รีวิว HUAWEI MatePad Pro 12.2″ PaperMatte Edition แท็บเล็ตเรือธงรุ่นล่าสุดจาก HUAWEI ที่มาพร้อมสเปคจัดเต็ม อาทิ หน้าจอ Tandem OLED ลื่นไหล 144Hz ชิปเซ็ต Kirin รุ่นล่าสุด แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 10100mAh และระบบชาร์จเร็ว 100W SuperCharge มีอุปกรณ์เสริมชุดใหม่อย่างเคสคีย์บอร์ด HUAWEI Glide หรือ M-Pencil รุ่นที่ 3 จน HUAWEI ต้องยกให้รุ่นนี้เป็นแท็บเล็ตที่ทำได้มากกว่า PC กันเลย!
เกริ่นมาซะเต็มที่แบบนี้ เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้ความสามารถกันแล้วว่าจะดีงามแค่ไหน วันนี้เรา รีวิว HUAWEI MatePad Pro 12.2″ รุ่นนี้ให้ชมแบบเต็ม ๆ ติดตามครับ!
สรุปสเปค HUAWEI MatePad Pro 12.2″
- หน้าจอ : Tandem OLED PaperMatte ขนาด 12.2”
- ความละเอียด : 2800 x 1840 พิกเซล, ความสว่างสูงสุด 2000nits
- Refresh rate : 144Hz
- CPU : Kirin T91Octa-Core
- RAM : 12GB
- ROM : 512GB
- แบตเตอรี่ : 10100mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 100W HUAWEI SuperCharge
- กล้องหน้า : 8MP f/2.0
- กล้องหลัง : 2 ตัว
- 13MP กล้องหลัก f/1.8
- 8MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2.4G/5G, Bluetooth 5.2, NearLink และพอร์ต USB-C (USB 3.1 Gen 1)
- ลำโพง : 4 ตัว Stereo Speaker
- ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 4.2
- ขนาดตัวเครื่อง : 182.53 x 271.25 x 5.5 มม.
- น้ำหนัก : 508 กรัม
- สีสัน : สีทอง Premium Gold
หน้าจอ FullView Tandem OLED เทคโนโลยีหน้าจอที่ดีที่สุด
เริ่มที่หน้าจอกันก่อนเลย HUAWEI MatePad Pro 12.2″ มาพร้อมหน้าจอ Tandem OLED ขนาด 12.2″ ตามชื่อรุ่น อัตราส่วน 3:2 ตัวจอมีเทคโนโลยีการซ้อนพิกเซลระดับนาโน ช่วยให้ได้ทั้งความสว่างและคอนทราสต์ที่สูงเป็นพิเศษ มีมุมมองที่กว้างขึ้นอีกด้วย ซึ่งจอ Tandem OLED นี้เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ดีที่สุดของวงการแท็บเล็ตตอนนี้แล้วก็ว่าได้ครับ!
สเปคหน้าจอก็ถือว่าจัดเต็มมาสุด ๆ ได้ความละเอียดสูง 2.8K (2800 × 1840 พิกเซล) รองรับการแสดงผลสี 1.07 พันล้านสี คอนทราสต์สูงเป็นพิเศษ 2,000,000 : 1 ความสว่างสูงสุดถึง 2000nits และความแม่นยำของสี ΔE < 1 เรียกว่าเป็นจอที่ยอดเยี่ยมของจริง เอามาดูคอนเทนต์หรือทำงานกราฟิกถูกใจแน่นอน!
เป็น PapaerMatte Display ซะด้วย
และตัวหน้าจอชั้นบน HUAWEI ยังทำการเคลือบแบบ PaperMatte Display ไว้ด้วย เสริมประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีป้องกันแสงสะท้อนระดับนาโนที่ขจัดการรบกวนจากแสงสิ่งแวดล้อมได้ 99% และชั้นออปติคอลนาโนแมกนีตรอนเพื่อลดการสะท้อนแสงของหน้าจออย่างมาก ทําให้ภาพคมชัดและมองเห็นได้ง่าย แม้อยู่ในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง หรือใต้หลอดไฟ
ด้านการตอบสนองหน้าจอก็หายห่วงเพราะได้ Refresh rate มาสูงถึง 144Hz ทัชติดนิ้วสุด ๆ และพอผิวสัมผัสเป็นแบบด้าน ก็ช่วยให้เราสัมผัสบนหน้าจอได้ลื่นไหลยิ่งขึ้นด้วย ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับ M-Pencil ก็จะได้ความรู้สึกเหมือนเขียนบนกระดาษตามชื่อ PaperMatte เลยล่ะครับ!
