Android News
เปิดตัว Huawei Mate 30 Series ชูโรงด้วยขุมพลัง Kirin 990, กล้องหลัง 4 เลนส์สุดทรงพลัง
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Huawei Mate 30 Series ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ Huawei Mate 30 และ 30 Pro ที่ชูโรงด้วยหน้าจอแสดงผล Huawei Horizon Display โค้งไปถึงข้างตัวเครื่อง และขุมพลังสุดแรงอย่าง Kirin 990 และกล้องหลังที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
เริ่มด้วย Huawei Mate 30 Pro โดยด้านหลังจะเป็นดีไซน์ในนาม Halo Ring Design มีความจับถือได้สะดวก และตัวเครื่องก็ยังคงมีขนาดไม่ใหญ่เกินไปด้วย แถมยังรองรับระบบระบายความร้อนด้วยเทคโนโลยี Graphene
Huawei Mate 30 / Mate 30 Pro มี 4 สีให้เลือกเหมือนกัน ได้แก่ Space Silver, Emerald Green, Cosmic Purple และสีดำ โดยยังมีดีไซน์หนังพิเศษอีก 2 สี ได้แก่ สีเขียว Vegan Leather Forest Green และ Vegan Leather Orange
บริเวณหน้าจอก็ใช้หน้าจอแบบ Huawei Horizon Display ที่มีความโค้งมากถึง 88 องศา ชนิด Flex OLED ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1176 พิกเซล อัตราส่วน 18.4:9 รองรับ M-Pen สามารถเปล่งเสียงออกมาจากหน้าจอแสดงผลเหมือน P30 Pro ทั้งยังใช้ระบบสัมผัสข้างตัวเครื่องในข้างหน้าจอเพื่อเพิ่ม-ลดเสียง หรือปุ่มในการเซลฟี่ได้ด้วย ขณะที่ในรอยบากมีเซ็นเซอร์ Gesture, กล้อง Depth, กล้องเซลฟี่ และเซ็นเซอร์แสงต่างๆ
ด้านหน้าจอแสดงผลยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และสามารถสแกนใบหน้า 3 มิติได้ด้วยกล้อง Depth ทั้งยังสามารถควบคุมด้วยมือโดยไม่ต้องแตะได้ด้วย Air Gesture
ภายในขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Kirin 990 Octa-core ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น 23% และเร็วขึ้น 23% เช่นกัน ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อ 5G ได้หลากหลายคลื่นมากขึ้น รวมไปถึงความเร็วในการใช้งาน 5G ที่เร็วกว่า 4G ถึง 25 เท่า ทั้งนี้ ตัวของ Huawei Mate 30 Pro สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ช่อง โดยช่องที่ 2 จะเป็น Hybrid ให้เลือกซิมที่ 2 หรือ NM Card
Mate 30 Pro มาพร้อม RAM 8GB, ROM 128/256GB พร้อมความจุแบตเตอรี่ 4,500 mAh สามารถใช้งานได้สูงสุด 9.2 ชั่วโมงในการเชื่อมต่อ 5G รองรับ SuperCharge 40W, Wireless SuperCharge ถึง 27W และ Reverse Charging เร็วกว่าเดิม 3 เท่า
เรื่องกล้องกันบ้าง Huawei Mate 30 Pro มาพร้อมกล้องที่ร่วมผลิตกับ Leica 4 เลนส์ แบ่งเป็น
- กล้องหลัก SuperSensing ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6 มี OIS
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับการซูมสุงสุด 45 เท่า
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับ OIS
- เลนส์ 3D Depth
สามารถถ่าย Macro ได้ใกล้สุด 2.5 เซนติเมตร และรองรับ ISO สูงสุด 409,600 ส่วนกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
Huawei Mate 30 Pro เป็นรุ่นแรกของโลกที่สามารถถ่ายวิดีโอด้วยเลนส์แยกความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps, ISO 51200, มีโหมด Ultra Slow motion สูงถึง 7,680fps, โบเก้แบบเรียลไทม์ และมีระบบกันสั่นไหว OIS + AIS อีกด้วย
ส่วน Huawei Mate 30 มาพร้อมหน้าจอแบนไม่มีโค้งแต่มีรอยบากขนาดเล็ก โดยใช้หน้าจอชนิด Rigid OLED ขนาด 6.62 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Kirin 990 Octa-Core, RAM 6/8GB, ROM 128GB สามารถเพิ่มความจุด้วย NM Card ได้ และมีแบตเตอรี่ 4,200 mAh โดยความเร็วในชาร์จจะเหมือนกับ Mate 30 Pro ทั้งหมด
Huawei Mate 30 มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์เช่นกัน ได้แก่
- กล้องหลัก SuperSensing ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 รองรับการซูมสุงสุด 45 เท่า
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับ OIS
- เลนส์ Laser Focus
สามารถถ่าย Macro ได้ใกล้สุด 2.5 เซนติเมตร และรองรับ ISO สูงสุด 204,800 และกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 24 ล้านพิกเซล
นอกจากนี้ ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย EMUI 10 หน้าตา UI ที่เรียบง่ายขึ้น, สีสันเพิ่มขึ้น, มี Dark Mode ที่ดำมากยิ่งขึ้น, มี Always-on Display แบบใหม่ที่ปรับได้หลายรูปแบบ ทั้งยังมีฟีเจอร์ AI Auto Rotate ที่จะหมุนภาพบนจอตามสายตาของเราทันที และที่สำคัญคือ ไม่รองรับบริการ Google ทั้งหมดยกเว้น Android โดยจะใช้ Huawei AppGallery แทน
ด้านราคา Huawei Mate 30 สนนราคาที่ 799 ยูโร หรือประมาณ 27,000 บาท ส่วน Huawei Mate 30 Pro สนนราคาที่ 1,099 ยูโร หรือประมาณ 37,000 บาท และ Huawei Mate 30 Pro 5G มีราคาอยู่ที่ 1,199 ยูโร หรือประมาณ 40,000 บาท