รีวิว HUAWEI MatePad 11.5″ แท็บเล็ตสุดคุ้มรุ่นใหม่ที่มาพร้อมสเปคครบเครื่อง ทั้งหน้าจอ FullView Display ขนาดใหญ่ 11.5″ 120Hz, ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 1 (4nm), แบตเตอรี่เยอะ 7700mAh, ลำโพง 4 ตัวบันเทิงจัดเต็ม, รองรับ M-Pencil รุ่นที่ 2 อีกทั้งยังมีงานประกอบ Unibody สุดพรีเมี่ยมอีกต่างหาก สเปคที่ให้มาทั้งหมดนี้ เปิดราคามาไม่ถึง 10,000 บาทครับ! น่าสนใจขึ้นมาแล้วล่ะสิ
และหลังจากที่เราลองใช้งานจริงกว่า 1 สัปดาห์ก็จะมารีวิวให้ชมกันว่ามีจุดที่เราประทับใจและคิดว่ายังควรปรับปรุงอยู่บ้างไหม พร้อมแล้วมาติดตาม รีวิว HUAWEI MatePad 11.5″ กันเลยครับ!
สรุปสเปค HUAWEI MatePad 11.5″
- หน้าจอ : IPS LCD ขนาด 11.5”
- ความละเอียด : 2200 x 1440 พิกเซล อัตราส่วน 3:2
- Refresh rate : 120Hz
- CPU : Snapdragon 7 Gen 1 (4nm)
- GPU : Adreno 644
- RAM : 6GB
- ROM : 128GB
- แบตเตอรี่ : 7700mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 22.5W HUAWEI SuperCharge
- กล้องหน้า : 8MP
- กล้องหลัง : 13MP กล้องหลัก f/1.8
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2.4G/5G – Wi-Fi 2×2 MIMO
- ลำโพง : 4 ตัว Stereo Speaker
- ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 3.1
- ขนาดตัวเครื่อง : 176.82 x 260.88 x 6.85 มม.
- น้ำหนัก : 499 กรัม
หน้าจอใหญ่เต็มตา 11.5″ FullView Display
เริ่มต้นเรามาชมดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเนาะ HUAWEI MatePad 11.5″ ก็มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาดใหญ่ 11.5″ ตามชื่อรุ่น แสดงผลได้เต็มพื้นที่หน้าจอไปได้มากถึง 86% เราจะเห็นว่าขอบจอสีดำนั้นมีพื้นที่เหลืออยู่นิดเดียวเท่านั้น จึงเป็นที่มาของชื่อ FullView Display นั่นเองครับ
การออกแบบของหน้าจอก็เน้นการทำงานในแนวนอนเป็นหลักแบบที่ยุคนี้เริ่มปรับกัน สังเกตจากตำแหน่งกล้องหน้าที่ย้ายมาเหนือหน้าจอแนวนอน เวลาจะตั้งถ่ายวิดีโอหรือ Video Call ก็ลงตัวขึ้น สายตาไม่มองไปมุมซ้ายหรือขวาแล้ว
ในเรื่องการแสดงผล HUAWEI MatePad 11.5″ ก็ทำได้ดีมาก ได้ความละเอียดสูงถึง 2200 x 1440 พิกเซล คมชัดเพียงพอสำหรับการดูหนัง ดูซีรีส์ หรือภาพถ่ายความละเอียดสูง และยังมาพร้อมการป้องกันการเมื่อยล้าจากแสงสีฟ้าที่การันตีโดย TÜV Rheinland ให้เราสามารถใช้งานดูคอนเทนต์ได้ต่อเนื่อง ไม่แสบตา
อัตราส่วนหน้าจอก็เป็น 3:2 เหมาะกับการทำงานเอกสารหรือแบ่งหน้าจอมากขึ้นด้วย ส่วนการตอบสนองหน้าจอก็ได้ Refresh rate 120Hz ช่วยให้เราแตะ เลื่อน หน้าจอได้แบบติดนิ้วเอามาก ๆ
ดีไซน์ Unibody งานประกอบยอดเยี่ยมตามสไตล์ HUAWEI