สี Premium Gold พร้อมลวดลายผ้าไหมสีทอง ความงดงามในทุกมุมมอง
HUAWEI MatePad Pro 12.2″ มาพร้อมดีไซน์หรูหรากับสีทอง Premium Gold ที่มีลวดลายผ้าไหมสีทอง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มของภาพวาดผ้าไหมแบบดั้งเดิม ผ่านกระบวนการชั้นออปติคอลหลายชั้นทำให้เก็บเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของไหมสีทอง ส่องประกายแวววาวเปล่งประกายจากภายใน เพิ่มความหรูหราทันทีที่ได้เห็นแน่นอน
ส่วนผิวสัมผัสก็เป็นแบบด้านช่วยลดรอยนิ้วมือเวลาถือใช้งานนาน ๆ แถมยังจับถือได้สัมผัสที่เนียนมือ ไม่รู้สึกว่าต้องคอยมาทำความสะอาดบ่อย ๆ ด้วยครับ
ดีไซน์กล้องหลังจะเป็นกล้องคู่อยู่ในฐานกล้องวงกลม วางไว้ที่มุมเครื่อง กล้องก็แบ่งเป็นกล้องหลัก 13MP + กล้อง Ultra Wide 8MP พร้อมไฟแฟลชอีก 1 ดวงครับ
เพรียวบาง และน้ำหนักเบา
ส่วนเรื่องขนาดและน้ำหนักก็ทำได้ดีมาก ๆ เช่นกัน เพราะ HUAWEI MatePad Pro 12.2″ มาพร้อมความบางเพียง 5.5 มม.และน้ำหนักจะอยู่ที่ 508 กรัมเท่านั้น ถือว่าทำได้มาก เพราะอย่าลืมว่านี่คือแท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ถึง 12.2″ เลยนะ
ตำแหน่งปุ่มกดที่วางไว้ดี
ตำแหน่งปุ่มกดของรุ่นนี้ก็วางตำแหน่งได้ดีเลยครับ วางปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงไว้ที่ด้านบนของตัวเครื่องเมื่อใช้งานแนวตั้ง ส่วนปุ่ม Power ก็จะอยู่ที่ฝั่งซ้ายทำมุมเว้าโค้งลงไปให้เราได้กดได้ง่ายแม้ใช้งานร่วมกับเคสเสริมครับ ซึ่งตัวปุ่ม Power นี้จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วยนะ
ด้านบนตัวเครื่องจะมีช่องลำโพงขนาดใหญ่ 2 ชุด และปุ่ม Power ที่มีความเว้าโค้งลงไปอย่างที่บอก ส่วนด้านล่างก็จะมีลำโพงอีก 2 ชุดรวมกันเป็นลำโพง Stereo บน-ล่าง หรือ ซ้าย-ขวาได้เลย พอร์ตการเชื่อมต่อของรุ่นนี้ก็จะเป็น USB-C อยู่ตรงกลางเด่น ๆ นั่นแหละครับ
ลำโพง 8 ไดรเวอร์ พร้อมระบบเสียง HUAWEI Sound
ไหน ๆ ก็พูดถึงลำโพงแล้ว ขอชมเรื่องพลังเสียงสักหน่อย เพราะ HUAWEI MatePad Pro 12.2″ นั้นได้ลำโพงมาทั้งหมด 4 ตัว พร้อม 8 ไดรเวอร์ ในเรื่องพลังเสียงไม่ต้องห่วงเลยครับ เพราะมีเทคโนโลยี HUAWEI SOUND ช่วยให้เสียงเบสที่หนักแน่น เสียงแหลมคมชัด เอามาดูหนังหรือฟังเพลงนี่เต็มอิ่มแน่นอน!
