิโอที่พกติดตัวไปได้ทุกที่ เพื่อผู้ใช้จะสามารถสร้างและแก้ไขวีดีโอหลังการถ่ายได้ทั้งหมดในสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ไม่ว่าเมื่อไร ที่ไหน ก็เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สามารถรับชมผลงานการสร้างสรรค์วิดีโอจาก HUAWEI Mate 30 Pro โดย โดนัท – มนัสนันท์
เรื่อง “A Memorable Moment” ได้ที่

https://www.youtube.com/watch?v=fMoHafSePLk