พลิกมาดูรอบ ๆ ตัวเครื่องกันบ้าง HUAWEI MatePad 11.5″ จะใช้ดีไซน์หรูหราแบบ Metal Unibody อย่างที่บอกไป งานประกอบถือว่าทำได้แน่นหนาและดูดีตามมาตรฐานของ HUAWEI กรอบเครื่องก็เป็นแบบเหลี่ยมที่ดูทันสมัย มาพร้อมความบางและน้ำหนักที่กำลังดี
ความบางของ HUAWEI MatePad 11.5″ จะอยู่ที่ 6.85 มม.และหนักแค่ 499 กรัม ถือใช้งานได้เป็นอย่างดี รวมถึงพกติดกระเป๋าไปใช้งานนอกสถานที่ก็ไม่เป็นภาระกระเป๋าจนเกินไปครับ ด้วยขนาดและน้ำหนักแบบนี้
ส่วนกล้องหลังก็จะให้มาตัวเดียว มีความนูนออกจากตัวเครื่องเล็กน้อยวางอยู่บนฐานกล้องวงรีที่เพิ่มความน่าสนใจให้ดีไซน์ขึ้นอีกพร้อมระบุเลขสเปคว่า 13MP Camera ด้วยครับ
ตำแหน่งปุ่มกดที่วางไว้ดีทั้งการใช้งานแนวตั้งแนวนอน
ตำแหน่งปุ่มกดของรุ่นนี้ก็วางตำแหน่งได้ดีเลยครับ วางปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงไว้ที่ด้านขวามือของตัวเครื่องเมื่อใช้งานแนวตั้ง และจะอยู่ด้านบนถ้าเราใช้งานในแนวนอน พลิกไป-มาก็ใช้งานได้สะดวก ไม่สับสนครับ
ด้านบนตัวเครื่องจะมีช่องลำโพงขนาดใหญ่ 2 ชุด และปุ่ม Power ที่แตะกดได้ง่ายเหมือนกัน
ส่วนด้านล่างก็จะมีลำโพงอีก 2 ชุดรวมกันเป็นลำโพง Stereo บน-ล่าง หรือ ซ้าย-ขวาได้เลย ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อของรุ่นนี้ก็จะเป็น USB-C อยู่ตรงกลางเด่น ๆ นั่นแหละครับ
ลำโพง 4 ตัวเสียง Stereo พร้อมระบบ Histen 8.0
อย่างที่เห็นลำโพงของ HUAWEI MatePad 11.5″ ให้มาด้วยกัน 4 ตัว วางตำแหน่งได้ดีสมมาตรทั้งซ้าย-ขวาในการใช้งานแนวนอนหรือบน-ล่างในการใช้งานแนวตั้ง มอบมิติเสียงที่ยอดเยี่ยม แถม HUAWEI ยังเพิ่มระบบเสียง Histen 8.0 รองรบัการปรับจูนเพิ่มเสียงเบสและปรับย่านสนามเสียงที่ดีขึ้น
อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี AI ตัดเสียงรบกวนจดจำและเรียนรู้ ช่วยให้สามารถตัดเสียงรบกวนและครอบคลุมเสียงมากกว่า 200 ประเภท อาทิ ตัดเสียงรบกวนในห้องประชุม, บ้าน, ในรถยนต์, กลางแจ้ง รวมถึงการตัดเสียงที่ไม่ใช่เสียงพูดได้อย่างแม่นยำ ใครที่ต้องประชุมออนไลน์บ่อย ๆ ก็หายห่วงได้เลยครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ HUAWEI MatePad 11.5″ ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียวครับ ทั้งงานประกอบแบบ Metal Unibody ที่ได้ทั้งความหรูหราและแข็งแรง ทรงเครื่องแบบเหลี่ยมตามสมัยนิยม หน้าจอขนาดใหญ่ 11.5″ แสดงผลได้เต็มตาใช้พื้นที่ได้ดี หรือจะเป็นลำโพง 4 ตัวที่ให้มาเพิ่มมิติเสียง ขนาดที่พกพาได้สะดวกกับความบาง 6.85 มม. และน้ำหนัก 499 กรัมเท่านั้น
ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1 เวอร์ชั่นล่าสุด!