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ HUAWEI MatePad Pro 12.2″ ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมตามมาตรฐานของ MatePad Pro ทั้งงานประกอบที่สวยหรู หน้าจอที่อัปเกรดมาด้วย Tandem OLED แบบ PaperMatte และยังได้ความบางเฉียบพร้อมน้ำหนักที่เบาอีกด้วย สวยลงตัวแบบที่รุ่น Pro ควรจะเป็นแล้วล่ะครับ
อุปกรณ์เสริมที่มอบประสบการณ์เหนือกว่า PC
ยุคนี้แล้ว ถ้าอยากได้ความสามารถเหนือระดับกว่า PC ก็มีแต่ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอีกสักหน่อยล่ะเนอะ HUAWEI MatePad Pro 12.2″ นั้นรองรับออุปกรณ์ 2 อย่างใหม่คือ เคสคีย์บอร์ด HUAWEI Glide และ M-Pencil 3 ที่พอรวมร่างกันแล้วบอกเลยว่ายกระดับความเป็น Pro จนมากกว่าระดับ PC ได้เลยล่ะครับ!
เคส HUAWEI Glide Keyboard
เริ่มที่เคสคีย์บอร์ดก่อนเลยดีกว่า HUAWEI Glide Keyboard ของ MatePad Pro 12.2″ นั้นจะปรับดีไซน์ใหม่ให้ใช้งานได้อย่างโปรมากขึ้น และรองรับการใช้งานที่หลากหลายกว่าเดิม โดยตัวเคสจะใช้แม่เหล็กในการประกบตัวเคสเข้ากับฝาหลังของเครื่องได้เลย ไม่ต้องคอยมาแกะและใส่ให้ยุ่งยาก แถมไม่หนาจนเกินไปด้วย
ตัวแป้นคีย์บอร์ดเองจะมาพร้อมกับตัวปุ่มที่มีความ Clicky ให้ความรู้สึกเวลาพิมพ์ไม่ต่างจากบนแล็ปท็อปดี ๆ สักเครื่องเลย และที่ขาดไม่ได้คือ TouchPad ที่มีขนาดใหญ่ให้เราใช้งานได้เหมือนแล็ปท็อปจริง ๆ เลย ทีนี้การควบคุมก็จะดูทางการและเข้ามือมากขึ้นไปอีกเนาะ
ส่วนขาตั้งที่ด้านหลังจะให้เราปรับองศาได้หลากหลายและแข็งแรงใช้ได้เลยด้วย ทำให้ความรู้สึกมีความคล้ายพวกแล็ปท็อปจริง ๆ ไม่เหมือนเคสคีย์บอร์ดรุ่นก่อน ๆ ที่ยังมีความเป็นของแท็บเล็ตอยู่น่ะเนาะ
ซึ่งรูปแบบที่ HUAWEI Glide Keyboard นำเสนอก็จะมี 2 โหมดหลัก ๆ คือแบบแล็ปท็อปที่ตั้งโต๊ะในมุมมาตรฐาน พิมพ์งานหรือใช้เบราว์เว็บไซต์ต่าง ๆ ก็สะดวก ให้องศาของหน้าจอพอดีกับสายตาไม่ก้มไม่เงยจนเกินไปก็ได้
หรือจะเลือกปรับมาใช้งานในโหมด Studio ที่พับลงมาให้เน้นพื้นที่ใช้งานหน้าจอแบบเต็ม ๆ เผื่ออยากจะวาดรูปหรือสร้างงานศิลปะ ก็จะมีองศาของจอที่ยกขึ้นมาเล็กน้อย ไม่แบนราบจนเกินไปด้วย
อ๊ะ…ลืมบอกไปเนาะว่า ตัว HUAWEI Glide Keyboard นี้เชื่อมต่อกับตัวเครื่องผ่านระบบ NearLink ซึ่งมีความแม่นยำในสัญญาณสูง รวมถึงใช้พลังงานต่ำ นั่นหมายความว่าเราก็สามารถใช้งานคีย์บอร์ดห่างจากตัวเครื่องได้ด้วย บางครั้งอยากตั้งทำงานในขาตั้งที่สูงขึ้นหรือไกลตัวออกไปหน่อย และก็พิมพ์งานไปด้วยก็ไม่มีปัญหาครับ
แต่ว่าน่าเสียดายที่ตัวเคสไม่สามารถแยกส่วนคีย์บอร์ดออกจากตัวขาตั้งได้ เวลาจะใช้แบบแยกส่วนก็อาจจะต้องหาที่ตั้งให้ตัวเครื่อง HUAWEI MatePad Pro 12.2″ แยกอีกทีล่ะเนาะ
นอกจากการควบคุมที่ดีงามมาก ๆ แล้วทีเด็ดอีกย่างที่ HUAWEI นำเสนอมาก ๆ กับเคสใหม่ตัวนี้ก็คือ เคสเองมี “ช่องเก็บ M-Pencil” ในตัวด้วยนะ ทำให้การพกพานั้นสะดวกขึ้นมาก ทำให้เราสามารถพกอุปกรณ์เสริมทั้ง 2 ชิ้นนี้ไปพร้อมกันแบบที่ไม่ต้องกลัวว่าจะหล่นกลางทาง และที่สำคัญเมื่อเราวาง M-Pencil ไว้ในช่องเก็บ ก็จะเป็นการชาร์จแบตฯไปในตัวด้วยนะ ดีงาม!