มาต่อในเรื่องซอฟต์แวร์ HUAWEI MatePad 11.5″ มาพร้อมระบบ HarmonyOS 3.1 เวอร์ชั่นล่าสุด การใช้งานยังลื่นไหลและ UI ปรับแต่งมาได้ยอดเยี่ยมเข้ากับความเป็นแท็บเล็ตเหมือนเคย เน้นไปที่สีสันที่หลากหลายของไอคอน มี Wallpaper สวย ๆ ที่เข้ากับตัวเครื่อง และด้วยความเป็นแท็บเล็ตก็จะมี Dock ที่ด้านล่างเพื่อจัดเรียงแอปที่ใช้บ่อย ๆ และแถบที่แสดงแอปที่ใช้งานล่าสุดด้วย
ตัวไอคอนแอปเรายังสามารถเลื่อนขึ้นเพื่อขยายเป็น Widget ได้เหมือนเดิม ซึ่งบน HarmonyOS 3.0 ก็จะมี Widget แนวนี้มากขึ้น ทั้งแบบ 1×1, 2×2, 4×1, 4×2 ขึ้นอยู่กับแอปที่รองรับเลยครับ
แบ่งจอได้หลากหลาย ใช้งานหน้าจอใหญ่ได้คุ้มค่า
อีกหนึ่งจุดที่ HUAWEI พยายามพัฒนามาอย่างต่อเนื่องบน HarmonyOS 3.1 เวอร์ชั่นแท็บเล็ตก็คือระบบ Multi-tasking การแบ่งหน้าจอใช้งานหลาย ๆ แอปพร้อมกัน รอบนี้ก็ปรับให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นเปิดแอปใดแอปหนึ่งอยู่แล้วอยากใช้งานคู่กับอีกแอปก็เลื่อนหน้าจอไปที่มุมซ้ายบนได้เลยแอปหลักจะพับไปที่มุมและให้เราเลือกแอปต่อไปใช้งานได้ทันที ขยายเต็ม 2 หน้าต่างแล้วจะเลื่อนปรับขนาดทีหลังก็ได้อีกด้วย
ใช้งานผ่าน HUAWEI Mobile Services
ด้วยความเป็น HarmonyOS การทำงานต่าง ๆ รวมถึงบริการก็ใช้ HMS (HUAWEI Mobile Services) อย่างที่ทราบ เราสามารถดาวน์โหลดแอปผ่าน HUAWEI AppGallery ได้ ดาวน์โหลดไฟล์ APK มาติดตั้งเองผ่าน Petal Search ก็ได้เช่นกัน ซึ่งมาถึงตรงนี้ทั้งแอปบน AppGallery เองหรือเราจะหามาติดตั้งเองจากช่องทางอื่น ๆ ก็ทำได้ง่ายและลงตัวขึ้นเยอะแล้วจริง ๆ ครับ
หรือใครที่ต้องการใช้งานแอปจากทาง Google จริง ๆ ก็มีทางเลือกด้วยแอป GBox ที่ให้เราสามารถโหลดแอปอย่าง YouTube, Google Drive, Photos, Maps ผ่าน HUAWEI AppGallery ได้โดยตรง แม้การใช้งานจะเสียเวลาโหลดตอนเข้าแอปนิดหน่อย แต่ก็ใช้งานได้ครบถ้วน ไม่ติดขัดครับ ใครที่สมัคร YouTube Premium ไว้ก็ใช้งานได้ด้วย จะมีจุดสังเกตอยู่บ้างคือแอปอย่าง Gmail หรือ Chrome นั้นยังไม่รองรับนะครับ
ประสบการณ์การทำงานระดับ PC!
แท็บเล็ตยุคนี้ถ้าจะให้ทำงานได้เต็มรูปแบบมากขึ้น อุปกรณ์เสริมก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง HUAWEI MatePad 11.5″ นี้มีมาครบครับทั้ง Smart Magnetic Keyboard เคสคีย์บอร์ดที่ให้เราเปลี่ยนร่าง HUAWEI MatePad 11.5″ เป็นแล็ปท็อปย่อม ๆ ได้เลย ตัวเคสจะประกบเข้ากับตัวเครื่องผ่านแม่เหล็กและ POGO PIN ที่ติดหนึบ
ตัวปุ่มกดกดได้ง่าย เว้นระยะได้ดีและมีความ Clicky ดีมาก ให้ความรู้สึกเหมือนพิมพ์บนแล็ปท็อป ทำให้เราใช้งานพิมพ์งานนาน ๆ ได้แบบไม่ฝืน
แถมตัวเคสยังแบ่งเป็น 2 ส่วนคือเคสพร้อมขาตั้งที่ให้เราสวมตัว MatePad 11.5″ ลงไปได้พอดี ปกป้องได้เยอะตัวเคสกันกระแทกได้ในทุกมุม อีกทั้งเรายังสามารถแยกเอาตัวคีย์บอร์ดออกมาจากเคสเพื่อใช้งานแยกกันได้ด้วย