โดยรวมอุปกรณ์เสริมอย่าง HUAWEI Glide Keyboard นี้ก็ออกมาแก้ Pain Point ของเคสแนวได้อย่างหมดจด เพราะปกติแล้วเคสแนวนี้มักจะเจอข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาดและน้ำหนักที่มากจนเกินไป หรือถ้าบาง-เบาเกินไปก็ไม่เหมาะที่จะใช้พกพาร่วมกับปากกา ไม่ปกป้องตัวเครื่องเท่าที่ควร แต่บน HUAWEI MatePad Pro 12.2″ นี้ได้ทั้งการปกป้องครบครัน พร้อมปรับระดับได้หลากหลาย มีน้ำหนักเบาแค่ 420 กรัม รวมกับตัวเครื่องอีก 508 กรัมก็ยังไม่ถึง 1 กก.เลยใช่ไหมล่ะ แถมถ้าอยากพก M-Pencil ไปด้วยก็ใส่ช่องเก็บแล้วยกแผงไปได้เลยอีก สมบูรณ์แบบ!
M-Pencil รุ่นที่ 3 เชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยี NearLink
พิมพ์คล่องแล้ว จะเขียนหรือวาดแบบฟิน ๆ ด้วยก็ต้องมี Stylus มาใช้ด้วยล่ะเนาะ ซึ่ง MatePad Pro 12.2″ รองรับ M-Pencil รุ่นที่ 3 ล่าสุดที่มาพร้อมเทคโนโลยี NearLink ที่รองรับแรงกดมากถึง 16,xxx ระดับ ซึ่งมากกว่า Stylus ชั้นยอดในตลาดตอนนี้ที่มักจะสูงสุดแค่ 4096 ระดับเท่านั้น
ซึ่งตัว M-Pencil รุ่นที่ 3 นั้นก็จะมีรูปทรงและขนาดที่ถนัดมือเหมือนรุ่น M-Pencil ที่ผ่านมา ทำให้ไม่ต้องปรับตัวเยอะ จับแล้วก็ใช้งานได้อย่างคุ้นเคย มีความสามารถแตะสั่งงานที่ตัวด้าม หัวปากกาที่แหลมกำลังดี
การเชื่อมต่อก็แปะเข้ากับตัวเครื่องได้เลย การเชื่อมต่อครั้งแรกจะมี Pop-Up ให้กดเชื่อมต่อได้ง่าย ๆ และเราก็สามารถแปะชาร์จแบตฯได้เลยในครั้งต่อ ๆ ไปด้วย เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อจะเป็น NearLink แบบเดียวกับเคส HUAWEI Glide Keyboard นั่นแหละครับ มั่นใจในเรื่องความเสถียรและแม่นยำได้เลย
ความดีงามของ M-Pencil รุ่นที่ 3 นอกจากจะมีเรื่องการเชื่อมต่อที่แม่นยำมากขึ้นแล้ว พอมาใช้งานคู่กับหน้าจอ PaperMatte Display ระดับ 144Hz แล้วด้วย ยิ่งสมบูรณ์แบบ ช่วยให้เราลงน้ำหนักได้ละเอียดขึ้นมาก เหมาะกับสายวาดที่ต้องการความเที่ยงตรงและทันมือเวลาลงน้ำหนักบนหน้าจอครับ
แอปที่รองรับการทำงานระดับโปร
ไม่ใช่แค่ฮาร์ดแวร์ที่รองรับการทำงานระดับโปร เพราะซอฟต์แวร์ HUAWEI ก็ใส่ใจด้วยการติดตั้งแอประดับโปรมาให้ใช้งานในเครื่องตั้งแต่แกะกล่อง ไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติมแล้วด้วย ที่สำคัญคือ “ฟรี” ด้วย!