และพอรวมร่างกันแบบนี้การทำงานก็ลงตัวขึ้นมอบประสบการณ์แบบ PC-like ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์งานที่มีคีย์บอร์ดพร้อม การแบ่งหน้าจอใช้งานหลายแอปพร้อมกัน หรือจะเป็นแอปอย่าง WPS Office ที่มีติดมาให้ในเครื่องก็ใช้งานได้เต็มรูปแบบไม่แพ้บนแล็ปท็อปเลยด้วยครับ
M-Pencil รุ่นที่ 2 ปากกา Stylus ตัวเดียวกับรุ่น Pro
และอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ทำงานได้คล่องตัวและจริงจังมากขึ้นก็คือ M-Pencil รุ่นที่ 2 ตัวเดียวกับที่ใช้บน MatePad Pro เลย เพราะฉะนั้นเรื่องความสามารถไม่ต้องห่วงครับ เขียนได้อย่างลื่นไหล รองรับแรงกดหลายระดับ พร้อมแถบ Touch Control ที่ให้เราสลับเครื่องมือได้อย่างง่ายดาย
และตัว M-Pencil รุ่นที่ 2 ก็มีฟีเจอร์ Pencil Hover ที่เราสามารถใช้ M-Pencil มาจ่อที่ไอคอนแอปหรือการใช้งานบางอย่างเพื่อโชว์ Preview ก่อนที่จะเปิดใช้งานจริง ๆ ได้ด้วย ตรงนี้ดูสะดวกดีมาก คล้าย ๆ กับที่เรามีเม้าส์มาจ่อไอคอนเพื่อดูตัวอย่างก่อนใช้งานทำนองนั้นเลย
เชื่อมต่อด้วยอะแดปเตอร์ !?
แต่อย่างที่เราเห็นดีไซน์ของ HUAWEI MatePad 11.5″ ไป ตัวเครื่องไม่มีแถบแม่เหล็กสำหรับแปะ M-Pencil อยู่ เราเลยไม่สามารถแปะเข้ากับเครื่องโดยตรงเพื่อเชื่อมต่อได้ ซึ่งวิธีการเชื่อมต่อจะต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมอย่างอะแดปเตอร์ซะก่อน (โชคดีว่ามีแถมมาให้เลย)
โดยตัวอะแดปเตอร์นี้จะเป็นพอร์ต USB-C สามารถเสียบเข้ากับพอร์ตของเครื่องได้ จากนั้นก็แค่เอา M-Pencil มาประกอบ จะมี Pop-Up ขึ้นมาแบบปกติเราก็กดเชื่อมต่อได้เลยครับ ซึ่งวิธีนี้จะทำแค่เพียงครั้งแรกเท่านั้น เพราะการเชื่อมต่อกันจะผ่าน Bluetooth ครั้งถัดไปเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาก็จะจับคู่กันเองโดยอัตโนมัติครับ เว้นเสียแต่ว่าแบตฯใกล้หมดก็ต้องไปเสียบชาร์จผ่านอะแดปเตอร์อีกทีนั่นล่ะครับ
โน้ตยิ่งกว่าโน้ตด้วยแอป HUAWEI Notes
เอาล่ะ! ข้ามเรื่องการเชื่อมต่อหลายขั้นตอนไป ก็ถึงคราวมาลองใช้จริงกันบ้าง ต้องบอกเลยว่า HUAWEI นั้นออกแบบซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานกับ M-Pencil ได้ดีมากกับ HUAWEI Notes เพราะแอปนี้แอปเดียวก็แทบจะรองรับการทำงานที่ Stylus ควรทำได้ไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเขียน, วาด, เปิดไฟล์, แก้ไขงานแบบมือโปร ทำได้หมดในแอปเดียวเลย
อย่างการจดบันทึกก็สะดวกด้วย M-Pencil รุ่นที่ 2 ที่รองรับแรงกดหลายระดับ ทำให้เวลาเราเขียนลงไปนั้นมีความราบรื่นเหมือนเขียนบนสมุดโน้ต หรือจะแนบรูปเพิ่มเติมให้น่าสนใจก็ทำได้ มีตัวจัดการรูปแบบเล่มสมุดที่เราจดไว้ได้หลากหลาย หรือจะจัดกลุ่มโน้ตเป็นไฟล์เดียวกันก็ได้
หรือจะเป็นการวาดก็ทำได้ดีมีหัวปากกาให้เลือกหลายแบบ และอย่างที่บอกว่าตัวปากกนั้นรองรับแรงกดหลายระดับ เวลาจะวาดหรือสเก็ชก็ลงน้ำหนักได้ดี เครื่องมือก็พร้อมใช้งานในนี้ หากต้องการร่างไอเดียคร่าว ๆ หรือลงรายละเอียดจริง ๆ ครับ
การแก้ไขไฟล์ PDF บน HUAWEI Notes ก็ทำได้ด้วย บางครั้งเราได้รับไฟล์งานมาแล้วต้องแก้ไขแบบด่วน ๆ คอมเมนต์หรือแต่งเติมบางอย่างในแอปนี้ก็สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้เต็มรูปแบบครับ
โดยรวมในเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมของ HUAWEI MatePad 11.5″ ก็ทำได้ดีเลยครับ ทั้งฮาร์ดแวร์คุณภาพสูง กับซอฟต์แวร์ที่รองรับการทำงานหลายรูปแบบ ใครที่เป็นสายพิมพ์งานหรือด้านเอกสารได้ Smart Magnetic Keyboard ก็ช่วยให้คล่องตัวขึ้นอีกเยอะ หรือจะเป็นสายจดงานก็มี M-Pencil ที่ทำให้สะดวกขึ้นเยอะ สมแล้วที่รุ่นนี้ใช้สโลแกนกว่า “โน้ตยิ่งกว่าโน้ต” แต่…ก็ยังมีจุดสังเกตอยู่บ้างตรงการเชื่อมต่อที่อาจจะไม่ลงตัวในทันที เพราะตัว M-Pencil เราต้องพึ่งอะแดปเตอร์ในการเชื่อมต่อครั้งแรกหรือตอนชาร์จแบตฯอยู่ ถ้าสามารถแปะชาร์จที่เครื่องได้เลยน่าจะลงตัวกว่านี้ครับ
ประสิทธิภาพน่าสนใจด้วยชิป Snapdragon 7 Gen 1
มาต่อที่เรื่องประสิทธิภาพ HUAWEI MatePad 11.5″ ก็จัดเต็มมากในกลุ่มแท็บเล็ตราคาไม่ถึงหมื่นบาท เพราะได้ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 1 ขนาด 4nm แรงเหลือ ๆ สำหรับการทำงานที่ว่ามา ไม่ว่าจะจดโน้ต วาดรูป หรือใช้งานเอกสารไฟล์ขนาดใหญ่ก็ตาม
เราก็เลยทดสอบประสิทธิภาพมาฝากกันได้คะแนนจาก AnTuTu Benchmark v10 ได้ไปสูงถึง 710205 คะแนนเลยทีเดียว
ส่วนคะแนนจาก Geekbench 6 ก็ไม่ธรรมดาเช่นกันได้ Single-Core ไปที่ 1003 คะแนน และ Multi-Core อีก 2618 คะแนน เรียกว่าอุ่นใจได้ในเรื่องการประมวลผลแล้วล่ะครับ
เล่นเกมดี ประสิทธิภาพระดับนี้แล้ว
ส่วนการเล่นเกม HUAWEI MatePad 11.5″ ก็คงไม่ต้องเป็นห่วงมากอยู่แล้ว แต่เราก็ขอลองดูหน่อยว่าเมื่อเล่นบนจอใหญ่เต็ม ๆ แบบนี้จะสะใจแค่ไหนเนาะ เกมที่เราจะทดสอบก็คือ Asphalt 9 และ PUBG Mobile ซึ่งทั้งคู่ดาวน์โหลดจาก HUAWEI AppGallery ทั้งหมดครับ
เล่น Asphalt 9 บน HUAWEI MatePad 11.5″
สำหรับ Asphalt 9 เราสามารถเปิดกราฟิกได้ที่ระดับสูงสุด High Quality แต่ยังปรับ 60fps ไม่ได้เนาะ แต่เท่านี้ก็เพียงพอต่อการเล่นลื่น ๆ แล้ว เท่าที่เราเล่นก็บอกเลยว่าทำได้ยอดเยี่ยมมาก ทั้งกราฟิกที่สวยอลังการบนหน้าจอขนาดใหญ่ เต็มตาได้ภาพที่สวยงามสุด ๆ เฟรมเรตก็ลื่นไหลระดับ 30fps ตลอดทั้งเกมครับ
เล่น PUBG บน HUAWEI MatePad 11.5″
ส่วนเกม PUBG เราสามารถปรับกราฟิกได้ที่ HDR พร้อมเฟรมเรต Ultra อีก เรียกว่าอยู่ในระดับสูงเลย เท่าที่เราเล่นก็ถือว่ามอบประสบการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม พอเล่นบนหน้าจอขนาดใหญ่ก็ยิ่งเต็มตาเห็นฉากได้กว้างมาก อีกทั้งยังมีลำโพงมากถึง 4 ตัวให้ความ Stereo เต็มอิ่ม ได้เปรียบในเรื่องทิศทางเสียงกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปแน่นอนครับ