แอป WPS Office แบบ PC-Level
อย่างในด้านการทำงาน Office บน HUAWEI MatePad Pro 12.2″ ก็มีแอป WPS Office เวอร์ชั่นอัปเกรดที่มีความสามารถระดับ PC มาให้เลย! ใช่แล้วครับ อ่านไม่ผิด WPS Office ที่ให้มาบนแท็บเล็ตรุ่นนี้จะเป็นเวอร์ชั่น PC-Level เลย สังเกตได้จากไอคอนที่เป็นสีฟ้า ต่างจากเวอร์ชั่น Mobile ทั่วไปที่จะมีไอคอนสีแดงครับ
การใช้งานต่าง ๆ จะทำได้หลากหลายกว่า ทั้งการแทรกไฟล์ การใส่สูตร หรือรูปแบบการแสดงผลของ UI ที่ปรับให้มีความเป็น PC สูงมาก เห็นแบบนี้พอทำงานร่วมกับเคส HUAWEI Glide Keyboard ก็ยิ่งทำให้เราทำงานพวก Office ได้แบบคล่องตัวมากขึ้น จนใช้งานแทนที่แล็ปท็อปได้เลยจริง ๆ ครับ ตรงนี้ถูกใจคนทำงานแน่นอน
สายจดต้อง HUAWEI Notes!
ส่วนสายจด สายเขียน HUAWEI MatePad Pro 12.2″ ก็มีแอปแอปพื้นฐานอย่าง HUAWEI Notes ติดตั้งมาในกล่อง เพื่อใช้งานกับ M-Pencil รุ่นที่ 3 ได้ดีพออยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเขียน, วาด, เปิดไฟล์, แก้ไขงานแบบมือโปร ทำได้หมดในแอปเดียวเลย
GoPaint แอปวาดรูปที่ครบเครื่องที่สุด
แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะถ้าเป็นสายวาดแบบจริงจัง HUAWEI ก็มีแอป GoPaint มาให้ตั้งแต่แกะกล่องเช่นกัน บอกเลยว่านี่เป็นแอปวาดรูปติดเครื่องที่ดีงามมาก ๆ เพราะเครื่องมือมีมาให้เลือกครบ มีลูกเล่น Gesture ในการใช้งานที่หลากหลาย ถ้าให้พูดง่าย ๆ แอปนี้คือ Procreate สำหรับ HUAWEI เลยนั่นแหละ แต่คือใช้ฟรีเลยนะ แถมพอใช้งานร่วมกับ M-Pencil รุ่นที่ 3 แล้ว ยิ่งลงตัวเข้าไปใหญ่ครับ ทั้งวาดรูปจริงจัง ลงสี หรือตกแต่งภาพก็ได้หมด!
โดยรวมเรื่องแอปที่ให้มาแค่ 3 แอปนี้ก็ช่วยให้เราใช้งานได้คล่องตัวไม่ต่างจาก PC-level แล้วถูกไหมล่ะครับ เรียกว่าเอาจริงเอาจังมาก ๆ ไม่ใช่แค่พัฒนาฮาร์ดแวร์มาระดับสูงสุด แต่ยังให้ฮาร์ดแวร์มาพร้อมแบบที่ไม่ต้องซื้อเพิ่ม นี่แหละจุดแข็งที่เราคิดว่า HUAWEI ใส่ใจผู้ใช้อย่างมากเลย เป็นปลื้ม!
ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ HarmonyOS 4.2 แล้ว
มาเข้าเรื่องซอฟต์แวร์กันบ้าง HUAWEI MatePad Pro 12.2″ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 4.2 เวอร์ชั่นล่าสุด การใช้งานยังลื่นไหลและ UI ปรับแต่งมาให้มอบประสบการณ์การใช้งานแบบแท็บเล็ตอย่างยอดเยี่ยม ทั้ง Dock ที่ด้านล่างเพื่อจัดเรียงแอปที่ใช้บ่อย ๆ มี Service Widgets แบบใหม่ ๆ ที่ให้เราเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
แบ่งจอทำงานได้ เพื่อความหลากหลายบนหน้าจอเดียว
และแน่นอนว่าความได้เปรียบของหน้าจอใหญ่อย่างแท็บเล็ตก็จะได้เรื่องการทำงานที่หลากหลายบนหน้าจอเดียว บน HarmonyOS 4.2 ก็มีการปรับเรื่อง Multi-Windows ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นเปิดแอปใดแอปหนึ่งอยู่แล้วอยากใช้งานคู่กับอีกแอปก็เลื่อนหน้าจอไปที่มุมซ้ายบนได้เลยแอปหลักจะพับไปที่มุมและให้เราเลือกแอปต่อไปใช้งานได้ทันที ขยายเต็ม 2 หน้าต่างแล้วจะเลื่อนปรับขนาดทีหลังก็ได้อีกด้วย
ใช้งานผ่าน HUAWEI Mobile Services เต็มรูปแบบ
ส่วนเรื่องบริการ MatePad Pro 12.2″ ก็ใช้ผ่าน HMS (HUAWEI Mobile Services) เหมือนแท็บเล็ตใหม่ ๆ ของ HUAWEI นั่นแหละ เพราะใช้ HarmonyOS แล้วนี่เนาะ ซึ่งเราสามารถดาวน์โหลดแอปผ่าน HUAWEI AppGallery ได้ ดาวน์โหลดไฟล์ APK มาติดตั้งเองผ่าน Petal Search ก็ได้เช่นกัน มาถึงตรงนี้ทั้งแอปบน AppGallery เองหรือเราจะหามาติดตั้งเองจากช่องทางอื่น ๆ ก็ทำได้ง่ายและลงตัวขึ้นเยอะแล้วจริง ๆ ครับ
มี microG Service ทางเลือกสำหรับคนต้องการใช้ GMS
แต่ถ้ายังต้องใช้บริการของ Google จริง ๆ ก็มีทางเลือกใหม่กับแอป microG Service ที่สามารถดาวน์โหลดผ่าน HUAWEI AppGallery ได้เลย เมื่อติดตั้งแล้ว เราจะสามารถล็อกอินบัญชี Google ได้ผ่านตัวเครื่องเลย
ทำให้เราใช้งานแอปที่ต้องเรียก GMS ได้ทันที อาทิ YouTube, Google Drive, Google Maps, Google Photos หรือ Chrome เป็นต้น ซึ่งการดาวน์โหลดก็สามารถค้นหาได้จาก HUAWEI Gallery เช่นกัน จะมีตัวเลือกให้เรากด Install ได้ทันที อันนี้เป็นทางเลือกใหม่ที่เราว่าสะดวกขึ้นเยอะเลยจริง ๆ
ใช้ชิปเซ็ต Kirin แรงขึ้นแล้วนะ!
สำหรับสเปค HUAWEI MatePad Pro 12.2″ รุ่นนี้มาพร้อมชิปเซ็ต Kirin T91 รหัสใหม่ล่าสุด มาพร้อมประสิทธิภาพที่น่าสนใจ จากที่เราลองใช้งานหลาย ๆ ฟีเจอร์มา ก็ถือว่าตอบสนองได้ดี ตัว HarmonyOS 4.2 ทำงานได้อย่างลื่นไหลมาก ไม่เจออาการกระตุกหรือค้างให้เห็นเลย นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมความจุเยอะ 12GB+512GB แล้วนะ เพียงพอต่อการทำงานและความบันเทิงแล้วล่ะครับ
เพื่อให้เห็นภาพคร่าว ๆ ของชิปตัวนี้ เราลองทดสอบกับแอปยอดฮิตอย่าง AnTuTu Benchmark v10 ก็ได้คะแนนออกมาที่ 691757 คะแนน สูงขึ้นกว่ารหัส 9000 รุ่นก่อน ๆ แต่สังเกตว่าคะแนนของ GPU ยังเป็น 0 อยู่ คงเพราะตัวชิปยังใหม่อยู่ ถ้าคะแนนส่วนนี้รวมกันออกมาก็คงสูงแตะ 7 – 8 แสนแต้มได้อยู่นะครับ