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7700mAh
ปิดท้ายที่แบตเตอรี่ HUAWEI MatePad 11.5″ ได้แบตเตอรี่ความจุ 7700mAh มาเลย ถือว่าเยอะเพียงพอต่อการใช้งานมาก ๆ เท่าที่เราลองใช้งานแบบเต็มที่ ก็ถือว่าจัดเต็มเลย ใช้ทำงานหรือความบันเทิงได้เต็ม ๆ วัน โดยไม่ต้องมากังวลว่าแบตฯจะหมดไปกลางคันในขณะที่ใช้งาน แถมได้ชิประดับ 4nm อย่าง Snapdragon 7 Gen 1 ก็จัดการพลังงานได้ดีขึ้นไปอีกด้วย
ส่วนระบบชาร์จไว HUAWEI MatePad 11.5″ ก็รองรับระบบชาร์จไว 22.5W HUAWEI SuperCharge ซึ่งช่วยชาร์จแบตฯเยอะ ๆ ระดับนี้คืนมาได้อย่างรวดเร็ว เล่นให้เต็มที่แล้วรอชาร์จกลับมาไม่นานก็ใช้ต่อได้อีกยาวแล้วครับ ตรงนี้ถูกใจเราจริง ๆ
สำหรับเรื่องประสิทธิภาพก็ถือว่าทำได้น่าประทับใจครับ ด้วยชิปเซ็ตตัวแรงระดับ 4nm ที่มอบประสบการณ์ที่ลื่นไหล เล่นเกมหรือทำงานหนักได้สบาย ๆ มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้ยาวนานไร้กังวล อีกทั้งยังมีระบบชาร์จไว 22.5W HUAWEI SuperCharge ที่มาเติมเต็มเวลาที่ใช้งานหนัก ๆ แล้วต้องการชาร์จกลับมาอีกด้วย!
ราคาไม่ถึง 10,000 บาท!
HUAWEI MatePad 11.5″ ความจุ 6GB + 128GB รุ่น WiFi เปิดราคามาเพียง 9,990 บาทเท่านั้น พร้อมโปรโมชั่นพิเศษเมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 21 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม 2566 รับของแถมมูลค่ากว่า 4,919 บาท ประกอบด้วย
- M-Pencil รุ่นที่ 2 มูลค่า 4,490 บาท
- สิทธิ์รับชม WeTV VIP นาน 3 เดือนมูลค่า 429 บาท
สั่งซื้อได้ที่นี่ >> https://bit.ly/3XH16Dm
สรุปแล้ว “นี่คือแท็บเล็ตจอใหญ่ สเปคแจ่มที่คุ้มที่สุดในงบไม่ถึง 10,000 บาท”
สรุปแล้ว HUAWEI MatePad 11.5″ ก็ถือเป็นแท็บเล็ตจอใหญ่สุดคุ้มมาก ๆ ในงบไม่ถึง 10,000 บาท เพราะสเปคที่ให้มาแจ่มตั้งแต่หน้าจอ 11.5″ 120Hz ลื่นไหล ตอบสนองไว, ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 1 ขนาด 4nm เร็วแรง, ลำโพง 4 ตัว Stereo แน่น ๆ , แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7700mAh พร้อมชาร์จไว 22.5W SuperCharge อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมที่รองรับครบถ้วนตั้งแต่เคส Smart Magnetic Keyboard หรือจะเป็น M-Pencil รุ่นที่ 2 ปากกาสไตลัสใช้ร่วมกับแอป HUAWEI Notes ฟินมากที่แถมมาให้ฟรีเมื่อสั่งซื้อในช่วงโปรโมชั่นอีกต่างหาก ใครที่ต้องการแท็บเล็ตเพื่อความบันเทิงรวมถึงทำงานสะดวกแทนแล็บท็อป เราว่า HUAWEI MatePad 11.5″ นี่แหละเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากจริง ๆ ครับ