ฝั่ง Geekbench 6 ก็ได้คะแนนสูงขึ้นเช่นกัน Single-Core ไปที่ 1303 คะแนน และ Multi-Core อีก 4245 คะแนน ถือว่าเป็นคะแนนที่ไว้ใจได้เลย ทีนี้ทำงานหนัก ๆ ก็ไม่ต้องกังวลแล้วล่ะครับ
ส่วนการเล่นเกมด้วยชิปที่แรงขึ้นมานี้ ก็ให้เราเล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น เราลองเล่น PUBG Mobile กับ Asphalt 9 ที่ดาวน์โหลดจาก HUAWEI AppGallery โดยตรง ตัวเกมให้เราปรับกราฟิกได้ที่ HDR พร้อมเฟรมเรต Extreme เลย เรียกว่าท็อป ๆ แล้วล่ะ เล่นได้ในระดับ 60fps แบบนิ่ง ๆ พอเล่นบนหน้าจออัตราส่วน 3:2 ก็ได้เปรียบในมุมมองที่กว้างกว่า อีกทั้งยังมีลำโพง 4 ตัวให้ความ Stereo เต็มอิ่มอีกนะ
แบตเตอรี่ใหญ่ 10,100mAh
ปิดท้ายที่แบตเตอรี่ HUAWEI MatePad Pro 12.2″ ได้แบตเตอรี่เยอะถึง 10,100mAh มาเลย ถือว่าเยอะมาก ๆ เมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ เท่าที่เราลองใช้งานแบบเต็มที่ ก็บอกเลยว่าไม่ต้องห่วง จะทำงานต่อเนื่องหรือพักเล่นเกมบ้าง พ้นวันได้สบาย ๆ
ส่วนระบบชาร์จไว HUAWEI MatePad Pro 12.2″ ก็รองรับระบบชาร์จไวใหม่ที่เร็วได้ถึง 100W HUAWEI SuperCharge เลยนะ เคลมว่าชาร์จจาก 0 – 85% ได้ในเวลาแค่ 40 นาที และชาร์จเต็ม 100% ได้ในเวลาแค่ 55 นาทีเท่านั้น แบตฯระดับ 10,000mAh ชาร์จเต็มได้เร็วแบบนี้คือไม่ธรรมดาเลย
ราคาและโปรโมชั่น HUAWEI MatePad Pro 12.2″
สำหรับ HUAWEI MatePad Pro 12.2″ เปิดราคาไทย 29,990 บาท มีโปรโมชั่นร้อนแรงมาก รับฟรีของสมนาคุณมูลค่าสูงสุด 24,258 บาท ได้แก่
- HUAWEI Glide Keyboard มูลค่า 9,990 บาท
- HUAWEI M-Pencil รุ่นที่ 3 มูลค่า 4,490 บาท
- HUAWEI Care ดูแลหน้าจอ มูลค่า 3,990 บาท
- 100W HUAWEI Adapter มูลค่า 2,490 บาท
- HUAWEI FreeBuds 5i มูลค่า 2,799 บาท
- เมาส์ Rapoo รุ่น M650S มูลค่า 499 บาท
อื้อหือ…คุ้มขนาดนี้ กดใส่ตะกร้าได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ
Shopee: https://shorturl.at/2QNnt
Lazada: https://s.lazada.co.th/a.ZVpI
สรุปแล้ว “แท็บเล็ตพร้อมอุปกรณ์ใช้งานได้ระดับ PC เรือธง ครบเครื่องเรื่องการทำงานได้ตลอดเวลาแบบ AII in One”
สรุปแล้ว HUAWEI MatePad Pro 12.2″ ก็ถือเป็นแท็บเล็ตที่พร้อมจะยกระดับการใช้งานของเราให้เป็นระดับเดียวกับ PC เรือธงได้อย่างแท้จริง เพราะมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ครบเครื่องตั้งแต่ คียบอร์ด Genius 2-in-1 ปากกา M-Pencil รุ่นที่ 3 พร้อมแอปที่ใช้งานได้ทันทีแบบฟรีตั้งแต่แกะกล่อง ไม่ว่าจะเป็น PC-Level WPS Office หรือ GoPaint ครบเครื่องเรื่องการทำงานได้ตลอดเวลา พร้อมการพกพาที่สะดวกกว่า บันเทิงได้มากกว่า นอกจากนี้ตัวฮาร์ดแวร์ที่ให้มาก็ยังเป็นระดับสูงสุด ๆ ของวงการ ทั้งหน้าจอ Tandem OLED PaperMatte ชิปเซ็ต Kirin ตัวล่าสุด ความจุเยอะ 12GB+512GB แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 10,100mAh พร้อมชาร์จเร็ว 100W SuperCharge อีก! ทั้งหมดนี้ถ้าไม่เรียกว่า All in One ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะครับ!
